สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวก้นครัว นี่เป็นกระทู้รีวิวกระทู้แรกในชีวิตของเรา ปกติเราไม่ได้เล่นห้องนี้ แต่ก็ชอบมาเปิดดูรีวิวอาหารยามดึกบ่อยๆ เพราะเรากินข้าวดึกค่ะ บางทีกินมาม่าไป ก็เปิดดูกระทู้รีวิวเริ่ดๆไป เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับชีวิตมนุษย์เงินเดือน
วันนี้เราเลยมาลองรีวิว(แบบตามมีตามเกิด)ดูบ้าง เหตุผลที่รีวิวเพราะไปกินร้านนี้ประมาณ4-5ครั้ง และก็แฮปปี้กับมาทุกครั้ง วันนี้ว่างซักหน่อย หลังจากขี้เกียจมานาน ก็ได้ฤกษ์รีวิวอาหารเป็นนกกระเรียนแทนคุณ ให้ทางร้านบ้างค่ะ เพราะเซิร์ชในพันทิป ก็ยังไม่มีใครมารีวิวเลย เอ็นดูนาง ร้านจะได้อยู่นานๆหน่อย
ร้านนี้ชื่อ Hot Rodค่ะ ตั้งอยู่ที่ปาร์คเลน เอกมัย หน้าร้านจะมีรถตุ๊กๆ เด่นเลยล่ะ หาง่าย เดินเข้ามาอีกซักหน่อยก็เจอแล้วค่ะ ร้านดูดีเชียว มีโอเพ่นแอร์ กะบาร์แอร์คอนด้านใน เราเลือกนั่งหน้าบาร์ด้านในเพราะเป็นงานถนัดค่ะ 5555+ คือวันนั้นอากาศร้อนด้วย แล้วเลิกงานมาเหนื่อยๆ เลยเลือกนั่งแอร์ สรุปว่าหน้าบาร์นอกจากเป็นคอกเทลบาร์แล้ว ยังเป็นครัวแบบซีทรู ทำให้ได้เห็นวิธีการทำอาหารแบบlive showอีกด้วย รู้สึกอะเมซิ่ง(เสียงญาญ่า) เหมือนนั่งอยู่หน้าร้าน ผัดผักบุ้งไฟแดง โอเมื่อมีไฟ ไฟ ไฟลุกขึ้นแจ่มจ้ากันเลยทีเดียว

(รูปนี้เพื่อนถ่ายค่ะ ถ่ายรูปไฟสวยกว่ารูปเราอีกค่ะ..หึ)
ร้านก็สวย เก๋ดีค่ะ ดูมีดีเทล มีสกุลรุนชาติ ตอนแรกเราก็นึกว่ามันคือลายปลาคาร์ฟ แต่พอมาดูใกล้ๆ นางคือหมู่มวลจิ้งจกค่ะ..ห๊ะ!! เราก็ถามเด็กในร้านว่า ทำไมเป็นจิ้งจกล่ะ นางบอกว่าคนที่ออกแบบเป็นฝรั่ง (จำสัญชาติไม่ได้) มีความเชื่อเรื่องรอยสักค่ะ จิ้งจกคือพลังเมตตามหานิยม ค้าขายดี มีทั้งหางเดียว สองหาง แล้วมีรูปเสือด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ค่ะ หิวจัด
นี่ค่ะครัวแบบโอเพ่น แค่กระจกกั้น วันนี้เรามากับเพื่อนค่ะ เพื่อนจริงๆค่ะ อยากให้โฟกัสเรื่องงานก่อน กร้ากกกกก..คือจริงๆแล้ว เพื่อนเราเป็นคนแนะนำร้านนี้ เพราะนางมาบ่อยค่ะ ไลฟ์สไตล์คือการดื่มกิน(เน้นดื่ม) วันนี้เลยให้นางสั่งอาหารเองเลย เพราะนางเป็นคนเลือกกิน เป็นผู้ชายดีๆ เราจึงเชื่อรสนิยมนาง เอาเลย..จัดไป ราคาอาหารไม่แพงค่ะ ประมาณ150-180 ++ เต็มที่ไม่น่าเกิน200อ่ะค่ะ
จากแรกในวันนี้ คือ ก๊วยเตี๋ยวผัดขี้เมากุ้ง ชิมคำแรกถึงกับเอ่ยปาก "คือดีอ่ะ" นางอร่อยกลมกล่อมมากค่ะ ไม่เผ็ดมากจนเกินไป แล้วรสจะกลมๆอ่ะค่ะ เนื้อกุ้งมาสดเด้ง เส้นเหนียวนุ่ม มีเท็กเจอร์นวลๆของไข่ด้วย เรานี่ซัดแรง จนเพื่อนด่า เอาจริงหิวมาก แล้วเจอไปจานแรกก็อร่อยถูกใจเลย ละเราชอบอะไรเส้นๆอยู่แล้วด้วย จานนี้ยกนิ้วเลยค่ะ
จานที่สอง เรียกว่า ข้าวขยำปูค่ะ คือ เราชอบทานปูมากกกกกก เป็นลัทธิกินปูค่ะ 5555+ แต่เราแพ้อาหารทะเลนะคะ จานนี้เราลงทุนกินยาแก้แพ้ดักก่อนเลย เพราะตัณหาล้วนๆ วิธีกินก็คลุกๆให้เนื้อปู ข้าว กับงานเครื่องให้เข้ากัน มีพริก ผักชี หอมแดง มะนาว อะไรเทือกนี้ จากนี้ก็อร่อย กลมกล่อม เหมือนข้าวผัดปูแต่แซ่บโดนใจกว่าค่ะ ปูก็เป็นปู ไม่ใช่แค่วิญญานที่ทุกข์ทรมาน จานนี้แย่งกันกินอีกตามเคยค่ะ ที่สำคัญเพื่อนเรานางก็แพ้ปู แต่เลือกวิธีกินยาแก้แพ้ดักไว้เหมือนกัน เพื่องานคุณภาพ สองศรีทนได้ค่า
มาจานที่3 ก็ยังคงเป็นงานปูค่ะ คนรักปูจะไม่พลาดจานนี้แน่นอน "ขนมจีนน้ำยาปู" นั่นเองงงงง(เสียงพากย์ทีวีแชมเปี้ยน) จานนี้ก็ถูกใจอีกแล้วค่ะ เพราะเราชอบกินขนมจีนน้ำยาปู หรือแกงปูอะไรงี้มาก แต่ของที่นี่ไม่ได้รสเผ็ดจัดจ้านมากนะคะ รสชาติเค้าจะมาแนวๆเดียวกัน กลมๆแต่ไม่ใช่รสฝรั่งจนเกินไป คนไทยไม่กินเผ็ดก็กินได้ และไม่จืดชืดไปสำหรับคนทานเผ็ดอ่ะค่ะ ถึงปูจะไม่มีมาเป็นก้อนๆ แต่ก็สดและได้รสชาติปูไปเต็มๆปากเลย
จานที่4 "แซลม่อนอบน้ำปลา" ค่ะ แซลม่อนน่าจะผ่านการซูวี เพราะนางนุ่มละมุนปากมาก ผสมกับน้ำยำที่มีทั้งความเปรี้ยว เค็ม เผ็ดปลายนิด แต่ถ้าคลุกกับเครื่องที่ให้มาเต็ม(จนกลบแซลมอน) แล้วกินโดนพริก ก็น่าจะเผ็ดมากอยู่ 55+ เราชอบทานแซลมอนทั้งแบบสดและแบบสุก จานนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจานที่เราชอบมากค่ะ กินกัน2คน หมดภายใน10วิได้ไรได้
จานที่5 "ต้มยำแห้งซี่โครงหมู" จานนี้เป็นอีกหนึ่งจานที่ชอบมั่กกกมากค่ะ เพราะนอกจากเรานับถือลัทธิกินปูแล้ว เราเป็นบีฟเลิฟเวอร์มาก แต่จานนี้ยอมจริงๆ คือหมูนุ่มมาก ร่อนออกจากซี่โครง แทบไม่ต้องออกแรงขยับกล้ามเนื้อเหงือกอะไรเลย จนต้องถามเชฟว่าทำไมดีได้ขนาดนี้ เชฟบอกว่านางเอาไปอบเครื่องต้มยำถึง9ชั่วโมง (ปรุงแบบซูวีอีกแล้ว) คุณพระ..มากกว่าเวลานอนดิชั้นอีกค่ะ!! ละคือด้านนอกมันจะมีความดีงามของซอสต้มยำด้วย กินแกล้มกับสมุนไพรอบแห้ง เด็ดดวงจริงๆค่ะ จานนี้ อ่อ..เห็นใบตองที่ปูจานมามั้ยล่ะคะ มีพิมพ์ชื่อร้านด้วย เกร๋จน
จานที่6 มาต่อกันที่งานเส้นอีกซักรอบ จานนี้คือ "ยำข้าวปุ้น" หรือยำขนมจีนนั่นเองค่ะ จานนี้ก็ชอบอีกแล้วอ่ะ ทำไงดี คือเราเป็นลูกเสี้ยวอีสานด้วย งานข้าวปุ้นนี่มาตั้งแต่เด็ก กินกับน้ำปลายังได้เลย ละนี่คืออะไร คือยำที่รสชาติแซ่บนัวมาก มีกลิ่นอายของอีสานนิดๆด้วยน้ำปลาร้า โรยด้วยปลาดุกฟูอีกรอบ โอ๊ย ดีงามพระรามทั้ง9มาก จานนี้เพื่อนเราก็โปรดมากค่ะ มาทีไร สั่งตลอด
จานที่7 ปลา...ทอดขมิ้น ฮรือออออ..ขอโทษค่ะ จำไม่ได้ว่านางคือปลาอะไร น่าจะไม่น่าใช่ปลาวาฬ หรือปลากัดไอโฟนแน่ๆ แต่นางอร่อยมาก คือทอดมากรอบ แล้วหมักอย่างดี ได้กลิ่นของขมิ้นและเครื่องแกง ความพิเศษอีกอย่างคือ ต้องบีบมะกรูดลงไป ใช่ค่ะมะกรูด เราเกือบเอามาถูมือแล้ว ฮัลโหลววว..แต่เข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื่อ กินได้ทั้งตัว กินเดี่ยวๆก็อร่อยแล้ว พอราดน้ำจิ้มแซ่บๆก็ยังอร่อยไปอีกแบบ เพลิดเพลินเจริญใจมากค่ะ
เสร็จจากของคาวแล้ว(เสร็จซะที) เชื่อมั้ยคะว่าจริงๆมีอีก แต่มันเยอะเกินกำลังคนปกติจะกินได้ แต่คืออาหารจะมาแบบพอร์ชั่นเล็กๆค่ะ แต่ก็ไม่ได้เล็กขนาดเครื่องเซ่นนะคะ แบ่งกันทานกะเพื่อนๆคนละนิดละหน่อย ได้ฟีลมาก นี่เรามาแค่2คนยังซัดเป็นพายุมูจีแกขนาดนี้ ถ้ามากันทั้งฝูงจะขนาดไหน เราสั่งนี่มาทานกะคอกเทลปิดท้ายค่ะ
สิ่งนี้เรียกว่า "ขนมวง" เฮ้ยยยย..มันดีอ่ะแกร เอาอีกแล้ว แป้งนี่เหนียวแน่นหนึบแบบคริสปี้ครีมเลย แต่นี่จะได้กลิ่นอายความเป็นไทยแบบเต็มๆปากค่ะ มีความหอมจากมะพร้าวเผา ราดด้วยน้ำตาลเคี่ยว จึงหอมหวานมันเค็ม มีความละมุนนีมาก น่าจะหาทานสดๆยากอยู่เหมือนกันนะคะ ละที่นี่ทำใหม่ๆเลย แนะนำมากที่สุดของแจ้สำหรับจานของหวานค่ะ
มาต่อด้วยงานคอกเทลค่ะ เราสูบไปหลายแก้วมาก แต่เอาแก้วที่เราชอบมากๆละกันเนอะ แก้วแรกเรียกว่า สาวยาคูลท์ ค่ะ แต่เอาจริงๆนางไม่ได้ใส่ยาคูลท์หรอกนะคะ อ่าววว..แต่น่าจะมีนมเปรี้ยวด้วย แก้วนี้โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของแตงกวา เหมือนกลิ่นครีมทามือชั้นดีอะไรงี้อ่ะค่ะ หอมขึ้นจมูกจริงๆ พอได้ชิมแล้วรสชาติก็ดีไม่แพ้กลิ่นค่ะ เฟรชมากๆ เหมือนยืนอยู่ใต้น้ำตกไนแองการ่า7สาวน้อย เปลี้ยเสียขาจากงานมาได้ดื่มแก้วนี้เนี่ย สดชื่นขึ้นแน่นอน แทบอยากจะพกใส่กระติกไปจิบในออฟฟิศอ่ะค่ะ แก้วนี้
ปิดท้ายด้วยแก้วนี้ค่ะ

Two Smiles แก้วนี้ก็เฟรชมากค่ะ จะเฟรชอะไรกันนักกันหนา มีเครื่องเคียงเป็นส้มหวานฉ่ำ กับแท่งขิงจิ้มพริกเกลือ (หื้มมมม..) ก่อนจิบก็คนๆวนๆ จะได้รสเผ็ดนิดๆ พร้อมกับรสผลหมากรากไม้จำพวกซิตรัส ดื่มแล้วดูเป็นผู้หญิงดีๆที่มีความฮอต แซ่บในตัว แบบไม่ต้องพยายาม
และ นี่คือภาพความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น (เก็บไปบางส่วนแล้วนะคะ)
ในส่วนของ คอกเทลทั้งหมดนั้น
สรุป
เป็นร้านที่บรรยากาศดีค่ะ ตกแต่งสวยงาม สะอาดสะอ้าน ราคาสมเหตุสมผล บรรยากาศก็ดี แต่ดูภายนอกเหมือนจะแพง เกือบก่นด่าเพื่อนว่าพามากินร้านแพงๆอีกแล้วนะ จะให้กรีดเลือดขายแลกข้าวอีกใช่มั้ย??? แต่วันนั้นขนาดกินดื่มแบบจะเกิดสงครามโลกในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ยังตกประมาณ2พันได้ ยิ่งถ้าไม่รวมคอกเทลนะก็ตกไม่ถึงพันบาท ก็ถือว่าโอเคเลยนะ คุ้มค่า ที่จอดรถก็เยอะมาก นั่งได้ชิลล์ๆถึงเที่ยงคืนค่ะ เด็กเสิร์ฟก็บริการดีมาก พูดจาน่ารัก เชฟก็ใจดีค่ะ ใส่ใจ มาคอยถามรสชาติอาหารอยู่บ่อยๆ
ข้อเสีย มีนิดหน่อยค่ะ คือ โดยรวมอาหารอร่อยมากนะคะ แต่จะมาทรงเดียวกัน กลมกลืนกันไปหมดเลย ถ้าใครชอบความหลากหลาย อาจจะรู้สึกว่า มันไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ แล้วก็เก้าอี้ขยับยากมาก ถ้านั่งบาร์ และหนักแอ่กมาก อาจต้องยกท่าคลีนแอนด์เจิร์กกันไป และเราอยากให้ร้านมีดนตรีสดด้วยค่ะ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งข้างนอกบ้าง พอดีที่บ้านไม่ค่อยเปิดแอร์ เลยมาอาศัยแอร์เอาตามร้านรวงต่างๆ 5555+
หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านนะคะ ขอโทษด้วยที่ไม่มีกล้องดีๆถ่าย ถ่ายจากกล้องไอโฟนทั้งนั้น

ใครเคยไปลองทานมาแล้ว ก็มาแสดงความคิดเห็นกันได้ ตอนนี้เรายกให้ร้านนี้เป็นที่แฮงค์เอาท์ประจำของแก๊งเลย เพราะสามารถไปต่อได้ด้วย 5555+ หากมีข้อผิดพลาดอะไร ต้องขออภัยด้วยนะคะ
อ่อ ฝากไอจีร้านด้วย เราเคยคุยกับคนดูแลร้าน(ตอนกึ่มแล้ว ทุกครั้งไป) นางบอกมีคนfollow igน้อยมาก(หลักสิบ) ช่วยฟอลโลวหน่อย วันนี้องค์นางฟ้าลง เลยรีวิวให้ พร้อมทั้งลงไอจีร้านให้ด้วยตามสัญญาาา หวังว่าคงไม่ผิดกฏนะคะ
IG: @hotrodbangkok
ขอบคุณมากค่ะที่อ่านจบ ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์(ถ้ามี)
[CR] รีวิวครั้งแรกในชีวิต กับ ร้านอาหารไทยรสซิ่ง Hot Rod
วันนี้เราเลยมาลองรีวิว(แบบตามมีตามเกิด)ดูบ้าง เหตุผลที่รีวิวเพราะไปกินร้านนี้ประมาณ4-5ครั้ง และก็แฮปปี้กับมาทุกครั้ง วันนี้ว่างซักหน่อย หลังจากขี้เกียจมานาน ก็ได้ฤกษ์รีวิวอาหารเป็นนกกระเรียนแทนคุณ ให้ทางร้านบ้างค่ะ เพราะเซิร์ชในพันทิป ก็ยังไม่มีใครมารีวิวเลย เอ็นดูนาง ร้านจะได้อยู่นานๆหน่อย
ร้านนี้ชื่อ Hot Rodค่ะ ตั้งอยู่ที่ปาร์คเลน เอกมัย หน้าร้านจะมีรถตุ๊กๆ เด่นเลยล่ะ หาง่าย เดินเข้ามาอีกซักหน่อยก็เจอแล้วค่ะ ร้านดูดีเชียว มีโอเพ่นแอร์ กะบาร์แอร์คอนด้านใน เราเลือกนั่งหน้าบาร์ด้านในเพราะเป็นงานถนัดค่ะ 5555+ คือวันนั้นอากาศร้อนด้วย แล้วเลิกงานมาเหนื่อยๆ เลยเลือกนั่งแอร์ สรุปว่าหน้าบาร์นอกจากเป็นคอกเทลบาร์แล้ว ยังเป็นครัวแบบซีทรู ทำให้ได้เห็นวิธีการทำอาหารแบบlive showอีกด้วย รู้สึกอะเมซิ่ง(เสียงญาญ่า) เหมือนนั่งอยู่หน้าร้าน ผัดผักบุ้งไฟแดง โอเมื่อมีไฟ ไฟ ไฟลุกขึ้นแจ่มจ้ากันเลยทีเดียว
(รูปนี้เพื่อนถ่ายค่ะ ถ่ายรูปไฟสวยกว่ารูปเราอีกค่ะ..หึ)
ร้านก็สวย เก๋ดีค่ะ ดูมีดีเทล มีสกุลรุนชาติ ตอนแรกเราก็นึกว่ามันคือลายปลาคาร์ฟ แต่พอมาดูใกล้ๆ นางคือหมู่มวลจิ้งจกค่ะ..ห๊ะ!! เราก็ถามเด็กในร้านว่า ทำไมเป็นจิ้งจกล่ะ นางบอกว่าคนที่ออกแบบเป็นฝรั่ง (จำสัญชาติไม่ได้) มีความเชื่อเรื่องรอยสักค่ะ จิ้งจกคือพลังเมตตามหานิยม ค้าขายดี มีทั้งหางเดียว สองหาง แล้วมีรูปเสือด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ค่ะ หิวจัด
นี่ค่ะครัวแบบโอเพ่น แค่กระจกกั้น วันนี้เรามากับเพื่อนค่ะ เพื่อนจริงๆค่ะ อยากให้โฟกัสเรื่องงานก่อน กร้ากกกกก..คือจริงๆแล้ว เพื่อนเราเป็นคนแนะนำร้านนี้ เพราะนางมาบ่อยค่ะ ไลฟ์สไตล์คือการดื่มกิน(เน้นดื่ม) วันนี้เลยให้นางสั่งอาหารเองเลย เพราะนางเป็นคนเลือกกิน เป็นผู้ชายดีๆ เราจึงเชื่อรสนิยมนาง เอาเลย..จัดไป ราคาอาหารไม่แพงค่ะ ประมาณ150-180 ++ เต็มที่ไม่น่าเกิน200อ่ะค่ะ
จากแรกในวันนี้ คือ ก๊วยเตี๋ยวผัดขี้เมากุ้ง ชิมคำแรกถึงกับเอ่ยปาก "คือดีอ่ะ" นางอร่อยกลมกล่อมมากค่ะ ไม่เผ็ดมากจนเกินไป แล้วรสจะกลมๆอ่ะค่ะ เนื้อกุ้งมาสดเด้ง เส้นเหนียวนุ่ม มีเท็กเจอร์นวลๆของไข่ด้วย เรานี่ซัดแรง จนเพื่อนด่า เอาจริงหิวมาก แล้วเจอไปจานแรกก็อร่อยถูกใจเลย ละเราชอบอะไรเส้นๆอยู่แล้วด้วย จานนี้ยกนิ้วเลยค่ะ
จานที่สอง เรียกว่า ข้าวขยำปูค่ะ คือ เราชอบทานปูมากกกกกก เป็นลัทธิกินปูค่ะ 5555+ แต่เราแพ้อาหารทะเลนะคะ จานนี้เราลงทุนกินยาแก้แพ้ดักก่อนเลย เพราะตัณหาล้วนๆ วิธีกินก็คลุกๆให้เนื้อปู ข้าว กับงานเครื่องให้เข้ากัน มีพริก ผักชี หอมแดง มะนาว อะไรเทือกนี้ จากนี้ก็อร่อย กลมกล่อม เหมือนข้าวผัดปูแต่แซ่บโดนใจกว่าค่ะ ปูก็เป็นปู ไม่ใช่แค่วิญญานที่ทุกข์ทรมาน จานนี้แย่งกันกินอีกตามเคยค่ะ ที่สำคัญเพื่อนเรานางก็แพ้ปู แต่เลือกวิธีกินยาแก้แพ้ดักไว้เหมือนกัน เพื่องานคุณภาพ สองศรีทนได้ค่า
มาจานที่3 ก็ยังคงเป็นงานปูค่ะ คนรักปูจะไม่พลาดจานนี้แน่นอน "ขนมจีนน้ำยาปู" นั่นเองงงงง(เสียงพากย์ทีวีแชมเปี้ยน) จานนี้ก็ถูกใจอีกแล้วค่ะ เพราะเราชอบกินขนมจีนน้ำยาปู หรือแกงปูอะไรงี้มาก แต่ของที่นี่ไม่ได้รสเผ็ดจัดจ้านมากนะคะ รสชาติเค้าจะมาแนวๆเดียวกัน กลมๆแต่ไม่ใช่รสฝรั่งจนเกินไป คนไทยไม่กินเผ็ดก็กินได้ และไม่จืดชืดไปสำหรับคนทานเผ็ดอ่ะค่ะ ถึงปูจะไม่มีมาเป็นก้อนๆ แต่ก็สดและได้รสชาติปูไปเต็มๆปากเลย
จานที่4 "แซลม่อนอบน้ำปลา" ค่ะ แซลม่อนน่าจะผ่านการซูวี เพราะนางนุ่มละมุนปากมาก ผสมกับน้ำยำที่มีทั้งความเปรี้ยว เค็ม เผ็ดปลายนิด แต่ถ้าคลุกกับเครื่องที่ให้มาเต็ม(จนกลบแซลมอน) แล้วกินโดนพริก ก็น่าจะเผ็ดมากอยู่ 55+ เราชอบทานแซลมอนทั้งแบบสดและแบบสุก จานนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจานที่เราชอบมากค่ะ กินกัน2คน หมดภายใน10วิได้ไรได้
จานที่5 "ต้มยำแห้งซี่โครงหมู" จานนี้เป็นอีกหนึ่งจานที่ชอบมั่กกกมากค่ะ เพราะนอกจากเรานับถือลัทธิกินปูแล้ว เราเป็นบีฟเลิฟเวอร์มาก แต่จานนี้ยอมจริงๆ คือหมูนุ่มมาก ร่อนออกจากซี่โครง แทบไม่ต้องออกแรงขยับกล้ามเนื้อเหงือกอะไรเลย จนต้องถามเชฟว่าทำไมดีได้ขนาดนี้ เชฟบอกว่านางเอาไปอบเครื่องต้มยำถึง9ชั่วโมง (ปรุงแบบซูวีอีกแล้ว) คุณพระ..มากกว่าเวลานอนดิชั้นอีกค่ะ!! ละคือด้านนอกมันจะมีความดีงามของซอสต้มยำด้วย กินแกล้มกับสมุนไพรอบแห้ง เด็ดดวงจริงๆค่ะ จานนี้ อ่อ..เห็นใบตองที่ปูจานมามั้ยล่ะคะ มีพิมพ์ชื่อร้านด้วย เกร๋จน
จานที่6 มาต่อกันที่งานเส้นอีกซักรอบ จานนี้คือ "ยำข้าวปุ้น" หรือยำขนมจีนนั่นเองค่ะ จานนี้ก็ชอบอีกแล้วอ่ะ ทำไงดี คือเราเป็นลูกเสี้ยวอีสานด้วย งานข้าวปุ้นนี่มาตั้งแต่เด็ก กินกับน้ำปลายังได้เลย ละนี่คืออะไร คือยำที่รสชาติแซ่บนัวมาก มีกลิ่นอายของอีสานนิดๆด้วยน้ำปลาร้า โรยด้วยปลาดุกฟูอีกรอบ โอ๊ย ดีงามพระรามทั้ง9มาก จานนี้เพื่อนเราก็โปรดมากค่ะ มาทีไร สั่งตลอด
จานที่7 ปลา...ทอดขมิ้น ฮรือออออ..ขอโทษค่ะ จำไม่ได้ว่านางคือปลาอะไร น่าจะไม่น่าใช่ปลาวาฬ หรือปลากัดไอโฟนแน่ๆ แต่นางอร่อยมาก คือทอดมากรอบ แล้วหมักอย่างดี ได้กลิ่นของขมิ้นและเครื่องแกง ความพิเศษอีกอย่างคือ ต้องบีบมะกรูดลงไป ใช่ค่ะมะกรูด เราเกือบเอามาถูมือแล้ว ฮัลโหลววว..แต่เข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื่อ กินได้ทั้งตัว กินเดี่ยวๆก็อร่อยแล้ว พอราดน้ำจิ้มแซ่บๆก็ยังอร่อยไปอีกแบบ เพลิดเพลินเจริญใจมากค่ะ
เสร็จจากของคาวแล้ว(เสร็จซะที) เชื่อมั้ยคะว่าจริงๆมีอีก แต่มันเยอะเกินกำลังคนปกติจะกินได้ แต่คืออาหารจะมาแบบพอร์ชั่นเล็กๆค่ะ แต่ก็ไม่ได้เล็กขนาดเครื่องเซ่นนะคะ แบ่งกันทานกะเพื่อนๆคนละนิดละหน่อย ได้ฟีลมาก นี่เรามาแค่2คนยังซัดเป็นพายุมูจีแกขนาดนี้ ถ้ามากันทั้งฝูงจะขนาดไหน เราสั่งนี่มาทานกะคอกเทลปิดท้ายค่ะ
สิ่งนี้เรียกว่า "ขนมวง" เฮ้ยยยย..มันดีอ่ะแกร เอาอีกแล้ว แป้งนี่เหนียวแน่นหนึบแบบคริสปี้ครีมเลย แต่นี่จะได้กลิ่นอายความเป็นไทยแบบเต็มๆปากค่ะ มีความหอมจากมะพร้าวเผา ราดด้วยน้ำตาลเคี่ยว จึงหอมหวานมันเค็ม มีความละมุนนีมาก น่าจะหาทานสดๆยากอยู่เหมือนกันนะคะ ละที่นี่ทำใหม่ๆเลย แนะนำมากที่สุดของแจ้สำหรับจานของหวานค่ะ
มาต่อด้วยงานคอกเทลค่ะ เราสูบไปหลายแก้วมาก แต่เอาแก้วที่เราชอบมากๆละกันเนอะ แก้วแรกเรียกว่า สาวยาคูลท์ ค่ะ แต่เอาจริงๆนางไม่ได้ใส่ยาคูลท์หรอกนะคะ อ่าววว..แต่น่าจะมีนมเปรี้ยวด้วย แก้วนี้โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของแตงกวา เหมือนกลิ่นครีมทามือชั้นดีอะไรงี้อ่ะค่ะ หอมขึ้นจมูกจริงๆ พอได้ชิมแล้วรสชาติก็ดีไม่แพ้กลิ่นค่ะ เฟรชมากๆ เหมือนยืนอยู่ใต้น้ำตกไนแองการ่า7สาวน้อย เปลี้ยเสียขาจากงานมาได้ดื่มแก้วนี้เนี่ย สดชื่นขึ้นแน่นอน แทบอยากจะพกใส่กระติกไปจิบในออฟฟิศอ่ะค่ะ แก้วนี้
ปิดท้ายด้วยแก้วนี้ค่ะ
Two Smiles แก้วนี้ก็เฟรชมากค่ะ จะเฟรชอะไรกันนักกันหนา มีเครื่องเคียงเป็นส้มหวานฉ่ำ กับแท่งขิงจิ้มพริกเกลือ (หื้มมมม..) ก่อนจิบก็คนๆวนๆ จะได้รสเผ็ดนิดๆ พร้อมกับรสผลหมากรากไม้จำพวกซิตรัส ดื่มแล้วดูเป็นผู้หญิงดีๆที่มีความฮอต แซ่บในตัว แบบไม่ต้องพยายาม
และ นี่คือภาพความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น (เก็บไปบางส่วนแล้วนะคะ)
ในส่วนของ คอกเทลทั้งหมดนั้น
สรุป
เป็นร้านที่บรรยากาศดีค่ะ ตกแต่งสวยงาม สะอาดสะอ้าน ราคาสมเหตุสมผล บรรยากาศก็ดี แต่ดูภายนอกเหมือนจะแพง เกือบก่นด่าเพื่อนว่าพามากินร้านแพงๆอีกแล้วนะ จะให้กรีดเลือดขายแลกข้าวอีกใช่มั้ย??? แต่วันนั้นขนาดกินดื่มแบบจะเกิดสงครามโลกในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ยังตกประมาณ2พันได้ ยิ่งถ้าไม่รวมคอกเทลนะก็ตกไม่ถึงพันบาท ก็ถือว่าโอเคเลยนะ คุ้มค่า ที่จอดรถก็เยอะมาก นั่งได้ชิลล์ๆถึงเที่ยงคืนค่ะ เด็กเสิร์ฟก็บริการดีมาก พูดจาน่ารัก เชฟก็ใจดีค่ะ ใส่ใจ มาคอยถามรสชาติอาหารอยู่บ่อยๆ
ข้อเสีย มีนิดหน่อยค่ะ คือ โดยรวมอาหารอร่อยมากนะคะ แต่จะมาทรงเดียวกัน กลมกลืนกันไปหมดเลย ถ้าใครชอบความหลากหลาย อาจจะรู้สึกว่า มันไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ แล้วก็เก้าอี้ขยับยากมาก ถ้านั่งบาร์ และหนักแอ่กมาก อาจต้องยกท่าคลีนแอนด์เจิร์กกันไป และเราอยากให้ร้านมีดนตรีสดด้วยค่ะ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งข้างนอกบ้าง พอดีที่บ้านไม่ค่อยเปิดแอร์ เลยมาอาศัยแอร์เอาตามร้านรวงต่างๆ 5555+
หวังว่ารีวิวนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านนะคะ ขอโทษด้วยที่ไม่มีกล้องดีๆถ่าย ถ่ายจากกล้องไอโฟนทั้งนั้น
อ่อ ฝากไอจีร้านด้วย เราเคยคุยกับคนดูแลร้าน(ตอนกึ่มแล้ว ทุกครั้งไป) นางบอกมีคนfollow igน้อยมาก(หลักสิบ) ช่วยฟอลโลวหน่อย วันนี้องค์นางฟ้าลง เลยรีวิวให้ พร้อมทั้งลงไอจีร้านให้ด้วยตามสัญญาาา หวังว่าคงไม่ผิดกฏนะคะ
IG: @hotrodbangkok
ขอบคุณมากค่ะที่อ่านจบ ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์(ถ้ามี)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น