เราแค่ไม่มีที่ระบาย ไม่รู้จะบอกกับใคร
เราอึดอัด เราอยากมีคนรับฟัง
ด้วยความที่เรามีเพื่อนสนิทวัยมัธยมเป็นผู้ชายกลุ่มใหญ่ ส่วนใหญ่ก็ดูได้ ถึงหน้าตาดี
ไอ้ตอนเรียนนี่ก๊ไม่ได้คิดอะไรกับมันหรอก เพราะสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก
โตมาหน่อย ใครต่อใครก็กริ๊ดเพื่อนเรา ดูดีๆ เออมันก็หล่อจริงๆแฮะ
เมื่อย้อนกลับไปสัก 10 ปีที่แล้ว เด็กวัยเราไม่มีพิษสงอะไรเลย
เล่นกันขำขัน เฮฮา รุนแรง แกล้งกันยันฟกช้ำบ่อยๆ
ผูกพันกันมาก
จนเมื่อเรียนจบมัธยม ไปเรียนต่อมหาลัย
ตอนนี้ก็ห่างกันไป แต่ก็ยังคุยกันเรื่อยๆ
เจอกันบ้างไม่เจอกันบ้าง สังสรรค์กันตามกาล
โดยนิสัยเราติดเพื่อนคนนี้มากที่สุด เพราะมันช่างเอาใจ
ดึงหู หยิกแก้ม กระชากผม กอดคอ หลับซบหลัง
ดึงแขนเดิน ลากไป อะไรที่มันใกล้ทำโดยไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
ต่างคนต่างชอบอ้อน เวลาพูดชอบลงท้ายว่า นะๆ
เช่น อยากกินติม พาไปกินหน่อย นะๆ
ทำจนเพื่อนรอบข้าง หรือครอบครัวไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก
แต่พอถึงวัยทำงานนี่แหละเราถึงเริ่มรู้สึก
เราโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่คำว่าเพื่อนของเรากลับไม่โตตาม
เวลาที่เราเหนื่อย เราท้อ เราไปคุยกับเพื่อน
เพื่อนมักจะปลอบเราในแบบที่เคยเป็นตอนเด็ก
"ยอมแพ้ไม่ได้นะ กรูไม่รักคนขี้ขลาด"
"มาดมเต่ากรูสักครั้ง รับรองพลัง

จะเต็มร้อย"
"โลกใบนี้ไม่ได้เหมือนกรูทุกคนนะ เค้าจะได้รักและตามใจ

ไปซะหมด"
ตรงกันข้าม เวลาที่เหนื่อย เพื่อนก็จะมาคุยกัยเรา
"ให้กำลังใจกรู ด้วยคำที่ใครๆเขาไม่พูดกันซิ"
"กรูอยากให้

อยู่ด้วยในตอนนี้"
หรืออยู่ๆ ก็โทรมาหา เพื่อบอกว่า "กรูรัก

มากนะตั้งใจทำงาน"
นานๆ น๊านนนนน นานมากๆ ที่ได้เจอกันสักที
ก็จะชอบเกาะ ห้อย งุ้งงิ้งๆ ต่างคนต่างเป็น
ทุกอย่างคือสิ่งที่มันสั่งสมในความรู้สึกของเรามาก
เพื่อนหลายๆคนยิ่งโตเรายิ่งรู้จักการวางตัว
แต่คนนี้เราไม่เปลี่ยนไปจริงๆ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เรารู้ดีว่าเพื่อนไม่ได้คิดอะไร
เพื่อนมีคนชอบเยอะ ด้วยความเป็นผู้ชายน่ารัก มีสเน่ห์
ไม่มีแฟน ไม่ผูกพันกับใคร แต่คุยไปเรื่อย เบื่อก็เลิกคุยไป
ตอนนี้เราสารภาพเลยว่า เราชอบมันแล้ว
แต่เราทำอะไรไม่ได้จริงๆ นอกจากเป็นเพื่อนที่รักมันมากๆคนหนึ่ง
อยากให้มันผ่านมาเจอ แล้วเก็บมาถามว่า

คิดเหมือนในเรื่องนี้มั้ย
ตอนนั้จะถามมัน

แต่งงานกับกรูเอามั้ย

กรูรัก

มากเลยนะ
เคยชอบเพื่อนสนิท แล้วทำได้แค่แอบชอบมันมั้ย
เราอึดอัด เราอยากมีคนรับฟัง
ด้วยความที่เรามีเพื่อนสนิทวัยมัธยมเป็นผู้ชายกลุ่มใหญ่ ส่วนใหญ่ก็ดูได้ ถึงหน้าตาดี
ไอ้ตอนเรียนนี่ก๊ไม่ได้คิดอะไรกับมันหรอก เพราะสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก
โตมาหน่อย ใครต่อใครก็กริ๊ดเพื่อนเรา ดูดีๆ เออมันก็หล่อจริงๆแฮะ
เมื่อย้อนกลับไปสัก 10 ปีที่แล้ว เด็กวัยเราไม่มีพิษสงอะไรเลย
เล่นกันขำขัน เฮฮา รุนแรง แกล้งกันยันฟกช้ำบ่อยๆ
ผูกพันกันมาก
จนเมื่อเรียนจบมัธยม ไปเรียนต่อมหาลัย
ตอนนี้ก็ห่างกันไป แต่ก็ยังคุยกันเรื่อยๆ
เจอกันบ้างไม่เจอกันบ้าง สังสรรค์กันตามกาล
โดยนิสัยเราติดเพื่อนคนนี้มากที่สุด เพราะมันช่างเอาใจ
ดึงหู หยิกแก้ม กระชากผม กอดคอ หลับซบหลัง
ดึงแขนเดิน ลากไป อะไรที่มันใกล้ทำโดยไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
ต่างคนต่างชอบอ้อน เวลาพูดชอบลงท้ายว่า นะๆ
เช่น อยากกินติม พาไปกินหน่อย นะๆ
ทำจนเพื่อนรอบข้าง หรือครอบครัวไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก
แต่พอถึงวัยทำงานนี่แหละเราถึงเริ่มรู้สึก
เราโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่คำว่าเพื่อนของเรากลับไม่โตตาม
เวลาที่เราเหนื่อย เราท้อ เราไปคุยกับเพื่อน
เพื่อนมักจะปลอบเราในแบบที่เคยเป็นตอนเด็ก
"ยอมแพ้ไม่ได้นะ กรูไม่รักคนขี้ขลาด"
"มาดมเต่ากรูสักครั้ง รับรองพลัง
"โลกใบนี้ไม่ได้เหมือนกรูทุกคนนะ เค้าจะได้รักและตามใจ
ตรงกันข้าม เวลาที่เหนื่อย เพื่อนก็จะมาคุยกัยเรา
"ให้กำลังใจกรู ด้วยคำที่ใครๆเขาไม่พูดกันซิ"
"กรูอยากให้
หรืออยู่ๆ ก็โทรมาหา เพื่อบอกว่า "กรูรัก
นานๆ น๊านนนนน นานมากๆ ที่ได้เจอกันสักที
ก็จะชอบเกาะ ห้อย งุ้งงิ้งๆ ต่างคนต่างเป็น
ทุกอย่างคือสิ่งที่มันสั่งสมในความรู้สึกของเรามาก
เพื่อนหลายๆคนยิ่งโตเรายิ่งรู้จักการวางตัว
แต่คนนี้เราไม่เปลี่ยนไปจริงๆ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เรารู้ดีว่าเพื่อนไม่ได้คิดอะไร
เพื่อนมีคนชอบเยอะ ด้วยความเป็นผู้ชายน่ารัก มีสเน่ห์
ไม่มีแฟน ไม่ผูกพันกับใคร แต่คุยไปเรื่อย เบื่อก็เลิกคุยไป
ตอนนี้เราสารภาพเลยว่า เราชอบมันแล้ว
แต่เราทำอะไรไม่ได้จริงๆ นอกจากเป็นเพื่อนที่รักมันมากๆคนหนึ่ง
อยากให้มันผ่านมาเจอ แล้วเก็บมาถามว่า
ตอนนั้จะถามมัน
กรูรัก