ก่อนอื่น ต้องขอบอกพันทิปว่า อย่าเพิ่งลบแท็กนะคะ แท็กถูกห้องทั้งหมดค่ะ เพราะมันเกี่ยวข้องกับทั้งสิ่งแวดล้อม พลังงาน การลงทุน และการท่องเที่ยว

ช่วงศุกร์-เสาร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสร่วมคณะ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association --- TIA) ไปเยี่ยมชมกิจการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ของบริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ที่ สปป.ลาว อันเป็นบริษัท ร่วมทุน ระหว่าง
1. รัฐวิสาหกิจถือหุ้นลาว 20%
2. บจก. บ้านปูเพาเวอร์ 40%
3. บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง 40%
อ้อ ... อันนี้ ลงเป็น Consumer Review นะคะ ไม่ใช่ Sponsor Review เพราะผู้ร่วมทริปต้องจ่ายเองทั้งหมด ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทาง แต่ที่โรงไฟฟ้าเลี้ยงอาหารกลางวัน 1 มื้อ และแจกของที่ระลึกเป็นข้าวหลาม 2 ช็อต (2 ช็อตยังไงเดี๋ยวมาดูกัน)
เอารายละเอียดเป็นทางการของบริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด แห่งนี้ไปก่อนนะคะ
มูลค่าการลงทุนของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ สูงถึง 3,710 ล้านเหรียญสหรัฐ สมมติว่าคูณด้วย 34 เข้าไป (ไม่แน่ใจว่า ทางบริษัท ทำการกำหนดค่าเงินตายตัวกับทางเจ้าหนี้ไว้หรือไม่) ก็จะอยู่ประมาณ 12x,xxx ล้านบาท

การลงทุนด้วยตัวเลขสูงถึง 12 หน่วยแบบนี้ ได้รับการสนับสนุนแหล่งเงินกู้กฐินสามัคคีจากธนาคาร 9 แห่งในประเทศไทย คือ ธ.กรุงเทพ, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.กรุงไทย, ธ.ออมสิน, ธ.กสิกร, เอ็กซิมแบงค์, ธ.กรุงศรี, ธ.ธนชาต และ ธ.ทหารไทย
เรียกว่า แทบจะขานชื่อธนาคารกันมาครบหมดทั้งประเทศสมกับเป็นอภิมหาโครงการจริง ๆ
พื้นที่ สัมปทาน 76.2 ตารางกิโลเมตร --- ก็ประมาณตำบลขนาดย่อม ๆ หนึ่ง หรือ สอง ตำบลนะคะ (ถ้าเป็นตำบลต่างจังหวัด)
ถ้าเทียบกับเขตในกรุงเทพ ยกตัวอย่าง
เขตจตุจักร มีพื้นที่ประมาณ 32.90 ตร.กม.
ถ้าเทียบกับเทศบาลนครในต่างจังหวัด (ดิฉันคนหาดใหญ่ ขอเอาหาดใหญ่เป็นตัวเปรียบเทียบละกันค่ะ)
เทศบาลนครหาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 21 ตร.กม.
แปลง่าย ๆ ได้ว่า เขตพื้นที่สัมปทานหงสา พื้นที่ใหญ่กว่า เขตจตุจักร 2.3 เท่า และใหญ่กว่าเทศบาลนครหาดใหญ่ 3.6 เท่า
รายละเอียดเรื่องกำลังการผลิต
กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม เมื่อเดินเครื่องครบ 3 โรง โรงละ 626 MWs จะอยู่ที่ 1,878 MWs
โดยจะจำหน่ายให้แก่ การไฟฟ้าลาว 100MWs ส่วนที่เหลือ 1,473 MWs จะจำหน่ายให้กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ
ดิฉัน เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า คำว่า MW หรือ MegaWatt เนี่ย แปลว่า อะไร
คุณราชสีห์ที่บ้าน ก็เคยพยายามอธิบายและคำนวณประกอบให้ฟังเหมือนกัน แต่ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าหัว จนมาสรุปได้คำอธิบายง่าย ๆ ว่า
เอางี้ ห้างขนาดประมาณ ซีคอนสแควร์ หรือ พารากอน ใช้ไฟประมาณสัก 40 เมกะวัตต์
โรงผลิตแก้วใหญ่ ๆ ถ้าขึ้นเตาใหม่เพิ่มสักสายการผลิตหนึ่ง น่าจะใช้ไฟประมาณสัก 7 เมกะวัตต์ ถ้าโรงผลิตแก้วมีเตาหรือสายการผลิตสัก 4 เตา ก็จะใช้ไฟเกือบ ๆ 30 เมกะวัตตต์
อืม... แบบนี้ ค่อยเข้าใจง่ายหน่อยค่ะ
แล้วคุณราชสีห์ก็เล่าต่อว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งเคยแชร์ให้ฟังว่า กันเนื้อที่ 20 ไร่ ทำโซล่าฟาร์มไว้ใช้เอง ใช้เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ วางแผงโซล่าเซลล์จะได้ 1 เมกะวัตต์
ดิฉัน ก็นึกภาพตามเล่น ๆ ว่า (เพราะคำนวณไม่เป็น ใช้อนุมานแบบนี้ แล้วมโนที่เหลือเอาเอง) ถ้าห้างอย่างพารากอน ต้องการใช้ไฟจากแสงอาทิตย์ทั้งหมด มิต้องกันที่ถึง 400 ไร่วางแผงโซล่าเซลล์เต็มไปหมดเลยรึ ?

หรือ อาจมีพลังงานทดแทนอย่างอื่นที่ประหยัดพื้นที่และต้นทุนได้มากกว่านี้ ?
เอาเถิดค่ะ ... จะยังไง ก็ปล่อยให้รัฐบาลกับกฟผ. เค้าจัดการดูแลละกันค่ะ มากกว่านี้ก็เห็นจะเกินสติปัญญาแม่บ้านสมองไวอย่างดิฉันจะไปคิดอ่านอะไรได้
มาเรื่องเที่ยวเหมืองหงสาของเราต่อดีกว่า
เราออกเดินทางจากน่านไปเหมืองหงสาตอน ๗ โมงเช้านะคะ บรรยากาศสวยงาม รถไต่ขึ้นลงตามเขาพับไปมา (อยากมีรูปมาฝาก แต่ตำแหน่งที่นั่งในรถตู้ไม่สะดวกให้ถ่ายรูปเลยค่ะ แค่รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยอาเจียนก็ยากแล้วนะคะ)
ตามกำหนดเราใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงเดินทาง ๑๗๐ กม. จากน่านไปหงสา
อันนี้เป็นรูปที่ป้ายทางเข้าหน้าสำนักงานนะคะ
พอเข้าไปจะเจอป้ายสีฟ้าเขียนว่า HONGSA POWER
เราแวะที่สำนักงานเพื่อฟังการบรรยายคร่าว ๆ ถึงการดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าที่นี่ก่อนค่ะ
ทุกคนที่ไปได้รับของที่ระลึก ที่วางอยู่บนเก้าอี้ คือ แถ่น แทน แท้น ... ถุงผ้าปักครอสติช ปักคำว่า HONGSA POWER แล้วก็รูปกระกระจุ๊กกระจิ๊ก เช่น รูปสัตว์ หัวใจ ดอกไม้ ใบหญ้า
ส่วนของอิชั้น ได้รูป ... กวางน้อยค่ะ (ลูกเพจพ่อบ้านใจกล้าคงกิ๊วก๊าวกันใหญ่แน่ถ้าได้ลายนี้)
เปิดถุงออกมาเป็นข้าวเหนียวหลามสองแท่งเล็ก ๆ ค่ะ
พอเปิดออกมาแล้วดิฉันก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะนึกถึง ที่พี่โน้ส เคยเล่าไว้ในเดี่ยว เจ็ด หรือ แปด จำไม่ได้เป๊ะ ๆ บอกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยไม่รู้จักดีไซน์อะไร ๆ ให้มันเหมาะมือ อย่างข้าวหลามเนี่ย ปกติคนจะกิน ก็จะแค่ขูดหน้ากินนิดหน่อย ทำไม ต้องใส่มาเป็นบ้องข้าวหลามใหญ่เทอะเทอะ เวลาจะกินก็ต้องเจ็บมือคอยแบะบ้องออก ซื้อไปเป็นของฝากก็หนักและกินเนื้อที่ ทำไมไม่ทำข้าวหลามเป็นช็อตเหมือนกาแฟช็อตเล็ก ๆ
ตอนฟังดิฉัน ก็ขำ ๆ นะคะ คิดตามไปว่า เออ ก็จริง แต่ก็ไม่เคยเห็นข้าวหลามเป็นช็อตซะที จนมาได้เป็นของที่ระลึกที่นี่ค่ะ
ข้าวหลามช็อต อร่อยดีค่ะ รสชาติคลีน ๆ นะคะ ไม่หวานจัด บรรจุอยู่ในถุงผ้า ซึ่งเป็นงานฝีมือแฮนด์เมดของชาวบ้าน งานประดิษฐ์พวกนี้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทางโรงไฟฟ้ามาฝึกให้ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนท้องที่ทดแทนกับการที่ชาวบ้านบางส่วนต้องย้ายออกจากพื้นที่ทำเหมืองไป
คุณ สมศักดิ์ สิทธินามสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ ของ หงสาเพาเวอร์ ได้กรุณาออกมาต้อนรับทีมผู้ไปเยี่ยมชม พร้อมทั้งจัดให้มีการบรรยายสรุปให้ฟัง ตอบข้อซักถาม เพื่อให้ทราบถึง ที่มาที่ไป การดำเนินการของบริษัทในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพแวดล้อมและชุมชน มีหลายเรื่องที่น่าสนใจอยากแชร์ให้ฟังตามประเด็นต่อไปนี้ค่ะ
1. องค์ประกอบของโครงการนี้ ครอบคลุมหลายส่วนงาน และหลายมิติ ทั้งด้านการจัดการพลังงาน เศรษฐกิจ สังคม ระบบสาธารณูปโภค และสิ่งแวดล้อมดังนี้
- โรงไฟฟ้าและระบบสายส่งภายใน สปป.ลาว
- เหมืองถ่านหินลิกไนต์
- เหมืองหินปูน
- เขื่อนเก็บน้ำ
- ระบบสาธารณูปโภค
- การโยกย้าย และจัดสรรชุมชน
- การประเมิน และติดตามแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน
2. ปริมาณถ่านหินสำรองของที่นี่คือ 577.4 ล้านตัน ส่วนปริมาณถ่านหินที่ต้องการใช้จริงคือ 370.8 ล้านตัน
3. ปริมาณถ่านหินที่นำไปใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า คือ 14.3 ล้านตัน / ปี
4. ระยะเวลาอายุสัมปทาน ทั้งหมด คือ 25 ปี (ค.ศ. 2016-2041)
5. ขนาดโรงไฟฟ้า รวมทั้งสิ้นจาก หน่วยผลิต 3 หน่วย (3 x 626) คือ 1,878 เมกะวัตต์
6. กระบวนการผลิตไฟฟ้าเป็นไปตามแผนงานทุกอย่าง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามกำหนดการที่ตั้งไว้ ไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากงานล่าช้าอีกต่อไป โดย หน่วยที่ 1 สามารถผลิตไฟฟ้า จำหน่ายได้ตามกำหนด คือ ช่วงมิถุนายน 2558
ส่วนหน่วยที่ 2 จะจำหน่ายไฟฟ้าได้ตามกำหนด คือ ช่วงพฤศจิกายน 2558 และ หน่วยที่ 3 จะมีกำหนดเดินเครื่องการผลิตไฟฟ้า ช่วงมีนาคม 2559
7. เกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และความปลอดภัย เป็นข้อกำหนดของ ธนาคารโลก และ สปป.ลาว มีการเข้ามาตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลลาวอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ
8. ถ่านหินที่นี่ มีค่าความชื้นค่อนข้างสูงคือ 34.4% แต่มีข้อดีคือ มีปริมาณซัลเฟอร์ค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ 0.7% (ถ้าดิฉันจำไม่ผิด ของแม่เมาะน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2% ค่าซัลเฟอร์ที่สูงขึ้น แปลว่า จะต้องลงทุนไปกับการดักจับและกำจัดสารพิษตัวนี้มากขึ้น) ซัลเฟอร์เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดฝนกรดขึ้น จึงจำเป็นต้องจัดการอย่างระมัดระวัง
9. หลังจากจบสัมปทาน 25 ปี เหมืองที่ขุดเอาถ่านหินลิกไนต์ขึ้นมาใช้ตามปริมาณที่คาดการณ์ไว้ จะมีความลึกประมาณ 300 เมตร (นึกแล้ว น่าทึ่งมาก เพราะจากข้อมูล วิกิพีเดีย จุดที่ลึกที่สุดของอ่าวไทย ลึกแค่เพียง 85 เมตรเท่านั้น) อาจจะดัดแปลงใช้เก็บน้ำ หรือ ทำอะไรเพิ่มเติมข้อมูลส่วนนี้ยังไม่แน่ชัด
10. แหล่งน้ำที่ใช้สำหรับชุมชน เพื่อระบบน้ำประปา ชลประทาน และใช้ในโรงไฟฟ้า มาจาก 3 แหล่ง คือ
เขื่อนน้ำเลือก ความจุ 16.4 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนน้ำแก่น ความจุ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำตะวันออก ความจุ 0.55 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนถูกออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหวได้ประมาณ 7 ตามมาตราริคเตอร์
[CR] พาดูโรงไฟฟ้า ซื้อผ้าซิ่นที่หงสา
ช่วงศุกร์-เสาร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสร่วมคณะ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association --- TIA) ไปเยี่ยมชมกิจการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ของบริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ที่ สปป.ลาว อันเป็นบริษัท ร่วมทุน ระหว่าง
1. รัฐวิสาหกิจถือหุ้นลาว 20%
2. บจก. บ้านปูเพาเวอร์ 40%
3. บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง 40%
อ้อ ... อันนี้ ลงเป็น Consumer Review นะคะ ไม่ใช่ Sponsor Review เพราะผู้ร่วมทริปต้องจ่ายเองทั้งหมด ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทาง แต่ที่โรงไฟฟ้าเลี้ยงอาหารกลางวัน 1 มื้อ และแจกของที่ระลึกเป็นข้าวหลาม 2 ช็อต (2 ช็อตยังไงเดี๋ยวมาดูกัน)
เอารายละเอียดเป็นทางการของบริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด แห่งนี้ไปก่อนนะคะ
มูลค่าการลงทุนของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ สูงถึง 3,710 ล้านเหรียญสหรัฐ สมมติว่าคูณด้วย 34 เข้าไป (ไม่แน่ใจว่า ทางบริษัท ทำการกำหนดค่าเงินตายตัวกับทางเจ้าหนี้ไว้หรือไม่) ก็จะอยู่ประมาณ 12x,xxx ล้านบาท
การลงทุนด้วยตัวเลขสูงถึง 12 หน่วยแบบนี้ ได้รับการสนับสนุนแหล่งเงินกู้กฐินสามัคคีจากธนาคาร 9 แห่งในประเทศไทย คือ ธ.กรุงเทพ, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.กรุงไทย, ธ.ออมสิน, ธ.กสิกร, เอ็กซิมแบงค์, ธ.กรุงศรี, ธ.ธนชาต และ ธ.ทหารไทย
เรียกว่า แทบจะขานชื่อธนาคารกันมาครบหมดทั้งประเทศสมกับเป็นอภิมหาโครงการจริง ๆ
พื้นที่ สัมปทาน 76.2 ตารางกิโลเมตร --- ก็ประมาณตำบลขนาดย่อม ๆ หนึ่ง หรือ สอง ตำบลนะคะ (ถ้าเป็นตำบลต่างจังหวัด)
ถ้าเทียบกับเขตในกรุงเทพ ยกตัวอย่าง
เขตจตุจักร มีพื้นที่ประมาณ 32.90 ตร.กม.
ถ้าเทียบกับเทศบาลนครในต่างจังหวัด (ดิฉันคนหาดใหญ่ ขอเอาหาดใหญ่เป็นตัวเปรียบเทียบละกันค่ะ)
เทศบาลนครหาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 21 ตร.กม.
แปลง่าย ๆ ได้ว่า เขตพื้นที่สัมปทานหงสา พื้นที่ใหญ่กว่า เขตจตุจักร 2.3 เท่า และใหญ่กว่าเทศบาลนครหาดใหญ่ 3.6 เท่า
รายละเอียดเรื่องกำลังการผลิต
กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม เมื่อเดินเครื่องครบ 3 โรง โรงละ 626 MWs จะอยู่ที่ 1,878 MWs
โดยจะจำหน่ายให้แก่ การไฟฟ้าลาว 100MWs ส่วนที่เหลือ 1,473 MWs จะจำหน่ายให้กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ
ดิฉัน เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า คำว่า MW หรือ MegaWatt เนี่ย แปลว่า อะไร
คุณราชสีห์ที่บ้าน ก็เคยพยายามอธิบายและคำนวณประกอบให้ฟังเหมือนกัน แต่ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าหัว จนมาสรุปได้คำอธิบายง่าย ๆ ว่า
เอางี้ ห้างขนาดประมาณ ซีคอนสแควร์ หรือ พารากอน ใช้ไฟประมาณสัก 40 เมกะวัตต์
โรงผลิตแก้วใหญ่ ๆ ถ้าขึ้นเตาใหม่เพิ่มสักสายการผลิตหนึ่ง น่าจะใช้ไฟประมาณสัก 7 เมกะวัตต์ ถ้าโรงผลิตแก้วมีเตาหรือสายการผลิตสัก 4 เตา ก็จะใช้ไฟเกือบ ๆ 30 เมกะวัตตต์
อืม... แบบนี้ ค่อยเข้าใจง่ายหน่อยค่ะ
แล้วคุณราชสีห์ก็เล่าต่อว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งเคยแชร์ให้ฟังว่า กันเนื้อที่ 20 ไร่ ทำโซล่าฟาร์มไว้ใช้เอง ใช้เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ วางแผงโซล่าเซลล์จะได้ 1 เมกะวัตต์
ดิฉัน ก็นึกภาพตามเล่น ๆ ว่า (เพราะคำนวณไม่เป็น ใช้อนุมานแบบนี้ แล้วมโนที่เหลือเอาเอง) ถ้าห้างอย่างพารากอน ต้องการใช้ไฟจากแสงอาทิตย์ทั้งหมด มิต้องกันที่ถึง 400 ไร่วางแผงโซล่าเซลล์เต็มไปหมดเลยรึ ?
หรือ อาจมีพลังงานทดแทนอย่างอื่นที่ประหยัดพื้นที่และต้นทุนได้มากกว่านี้ ?
เอาเถิดค่ะ ... จะยังไง ก็ปล่อยให้รัฐบาลกับกฟผ. เค้าจัดการดูแลละกันค่ะ มากกว่านี้ก็เห็นจะเกินสติปัญญาแม่บ้านสมองไวอย่างดิฉันจะไปคิดอ่านอะไรได้
มาเรื่องเที่ยวเหมืองหงสาของเราต่อดีกว่า
เราออกเดินทางจากน่านไปเหมืองหงสาตอน ๗ โมงเช้านะคะ บรรยากาศสวยงาม รถไต่ขึ้นลงตามเขาพับไปมา (อยากมีรูปมาฝาก แต่ตำแหน่งที่นั่งในรถตู้ไม่สะดวกให้ถ่ายรูปเลยค่ะ แค่รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยอาเจียนก็ยากแล้วนะคะ)
ตามกำหนดเราใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงเดินทาง ๑๗๐ กม. จากน่านไปหงสา
อันนี้เป็นรูปที่ป้ายทางเข้าหน้าสำนักงานนะคะ
พอเข้าไปจะเจอป้ายสีฟ้าเขียนว่า HONGSA POWER
เราแวะที่สำนักงานเพื่อฟังการบรรยายคร่าว ๆ ถึงการดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าที่นี่ก่อนค่ะ
ทุกคนที่ไปได้รับของที่ระลึก ที่วางอยู่บนเก้าอี้ คือ แถ่น แทน แท้น ... ถุงผ้าปักครอสติช ปักคำว่า HONGSA POWER แล้วก็รูปกระกระจุ๊กกระจิ๊ก เช่น รูปสัตว์ หัวใจ ดอกไม้ ใบหญ้า
ส่วนของอิชั้น ได้รูป ... กวางน้อยค่ะ (ลูกเพจพ่อบ้านใจกล้าคงกิ๊วก๊าวกันใหญ่แน่ถ้าได้ลายนี้)
เปิดถุงออกมาเป็นข้าวเหนียวหลามสองแท่งเล็ก ๆ ค่ะ
พอเปิดออกมาแล้วดิฉันก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะนึกถึง ที่พี่โน้ส เคยเล่าไว้ในเดี่ยว เจ็ด หรือ แปด จำไม่ได้เป๊ะ ๆ บอกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยไม่รู้จักดีไซน์อะไร ๆ ให้มันเหมาะมือ อย่างข้าวหลามเนี่ย ปกติคนจะกิน ก็จะแค่ขูดหน้ากินนิดหน่อย ทำไม ต้องใส่มาเป็นบ้องข้าวหลามใหญ่เทอะเทอะ เวลาจะกินก็ต้องเจ็บมือคอยแบะบ้องออก ซื้อไปเป็นของฝากก็หนักและกินเนื้อที่ ทำไมไม่ทำข้าวหลามเป็นช็อตเหมือนกาแฟช็อตเล็ก ๆ
ตอนฟังดิฉัน ก็ขำ ๆ นะคะ คิดตามไปว่า เออ ก็จริง แต่ก็ไม่เคยเห็นข้าวหลามเป็นช็อตซะที จนมาได้เป็นของที่ระลึกที่นี่ค่ะ
ข้าวหลามช็อต อร่อยดีค่ะ รสชาติคลีน ๆ นะคะ ไม่หวานจัด บรรจุอยู่ในถุงผ้า ซึ่งเป็นงานฝีมือแฮนด์เมดของชาวบ้าน งานประดิษฐ์พวกนี้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทางโรงไฟฟ้ามาฝึกให้ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนท้องที่ทดแทนกับการที่ชาวบ้านบางส่วนต้องย้ายออกจากพื้นที่ทำเหมืองไป
คุณ สมศักดิ์ สิทธินามสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ ของ หงสาเพาเวอร์ ได้กรุณาออกมาต้อนรับทีมผู้ไปเยี่ยมชม พร้อมทั้งจัดให้มีการบรรยายสรุปให้ฟัง ตอบข้อซักถาม เพื่อให้ทราบถึง ที่มาที่ไป การดำเนินการของบริษัทในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพแวดล้อมและชุมชน มีหลายเรื่องที่น่าสนใจอยากแชร์ให้ฟังตามประเด็นต่อไปนี้ค่ะ
1. องค์ประกอบของโครงการนี้ ครอบคลุมหลายส่วนงาน และหลายมิติ ทั้งด้านการจัดการพลังงาน เศรษฐกิจ สังคม ระบบสาธารณูปโภค และสิ่งแวดล้อมดังนี้
- โรงไฟฟ้าและระบบสายส่งภายใน สปป.ลาว
- เหมืองถ่านหินลิกไนต์
- เหมืองหินปูน
- เขื่อนเก็บน้ำ
- ระบบสาธารณูปโภค
- การโยกย้าย และจัดสรรชุมชน
- การประเมิน และติดตามแผนการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน
2. ปริมาณถ่านหินสำรองของที่นี่คือ 577.4 ล้านตัน ส่วนปริมาณถ่านหินที่ต้องการใช้จริงคือ 370.8 ล้านตัน
3. ปริมาณถ่านหินที่นำไปใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า คือ 14.3 ล้านตัน / ปี
4. ระยะเวลาอายุสัมปทาน ทั้งหมด คือ 25 ปี (ค.ศ. 2016-2041)
5. ขนาดโรงไฟฟ้า รวมทั้งสิ้นจาก หน่วยผลิต 3 หน่วย (3 x 626) คือ 1,878 เมกะวัตต์
6. กระบวนการผลิตไฟฟ้าเป็นไปตามแผนงานทุกอย่าง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามกำหนดการที่ตั้งไว้ ไม่มีความเสี่ยงเนื่องจากงานล่าช้าอีกต่อไป โดย หน่วยที่ 1 สามารถผลิตไฟฟ้า จำหน่ายได้ตามกำหนด คือ ช่วงมิถุนายน 2558
ส่วนหน่วยที่ 2 จะจำหน่ายไฟฟ้าได้ตามกำหนด คือ ช่วงพฤศจิกายน 2558 และ หน่วยที่ 3 จะมีกำหนดเดินเครื่องการผลิตไฟฟ้า ช่วงมีนาคม 2559
7. เกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และความปลอดภัย เป็นข้อกำหนดของ ธนาคารโลก และ สปป.ลาว มีการเข้ามาตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลลาวอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ
8. ถ่านหินที่นี่ มีค่าความชื้นค่อนข้างสูงคือ 34.4% แต่มีข้อดีคือ มีปริมาณซัลเฟอร์ค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ 0.7% (ถ้าดิฉันจำไม่ผิด ของแม่เมาะน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2% ค่าซัลเฟอร์ที่สูงขึ้น แปลว่า จะต้องลงทุนไปกับการดักจับและกำจัดสารพิษตัวนี้มากขึ้น) ซัลเฟอร์เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดฝนกรดขึ้น จึงจำเป็นต้องจัดการอย่างระมัดระวัง
9. หลังจากจบสัมปทาน 25 ปี เหมืองที่ขุดเอาถ่านหินลิกไนต์ขึ้นมาใช้ตามปริมาณที่คาดการณ์ไว้ จะมีความลึกประมาณ 300 เมตร (นึกแล้ว น่าทึ่งมาก เพราะจากข้อมูล วิกิพีเดีย จุดที่ลึกที่สุดของอ่าวไทย ลึกแค่เพียง 85 เมตรเท่านั้น) อาจจะดัดแปลงใช้เก็บน้ำ หรือ ทำอะไรเพิ่มเติมข้อมูลส่วนนี้ยังไม่แน่ชัด
10. แหล่งน้ำที่ใช้สำหรับชุมชน เพื่อระบบน้ำประปา ชลประทาน และใช้ในโรงไฟฟ้า มาจาก 3 แหล่ง คือ
เขื่อนน้ำเลือก ความจุ 16.4 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนน้ำแก่น ความจุ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำตะวันออก ความจุ 0.55 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนถูกออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหวได้ประมาณ 7 ตามมาตราริคเตอร์