วันนี้เจ้าของกระทู้หยุดร้านช่วงเทศกาลกินเจ เลยใช้โอกาสนี้เดินทางไปยังวัดพนัญเชิงวรวิหารหลังไม่ได้ไปมานานหลายเดือน ก่อนไปเลยแวะไปเติมพลังที่ร้านอาหารกุ่ยหมง ตั้งอยู่ใน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่กว่า 100 ปี และเป็นร้านที่ อ.ถวัลย์ ดัชนี ได้แวะเวียนมาทานเมื่อมาสุพรรณบุรี เมนูเด็ดของร้านนี้ก็ คือ กุ้งแม่น้ำ ( ทอดเกลือ / เผา ) ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 800-2000 บ. ช่วงรออาหารเลยถ่ายรูปบริเวณร้านไปพลางๆ
ทีเด็ดของเรามาเสิร์ฟแว้วววว
ขนาดเท่า 1 ฝ่ามือ ( เจ้าของกระทู้สั่งราคา 1500 บ. ก่อนหน้านี้เคยสั่งราคา 800 เมื่อเทียบๆแล้วตัวเล็กเนื้อจะเด้งกว่า อาจเป็นเพราะเวลาทอดความร้อนเข้าถึงเนื้อได้มากกว่า ) และถ้าอยากเพิ่มความเด็ดเข้าไปอีก ตักมันกุ้งราดข้าวไปด้วยครับ ที่นี่มันกุ้งไม่เลี่ยนเลยนะครับ นี่แหละเอกลักษณ์ของที่นี่
คะน้าก้ามกุ้ง
เชิงปลากรายทอดกระเทียม
หมูผัดซีอิ๊ว ( เห็นหน้าตาเหมือนหมูผัดทั่วๆไป แนะนำให้มาโดนครับ รับรองว่าไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน )
หลังจากเติมพลังเสร็จก็เดินทางไปวัดทันที และสิ่งที่เกือบทุกคนต้องทำเมื่อมาที่นี่ คือ ห่มผ้าองค์หลวงพ่อโต
บริเวณรอบๆวิหารก็จะติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาและศาลพระนางสร้อยดอกหมาก ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากใครมาขอพรเรื่องความรักเมื่อกลับไปก็จะสมปรารถนา
วันนี้ช่วง 4 โมงเย็นมีนัดธุระพอดี เลยทำให้มีเวลาเก็บบรรยากาศบริเวณวัดได้น้อย ไว้ไปอีกเมื่อไหร่จะเก็บภาพมาฝากเพิ่มเติมนะครับ หลังจากทำธุระเสร็จก็เดินทางกลับสุพรรณ ก่อนเข้าบ้านพักผ่อนก็เลยแวะไปร้านอาหารสุรชัยปลาเผา ตั้งอยู่บริเวณบึงไผ่แขก เมนูเด็ดของที่นี่ก็ตามชื่อร้านครับ ปลาช่อนเผา และอีกเมนูเด็ดไม่แพ้กัน คือ แมงดาต้ม / ทอด แต่วันนี้มาตอนร้านใกล้จะปิดเลยหมด แถมไม่มีแสงให้เก็บบรรยากาศของร้านอีกด้วย

อาหารของที่นี่รสชาติจะจัดจ้านตามสไตล์บ้านๆ ใครทานรสจัดรับรองถูกปากแน่นอนครับ
ปลาช่อนเผา
ฉู่ฉี่ปลาหมอ
ปลาหมึกชุบแป้งทอด
ต้มยำไก่บ้าน
ไก่ผัดหน่อไม้เปรี้ยว
หมูสามชั้นทอด
หลังจากแน่นท้องก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพครับ
[CR] วัดพนัญเชิงวรวิหาร By Kobinchuanchim
ทีเด็ดของเรามาเสิร์ฟแว้วววว
ขนาดเท่า 1 ฝ่ามือ ( เจ้าของกระทู้สั่งราคา 1500 บ. ก่อนหน้านี้เคยสั่งราคา 800 เมื่อเทียบๆแล้วตัวเล็กเนื้อจะเด้งกว่า อาจเป็นเพราะเวลาทอดความร้อนเข้าถึงเนื้อได้มากกว่า ) และถ้าอยากเพิ่มความเด็ดเข้าไปอีก ตักมันกุ้งราดข้าวไปด้วยครับ ที่นี่มันกุ้งไม่เลี่ยนเลยนะครับ นี่แหละเอกลักษณ์ของที่นี่
หมูผัดซีอิ๊ว ( เห็นหน้าตาเหมือนหมูผัดทั่วๆไป แนะนำให้มาโดนครับ รับรองว่าไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน )
หลังจากเติมพลังเสร็จก็เดินทางไปวัดทันที และสิ่งที่เกือบทุกคนต้องทำเมื่อมาที่นี่ คือ ห่มผ้าองค์หลวงพ่อโต
บริเวณรอบๆวิหารก็จะติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาและศาลพระนางสร้อยดอกหมาก ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากใครมาขอพรเรื่องความรักเมื่อกลับไปก็จะสมปรารถนา
วันนี้ช่วง 4 โมงเย็นมีนัดธุระพอดี เลยทำให้มีเวลาเก็บบรรยากาศบริเวณวัดได้น้อย ไว้ไปอีกเมื่อไหร่จะเก็บภาพมาฝากเพิ่มเติมนะครับ หลังจากทำธุระเสร็จก็เดินทางกลับสุพรรณ ก่อนเข้าบ้านพักผ่อนก็เลยแวะไปร้านอาหารสุรชัยปลาเผา ตั้งอยู่บริเวณบึงไผ่แขก เมนูเด็ดของที่นี่ก็ตามชื่อร้านครับ ปลาช่อนเผา และอีกเมนูเด็ดไม่แพ้กัน คือ แมงดาต้ม / ทอด แต่วันนี้มาตอนร้านใกล้จะปิดเลยหมด แถมไม่มีแสงให้เก็บบรรยากาศของร้านอีกด้วย
หลังจากแน่นท้องก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพครับ