>>>>>>>>>>ครับหลังจากนั่งรถทัวร์จากห้วยทรายแล้วเราก็จะมุ่งตรงสู่หลวงน้ำทา ที่นี่น้องพนักงานต้อนรับบอกว่าเราจะได้จอดแวะพักทานข้าวเย็นกัน เวลาก็ประมาณ 19.00 น. ครับการมารถทัวร์สายนี้ไม่ได้มีคูปองสำหรับแลกทานอาหารระหว่างเดินทาง ใครทานต้องจ่ายเองนะครับ แต่ผมโชคดีอิอิ อาศัยเข้ากับคนง่ายพี่คนขับรถทัวร์ก็เลยเลี้ยงข้าวผม นี้เป็นอาหารลาวแท้ๆมื้อแรกของผมเลยนะครับ

ถามถึงรสชาติ ก็คือเอิ้ม........ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับอิอิอิอิ
จากนั้นเราจอดพักที่หลวงน้ำทาประมาณ 30 นาที พี่แอมและก็น้องคนบริการรถทัวร์ก็หิ้วเบยลาวมาอีก 6 ขวด น้ำแข็งอีก 2 กิโล ขึ้นรถทัวร์ ก่อนรถออกพี่แอมบอกว่าเราต้องหลับยาวเพราะถนนข้างหน้าจะ ลดเลี้ยวเคี้ยวคด เราจึงต้องเมาให้หลับไปก่อน ระหว่างนั้งดื่มบนรถพี่แอมเล่าให้ฟังว่าเขาสนิทกับรถทัวร์สายนี้มากทุกคนก็รู้จักกันดี เพราะตัวเองวิ่งบ่อยช่วงที่มาค้าขายที่หลวงพระบาง ผมว่าการได้นั้งฟังเรื่องราวชีวิตของใครคนอื่น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มันก็ทำให้เราได้แง่คิดดีดีหลายๆอย่างนะครับ นอกเรื่องไปเยอะ หลังจากเจอเบยลาว 6 ขวดผมก็ไฟตก หลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกที่ก็มาถึงอุดมชัย ทุกคนบนรถทัวร์หลับหมด รถทัวร์จอดพวกพี่แอม พี่คนขับรถทัวร์ก็เรียกผมหลงรถ(ลงทำไมยังงงๆ) พี่เขาแอบจอดข้างร้านขายของปิ้งยาง ลูกสาวเจ้าของน่ารักมาก เสียดายผมไม่ได้เก็บรูปไว้ ขณะแอบกินปิ้งยางกันพี่เขาก็เอา เบยลาวมาอีก4 ขวด ผมจะรอดไหมครับงานนี้พี่น้อง คนที่อุดมชัยพูดภาษาไทยลื้อผมก็แอบเปิดแผนที่ดูถึงรู้ว่าที่นี้เป็นทางแยกไปพงสาลีซึ่งเป็นชายแดนติดกับสิบสองปันนาของจีน เลยอ้อว่าทำไมคนที่นี้พูดไทยลื้อได้
บรรยากาศเมืองอุดมชัยครับ ภาพอาจไม่ชัดนะครับกล้องมือถืออ่ะ

ทสงแยกไปพงสาลี และก็เชียงรุ้ง(สิบสองปันนา)ครับ

พอกินอิ่มก็ถึงเวลานอนอุ่น จากนั้นรถก็นำผมตรงสู่หลวงพระบางแบบไม่รู้ตัว เพราเมาไม่รู้เรื่องละครับงานนี้
3.ถึงแล้วหลวงพระบาง
>>>>รถวิ่งมาถึงหลวงพระบางก็ประมาณ 05.00 น. ผมถูกปลุกให้ลงจากรถ ตอนลงจากรถก็จะเหมือนสถานีขนส่งของบ้านเรา จะมีรถรับจ้างมารายล้อมเราเพื่อให้นั้งรถเข้าตัวเมืองหลวงพระบาง เวลานั้นทุกคนก็จะมีการต่อราคาเกิดขึ้น ผมไม่ได้ต่อนะครับทำหน้าเอ้อเหรอ ลงรถแบบงงๆ ก่อนพี่แอมจะลากไป ขึ้นรถด้วยราคารถสามล้อเข้าตัวเมืองก็ประมาณ 40 บาทครับ ถ้าเกินนี้แสดงว่าอาจโดนโก้งราคาครับ ที่นี้ผมก็เห็นฝรั้ง กับเกาหลีโดนโก้งราคาเหมือนกัน ผมได้แต่มอง เพราะไอ้เราก็เกือบโดนเหมือนกัน ก่อนจะขึ้นรถสามล้อเข้าตัวเมือง น้องพนักงานต้อนรับบนรถก็บอกว่าถ้าคืนนี้พี่ไม่ไปไหนมากินเบยลาวด้วยกันที่พักของเขา สำหรับรถทัวร์ไทยทางการจะเช้าห้องไว้ให้พักคับติดกับคนส่งพวกพี่พนักงานจะพักกันที่หลวงพระบาง 1 คืน และก็จะกลับไทยตอนเย็นวันพุธครับ ผมนะรู้หมด อิอิอิ
สถานีขนส่งสายใต้เมืองหลวงพระบางครับ

จากนั้นผมก็นั้งรถเข้าตัวเมืองใช้เวลาก็ไม่น่าจะถึง 10 นาที รถก็มาถึงตลาดดาราเราก็ลงรถกันตรงนี้
พี่แอมพาผมเดินไปที่ห้องพักพร้อมเปิดห้อง ชื่อห้องพักผม เฮือนจันสะว่าง

บรรยากาศหน้าห้องพักครับ

ราคาที่พักห้องพัดลมก็ 380 บาท ห้องแอร์ก็ 480 บาทครับ นี้เป็นราคาช่วง low season นะครับผมสอบถามเจ้าของเขาบอกว่าถ้าช่วง HI ก็จะอับราคาขึ้นอีกนิดหน่อยบรรยากาศในห้องพักผม สะอาดไหมคับสองเตียง 1 คน อิอิอิ ผมว่าราคาไม่แพงนะครับสะภาพน้องก็โอเค ผมได้พักห้องพัดลมเพราะห้องแอร์แบบเตียงเดี่ยวไม่ว่าง สำหรับที่พักของผมก็เรียบง่ายไม่มีไรมากเด็กที่ดูแลห้องพักก็เป็นเด็กจากต่างเมืองแต่เข้ามาเรียนต่อในหลวงพระบางพี่เจ้าของก็จ้างไว้โดยให้พักที่บ้านพักเลย มีเงินเดือน ค่าน้ำมันรถไปโรงเรียน และเลี้ยงข้าวฟรีทุกมื้อ ใจดีโคตรๆ อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง ในใจก็คิดว่าคนที่นี้เขาเอื้อเฟื้อกันดีจัง สำหรับห้องพักก็จะหาได้เยอะแยะครับตรงแยกตลาดดาราหลังพระธาตุพูสี ตรงเข้าไปก็จะมีห้องพักราคาตั้งแต่ 300 - 1,000 บาทเลือกเอาตามความพอใจครับ ตรงที่ผมพักจะอยู่ย่านตัวเมืองครับเดินทางสะดวก ไม่ต้องเช่ารถขอแค่มีขาสองข้างก็เดินได้สบายมาก ชิวๆ

หลังจากเช็คอินแล้วผมก็อาบน้ำชำระร่างกาย ก่อนจะออกไปหาพี่แอมที่ร้าน พี่เขาบอกว่าจะพาไปตลาดเช้าของหลวงพระบาง ไปหาไรกิน ตลาดเช้าที่นี้หากเทียบกับที่เชียงใหม่ลำพูนก็คงจะประมาณ ตลาดประตูเชียงใหม่ หรือไม่ก็ตลาดหนองดอกลำพูนครับของที่ขายก็จะเป็นพืชพักซะส่วนใหญ่ มีเสื้อผ้าซิ้นแบบเมืองลาวบ้าง อะไรประมาณนี้
บรรยากาศในตลาดเช้า

ของปิ้งย่างเยอะมากราคาก็พอๆกับบ้านเราครับ

พอเดินตลาดเช้าเสร็จก็แยกย้ายกับพี่แอมและก็แฟน เพราะว่าง่วงมากไม่ไหวขอกลับไปนอนเอาแรงที่ห้องพักก่อน หลังจากงีบหลับผมก็ออกสำรวจหลวงพระบางต่อวันแรกผมไปเช้าจักรยานมาครับราคาก็ 80 บาทถ้าจำไม่ผิดนะปั้นแถวตัวเมืองดูลาดราว รอบเมืองที่แรกตอนปั้นก็งง เพราะคนที่นี้เขาใช้รถเลนขวา ไอ้เราก็เกือบโดนชนหลายรอบเพราะติดนิสัยปั่นเลนส์ซ้ายมาจากเมืองไทย ดีนะที่ไม่ถูกคนลาวด่า
>>>>>>>ตกกลางคืนผมก็ออกไปกาดมืด หรือถนนคนเดินหลวงพระบางนั้นเองที่นี้จะเป็นแหล่งขายของที่ระลึก ต่างๆมากมาย แต่ผมว่า มันมี Made in ThaiLand เยอะไปนะ ก่อนจะเริ่มเดินตลาดผมก็ต้องเดินพลังงานที่นี้เขาจะมีข้าวแกงบุพเฟ่คลับตักได้ถ้วยละ 80 บาทตักได้ครั้งเดียวตักกี่อย่างก็ได้ ผมเห็นละฟินๆๆๆ แปลกดีเลยแวะชิม รสชาติก็พอไปได้ครับไม่ถึงกลับอร่อยมาก
หน้าตาร้านขายบุบเฟ่ข้าวราดแกง

บรรยากาศนักท่องเที่ยวกำลังเลือกทานร้านบุฟเฟ่

แม่ค้านั้งรอเก็บเงิน แต่งตัวสวยซะด้วยแอบถ่ายพี่เขาอ่ะครับ อิอิ

พอเริ่มอิ่มผมก็เดินย้อยอาหารในตลาดมืดต่อ ที่นี้ก็มีของฝากแปลกๆด้วยนะครับผมพึ่งเคยเห็น งูดองเหล้า ใครจะกล้าดื่ม ผมคนนึงล่ะสู้ไม่ไหว

บรรยากาศในกาดมืดครับ

ตบท้ายด้วยไส้กรอกฝรั้งเศส เวอร์ชั้นหลวงพระบางรถชาติ ผมขออนุญาตขอผ่านนะครับ

>>>>โดยรวมแล้วตลาดมืดก็เหมือนถนนคนเดินบ้านเราครับมีของที่ระลึกซึ่งส่วนใหญ่ก็คล้ายๆบ้านเรามากๆ แต่ที่แปลกก็คงจะเป็นของป่าแปลกๆ อย่างงูดองเหล้านี้ละครับที่พึ่งเคยเห็น
ครับ part นี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะครับ ถึงเวลาทำงานอีกละ ฉีดยาล้างแผลก่อน part หน้าผมจะพาไปดูบรรยากาศตัวเมืองหลวงพระบาง และก็ค่ำคืนของหลวงพระบางว่าเป็นอย่างไร
จะออกไปแตะขอบฟ้า(สบายดีครับ หลวงพระบาง) part.2
ถามถึงรสชาติ ก็คือเอิ้ม........ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับอิอิอิอิ
จากนั้นเราจอดพักที่หลวงน้ำทาประมาณ 30 นาที พี่แอมและก็น้องคนบริการรถทัวร์ก็หิ้วเบยลาวมาอีก 6 ขวด น้ำแข็งอีก 2 กิโล ขึ้นรถทัวร์ ก่อนรถออกพี่แอมบอกว่าเราต้องหลับยาวเพราะถนนข้างหน้าจะ ลดเลี้ยวเคี้ยวคด เราจึงต้องเมาให้หลับไปก่อน ระหว่างนั้งดื่มบนรถพี่แอมเล่าให้ฟังว่าเขาสนิทกับรถทัวร์สายนี้มากทุกคนก็รู้จักกันดี เพราะตัวเองวิ่งบ่อยช่วงที่มาค้าขายที่หลวงพระบาง ผมว่าการได้นั้งฟังเรื่องราวชีวิตของใครคนอื่น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มันก็ทำให้เราได้แง่คิดดีดีหลายๆอย่างนะครับ นอกเรื่องไปเยอะ หลังจากเจอเบยลาว 6 ขวดผมก็ไฟตก หลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกที่ก็มาถึงอุดมชัย ทุกคนบนรถทัวร์หลับหมด รถทัวร์จอดพวกพี่แอม พี่คนขับรถทัวร์ก็เรียกผมหลงรถ(ลงทำไมยังงงๆ) พี่เขาแอบจอดข้างร้านขายของปิ้งยาง ลูกสาวเจ้าของน่ารักมาก เสียดายผมไม่ได้เก็บรูปไว้ ขณะแอบกินปิ้งยางกันพี่เขาก็เอา เบยลาวมาอีก4 ขวด ผมจะรอดไหมครับงานนี้พี่น้อง คนที่อุดมชัยพูดภาษาไทยลื้อผมก็แอบเปิดแผนที่ดูถึงรู้ว่าที่นี้เป็นทางแยกไปพงสาลีซึ่งเป็นชายแดนติดกับสิบสองปันนาของจีน เลยอ้อว่าทำไมคนที่นี้พูดไทยลื้อได้
บรรยากาศเมืองอุดมชัยครับ ภาพอาจไม่ชัดนะครับกล้องมือถืออ่ะ
ทสงแยกไปพงสาลี และก็เชียงรุ้ง(สิบสองปันนา)ครับ
พอกินอิ่มก็ถึงเวลานอนอุ่น จากนั้นรถก็นำผมตรงสู่หลวงพระบางแบบไม่รู้ตัว เพราเมาไม่รู้เรื่องละครับงานนี้
3.ถึงแล้วหลวงพระบาง
>>>>รถวิ่งมาถึงหลวงพระบางก็ประมาณ 05.00 น. ผมถูกปลุกให้ลงจากรถ ตอนลงจากรถก็จะเหมือนสถานีขนส่งของบ้านเรา จะมีรถรับจ้างมารายล้อมเราเพื่อให้นั้งรถเข้าตัวเมืองหลวงพระบาง เวลานั้นทุกคนก็จะมีการต่อราคาเกิดขึ้น ผมไม่ได้ต่อนะครับทำหน้าเอ้อเหรอ ลงรถแบบงงๆ ก่อนพี่แอมจะลากไป ขึ้นรถด้วยราคารถสามล้อเข้าตัวเมืองก็ประมาณ 40 บาทครับ ถ้าเกินนี้แสดงว่าอาจโดนโก้งราคาครับ ที่นี้ผมก็เห็นฝรั้ง กับเกาหลีโดนโก้งราคาเหมือนกัน ผมได้แต่มอง เพราะไอ้เราก็เกือบโดนเหมือนกัน ก่อนจะขึ้นรถสามล้อเข้าตัวเมือง น้องพนักงานต้อนรับบนรถก็บอกว่าถ้าคืนนี้พี่ไม่ไปไหนมากินเบยลาวด้วยกันที่พักของเขา สำหรับรถทัวร์ไทยทางการจะเช้าห้องไว้ให้พักคับติดกับคนส่งพวกพี่พนักงานจะพักกันที่หลวงพระบาง 1 คืน และก็จะกลับไทยตอนเย็นวันพุธครับ ผมนะรู้หมด อิอิอิ
สถานีขนส่งสายใต้เมืองหลวงพระบางครับ
จากนั้นผมก็นั้งรถเข้าตัวเมืองใช้เวลาก็ไม่น่าจะถึง 10 นาที รถก็มาถึงตลาดดาราเราก็ลงรถกันตรงนี้
พี่แอมพาผมเดินไปที่ห้องพักพร้อมเปิดห้อง ชื่อห้องพักผม เฮือนจันสะว่าง
บรรยากาศหน้าห้องพักครับ
ราคาที่พักห้องพัดลมก็ 380 บาท ห้องแอร์ก็ 480 บาทครับ นี้เป็นราคาช่วง low season นะครับผมสอบถามเจ้าของเขาบอกว่าถ้าช่วง HI ก็จะอับราคาขึ้นอีกนิดหน่อยบรรยากาศในห้องพักผม สะอาดไหมคับสองเตียง 1 คน อิอิอิ ผมว่าราคาไม่แพงนะครับสะภาพน้องก็โอเค ผมได้พักห้องพัดลมเพราะห้องแอร์แบบเตียงเดี่ยวไม่ว่าง สำหรับที่พักของผมก็เรียบง่ายไม่มีไรมากเด็กที่ดูแลห้องพักก็เป็นเด็กจากต่างเมืองแต่เข้ามาเรียนต่อในหลวงพระบางพี่เจ้าของก็จ้างไว้โดยให้พักที่บ้านพักเลย มีเงินเดือน ค่าน้ำมันรถไปโรงเรียน และเลี้ยงข้าวฟรีทุกมื้อ ใจดีโคตรๆ อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง ในใจก็คิดว่าคนที่นี้เขาเอื้อเฟื้อกันดีจัง สำหรับห้องพักก็จะหาได้เยอะแยะครับตรงแยกตลาดดาราหลังพระธาตุพูสี ตรงเข้าไปก็จะมีห้องพักราคาตั้งแต่ 300 - 1,000 บาทเลือกเอาตามความพอใจครับ ตรงที่ผมพักจะอยู่ย่านตัวเมืองครับเดินทางสะดวก ไม่ต้องเช่ารถขอแค่มีขาสองข้างก็เดินได้สบายมาก ชิวๆ
หลังจากเช็คอินแล้วผมก็อาบน้ำชำระร่างกาย ก่อนจะออกไปหาพี่แอมที่ร้าน พี่เขาบอกว่าจะพาไปตลาดเช้าของหลวงพระบาง ไปหาไรกิน ตลาดเช้าที่นี้หากเทียบกับที่เชียงใหม่ลำพูนก็คงจะประมาณ ตลาดประตูเชียงใหม่ หรือไม่ก็ตลาดหนองดอกลำพูนครับของที่ขายก็จะเป็นพืชพักซะส่วนใหญ่ มีเสื้อผ้าซิ้นแบบเมืองลาวบ้าง อะไรประมาณนี้
บรรยากาศในตลาดเช้า
ของปิ้งย่างเยอะมากราคาก็พอๆกับบ้านเราครับ
พอเดินตลาดเช้าเสร็จก็แยกย้ายกับพี่แอมและก็แฟน เพราะว่าง่วงมากไม่ไหวขอกลับไปนอนเอาแรงที่ห้องพักก่อน หลังจากงีบหลับผมก็ออกสำรวจหลวงพระบางต่อวันแรกผมไปเช้าจักรยานมาครับราคาก็ 80 บาทถ้าจำไม่ผิดนะปั้นแถวตัวเมืองดูลาดราว รอบเมืองที่แรกตอนปั้นก็งง เพราะคนที่นี้เขาใช้รถเลนขวา ไอ้เราก็เกือบโดนชนหลายรอบเพราะติดนิสัยปั่นเลนส์ซ้ายมาจากเมืองไทย ดีนะที่ไม่ถูกคนลาวด่า
>>>>>>>ตกกลางคืนผมก็ออกไปกาดมืด หรือถนนคนเดินหลวงพระบางนั้นเองที่นี้จะเป็นแหล่งขายของที่ระลึก ต่างๆมากมาย แต่ผมว่า มันมี Made in ThaiLand เยอะไปนะ ก่อนจะเริ่มเดินตลาดผมก็ต้องเดินพลังงานที่นี้เขาจะมีข้าวแกงบุพเฟ่คลับตักได้ถ้วยละ 80 บาทตักได้ครั้งเดียวตักกี่อย่างก็ได้ ผมเห็นละฟินๆๆๆ แปลกดีเลยแวะชิม รสชาติก็พอไปได้ครับไม่ถึงกลับอร่อยมาก
หน้าตาร้านขายบุบเฟ่ข้าวราดแกง
บรรยากาศนักท่องเที่ยวกำลังเลือกทานร้านบุฟเฟ่
แม่ค้านั้งรอเก็บเงิน แต่งตัวสวยซะด้วยแอบถ่ายพี่เขาอ่ะครับ อิอิ
พอเริ่มอิ่มผมก็เดินย้อยอาหารในตลาดมืดต่อ ที่นี้ก็มีของฝากแปลกๆด้วยนะครับผมพึ่งเคยเห็น งูดองเหล้า ใครจะกล้าดื่ม ผมคนนึงล่ะสู้ไม่ไหว
บรรยากาศในกาดมืดครับ
ตบท้ายด้วยไส้กรอกฝรั้งเศส เวอร์ชั้นหลวงพระบางรถชาติ ผมขออนุญาตขอผ่านนะครับ
>>>>โดยรวมแล้วตลาดมืดก็เหมือนถนนคนเดินบ้านเราครับมีของที่ระลึกซึ่งส่วนใหญ่ก็คล้ายๆบ้านเรามากๆ แต่ที่แปลกก็คงจะเป็นของป่าแปลกๆ อย่างงูดองเหล้านี้ละครับที่พึ่งเคยเห็น
ครับ part นี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะครับ ถึงเวลาทำงานอีกละ ฉีดยาล้างแผลก่อน part หน้าผมจะพาไปดูบรรยากาศตัวเมืองหลวงพระบาง และก็ค่ำคืนของหลวงพระบางว่าเป็นอย่างไร