ไม่ได้มีเจตนาจะตั้งกระทู้แบบ clickbait นะครับ 555
แค่หัวข้อกระทู้มันอธิบายไม่ได้หมด
ขออนุญาตลงข่าวจากลิ้งค์ต้นทางที่ผมเจอมาก่อน
When a Pulitzer Prize-Winning Photographer is Asked for Free Photos…
http://petapixel.com/2015/10/06/when-a-pulitzer-prize-winning-photographer-is-asked-for-free-photos/
ลองเข้าไปอ่านเนื้อหาประกอบกับคอมเม้นท์ในบทความข่าวเพิ่มเติมได้ครับ
แต่โดยสรุปคือ
David Carson ซึ่งเป็นช่างภาพรางวัลพูลิตเซอร์
ได้ลงภาพข่าวที่เขาถ่ายไว้ในทวิตเตอร์ของตัวเอง
และได้รับการติดต่อจากสำนักข่าว CBS ว่า จะขออนุญาตใช้รูปของคุณลงในเวบ (หรือเพจ ฯลฯ) ของ CBS ได้ไหม
โดยที่จะลงเครดิตกำกับไว้ให้
ทีเด็ดคือ คุณ Carson ตอบกลับแบบตรงไปตรงมาชัดเจนว่า
ไม่ได้ ผมไม่อนุญาตให้คุณเอารูปผมไปใช้ฟรี ผมเป็นมืออาชีพที่ทำงานด้านนี้ คุณยื่นข้อเสนอมาแบบนี้เป็นการดูถูกผม
ทาง CBS เลยตอบกลับมาว่า
ทางเราเสียใจที่ได้ยินคุณรู้สึกเช่นนี้ว่า การขอร้องของเราเป็นการดูถูกคุณ ในอนาคตข้างหน้า คุณยังสามารถได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานของคุณอยู่นะ
คุณ Carson ตอบกลับ ชัดเจนเหมือนเดิม
ผมว่าคุณฟังสิ่งที่ผมพูดไม่รู้เรื่อง CBS เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทำธุรกิจพันล้าน แล้วคุณมาขอใช้รูปผมฟรีๆ เพื่อแลกกับให้เครดิตผม ถามจริงๆ เถอะ ปกติที่คุณทำงานกันอยู่เนี่ย แลกกับเครดิตเหรอ?
ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจดี เพราะช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นบ้านเราก็พบกับเรื่องแบบนี้อยู่เนืองๆ
มีทั้งที่อยู่ๆ ก็เจอคน เจอบริษัท เจอสนข. เจอสนพ. เอารูปตัวเองไปใช้ พอติดต่อไปก็บอกจะให้เครดิต หรือหนักหน่อยคือตีมึนบอกว่า ช่วยๆ กัน หนักสุดคือไม่แยแส
หรือบางท่านอาจจะลำบากใจที่เจอขอใช้รูปฟรี แลกกับเครดิต ซึ่งบางครั้งพอเช็คดูดีๆ แล้วหน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลนั้นที่ขออนุญาตใช้รูปฟรี มีงบประมาณ มีธุรกิจ คือพูดง่ายๆ ว่ามีเงิน แต่จะไม่ใช้เงินนั่นเอง
ลองดูเป็นตัวอย่างไว้ได้ครับ ^^
แต่ถ้าบางท่านจะสะดวกใจอนุญาตให้ใช้รูปตัวเองฟรี และได้รับเครดิต อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาบอกว่าใครต้องทำอะไร
แค่เอามาแชร์ให้หลายๆ ท่านดูเพื่อเป็นมุมมองและเป็นประโยชน์ในบางด้าน
หรือเผื่อเนื้อหาข่าวนี้จะไปเข้าตา บริษัท ห้างร้าน องค์กร ใดๆ ที่หวังจะใช้รูปฟรีจากฝีมือคนอื่น โดยให้เครดิตแลก หรือไม่สนใจให้เครดิตก็ตาม
จะได้ยับยั้งชั่งใจ คิดดูซักหน่อยว่า งานทุกงานมีต้นทุนการทำงานทั้งนั้น คุณมี คนอื่นก็มื
ปล. 1
เฉพาะกรณีนี้ผมคิดว่าที่คุณ David พูดตรงแรง เพราะคนที่มาติดต่อขอใช้รูปเขาฟรีๆ เป็นบริษัทมีธุรกิจใหญ่โต และหากินกับภาพข่าว
ปล. 2
ถ้าอ่านในคอมเม้นท์ของลิงค์ต้นทาง มีบางคอมเม้นท์น่าสนใจครับ
คือมีการถกเถียงกันว่า คุณ David ทำตัวหยาบคายหรือเปล่าที่ตอบกลับ CBS ไปอย่างนั้น
ซึ่งคนส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ไม่หรอก เขาแค่พูดตรงๆ เท่านั้นไม่ได้ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ
และบอกว่าการที่ CBS มาขอใช้รูปเขาซึ่งเป็นช่างภาพมืออาชีพแบบฟรีๆ นั่นต่างหากที่น่าจะถูกมองว่าหยาบคาย
ทีนี้ก็มีท่านหนึ่งมาคอมเม้นท์ต่อว่า
No it wasn't, simply cuz if you publish media content on twitter, or any content at all is automatically available for public use. CBS didn't even have to ask for permission...
คร่าวๆ คือ พี่เขาบอกว่าจริงๆ ไม่เห็นจะต้องขออนุญาตใช้รูปด้วยซ้ำ การที่คุณเอารูปมาโพสต์ลง twitter รูปพวกนั้นก็สามารถเอาไปใช้ได้เลย ง่ายๆ แค่นั้น ไม่ต้องไปขอ
ผมอ่านเจอแล้วเงิบบบบบบบบบ (บ.ใบไม้ ล้านตัว)
ปล. 3
ผมอาจจะแปลบางถ้อยคำไม่ตรงตามความหมายเป๊ะๆ หรืออาจแปลพลาดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า หากท่านใดจะช่วยแก้ให้ถูกต้อง ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ไปเจอมาครับเห็นว่ามีประโยชน์ "เมื่อช่างภาพรางวัลพูลิตเซอร์ ถูกสนพ.ติดต่อขอใช้รูปฟรี เพื่อแลกกับการลงเครดิตให้"
แค่หัวข้อกระทู้มันอธิบายไม่ได้หมด
ขออนุญาตลงข่าวจากลิ้งค์ต้นทางที่ผมเจอมาก่อน
When a Pulitzer Prize-Winning Photographer is Asked for Free Photos…
http://petapixel.com/2015/10/06/when-a-pulitzer-prize-winning-photographer-is-asked-for-free-photos/
ลองเข้าไปอ่านเนื้อหาประกอบกับคอมเม้นท์ในบทความข่าวเพิ่มเติมได้ครับ
แต่โดยสรุปคือ
David Carson ซึ่งเป็นช่างภาพรางวัลพูลิตเซอร์
ได้ลงภาพข่าวที่เขาถ่ายไว้ในทวิตเตอร์ของตัวเอง
และได้รับการติดต่อจากสำนักข่าว CBS ว่า จะขออนุญาตใช้รูปของคุณลงในเวบ (หรือเพจ ฯลฯ) ของ CBS ได้ไหม
โดยที่จะลงเครดิตกำกับไว้ให้
ทีเด็ดคือ คุณ Carson ตอบกลับแบบตรงไปตรงมาชัดเจนว่า
ไม่ได้ ผมไม่อนุญาตให้คุณเอารูปผมไปใช้ฟรี ผมเป็นมืออาชีพที่ทำงานด้านนี้ คุณยื่นข้อเสนอมาแบบนี้เป็นการดูถูกผม
ทาง CBS เลยตอบกลับมาว่า
ทางเราเสียใจที่ได้ยินคุณรู้สึกเช่นนี้ว่า การขอร้องของเราเป็นการดูถูกคุณ ในอนาคตข้างหน้า คุณยังสามารถได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานของคุณอยู่นะ
คุณ Carson ตอบกลับ ชัดเจนเหมือนเดิม
ผมว่าคุณฟังสิ่งที่ผมพูดไม่รู้เรื่อง CBS เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทำธุรกิจพันล้าน แล้วคุณมาขอใช้รูปผมฟรีๆ เพื่อแลกกับให้เครดิตผม ถามจริงๆ เถอะ ปกติที่คุณทำงานกันอยู่เนี่ย แลกกับเครดิตเหรอ?
ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจดี เพราะช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นบ้านเราก็พบกับเรื่องแบบนี้อยู่เนืองๆ
มีทั้งที่อยู่ๆ ก็เจอคน เจอบริษัท เจอสนข. เจอสนพ. เอารูปตัวเองไปใช้ พอติดต่อไปก็บอกจะให้เครดิต หรือหนักหน่อยคือตีมึนบอกว่า ช่วยๆ กัน หนักสุดคือไม่แยแส
หรือบางท่านอาจจะลำบากใจที่เจอขอใช้รูปฟรี แลกกับเครดิต ซึ่งบางครั้งพอเช็คดูดีๆ แล้วหน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลนั้นที่ขออนุญาตใช้รูปฟรี มีงบประมาณ มีธุรกิจ คือพูดง่ายๆ ว่ามีเงิน แต่จะไม่ใช้เงินนั่นเอง
ลองดูเป็นตัวอย่างไว้ได้ครับ ^^
แต่ถ้าบางท่านจะสะดวกใจอนุญาตให้ใช้รูปตัวเองฟรี และได้รับเครดิต อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาบอกว่าใครต้องทำอะไร
แค่เอามาแชร์ให้หลายๆ ท่านดูเพื่อเป็นมุมมองและเป็นประโยชน์ในบางด้าน
หรือเผื่อเนื้อหาข่าวนี้จะไปเข้าตา บริษัท ห้างร้าน องค์กร ใดๆ ที่หวังจะใช้รูปฟรีจากฝีมือคนอื่น โดยให้เครดิตแลก หรือไม่สนใจให้เครดิตก็ตาม
จะได้ยับยั้งชั่งใจ คิดดูซักหน่อยว่า งานทุกงานมีต้นทุนการทำงานทั้งนั้น คุณมี คนอื่นก็มื
ปล. 1
เฉพาะกรณีนี้ผมคิดว่าที่คุณ David พูดตรงแรง เพราะคนที่มาติดต่อขอใช้รูปเขาฟรีๆ เป็นบริษัทมีธุรกิจใหญ่โต และหากินกับภาพข่าว
ปล. 2
ถ้าอ่านในคอมเม้นท์ของลิงค์ต้นทาง มีบางคอมเม้นท์น่าสนใจครับ
คือมีการถกเถียงกันว่า คุณ David ทำตัวหยาบคายหรือเปล่าที่ตอบกลับ CBS ไปอย่างนั้น
ซึ่งคนส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ไม่หรอก เขาแค่พูดตรงๆ เท่านั้นไม่ได้ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ
และบอกว่าการที่ CBS มาขอใช้รูปเขาซึ่งเป็นช่างภาพมืออาชีพแบบฟรีๆ นั่นต่างหากที่น่าจะถูกมองว่าหยาบคาย
ทีนี้ก็มีท่านหนึ่งมาคอมเม้นท์ต่อว่า
No it wasn't, simply cuz if you publish media content on twitter, or any content at all is automatically available for public use. CBS didn't even have to ask for permission...
คร่าวๆ คือ พี่เขาบอกว่าจริงๆ ไม่เห็นจะต้องขออนุญาตใช้รูปด้วยซ้ำ การที่คุณเอารูปมาโพสต์ลง twitter รูปพวกนั้นก็สามารถเอาไปใช้ได้เลย ง่ายๆ แค่นั้น ไม่ต้องไปขอ
ผมอ่านเจอแล้วเงิบบบบบบบบบ (บ.ใบไม้ ล้านตัว)
ปล. 3
ผมอาจจะแปลบางถ้อยคำไม่ตรงตามความหมายเป๊ะๆ หรืออาจแปลพลาดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า หากท่านใดจะช่วยแก้ให้ถูกต้อง ขอบคุณล่วงหน้าครับ