ผมลาออกกงานในวันที่30กรกฏคมปี 2558ที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุที่ว่าติดเชื้อในกระแสเลือด จากการทำงานที่ไม่เหมาะสม(อาการก็ ประมาณว่าสลึมสลือ คล้ายกับโดนมิตรฉาจาชีพป้ายยาใส่น่ะครับ) วันนั้นผมออกมา ประมาณบ่ายสามโมง แล้วไปหาหมอต่อ เสร็จจากหาหมอผมไม่แน่ใจว่า ได้ไปเดินเล่นแถวสยามรึปล่าว (ผมไปเดินเล่นแถวนั้นบ่อยมากกกก เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินกับแบงก์ต่างๆ แต่คิดว่าคงไปแหละ) ผมไปพร้อมกระเป๋าเป้คู่ใจเสมอ ในกระเป๋ามีมือถือรุ่นกาแลคซี่ยังสีขาวอยู่(เลขอีมี่ 35626805911005/01) ที่ผมเตรียมเอาไว้เพื่อจะนำไปขาย ในวันที่เท่าไรผมจำไม่ได้ มีครั้งนึงผมอยู่ในแบงก์นึงในสยามพารากอน ผมกดคิวแล้วนั่งรอพร้อมทั้งขอน้ำเค้ามา เพื่อกินยา (มียาอยู่ในกระเป๋าเป้ผม ในถุงก็อบแก็บสีขาว และมีมือถือก็อยู่ในถุงก็อบแก็บสีขาวอีกถุงเช่นกันในกระเป๋าเป้)พอกินยาเสร็จ เค้าเรียกคิวผมพอดีจึงรีบลุกไป ทำธุรกรรม ระหว่างนั้น มีชายคนนึงอายุราว30ปลายๆ มานั่งแทนที่ผม แล้วเดินมาสะกิดว่าคุณๆ นี่คือของคุณใช่หรือไม่ มือขวาเค้ามีถุงก็อบแก็บสีขาวที่มีมือถือสีขาววางทับอยู่ ส่วนมือซ้าย ถือมือถือเครื่องนึง(คาดว่าถุงก็อบแก็บสีขาวนั่นแหละคือมือถือของผม) ผมในอาการที่สลึมสลือ และไม่อยากได้ของใคร จึงตอบกับไปว่าไม่ใช่ครับ(ในตอนนั้นก็มีคิดในใจอยู่บ้างว่า พนักงานแบงก์สาขานี้เห็นผมบ่อบมาก คุยถูกคอกันดี ไหม่น่าจะมีอะไร เค้าคงช่วยเป็นหูเป็นตาให้แหละ)สุดท้าย พอทำธุรกรรมเสร็จผมก็เดินออกมาเลย จนต้นเดือนสิงหาคม มาเอะใจว่ามือถือหายไปไหน ผมใช้เวลาอาทิตย์กว่าๆในการค้นๆๆๆๆบ้าน ห้อง ลิ้นชัก จึงแน่ใจว่าหายไปแน่ๆ วันที่15สิงหาคมผมไปแจ้งความกับคุณตำรวจ ก ผ่านมาสักพัก เรื่องไม่คืบหน้า ก็ไปที่สนอีก แจ้งความกับคุณตำรวจ ข โดยระบุวันที่ประมาณเอา เป็นสี่วัน คือ11 18กรกฏาคม และ 3 7 สิงหาคม(ซึ่ง ไม่มั่นใจวันสักเท่าไร) โดยที่ก่อนหน้าที่จะแจ้งความผมไปถามที่สาขาดูแล้ว บอกให้ดูกล้อง วันที่31กรกฏาคม และ 1สิงหาคม พนักงานบอกว่า ดูให้แล้ว เปิดกล้องยืนดูกันเองสี่คน ไม่มีนะ หลายวันผ่านไป ผมนึกขึ้นได้ว่า น่าจะเป็นวันเสาร์แรกที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลรึปล่าว (คือวันเสาร์ที่18กรกฏาคม) จึงไปบอกพนักงานแบงก์ เค้าตอบออกมาหน้าตาเฉยว่า วันนั้นกล้องมันเสียค่ะจากนั้นจึงไปแจ้งความกับคุณตำรวจ ข ซึ่งเป็นเจ้าของคดีที่รับเรื่องผมไว้(กับคุณตำรวจ ข มาครั้งแรกหลังจากหงุดหงิดเรื่องกล้องเสีย เพราะมันส่อแววพิรุธอยู่นะ)ผ่านไปหลายวัน ผมไปที่สำนักงานใหญ่ของแบงก์ เค้าบอก ต้องขอหมายดูกล้อง จึงไปที่ส น อีกครั้ง เจอหมวดผู้หญิงที่ทำหมายแล้วบอกว่าจะส่งมาที่สำนักงานใหญ่ของแบงก์ให้เองในชื่อของคุณตำรวจ ข เจ้าของคดี ผ่านมาอีกหลายวันผมไปที่สำนักงานใหญ่ของแบงก์เค้าบอกว่าไม่มีมาถึงเลย ผมจึงไปที่ส น อีกครั้ง เพื่อขอให้ออกหมายให้อีก ปรากฏว่า คุณตำรวข ตะคอก ด่าๆๆๆๆๆๆๆโวยวายผม ว่า มือถือหายก็หายไป หายก็ซื้อใหม่สิ แถมยังขู่ผมด้วยว่าให้จบเรื่องเพียงเท่านี้ ถ้าไม่จบจะส่งหมายเตือนถึงผู้ปกครองไปที่บ้าน(แต่วันนั้น เค้าก็ออกหมายขอดูกล้องวันที่30 กรกฏาคม ให้ผมนะครับ แต่ผม ไม่มั่นใวจวันเลยครับ) ถามจริงเถอะครับว่า ถ้ามือถือหายก็ซื้อใหม่ โลกนี้มีตำรวจไว้ทำไมครับ และอีกอย่าง อายุผมเอง ก็ใกล้จะ30แล้วนะครับ มันจำเป็นต้องใช้ผู้ปกครองด้วยเหรอครับ(เพราะ ตอนโทรไป ให้ เร่งรัดคดี เค้าบอก ขอเบอร์แม่ผมอย่างเดียวเลย )โดยที่ผมเสียค่ารถค่าราไปก็เยอะนะ(แล้วโลกนี้จะมีตำรวจไว้ทำไมอ่ะ)
ปล เรื่องทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะว่า หรือกล่าวหา บุคคลใดเลย เพียงแค่นำเรื่องเล่าของตัวเองมาให้ผู้อื่นเพื่อเป็นวิทยาทานเท่านั้นครับ)ผมเจตนาบริสุทธิ์ใจจริงๆครับ)
ผมมีเรื่องจะถามครับ
ปล เรื่องทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะว่า หรือกล่าวหา บุคคลใดเลย เพียงแค่นำเรื่องเล่าของตัวเองมาให้ผู้อื่นเพื่อเป็นวิทยาทานเท่านั้นครับ)ผมเจตนาบริสุทธิ์ใจจริงๆครับ)