ชีวิตตอน ม.ปลาย
ดิฉันเป็นเด็กผู้หญิงอยู่ในภาคตะวันออกที่เรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่เด็กทุกคนคงวาดภาพว่าคงเป็นผู้หญิงกุลสตรีเรียบร้อย แต่งตัว รักสวยรักงามล่ะสิ แต่จริงแล้ว… เปล่าเลยค่ะ ดิฉันกระโดกกระเดกมาก ทำทุกอย่างที่ผู้ชายทำ ยกแบกของหนักเป็นเรื่องปกติ จนคนแถวบ้านหาว่าดิฉันเป็นทอม ซึ่งก็ไม่เคยไปเถียงเขานะ ปล่อยให้เขาคิดไป ด้วยความที่ดิฉันเป็นพวกลุยๆ จึงเป็นนักกิจกรรมตัวยงของโรงเรียน ทำกิจกรรมมากกว่าเรียนซะอีก ไม่เคยเรียนพิเศษ ยุคสมัยดิฉันเป็นยุคสอบแกท แพท โอเน็ต ไรไม่รู้เยอะแยะ เพื่อนส่วนใหญ่มักหมดเวลาไปกับการเรียนพิเศษ มักเล่าให้ดิฉันฟังว่า “มาเรียนตอนเช้า เลิกเรียน 4 โมง แล้วก็ต้องไปเรียนพิเศษต่อกลับบ้าน 3-4 ทุ่ม กว่าจะถึงบ้าน 5 ทุ่ม ทำการบ้านนู้นนี่ไม่ทัน” แต่ดิฉันอ่ะหรอ กลับบ้านทุ่ม สองทุ่ม แต่ไม่ได้เรียนพิเศษนะคะ ทำกิจกรรมอยู่โรงเรียน ช่วงปิดเทอมบางทีก็ยังไปโรงเรียนเลยค่ะ แต่ถ้ามีเวลาว่างบางทีก็ไปเข้าค่ายตามมหาวิทยาลัยต่างที่จัดให้เด็กมัธยมได้เรียนรู้ ไม่ว่าจะแถวกรุงเทพ เชียงใหม่ ก็ไปมาหมดแล้วค่ะ เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องราวสนุกในการเข้าค่ายต่างๆให้ฟังภายหลัง ดิฉันว่าดิฉันใช้ชีวิต ม.ปลายอย่างคุ้ม ได้เที่ยวเล่น พักผ่อน ไม่ได้เอาเวลาทั้งหมดไปทิ้งในสถานที่เรียนพิเศษ แต่ทั้งที่ทั้งนัน คนสำคัญเลยคือ คุณแม่ ต้องขอบคุณหม่อมแม่ (เป็นคำที่ดิฉันชอบเรียกเล่นกับแม่ของตัวเอง) ของดิฉันเลยค่ะ ท่านเป็นคนที่สนับสนุนทุกอย่างที่ลูกทำแล้วมีความสุข ขอแค่ไม่ผิดต่อสังคม และไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตัวเองและรอบข้าง ท่านสอนให้ดิฉันคิด ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่เคยบังคับ แต่เวลาล้มท่านก็อยู่ข้างๆเสมอ แม่เลี้ยงให้ฉันกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น แต่สอนว่าต้องออกมาในรูปแบบที่ไม่ก้าวร้าว เลยคิดว่าการที่เป็นฉันทุกวันนี้ได้ก็มาจากหม่อมแม่คนนี้เลยค่ะ
ปล.ปัจจุบันดิฉันกำลังศึกษามหาวิททยาลัยแห่งนึงที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกพระพิรุณ หากมีใครสนใจอย่างฟังเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กที่ไม่เคยเรียนพิเศษ การไปค่ายต่างตอนมัธยมคนเดียว ไปต่างจังหวัด การเดินทางไปเที่ยวคนเดียวของ ผญ คนนึง ลองบอกนะคะ จะมาเล่าตอนต่อไป
ชีวิตของเด็ก ม.ปลาย คนนึง ที่ไม่ได้ฝากไว้กับสถาบันเรียนพิเศษ
ดิฉันเป็นเด็กผู้หญิงอยู่ในภาคตะวันออกที่เรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่เด็กทุกคนคงวาดภาพว่าคงเป็นผู้หญิงกุลสตรีเรียบร้อย แต่งตัว รักสวยรักงามล่ะสิ แต่จริงแล้ว… เปล่าเลยค่ะ ดิฉันกระโดกกระเดกมาก ทำทุกอย่างที่ผู้ชายทำ ยกแบกของหนักเป็นเรื่องปกติ จนคนแถวบ้านหาว่าดิฉันเป็นทอม ซึ่งก็ไม่เคยไปเถียงเขานะ ปล่อยให้เขาคิดไป ด้วยความที่ดิฉันเป็นพวกลุยๆ จึงเป็นนักกิจกรรมตัวยงของโรงเรียน ทำกิจกรรมมากกว่าเรียนซะอีก ไม่เคยเรียนพิเศษ ยุคสมัยดิฉันเป็นยุคสอบแกท แพท โอเน็ต ไรไม่รู้เยอะแยะ เพื่อนส่วนใหญ่มักหมดเวลาไปกับการเรียนพิเศษ มักเล่าให้ดิฉันฟังว่า “มาเรียนตอนเช้า เลิกเรียน 4 โมง แล้วก็ต้องไปเรียนพิเศษต่อกลับบ้าน 3-4 ทุ่ม กว่าจะถึงบ้าน 5 ทุ่ม ทำการบ้านนู้นนี่ไม่ทัน” แต่ดิฉันอ่ะหรอ กลับบ้านทุ่ม สองทุ่ม แต่ไม่ได้เรียนพิเศษนะคะ ทำกิจกรรมอยู่โรงเรียน ช่วงปิดเทอมบางทีก็ยังไปโรงเรียนเลยค่ะ แต่ถ้ามีเวลาว่างบางทีก็ไปเข้าค่ายตามมหาวิทยาลัยต่างที่จัดให้เด็กมัธยมได้เรียนรู้ ไม่ว่าจะแถวกรุงเทพ เชียงใหม่ ก็ไปมาหมดแล้วค่ะ เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องราวสนุกในการเข้าค่ายต่างๆให้ฟังภายหลัง ดิฉันว่าดิฉันใช้ชีวิต ม.ปลายอย่างคุ้ม ได้เที่ยวเล่น พักผ่อน ไม่ได้เอาเวลาทั้งหมดไปทิ้งในสถานที่เรียนพิเศษ แต่ทั้งที่ทั้งนัน คนสำคัญเลยคือ คุณแม่ ต้องขอบคุณหม่อมแม่ (เป็นคำที่ดิฉันชอบเรียกเล่นกับแม่ของตัวเอง) ของดิฉันเลยค่ะ ท่านเป็นคนที่สนับสนุนทุกอย่างที่ลูกทำแล้วมีความสุข ขอแค่ไม่ผิดต่อสังคม และไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตัวเองและรอบข้าง ท่านสอนให้ดิฉันคิด ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่เคยบังคับ แต่เวลาล้มท่านก็อยู่ข้างๆเสมอ แม่เลี้ยงให้ฉันกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น แต่สอนว่าต้องออกมาในรูปแบบที่ไม่ก้าวร้าว เลยคิดว่าการที่เป็นฉันทุกวันนี้ได้ก็มาจากหม่อมแม่คนนี้เลยค่ะ
ปล.ปัจจุบันดิฉันกำลังศึกษามหาวิททยาลัยแห่งนึงที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกพระพิรุณ หากมีใครสนใจอย่างฟังเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กที่ไม่เคยเรียนพิเศษ การไปค่ายต่างตอนมัธยมคนเดียว ไปต่างจังหวัด การเดินทางไปเที่ยวคนเดียวของ ผญ คนนึง ลองบอกนะคะ จะมาเล่าตอนต่อไป