เพื่อนสนิทมโนหนักมาก ควรบอกให้เขาหยุดไหมครับ?

นี่เป็นกระทู้แรกถ้าผิดพลาดอะไรยังไงขออภัยด้วยครับ

คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง(ชื่อเล่น ขึ้นต้นด้วย บ.) รู้จักกันมาหลายปีแล้ว เขาเป็นคนดีนะ(แต่ปากเสียไปหน่อย)
แรกๆเขาก็ปกติดีทุกอย่าง แต่ช่วงหลังนี่เริ่มออกกาการหนักๆ
ขออธิบายแยกเป็นข้อๆนะครับ พอดีหลายเรื่องอยู่ อาการเขาก็ประมาณว่า

1.ชอบยกมือถือขึ้นมาคุยคนเดียว
-ทุกๆครั้งที่อยู่กับกลุ่มเพื่อน หรืออยู่ในลิฟท์กับคนแปลกหน้า เขามักยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยคนเดียว บางทีก็มีภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมันด้วย
-จับได้ครั้งแรกเพราะเขาซื้อมือถือมาใหม่แล้วก็ทำท่าคุยคนเดียวเหมือนเดิมทั้งๆที่มือถือก็ไม่ดัง หลังจากนั้นเขาก็มาถามผมว่า"รุ่นนี้ปิดเสียงยังไงวะ"
-จับได้อีกครั้งเพราะมีครั้งหนึ่งเพื่อนจะยืมมือถือแต่แบตเขาหมด(อันนี้เช็คแล้ว) สักพักเขายกขึ้นมาคุยเฉยเลย...
-บางทีก็กำลังพูดคนเดียวอยู่แล้วมือถือดัง เขาอุทานออกมาว่า "Here ใครโทรมาวะ"


2.ปู่เป็นยากูซ่าจับหมั้นกับลูกสาวเพื่อนตั้งแต่เกิด
-เขาบอกมีบ้านเป็นตระกูลยากูซ่าอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
-เขาบอกเป็นสัญญาของรุ่นปู่ต้องให้หลานหมั้นกัน พร้อมโชว์สร้อยคอรูปกุญแจ แล้วบอกว่าฝ่ายหญิงมีสร้อยคอรูปแม่กุญแจเก็บไว้เหมือนกัน(อนิเมะเรื่อง Nisekoiชัดๆ)
-ถามว่าทำไมถึงรู้ เพราะเขาพึ่งไปซื้อสร้อยมาช่วงNisekoiฉาย และเขาเคยโชว์รูปแฟนให้เพื่อนๆดู ดูปุ๊ปรู้ปั๊ปGoogleมาชัวร์


3.มโนว่าคู่หมั้นเรียนอยู่ต่างประเทศ
-ทีแรกเขาบอกว่าคู่หมั้นเรียนอยู่อังกฤษ แล้วเพื่อนผมคนหนึ่งกำลังจะไปเรียนอังกฤษก็ลองถามเขาว่าเรียนที่ไหนเผื่อรู้จัก เขาตอบว่า "อ่อ ตอนนี้ย้ายไปญี่ปุ่นแล้ว"
-ผมมีเพื่อนเรียนอยู่ญี่ปุ่นเหมือนกัน เลยถามอีกว่าเรียนที่ไหนเผื่อรู้จัก เขาตอบว่า"เฮ้ยจำผิด เขาย้ายไปเรียนเยอรมันแล้ว พึ่งไปส่งมา ลืมๆ" (อะไรจะประจวบเหมาะปานนั้น)


4.เรียนควบสองสถาบัน
-ตอนผมรู้จักเขาใหม่ๆ เกรดนี่ร่อแร่มากครับ ประมาณว่า ถ้าเทอมนี้ยังต่ำกว่า2.00อีกโดนไล่ออกเลย (เรียกกันWarning3)
-เทอมนั้นเขาเกรดอัพเป็น2กว่าๆผ่านมาได้แบบฉิวเฉียด หลักจากนั้นไม่นานเขาก็บอกเพื่อนว่าลงเรียนกฏหมายอยู่อีกที่นึง
-เพื่อนๆก็คุยกันว่า "เทอมที่แล้วมันยังเรียนที่เดียวไม่ไหวอยู่เลย มันลงควบได้ด้วยเหรอวะ"


5.บินไปแสดงคอนเสิร์ตที่เกาหลี
-เขาบอกว่ามีคนมาจ้างไปเล่น...(จำไม่ได้แต่รู้ว่าเป็นเครื่องสายขนาดใหญ่) แต่ไปกับเพื่อนๆนักดนตรีของเขา (เกาหลีขาดวงดนตรีขนาดนั้นเลยหรอ)
-ผมก็ถามไหนของฝาก งานชื่ออะไร เขาบอก "ทำงานอย่างเดียวไม่มีเวลาซื้อ ชื่องานลืมวะเป็นภาษาเกาหลี"
-เรื่องนี้ก็คงจะไม่แปลกถ้าช่วงนั้นเขาไม่ติดซีรีย์เกาหลี


6.บินไปญี่ปุ่น1ชั่วโมง
-เขาบอกต้องไปร่วมงานศพญาติผู้ใหญ่ที่ญี่ปุ่น เครื่องออก5ทุ่ม ผมก็โทรไปหาเขาตอน4ทุ่มกว่าๆ เขาบอกยังอยู่บ้าน"แลกตั๋วเครื่องบินกับเพื่อน"ไปแล้ว (แลกได้ด้วยหรอวะ?)
-พอแลกเสร็จเขาบอกต้องบินตอนตี1แทน ผมก็กะว่าเดี๋ยวค่อยโทรหาละกัน ผมก็โทรไปประมาณบ่ายสองบ่ายสาม เพราะคงเป็นช่วงเย็นที่นู่นน่าจะจัดการที่พักอะไรเข้าที่แล้ว เขาตอบผมมาว่า"ถึงไทยแล้ว พึ่งลงเครื่อง" (ตี1 + บินไป6 + บินกลับ6) สรุปจ่ายค่าเครื่องสองหมื่นกว่าไปอยู่แค่ชั่วโมงเดียว? (ไอ้1ชั่วโมงนี่เข้าออกสนามบินก็หมดแล้วมั้ง)


7.ดูทุกคอนเสิร์ตในไทย
-ช่วงวันที่มีคอนเสิร์ตในไทย เช่น Maroon5, Katy Perry เขามักจะหายตัวไปตลอด(แต่ไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตแน่นอน)
-เขาบอกมีเพื่อนอยู่ในวงการ มีบัตรฟรีให้ตลอดทุกงาน แต่พอผมขอดูเขาบอกเอาไว้ที่บ้านตลอด
-มีอยู่งานหนึ่งเขาบอกเพื่อนว่า คอนเสิร์ตเริ่ม5ทุ่มเดี๋ยวเพื่อนมารับ ผมก็ย้ำว่า"5ทุ่มจริงหรอ" เขาบอกมั่นใจ ผมก็ดูในเว็บรอบจริงคือ2ทุ่มแล้วก็บอกไป เขาก็บอก"เฮ้ย จำผิดต้องรีบไปแล้ว" (ตั๋วคอนเสิร์ตกี่พันจำเวลาผิดจริงๆหรอ?/เริ่ม5ทุ่มจะไปจบกี่โมงครับท่าน)


8.อย่าแท็คเฟสบุ๊ค มีกลุ่มยากูซ่าจับตามองอยู่
-เขาบอกมีรูป มีข้อความอะไรไม่ต้องแท็คมา พร้อมทั้งลบแท็คก่อนหน้าทิ้ง และบอกว่า มีกลุ่มยากูซ่าจับตามองเฟสเขาอยู่ (ดูในเฟรนลิสมีแต่พวกเอารูปการ์ตูนขึ้น)


9.บอกว่าตัวเองเป็นพ่อครัวขั้นเทพ
-มีครั้งหนึ่งเคยไปกินขข้าวด้วยกันเป็นกลุ่ม เขาบ่นว่า"อาหารธรรมดาวะ เดี๋ยวทำให้กินอร่อยกว่านี้อีก"
-เพื่อนก็บอกว่า "เออดีๆ พรุ่งนี้กลับไปทำให้กินหน่อย" เขาตอบว่า "วัตถุดิบมันไม่มีในไทยอะดิ ต้องเป็นของญี่ปุ่น"
-เพื่อนๆก็ตอบว่า "เฮ้ยมีๆ ซุปเปอร์ที่นำเข้าของนอกมีขาย เดี๋ยวไปซื้อกัน" เขาตอบว่า "เฮ้ย ลืมวิธีทำแล้ววะ" (ง่ายไปไหม?)


10.เพื่อนชวนเที่ยวต่างประเทศไม่ไป บอกมีญาติอยู่แทบทุกที่
-พอเพื่อนชวนไปเที่ยวต่างประเทศ เขามักจะบอกว่า "มีญาติอยู่ที่นั่นถ้าไปเขาก็ต้องเรียกเราไปพบอะดิ ไม่ค่อยอยากไปเจอเท่าไหร่อะ" (ไปเที่ยวกับเพื่อนใครจะรู้? พ่อแม่จับใส่ไมโครชิพไว้หรอครับ)


11.เพื่อนพาไปดูหนัง-กินข้าว ไม่ยอมไป
-เพื่อนผมคนนี้เขาบอกว่ามีบริษัทรถยนต์เจ้าหนึ่ง มีโลโก้เป็นรูปทรงเหลี่ยมๆมาจ้างเขาเขียนรีพอร์ทและทำการตลาดให้ แต่ต้องเก็บเป็นความลับของบริษัท
-เขาบอกว่ามีรายงานต้องส่งวันนั้นวันนี้ ผมก็ถามว่าเป็นยังไงตอนกำหนดส่ง เขาบอกทำไม่ทันเลื่อนไปแล้ว หลายรอบมาก (บริษัทใหญ่ๆเขาให้เลื่อนงานได้บ่อยๆหรอครับ)


12.ข้อนี่ไม่ออกแนวมโนครับ ออกแนวขี้โม้มากกว่า
-ช่วงสอบเขาจะได้คะแนนมิดเทอมต่ำพอสมควร ไฟนอลเลยต้องอ่านหนังสือยันสว่างเพื่อเก็บ D D+ (มีบ่นเป็นระยะๆว่าไม่ไหวแล้ว ยากโคตร)
-พอเรียนผ่านได้Dมาแล้ว เขาชอบบอกเพื่อนว่า "วิชานี้ง่ายsus ถ้าตอนนั้นอ่านหนังสือนะ ป่านนี้ได้Bได้Aไปแล้ว" (แล้วที่ทำยันเช้านี่ทำอะไร?)


12ข้อที่กล่าวมานี้คือเพื่อนๆและคนรู้จักเขาก็รู้ความจริงกันหมดนะครับ แต่ก็อย่างที่บอกเขาเป็นคนดีแต่ปากเสีย
คือไม่มีใครอยากบอกเขาเพราะเขาสนิทกับทุกคนเลยกลัวว่าจะหักหน้าเขา สมควรบอกให้หยุดไหมครับ หรือปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ก็ดีแล้ว

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
งานมโนขั้นเทพเลยนะครับเพื่อนน้องคนนี้ ทางที่ดีน้องควรที่จะบอกเค้าให้เข้าใจครับว่าคนอื่น ๆ เค้ารู้ความจริงหมดแล้วว่าที่พูดมาทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องจริงเลย บอกเค้าไปตามตรงเลยครับให้เค้ารับรู้ถึงความหวังดีของเรา .... เพราะถ้าปล่อยไปนาน ๆ มันจะทำให้เค้าแยกเรื่องจริงออกจากเรื่องที่เค้ามโนไม่ได้นะครับ เข้าข่ายป่วยนะครับแบบนี้ อย่าเห็นเป็นเรื่องเล่น ๆ เพราะมันมีผลกระทบกับชีวิตของตัวเค้าเองต่อไปในอนาคตแน่นอนครับ ถ้ารักเพื่อนก็ช่วยเค้านะครับ บางทีถ้าเราพูดเปิดใจกับเค้าไปเลยตรง ๆ น้องอาจจะได้รับรู้เรื่องราวอะไรบางอย่างที่ทำให้เค้าต้องเป็นอย่างนี้ก็ได้ครับ .....

เคยมีเพื่อนคนนึงก็เป็นแบบนี้ พอได้คุยกับเค้าตรง ๆ เค้าก็ร้องไห้ปรับทุกข์กับผมเลยครับ เค้าบอกว่าเค้าอายเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่ไม่สามารถมีสิ่งอำนวยความสะดวกได้เหมือนเพื่อน ๆ คนอื่น ก็เลยต้องสร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมากลบความรู้สึกในใจของตัวเค้าเอง คนแบบนี้น่าสงสารมากนะครับ เค้าต้องขาดอะไรบางอย่างมาก ๆ ถึงทำให้คิดไปได้ไกลขนาดนี้ ...... ช่วยเค้าครับ บอกให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มทุกคนเลย ร่วมมือกันช่วยเค้าครับถ้ายังคิดที่จะคบกันเป็นเพื่อนต่อไปนะครับ
ความคิดเห็นที่ 29
อย่าหักหน้าเค้านะคะ ไม่อย่างนั้นโลกทั้งโลกของเขาจะพังทะลาย แล้วเค้าจะอยู่ในโลกความจริงไม่ได้ ควรค่อยๆเป็นค่อยๆไป หากพาไปพบจิตแพทย์ได้ก้อดี หากพาไปไม่ได้ ลองบอกญาติเค้า หรือเพื่อนๆลองคุยกะจิตแพทย์ว่าเคสแบบนี้ควรปฎิบัติต่อเค้าพูดคุยกะเค้ายังไง
นี่เราซีเรียสไปรึเปล่า?
ความคิดเห็นที่ 86
สนิทจริงเหรอครับ

คนแบบนี้เค้าจะไม่มีคนสนิทจริงๆ หรอกครับ  เท่าที่คิด  คือเขาแค่มองว่าเราเป็นคนที่เชื่อเรื่อง หรือ รู้เรื่องที่เขาบอกมากที่สุดแค่นั้น

แต่ถ้าเมื่อไร เราไม่เชื่อ หรือไม่รับรู้ เค้าจะไปหาคนใหม่ครับ


ถ้าคุณนับถือเค้าเป็นเพื่อนจริงๆ ไม่ใช่คบไว้ไปอย่างนั้น

ถ้าคุณเป็นมิตรแท้ที่อยากปกป้องเพื่อน

เดินไปจับไหล่มันแล้วบอกครับ

"ต่อให้เมิงไม่มี ยิ้มอะไรเลย ต่อให้เมิงเป็นคนธรรมดา เมิงก็คือเพื่อนของกู"
"มนุษย์เราที่ต้องการเพื่อนเคียงข้างสักคน กูเองก็แค่คนที่จะนั่งเงียบๆข้างๆกู ตอนที่กูสุขทุกข์ ไม่ต้องมีเรื่องราวผาดโผนอะไรให้กูตื่นเต้นหรอก เมิงเป็นเมิงก็พอ"
"กูเองก็จะทำแบบนั้นเช่นกัน เพราะกูเป็นเพื่อนเมิง ที่กูพูดนี่เพราะกูเห็นเมิงกำลังไปในทางเสื่อมกูต้องปกป้องเมิง ไม่งั้นกูไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนเมิงได้"
"แม้ว่าจบประโยคนี้แล้ว เมิงอาจจะไม่นับกูเป็นเพื่อนอีกต่อไปก็ตาม.."

ผมเป็นคนให้คุณค่ากับคำว่า "เพื่อน" มากๆ นะครับ เพราะฉะนั้น คำว่า สนิท คือ แค่เจอทุกวัน แต่พร้อมจะจากกันทุกเมื่อ ก็ไม่ว่ากัน  แต่สำหรับผม ความจริงใจต้องมาก่อน  สำหรับเพื่อนคุณคนนี้อาการหนักมากแล้วครับ

"มีส่วนแห่งความเป็นบ้า"  ครับ

อยากให้ทุกคนรักตัวเงอ ประพฤติตัวให้ดีแล้วก็ภูมิใจในความดีของตัวเองเถอะครับ โลกนี้มันว่างเปล่า ก็พอจะมีแค่ความดีงาม และจิตใจที่รักกัน เมตตาต่อกันที่พอจะทำให้โลกนี้มันน่าอยู่ไปได้บ้าง ก็เพื่อจะหาทางออกจากโลกครับ  

เดิมๆ เราก็หลงโลกกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างโลกหลอกสองชั้นมาใส่ชีวิตตัวเองหรอกครับ หลงในหลง นานๆไปก็คือบ้าครับ แยกจริงเท็จไม่ออก

ผมก็เคยเป็นมาบ้าง เวลาที่เราแน่ใจอะไรมากๆ หรือหลงตัวเองมากๆ หรือมั่นใจว่าใช่มากๆ  มันคือคนบ้าชัดๆ ครับ  

ดังนั้น ช่วยๆ กันครับ ดึงๆ กันไว้ รักษาสติอยู๋บนพื้นฐานของความจริง ไม่ใช่ความคิดเถอะครับ
ความคิดเห็นที่ 1
ในความคิดผม ผมคิดว่ามันก็สนุกดีนะ ถ้าเพื่อนคุณยังไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรให้คุณมากมาย หรือสร้างความเดือดร้อนอะไรให้สังคม ผมว่าก็เล่นๆกันไปเถอะ มีสีสันชีวิตดีนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่