เรื่องราวความรักริมทะเล | ผมกับคลื่น

สวัสดีครับ เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความรักของผมในม.ปลายที่แสนสาหัส555 เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
หลังจากที่ผมได้จบจากม.ต้นมา ผมก็ได้ขึ้นม.ปลายที่โรงเรียนแห่งนั่นแหละครับ และแน่นอนครับ ขึ้นมาก็ต้องคละห้องกับเพื่อนกันอยู่ แต่โชคดีของผมครับที่ยังมีเพื่อนสนิทเก่าของผมหลงมาบ้าง และพวกเราก็ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ที่ทั้งมาจากต่างห้องกันจากม.ต้น และเด็กใหม่จากโรงเรียนอื่น ตอนม.4นั้นทุกคนยังดูเหนียมอายคะเขินกันอยู่ ทุกๆคาบในช่วงแรกๆ ก็จะมีการแนะนำตัวต่างๆนาๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกัน ในเทอมนี้ผมก็ยังอยู่กับเพื่อนสนิทๆของผมอยู่ ผมเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าทำอะไรกับคนไม่สนิทครับ แต่ถ้าสนิทกันแล้วละก็ ทำอะไรที่บ้าบอได้หมดเลยครับ ต่อนะครับและการรู้จักกันนี้เอง ผมก็ได้รู้จักเพื่อนคนนึงครับ ผมขอตั้งชื่อสมมุตินะครับชื่อคลื่นนะครับ คลื่นเป็นคนฉลาดมากครับ ฉลาดจนเป็นท็อปไฟฟ์ห้องได้เลย คลื่นเป็นคนเฮฮา กวนตีน ทำอะไรบ้าบอ คลื่นเป็นที่เด่นดังในห้องเรา และการได้รู้จักกับคลื่นนี้เองก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ในเทอมแรกนี้ผมยังคงอยู่กับกลุ่มเพื่อนของผม คลื่นก็อยู่กลุ่มเพื่อนของมันครับ ซึ่งพวกเราๆด้วยความที่อยู่สายวิทย์-คณิตจึงมีความขะมักขะเม้นในการเรียนครับ จนได้ล่วงลับไปในเทอมแรก เปิดเทอมสองมา เราทั้งห้องก็ค่อนข้างสนิทกันแล้วครับ และผมก็ได้ชอบผญคนนึงครับ แบบว่าเจอปุ๊บแล้วมันใช่เลยละครับ ซึ่งเธอก็อยู่ม4นี่แหละครับ แต่เรื่องราวก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ เพราะเธอเป็นแฟนของน้องชายผม ซึ่งตอนแรกผมไม่รู้เลยครับ ก็เฟลๆดีพๆไป แต่ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ555555 ผมก็เลยหันไปชอบผญคนนึงคนนี้เป็นเพื่อนในห้องนี่แหละครับ ซึ่งผมก็จีบๆด้วยวิธีสุดโรแมนติก555555 จนเราได้เป็นแฟนกัน แต่ก็ไปไม่รอดอีกแล้วครับ ด้วยเหตุผลบางอย่างเราก็เลิกกัน เฟลไปอีก และเรื่องราวในม.4ก็ได้จบไป ในช่วงปลายๆเทอมสองนี้เองอยู่ดีๆผมก็อยากรู้จักกับคลื่นครับ แต่ผมก็ได้ทักไลน์มันไปตอนปิดเทอมใหญ่ม.4 ก็คุยกันมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่สนิทกันเท่าไหร่ ลืมเล่าไปครับ ในขณะที่ผมดีพๆเฟลๆ คลื่นมันก็มีเรื่องรักๆเดือดๆบ้าง เป็นเรื่องที่เร่าร้อนดุเดือกมากครับ555555ขอไม่เล่านะครับ ต่อนะครับเปิดเทอมม.5มา เราทั้งห้องก็เริ่มสนิทกันมากมากสุดๆ ซึ่งผมกับคลื่นเราก็เริ่มสนิทกันครับ แต่ผมกับคลื่นนั่งห่างกันคนละฝั่งกันเลย ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเครียดกับการเรียนอย่างสุดซึ้งครับ5555 เรียนก็หนัก เรียนไม่รุ้เรื่อง แต่โชคดีที่ผมมีคลื่นครับ ผมก็ไประบาย ไปปลดปล่อยต่างๆนานา มันก็ให้กำลังใจ ผมก็ผ่านไปได้ครับ และต่อมาเราก็ได้สนิทกันจริงๆ จนในเทอมสองเราก็ได้นั่งข้างกัน ผมกับมันมีอะไรก็จะคุยก็จะปรึกษากัน ถือได้ว่ามันเป็นเพื่อนสนิทอันดับ1ของผมเลย คือผมเป็นสายอาร์ตอะครับ เวลามีงานเกี่ยวกับศิลปะ ผมก็มักช่วยมันเสมอ งานอื่นๆที่เกี่ยวกับวาดรูปตกแต่งระบายสีผมก็ทำให้ คอยบอกการบ้านมันไรงี้ คือคลื่นยิ้มคือเพื่อนตายอ่ะครับ55555555 ซึ่งเราสนิทกันขนาดนี้แน่นอนครับกระแสคู่จิ้นกำลังมา ก็โดนล้อบ้าง แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรกัน ซึ่งในช่วงนี้เอง ผมก็ได้ไปชอบผญคนนึงครับ อยู่อีกโรงเรียนนึง ซึ่งผมก็ได้ทำความรู้จัก เช่นเคยครับ เฟลตามเคย อยู่ดีๆก็มีแฟนไปซะงั้น และช่วงนี้ก็มีเรื่องพีคๆครับ ด้วยกระแสคู่จิ้น ทำให้คนที่คลื่นๆคุยๆนั้น เค้าคิดว่าผมชอบคลื่นครับ ก็เป็นเรื่องเป็นราวกันไป ตอนนั้นก็ถือว่าเป็นพีคๆสำหรับผมไปเลย ซึ่งผมกับคลื่นก็เกือบจะเลิกคบกันไปเลย แต่ยังครับเรื่องยังไม่จบ เรื่องนี้เป็นนานไตรภาคครับ มีเรื่องๆราวๆกันก็จบม.5เลย ตอนนั้นเป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้าย ผมกับเพื่อนๆก็ไปเฮฮากัน ส่วนคลื่นมันก็คงไปกับคนของมัน เออใช่ช่วงๆนั้นคลื่นกับคนของมันเป็นแฟนกันแล้วนะครับ ซึ่งเราก็แยกย้ายกันไปปิดเทอมกัน แต่เราก็ยังคุยไลน์กันเรื่อยๆ จนมีช่วงนึงอยู่ดีๆ มันหายไปครับ มันบล็อคผม ติดต่อไม่ได้ และด้วยความที่ผมเป็นคนคิดมากมากมากถึงมากที่สุด มีหรือครับที่เพื่อนหายไปละเราจะอยู่เฉยๆ ใช่ครับผมไปหามันบ้านเลย เพื่อที่จะถามมันว่าทำไมเป็นแบบนี้ เหตุการณ์ครั้งนับได้ว่า มันเปลี่ยนแปลงผมมากจริงๆ
ทำให้ผมได้คิดว่า ใครที่แคร์เรา ทั้งที่เรารักและเชื่อมั่นในตัวเค้ามาก เรารอความคาดหมายลมๆแล้งของเรา ผมมาที่นี่เพื่อฟังคำตอบคำอธิบาย ผมมาเพื่อคุย แต่ผมต้องนอนกับยาม โชคดีที่ยามใจดีมาก แบตโทรศัพท์ผมหมด ผมจึงไปยืมโทรศัพท์พี่ที่บิ้กซี ขอบคุณมากๆ ผมนั่งนอนนับเวลาให้เช้าเร็ว ผมจะไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ผมคิดว่านี่แหละเพื่อน คนที่ผมรักและแคร์มากๆ และเฝ้ารอมันมารับผม แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมต้องยอมจำนนต่อความผิดหวัง ที่ผมได้รอมัน มันเพียงแค่พูดว่า กลับบ้านไป โรคจิตหรือปล่าว มาทำไม ในขณะนั้น ผมเพียงคิดแค่ว่า เห้ย ต้องพูดว่า บอกแล้วให้กลับ เป็นห่วงนะเนี่ย ทำไมไม่มาตะโกนเรียกหน้าบ้าน น้ำตาผมร่วงริน มันไหลจากความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ ผมรู้สึกว่า นี่หรือที่เรียกว่าเพื่อน มันต้องแคร์ ต้องเป็นห่วงเราบ้างหรือปล่าว สุดท้ายผมไม่อาจคิดได้ว่า ต้องเลิกคบกับมัน และผมจะไม่ยอมเลิกคบแน่ๆ เพราะผมยังรอคำตอบและผมยังเป็นคนที่แคร์มันมากๆ ไม่งั้นผมคงไม่รอข้ามวันข้ามคืน หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างอยู่จริงๆครับ เราก็เจอกันบ้างที่ที่เรียนพิเศษ ซึ่งแน่นอนครับคนรู้จักเจอกันก็ต้องทักทายครับ ไม่ใช่หรอกครับ ผมเป็นฝ่ายเดียวที่อยากคุยกับมัน ผมก็เข้าไปทักครับ ยังไม่ทันพูดจบ มันก็เดินหนีผมไปเลย ในช่วงๆนั้นผมเครียดมากๆ ผมร้องไห้กับเพื่อนของผม คุยกับเพื่อนมากมาย จนใกล้ๆเปิดเทอมม.6 เราก็ได้คุยกันอีกครั้ง และเหตุการณ์ต่างๆนี้เองทำให้ผมได้ทบทวนว่าอือที่ผมเป็นแบบนี้คือเราชอบมันใช่ไหม จนผมก็ได้คำตอบ และผมก็ได้ขอให้มันมาซื้อของเป็นเพื่อนผม จริงๆผมก็อยากเจอแหละ แค่หาข้ออ้าง555555 วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมากๆและก็ไม่คิดว่าจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้คุยกัน เราก็คุยกันครับ คลื่นบอกว่าได้เลิกกับแฟนของมันแล้ว ก็โอเคครับก็คุยๆกันไป วันนั้นเราดูหนังกัน ไปร้านเค้กไปนู้นนี่ และก็ต้องแยกกัน ซึ่งเช้าวันนั้นผมก็ตัดสินใจบอกว่าผมรู้สึกยังไง มันก็ยังไม่เชื่อครับ จนผมเน้นๆจนมันก็เชื่อแหละ และแน่นอนครับเพื่อนมาบอกชอบเพื่อน ก็คงรับไม่ได้แน่ๆ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นเลย หนักกว่าตอนที่มันหายไปตอนนั้นอีกครับ แต่ผมเป็นคนมีความพยายามสูงครับ5555 เปิดเทอมม.6มา ผมก็ไปนั่งข้างมันครับ มันก็ไล่ๆ ผมก็ไม่ไป ผมคิดแค่ว่ายังไงก็ต้องคุยกันให้ได้ แต่มันก็ทำท่าทีว่ารังเกียจๆไม่อยากคุยด้วย คือผมกับคลื่นนั่งข้างกันแต่เราไม่ได้ คือมันนั่งหันข้างหลังให้ผม และด้วยความที่ผมนั่งริมสุดของแถว กโดดเดี่ยวไปอีกครับ ผมก็เครียดๆหนักไปอีก คุยกับเพื่อนปรึกษาคนโน้นนี้ จนมาวันนึง ผมก็ลองทักมันดูครับ มันก็ตอบครับ และวันนั้นเองผมกับมันก็ได้คุยกันทั้งวันเลยครับ วันนั้นผมรู้สึกเห้ย นี่มันดีแล้วใช่มั้ย ไม่ทิ้งผมไปอีกแล้วใช่มั้ย เราเพิ่งคุยกันดีๆได้สามสี่วัน เรื่องราวก็น่าเศร้าครับ เพื่อนๆในห้องตามเคยครับ ล้อกันครับ และการล้อนี่เองก็เป็นจุดจบในทันที ทำให้คลื่นกับผมต้องเลิกคุยกันอีกครั้ง ช่วงแรกๆ ผมทำใจไม่ได้เลยครับ แย่มากๆ แต่ยังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้ จนเรื่องล่วงเลยมาจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็มาจากการล้อกันนี่แหละครับ คือเพื่อนคนนึงมันก็มาพิมพ์แซวๆผมในไลน์กรุ้ปห้อง ตอนนั้นผมก็กะไม่ค่อยคิดอะไร แต่มือสิครับไปพิมพ์ใส่มันประมาณว่าจะอะไรหนักหนา เนี่ยเป็นไง มันกับกูถึงไม่ดีกันสักที เท่านั้นแหละครับ เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ซึ่งคือผมเป็นคนในห้องที่โดนแกล้งโดนอะไรเป็นประจำอยู่แล้ว พอเจอเรื่องนี้หนักไปอีกครับ ทั้งโดนล้อหนักกว่าเดิม โดนแซะต่างๆนาๆ และพอถึงช่วงนึง มันครับมันพูดถึงเรื่องผมไปบ้านคลื่น ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกัน ผมก็ไปบ่นๆมันในทวิตเตอร์   ตอนนั้นคือโกรธมาก คราวนี้ผมก็โดนหนักเลยครับ หนักแค่ไหนก็คิดดู5555 แต่ก็ผ่านมาได้ ด้วยการที่ผมขอโทษพวกมันและบอกว่ากูชอบคลื่นจริงๆ ละกูก็เครียดที่พวกทำแบบนี้ มันไม่โอเค ต่างคนต่างอยู่เถอะ แต่เรื่องก็ยังไม่จบครับ ก็โดนแซะโดนอะไรไป ผมทำได้แค่กลั้นใจและเก็บๆไว้5555เดี๋ยวเป็นเรื่องอีก ช่วงนี้ผมอยากคุยกับคลื่นมากๆ แต่ก็ทำได้แค่มอง มอง ว่าคลื่นทำอะไร แค่เห็นรอยยิ้มมันก็พอใจแล้วครับ คราวนี้ผมก็เลยๆทักไลน์มันไป ตอนแรกผมก็นึกว่ามันจะบล็อคไลน์ผม แต่มันก็ตอบครับ แต่ตอบแบบไม่ดี ทำร้ายจิตใจ555555 ผมก็เลยเลือกที่จะอยู่เฉยๆไม่ยุ่งดีกว่า เดี๋ยวจะแย่ไปกว่านี้  อีกอย่างนี่ก็เป็นช่วงสอบเข้ามหาลัยแล้ว เรื่องเรียนสำคัญสุด แต่ผมก็ยังทักไปอยู่บ้าง แต่เหมือนมันพูดเล่นกับความรู้สึกผม ผมก็เลยไปดราม่าประมาณว่า อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่โอเคไรงี้ แบบถ้างั้นผมก็คงจะเลิกคุยเลิกยุ่งอะไรด้วย คลื่นก็ตอบกลับมาดีเลยครับ ว่าอย่าคิดมาก ผมได้เห็นอย่างนั้นก็ดีใจ ว่ามันก็ยังห่วงความรู้สึกผมอยู่บ้าง และหลังจากวันนั้น ตอนเช้าผมก็ได้เจอมันครับ อยู่ๆดีจากคนที่ไม่คุยกัน มาวันนี้มันเข้ามาคุยครับ และพูดเล่นกันทั้งวัน เพื่อนก็ล้อกันทั้งวัน บอกเลยครับวันนี้มันเหมือนความฝัน มันดีมากๆจนไม่อยากให้มันลบเลือนไปเลย ผมอยากเก็บเวลานี้ให้นานที่สุดเลย แต่ผมก็รู้ว่ามันก็คงจะจบสิ้นกันไป  ใช่แล้วครับ เช้าวันต่อมา ผมรู้สึกได้เลยครับถึงความห่างเหินที่มากขึ้น แต่ผมกลับรู้สึกมมากว่าเดิม ยิ่งผมให้เท่า เหมือนผมเทเกลือในทะเลสาบ มันไม่มีวันเค็มหรอกครับ ผมรักคลื่นเท่าไหร่ ผมยิ่งทุกข์มากเท่านั้น แต่ผมยังคงรู้ว่าผมรักคลื่น ถึงแม้จะอยู่สถานะเพื่อนก็ได้ แต่เรื่องก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จนตอนนี้ผมก็ได้คุยกับมันอีกรอบนึง ผมว่าคราวนี้มันก็คงจะดีจริงๆแล้วแหละครับ และผมก็ไม่อยากจะทำลายอะไรแล้ว มันก็มีคนที่ชอบแล้ว เอาจริงๆ ที่ผมได้เห็นมันยิ้มมันมีความสุขก็มากแล้วจริงๆ อีกอย่าง ผมก็อยากไปในทางของผม คือผมอยากสอบเข้ามหาลัยให้ได้ก่อน ไม่อยากคิดเรื่องอื่น ผมว่าผมกำลังทำได้แล้วนะครับ5555555 ม.6 เทอมสองนี้ ผมว่าอะไรๆมันก็คงดีแล้วแหละครับ ผมก็ขอจบเรื่องราวอันแสนสาหัสนี้ไว้เท่านี้ละกันนะครับ แต่ยังไงผมก็ยังมองความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม และมันก็สอนให้รู้ว่า ทำดีได้ดีนะครับ ไม่ได้ความรัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่