เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 3 ทุ่ม น้าชายกำลังขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ระหว่างทางก่อนจะถึงบ้านโดนรถกระบะขับมาในเลนสวนกัน เฉี่ยวชนแล้วลากไประยะทางเกือบ 10 เมตร ปรากฎว่าน้าชายขาหัก ข้อมือเอ็นฉีกขาดหมด กระดูกละเอียด หมอบอกว่าอาจจะใช้การไม่ได้ตลอดไป โชคดีที่ไม่ถึงแก่ชีวิต ส่วนคนชนคาดว่าคงกลัวความผิดจึงได้ทิ้งรถไว้แล้วหนีไป
ต่อมารถ รพ. ได้มารับตัวน้าชายเข้าห้องฉุกเฉิน แล้วส่งต่อมายัง รพ.จังหวัด
แต่ปัญหาที่เกิดคือ เมื่อเกิดเหตุทางญาติๆฝ่ายผม ได้ไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งจากร่องรอยก็พบว่ายังอยู่ในเลนของน้าชาย นั่นหมายถึงรถกระบะซึ่งขับสวนมาได้ขับเข้ามาในเลนนี้แล้วเฉี่ยวชน ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังบอกว่าฝั่งผมไม่ได้ผิด พวกเราหลังจากไปดูอาการน้าแล้วก็รีบไปโรงพัก ซึ่งคาดว่าตอนนี้ ญาติๆของฝั่งที่ชนไปรออยู่ก่อนแล้ว เพราะเมื่อผมไปถึงเพื่อต้องการไปดูรถคู่กรณี ซึ่งตอนนี้ได้ขับมาจอดไว้ที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าคนทางฝั่งนั้นขับมาให้ แต่คงไม่ใช่คนที่ชน แล้วก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เรื่องที่ไม่ชอบมาพากลก็เกิดขึ้น
1. เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นร้อยเวรรับเรื่อง และอยู่ในเหตุการณ์ตอนแรกซึ่งยังบอกว่าฝ่ายเราถูก ได้เขียนบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ยอมเซนต์ และไม่ยอมให้ญาติๆอ่านหรือดูไปพร้อมๆกัน เริ่มพูดจาวกไปวนมา หาว่าทางเราเมามาบ้างรึเปล่า ฝั่งนู้นบอกว่าเราเองนั่นแหล่ะไปชนเค้า เค้ายังแสบหน้าอยู่เลยเพราะโดนเศษกระจกบอกว่าทางเราไปข่มขู่คนชน คนจนเค้ากลัวแล้วเนี่ย แล้วก็ไล่ให้กลับไปก่อน
2.รุ่งขึ้นน้าชายอีกคนไปโรงพัก 2 รอบ เพื่อเอาบันทึกประจำวันนี้มายื่นให้ทาง รพ. เพราะทาง รพ.ขอมา ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกันครับ แต่เมื่อไปถึงที่โรงพัก กลับไม่เจอร้อยเวรทั้ง 2 รอบ เจอแต่นายสิบ หลายๆคนก็เลี่ยงตอบคำถามบอกว่าไม่รู้ ไม่เห็นให้มาใหม่พรุ่งนี้ หรือไม่ก็มะรืนนี้ หรือไม่ก็อีก 2-3 วันแล้วกัน นี่คือคำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ หลายคนอาจถามว่าทำไมไม่ไปรอ หรือไปใหม่ คือโรงพักที่รับเรื่องอยู่ไกลจาก รพ.จังหวัดครับ ต้องเทียวไปเทียวมาไม่สะดวก ต้องไปดูอาการน้าชายด้วย
3. ในที่สุดได้เบอร์โทรร้อยเวรคนนั้นมาครับ น้าสาวโทรไปหาปรากฎว่าน้ำเสียงกลับกลายเป็นตะคอก แล้วก็บอกว่ากลับมาบ้านแล้วหมดเวลาราชการแล้ว ทั้งๆที่น้าผมผู้หญิงพูดจาดีๆ ถามว่าทำไมยังไม่ได้ใบนั้นมา แล้วคนทางฝั่งโน้นมาติดต่อโรงพักบ้างยัง เพราะไม่ได้มีใครมาเยี่ยมคนเจ็บเลย เจ้าหน้าที่ก็พูดเสียงดังบอกว่า ใครเค้าจะมาเค้ากลัวโดนทำร้ายสิ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ เพราะตอนนี้ทุกคนเย็นหมดแล้ว พยายามพูดให้มาดูอาการมารับผิดชอบหน่อย สุดท้ายก็บอกว่าค่อยมาใหม่พรุ่งนี้ละกัน 9 โมง ซึ่งครั้งนี้ผมจะไปด้วย อย่างน้อยๆ ผมก็รับราชการเหมือนกันคงจะพอเกรงใจผมบ้าง ไม่ขู่ตาสีตาสา บ้านๆ เหมือนครั้งก่อนๆจนเกินไป
สิ่งที่ผมอยากถามคือจากรายละเอียดที่ผมให้มา ผมคิดมากไปเอง จริงๆแล้วเจ้าหน้าที่เค้าต้องทำงานกันแบบนี้อยู่แล้วรึเปล่าครับช่วยไขข้อข้องใจให้ผมหน่อย
อีกประเด็นวันนี้ วันทำบุญสารทเดือนสิบ คนมาทำบุญกันเยอะ แล้วญาติพี่น้องของคนผิดฝั่งนั้นมาพูดจาในวัดว่าเค้าไม่ได้ผิด น้าผมนี่แหล่ะผิด แล้วก็จับกลุ่มคุยกันหัวเราะ บอกว่าคนชนน่ะพอชนเสร็จก็มาบ้านเค้า เค้าเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ตำรวจก็ญาติๆเค้า ซึ่งตอนนั้น เค้าไม่รู้ว่าแม่ผม และน้าสาว นั่งอยู่ไม่ไกลได้ยินทุกคำพูด จนแม่ผมตวาดขึ้นกลางวัด ว่า "โกหก อย่ามา

" จนเค้ารู้ตัวแล้วนั่งหลบหน้า ลูกสาวของน้าชายร้องไห้กลางงานบุญ เพราะพ่อโดนใส่สีตีไข่ บิดเบือนความจริง ผมสงสารน้า สงสารน้อง ช่วยให้คำแนะนำทีครับ
ขอถามหน่อยครับ น้าโดนรถเฉี่ยวชน อาการหนัก คนชนทิ้งรถไว้แล้วหนี แต่ตำรวจเหมือนพยายามจะยื้อเวลา ทำยังไงดีคับ
ต่อมารถ รพ. ได้มารับตัวน้าชายเข้าห้องฉุกเฉิน แล้วส่งต่อมายัง รพ.จังหวัด
แต่ปัญหาที่เกิดคือ เมื่อเกิดเหตุทางญาติๆฝ่ายผม ได้ไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งจากร่องรอยก็พบว่ายังอยู่ในเลนของน้าชาย นั่นหมายถึงรถกระบะซึ่งขับสวนมาได้ขับเข้ามาในเลนนี้แล้วเฉี่ยวชน ซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังบอกว่าฝั่งผมไม่ได้ผิด พวกเราหลังจากไปดูอาการน้าแล้วก็รีบไปโรงพัก ซึ่งคาดว่าตอนนี้ ญาติๆของฝั่งที่ชนไปรออยู่ก่อนแล้ว เพราะเมื่อผมไปถึงเพื่อต้องการไปดูรถคู่กรณี ซึ่งตอนนี้ได้ขับมาจอดไว้ที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าคนทางฝั่งนั้นขับมาให้ แต่คงไม่ใช่คนที่ชน แล้วก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เรื่องที่ไม่ชอบมาพากลก็เกิดขึ้น
1. เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นร้อยเวรรับเรื่อง และอยู่ในเหตุการณ์ตอนแรกซึ่งยังบอกว่าฝ่ายเราถูก ได้เขียนบันทึกประจำวันเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ยอมเซนต์ และไม่ยอมให้ญาติๆอ่านหรือดูไปพร้อมๆกัน เริ่มพูดจาวกไปวนมา หาว่าทางเราเมามาบ้างรึเปล่า ฝั่งนู้นบอกว่าเราเองนั่นแหล่ะไปชนเค้า เค้ายังแสบหน้าอยู่เลยเพราะโดนเศษกระจกบอกว่าทางเราไปข่มขู่คนชน คนจนเค้ากลัวแล้วเนี่ย แล้วก็ไล่ให้กลับไปก่อน
2.รุ่งขึ้นน้าชายอีกคนไปโรงพัก 2 รอบ เพื่อเอาบันทึกประจำวันนี้มายื่นให้ทาง รพ. เพราะทาง รพ.ขอมา ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกันครับ แต่เมื่อไปถึงที่โรงพัก กลับไม่เจอร้อยเวรทั้ง 2 รอบ เจอแต่นายสิบ หลายๆคนก็เลี่ยงตอบคำถามบอกว่าไม่รู้ ไม่เห็นให้มาใหม่พรุ่งนี้ หรือไม่ก็มะรืนนี้ หรือไม่ก็อีก 2-3 วันแล้วกัน นี่คือคำตอบที่ได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ หลายคนอาจถามว่าทำไมไม่ไปรอ หรือไปใหม่ คือโรงพักที่รับเรื่องอยู่ไกลจาก รพ.จังหวัดครับ ต้องเทียวไปเทียวมาไม่สะดวก ต้องไปดูอาการน้าชายด้วย
3. ในที่สุดได้เบอร์โทรร้อยเวรคนนั้นมาครับ น้าสาวโทรไปหาปรากฎว่าน้ำเสียงกลับกลายเป็นตะคอก แล้วก็บอกว่ากลับมาบ้านแล้วหมดเวลาราชการแล้ว ทั้งๆที่น้าผมผู้หญิงพูดจาดีๆ ถามว่าทำไมยังไม่ได้ใบนั้นมา แล้วคนทางฝั่งโน้นมาติดต่อโรงพักบ้างยัง เพราะไม่ได้มีใครมาเยี่ยมคนเจ็บเลย เจ้าหน้าที่ก็พูดเสียงดังบอกว่า ใครเค้าจะมาเค้ากลัวโดนทำร้ายสิ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ เพราะตอนนี้ทุกคนเย็นหมดแล้ว พยายามพูดให้มาดูอาการมารับผิดชอบหน่อย สุดท้ายก็บอกว่าค่อยมาใหม่พรุ่งนี้ละกัน 9 โมง ซึ่งครั้งนี้ผมจะไปด้วย อย่างน้อยๆ ผมก็รับราชการเหมือนกันคงจะพอเกรงใจผมบ้าง ไม่ขู่ตาสีตาสา บ้านๆ เหมือนครั้งก่อนๆจนเกินไป
สิ่งที่ผมอยากถามคือจากรายละเอียดที่ผมให้มา ผมคิดมากไปเอง จริงๆแล้วเจ้าหน้าที่เค้าต้องทำงานกันแบบนี้อยู่แล้วรึเปล่าครับช่วยไขข้อข้องใจให้ผมหน่อย
อีกประเด็นวันนี้ วันทำบุญสารทเดือนสิบ คนมาทำบุญกันเยอะ แล้วญาติพี่น้องของคนผิดฝั่งนั้นมาพูดจาในวัดว่าเค้าไม่ได้ผิด น้าผมนี่แหล่ะผิด แล้วก็จับกลุ่มคุยกันหัวเราะ บอกว่าคนชนน่ะพอชนเสร็จก็มาบ้านเค้า เค้าเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ตำรวจก็ญาติๆเค้า ซึ่งตอนนั้น เค้าไม่รู้ว่าแม่ผม และน้าสาว นั่งอยู่ไม่ไกลได้ยินทุกคำพูด จนแม่ผมตวาดขึ้นกลางวัด ว่า "โกหก อย่ามา