เวียดนามวางหมากและซ้อมแท็คติก รูปแบบ 4 - 5 - 1 หรือ 3 - 6 - 1 เพือเล่นกับอิรัคและไทย โดนวางแดนกลางแผงมิดฟิลด์ ไว้ 5 - 6 ตัว
เพื่อไล่เพรสซิ่งเกมในแดนกลางกับไทยและอิรัค แล้วใช้การโต้กับเร็ว เมื่อตัดเกมในแดนกลางได้ โดยอาศัยความเร็วของผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์และหน้าเป้าเข้าทำประตู เวียดนามจะไม่เล่นระบบ 4 - 4 - 2 เพราะรู้ว่าการใช้ระบบ 4 - 4 -2 เวียดนามจะไม่สามารถสร้างสรรค์เกม คุมเกมในแดนกลาง สู้กับไทยและอิรัคได้ ดั้งนั้น โค้ช มิอุระ จึงเน้นซ้อมแท็คติกเกมโต้กับเร็วในแดนกลางเมื่อตัดบอลได้ และพละกำลังของผู้เล่นเวียดนาม เพื่อให้เวียดนามสามารถไล่ เพรสซิ่งได้ตลอด จนกว่าจะยิ่งประตูขึ้นนำได้ แล้วค่อยผ่อนเกมส์หันมาเล่นเกมส์รับแบบเต็มตัว แล้วรอโต้กับ เพราะรู้ว่าทั้งไทยและอิรัค ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่เวียดนามเพราะทั้งไทยและอิรัค ต้องการ 3 แต้ม จากเวียดนามไม่ใช่ผลเสมอ อิรัคต้องการ 3 แต้ม จากเวียดนาม เพื่อนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วนไทยต้องการ 3 แต้มจากเวียดนามเพื่อการันตี การเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ได้ไปต่อในรอบต่อไป โค้ช มิอุระ อ่านเกมส์ขาด เพราะรู้ว่าไทยเน้นต่อเกมทำเกมแบบติ๊กต๊อก ไม่มีลูกครอสตักบอลข้ามแผงมิดฟิลด์ ให้เห็นบ่อยครั้งนัก อีกทั้งลูกครอสแบบ Open Play จากริมเส้นซ้ายขวาไทยเราทำได้ไม่ค่อยดีนัก ไม่คมพอ ลูกโด่งแดนหน้า ก็ทำได้ไม่ค่อยดี เป็นจุดด้อยของไทยเราเสียด้วยซ้ำ เวียดนามจึงกล้าที่ ที่จะวางหมาก 3 - 6 - 1 ที่มิอุระ เรียกว่า "เวียดนาม โอ" ใช้เล่นกับไทยตามที่เป็นข่าว ตามหน้าสื่อในประเทศของเวียดนาม ช้างศึกห้ามประมาทเด็ดขาด.......................................................
หันกับมาดู การเก็บตัวฝึกซ้อม ของทีมชาติไทยเรา ณ. ขณะนี้ มีผู้เล่นเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ กิเลน วัลเลย์ ยังไม่ครบ 23 คน ยังขาดผู้เล่นจากทีมบุรีรัมย์ ที่สโมสรปล่อยตัวแล้ว แต่กำชับให้นักเตะเข้าแค้มทีมชาติได้ ในวันที่ 6 ตุลาคม โดยอ้างว่างเพื่อต้องการสร้างมาตรฐานให้เป็นสากล โดยสโมสร ปล่อยตัวนักเตะ ก่อนแข่ง 7 วัน ถามว่ามันใช่เวลาที่จะมาเล่นเกมการเมืองกันไหม สโมสรก็ส่วนของสโมสร ทีมชาติก็ส่วนของทีมชาติ ต้องแยกแยะให้ออก อย่าเอามาปนกัน ถ้าต้องการสร้างมาตรฐานแบบสากลให้ทีมชาติ แนะให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประมุขลูกหนังไทย โชว์ให้เห็นว่าการบริหารงานแบบสากลเขาทำกันอย่างไร อย่ามาเล่นเกมการเมืองแบบนี้ เพราะกว่านักเตะจากบุรีรัมย์ จะเข้าแค้มเก็บตัวกับทีมชาติ ที่กิเลน วัลเลย์ ก็ วันที่ 6 ตุลาคม 58 โน้นแล้ว ถามว่าคำสั่งของใคร วันที่ 7 ตุลาคม 58 ทีมชาติกับเข้ากรุงเทพ เตรียมตัวลงเตะ ฟีฟ่าเดย์ ไทย VS ฮ่องกง วันที่ 8 ตุลาคม 58 แถลงข่าวก่อนแข่งฟีฟ่า เดย์ วันที่ 9 ตุลาคม 58 ฟีฟ่า เดย์ ไทย VS ฮ่องกง วันที่ 10 ตุลาคม 58 ให้นักเตะฟื้นฟูร่างกาย วันที่ 11 ตุลาคม 58 เดินทางไปเวียดนาม เวลา6.15 นาฬิกา วันที่ 12 ตุลาคม 58 แถลงข่าวก่อนเตะ เวียดนาม VS ไทยแลนด์ วันที่ 13 ตุลาคม 58 วันแข่ง
ถามว่านักเตะจากบุรีรัมย์ 4 คน นั้นจะมีเวลา ร่วมซ้อมแท็คติก ทำความเข้าใจในเกมการเล่น ระบบการเล่น การเล่นเป็นทีมและเกมรับที่โค้ชซิโก้เน้นนักหนา สักกี่วัน ก็นักเตะเข้าแค้มป์ทีมชาติ ก็ปาเข้าไปวันที่ 6 ตุลาคม แล้ว วันที่ 7 ตุลาคม ทีมชาติกับเข้ากรุงเทพแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าเกมที่ไทยออกไปเยือนเวียดนามนั้น เป็นเกมที่สำคัญชี้เป็นชี้ตายว่าจะได้ไปต่อรอบคัดเลือกรอบ 3 ฟุตบอลโลกหรือไม่อยู่ที่เกมนี้ ถ้าชนะเวียดนามได้ก็ได้ไปต่อ ยังจะมาเล่นเกมการเมืองกันอีก ให้ตายเถอะ........ให้มันได้อย่างนี้!!!!!!!!! บอกเลยว่าถ้าวันที่ 13 ตุลาคม 58 ถ้าผลการแข่งไม่เป็นไปอย่างที่คิด ถ้าช้างศึกไม่ได้ไปต่อ ไม่ชนะเวียดนาม มีดราม่าแน่ๆ.................................................................
ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ในการตอบcomment ข้างล่าง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนี้
1 จขกท ไม่ใช่ติ่งซิโก้
2 ข้อความในวรรคบน ไม่ได้มีส่วนไหนเลยที่จะด่าว่านักเตะจากทีมบุรีรัมย์ ถ้าผลการแข่งขันวันที่ 13 ตุลาคม 58 ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
แต่บอกว่า ถ้าผลการแข่งขันไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง เสมอหรือแพ้ ไม่ได้ไปต่อรอบคัดเลือกรอบ 3 มีดราม่าแน่ๆ หมายถึงดราม่าในห้องนี้/tag/ฟุตบอลไทย เพราะนักเตะจากบุรีรัมย์นั้น 3 ใน 4 คน เป็นหัวใจในเกมรับของทีมชาติไทย การที่สโมสรปล่อยตัวแล้ว แต่ต้องรอเข้าแค้มป์ทีมชาติ วันที่ 6 ตุลาคม 58 ดูแล้วมันเสียดายเวลา ทั้งๆที่ควรจะมีเวลา ให้นักเตะจากบุรีรัมย์ทั้ง 4 คน ได้ร่วมฝึกซ้อมกับทีมชาติ เพิ่มขึ้นอีกหลายวัน
ถ้าใครหลายๆคน ไม่เล่นเกมการเมือง ขัดแข้งขัดขากันเอง ระหว่างสโมสร กับ ทีมชาติ
3 ในส่วยของคำถาม ในวรรคบน ที่ถามว่า นักเตะจากบุรีรัมย์ จะมีเวลาร่วมซ้อมกับทีมชาติ สักกี่วัน จขกท ได้ไล่เรียงtimeline ของทีมชาติไทย
ให้ดู เพื่อให้เห็นภาพเด่นชัดขึ้น ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนี้
6 ตุลาคม 58 นักเตะบุรีรัมย์ เข้าแค้มป์เก็บตัวทีมชาติ ตามกฎฟีฟ่าเดย์
7 ตุลาคม 58 ทีมชาติไทยกับเข้ากรุงเทพมหานคร หมายถึงนักเตะจากทีมบุรีรัมย์ ทั้ง 4 คน มีเวลาอยู่ที่กิเลน วัล เลย์ เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น ถ้าไม่มีกรณีเล่นเกมการเมืองกัน ระหว่างสโมสร กับ ทีมชาติ (ให้นักเตะเข้าแค้มป์ทีมชาติ วันที่ 6 ตุลาคม 58 ) นักเตะจากบุรีรัมย์ จะมีเวลาร่วมทีมฝึกซ้อมกับทีมชาติ ในกิเลน วัล เลย์ เพิ่มขึ้นอีกหลายวัน (เข้าแค้มป์ทีมชาติก่อนวันที่ 6 ตุลา) เสียดายเวลาและโอกาสที่ดี ในการสร้างทีมเวริคให้แข็งแกร่ง เล่นกันเป็นระบบมากขึ้น ซักซ้อมทำความเข้าใจในแท็คติก ที่จะเล่นกับเวียดนาม เพราะที่กิเลน วัล เลย์ นั้นเงียบสงบ บรรยากาศดี ปราศจากสิ่งเล้าต่าง สนามฝึกซ้อมอยู่ท่ามกลางหุบเขา ห่างไกลจากผู้คน ทำให้นักฟุตบอลมีสมาธิ จดจ่อกับการฝึกซ้อม ได้ดีกว่าที่กรุงเทพ เป็นโอกาสที่ดีในการที่จะหลอมรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว สร้างทีมเวิรคที่แข็งแกร่งปรับจูนระบบให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น เพราะเชื่อว่าหลังจากวันที่ 7 ตุลาคม 58 ทีมชาติกับเข้ากรุงเทพ บรรยากาศในกรุงเทพนั้นมีแต่ความวุ่นวาย สิ่งเล้ามากมาย นักข่าวผู้สื่อข่าวมากหน้าหลายตา ตัวนักฟุตบอลเอง คงยากที่จะมีจิตใจจดจ่อ มุ่งมั่นอยู่กับการฝึกซ้อมเตรียมทีม ได้ดีเท่าการฝึกซ้อมอยู่ที่กิเลน วัล เลย์ นี่คือแนวคิดว่า ทำไมถึงต้องมาเก็บตัวฝึกซ้อมกันที่ กิเลน วัล เลย์
ปล. เห้นคอมเม้นท์ข้างล่างบอกว่า ให้เอานักเตะคนอื่นๆลงแทน นักเตะบุรีรัมย์ ก็จบแล้ว ในความเป็นจริงที่จะต้องยอมรับกันคือ นักเตะจากทีมบุรีรัมย์ นั้นเป็นคีย์เวริดหัวใจสำคัญ ในเกมรับ การที่จะเลี่ยงไม่เอานักเตะจากบุรีรัมย์ลง คงเป็นไปได้ยาก จขกท. ถึงบอกว่าเสียดายเวลาและโอกาศ ในการฝึกซ้อมร่วมกันที่กิเลน วัลเลย์ จริงๆ ไม่น่ามีกรณี ขัดแข้งขัดขา เล่นเกมการเมืองกันเองระหว่าสโมสร กับ ทีมชาติ และถ้าผลการแข่งในวันที่ 13 ตุลาคม 58 ไม่เป้นไปอย่างที่คาดหวังกันไว้ ไม่ชนะเวียดนาม ไม่ได้ไปต่อรอบคัดเลือกรอบ 3 ฟุตบอลโลกโซนเอเชีย มันหมายถึงโอกาส เราได้สูญเสียโอกาส ในการวัดมาตรฐานของฟุตบอลไทย กับ ทีมแนวหน้าของเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย ว่าเราอยู่ตรงไหนกันแน่ ต้องพัฒนาอะไรอีกบ้าง ถ้าจะไปบอลโลก และโอกาสในการไต่ลำดับฟีฟ่าขึ้ันไป ถ้าทำผลงานได้ดี เพราะในรอบต่อไปอย่างน้อยก็มีเกมให้เราได้เล่น อีกอย่างน้อย 5 แมทซ์ เสียดายจริงๆเสียดายและ เสียดาย
หมายเหตุ : ไม่ใช่ติ่งซิโก้ ขอบอกตรงนี้เลย
เวียดนามวางหมากเล่น 4 - 5 - 1 หรือ 3 - 6 - 1 นัดเจออิรัคและไทย
เพื่อไล่เพรสซิ่งเกมในแดนกลางกับไทยและอิรัค แล้วใช้การโต้กับเร็ว เมื่อตัดเกมในแดนกลางได้ โดยอาศัยความเร็วของผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์และหน้าเป้าเข้าทำประตู เวียดนามจะไม่เล่นระบบ 4 - 4 - 2 เพราะรู้ว่าการใช้ระบบ 4 - 4 -2 เวียดนามจะไม่สามารถสร้างสรรค์เกม คุมเกมในแดนกลาง สู้กับไทยและอิรัคได้ ดั้งนั้น โค้ช มิอุระ จึงเน้นซ้อมแท็คติกเกมโต้กับเร็วในแดนกลางเมื่อตัดบอลได้ และพละกำลังของผู้เล่นเวียดนาม เพื่อให้เวียดนามสามารถไล่ เพรสซิ่งได้ตลอด จนกว่าจะยิ่งประตูขึ้นนำได้ แล้วค่อยผ่อนเกมส์หันมาเล่นเกมส์รับแบบเต็มตัว แล้วรอโต้กับ เพราะรู้ว่าทั้งไทยและอิรัค ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่เวียดนามเพราะทั้งไทยและอิรัค ต้องการ 3 แต้ม จากเวียดนามไม่ใช่ผลเสมอ อิรัคต้องการ 3 แต้ม จากเวียดนาม เพื่อนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ส่วนไทยต้องการ 3 แต้มจากเวียดนามเพื่อการันตี การเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ได้ไปต่อในรอบต่อไป โค้ช มิอุระ อ่านเกมส์ขาด เพราะรู้ว่าไทยเน้นต่อเกมทำเกมแบบติ๊กต๊อก ไม่มีลูกครอสตักบอลข้ามแผงมิดฟิลด์ ให้เห็นบ่อยครั้งนัก อีกทั้งลูกครอสแบบ Open Play จากริมเส้นซ้ายขวาไทยเราทำได้ไม่ค่อยดีนัก ไม่คมพอ ลูกโด่งแดนหน้า ก็ทำได้ไม่ค่อยดี เป็นจุดด้อยของไทยเราเสียด้วยซ้ำ เวียดนามจึงกล้าที่ ที่จะวางหมาก 3 - 6 - 1 ที่มิอุระ เรียกว่า "เวียดนาม โอ" ใช้เล่นกับไทยตามที่เป็นข่าว ตามหน้าสื่อในประเทศของเวียดนาม ช้างศึกห้ามประมาทเด็ดขาด.......................................................
หันกับมาดู การเก็บตัวฝึกซ้อม ของทีมชาติไทยเรา ณ. ขณะนี้ มีผู้เล่นเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ กิเลน วัลเลย์ ยังไม่ครบ 23 คน ยังขาดผู้เล่นจากทีมบุรีรัมย์ ที่สโมสรปล่อยตัวแล้ว แต่กำชับให้นักเตะเข้าแค้มทีมชาติได้ ในวันที่ 6 ตุลาคม โดยอ้างว่างเพื่อต้องการสร้างมาตรฐานให้เป็นสากล โดยสโมสร ปล่อยตัวนักเตะ ก่อนแข่ง 7 วัน ถามว่ามันใช่เวลาที่จะมาเล่นเกมการเมืองกันไหม สโมสรก็ส่วนของสโมสร ทีมชาติก็ส่วนของทีมชาติ ต้องแยกแยะให้ออก อย่าเอามาปนกัน ถ้าต้องการสร้างมาตรฐานแบบสากลให้ทีมชาติ แนะให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประมุขลูกหนังไทย โชว์ให้เห็นว่าการบริหารงานแบบสากลเขาทำกันอย่างไร อย่ามาเล่นเกมการเมืองแบบนี้ เพราะกว่านักเตะจากบุรีรัมย์ จะเข้าแค้มเก็บตัวกับทีมชาติ ที่กิเลน วัลเลย์ ก็ วันที่ 6 ตุลาคม 58 โน้นแล้ว ถามว่าคำสั่งของใคร วันที่ 7 ตุลาคม 58 ทีมชาติกับเข้ากรุงเทพ เตรียมตัวลงเตะ ฟีฟ่าเดย์ ไทย VS ฮ่องกง วันที่ 8 ตุลาคม 58 แถลงข่าวก่อนแข่งฟีฟ่า เดย์ วันที่ 9 ตุลาคม 58 ฟีฟ่า เดย์ ไทย VS ฮ่องกง วันที่ 10 ตุลาคม 58 ให้นักเตะฟื้นฟูร่างกาย วันที่ 11 ตุลาคม 58 เดินทางไปเวียดนาม เวลา6.15 นาฬิกา วันที่ 12 ตุลาคม 58 แถลงข่าวก่อนเตะ เวียดนาม VS ไทยแลนด์ วันที่ 13 ตุลาคม 58 วันแข่ง
ถามว่านักเตะจากบุรีรัมย์ 4 คน นั้นจะมีเวลา ร่วมซ้อมแท็คติก ทำความเข้าใจในเกมการเล่น ระบบการเล่น การเล่นเป็นทีมและเกมรับที่โค้ชซิโก้เน้นนักหนา สักกี่วัน ก็นักเตะเข้าแค้มป์ทีมชาติ ก็ปาเข้าไปวันที่ 6 ตุลาคม แล้ว วันที่ 7 ตุลาคม ทีมชาติกับเข้ากรุงเทพแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าเกมที่ไทยออกไปเยือนเวียดนามนั้น เป็นเกมที่สำคัญชี้เป็นชี้ตายว่าจะได้ไปต่อรอบคัดเลือกรอบ 3 ฟุตบอลโลกหรือไม่อยู่ที่เกมนี้ ถ้าชนะเวียดนามได้ก็ได้ไปต่อ ยังจะมาเล่นเกมการเมืองกันอีก ให้ตายเถอะ........ให้มันได้อย่างนี้!!!!!!!!! บอกเลยว่าถ้าวันที่ 13 ตุลาคม 58 ถ้าผลการแข่งไม่เป็นไปอย่างที่คิด ถ้าช้างศึกไม่ได้ไปต่อ ไม่ชนะเวียดนาม มีดราม่าแน่ๆ.................................................................
ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ในการตอบcomment ข้างล่าง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนี้
1 จขกท ไม่ใช่ติ่งซิโก้
2 ข้อความในวรรคบน ไม่ได้มีส่วนไหนเลยที่จะด่าว่านักเตะจากทีมบุรีรัมย์ ถ้าผลการแข่งขันวันที่ 13 ตุลาคม 58 ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง
แต่บอกว่า ถ้าผลการแข่งขันไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง เสมอหรือแพ้ ไม่ได้ไปต่อรอบคัดเลือกรอบ 3 มีดราม่าแน่ๆ หมายถึงดราม่าในห้องนี้/tag/ฟุตบอลไทย เพราะนักเตะจากบุรีรัมย์นั้น 3 ใน 4 คน เป็นหัวใจในเกมรับของทีมชาติไทย การที่สโมสรปล่อยตัวแล้ว แต่ต้องรอเข้าแค้มป์ทีมชาติ วันที่ 6 ตุลาคม 58 ดูแล้วมันเสียดายเวลา ทั้งๆที่ควรจะมีเวลา ให้นักเตะจากบุรีรัมย์ทั้ง 4 คน ได้ร่วมฝึกซ้อมกับทีมชาติ เพิ่มขึ้นอีกหลายวัน
ถ้าใครหลายๆคน ไม่เล่นเกมการเมือง ขัดแข้งขัดขากันเอง ระหว่างสโมสร กับ ทีมชาติ
3 ในส่วยของคำถาม ในวรรคบน ที่ถามว่า นักเตะจากบุรีรัมย์ จะมีเวลาร่วมซ้อมกับทีมชาติ สักกี่วัน จขกท ได้ไล่เรียงtimeline ของทีมชาติไทย
ให้ดู เพื่อให้เห็นภาพเด่นชัดขึ้น ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนี้
6 ตุลาคม 58 นักเตะบุรีรัมย์ เข้าแค้มป์เก็บตัวทีมชาติ ตามกฎฟีฟ่าเดย์
7 ตุลาคม 58 ทีมชาติไทยกับเข้ากรุงเทพมหานคร หมายถึงนักเตะจากทีมบุรีรัมย์ ทั้ง 4 คน มีเวลาอยู่ที่กิเลน วัล เลย์ เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น ถ้าไม่มีกรณีเล่นเกมการเมืองกัน ระหว่างสโมสร กับ ทีมชาติ (ให้นักเตะเข้าแค้มป์ทีมชาติ วันที่ 6 ตุลาคม 58 ) นักเตะจากบุรีรัมย์ จะมีเวลาร่วมทีมฝึกซ้อมกับทีมชาติ ในกิเลน วัล เลย์ เพิ่มขึ้นอีกหลายวัน (เข้าแค้มป์ทีมชาติก่อนวันที่ 6 ตุลา) เสียดายเวลาและโอกาสที่ดี ในการสร้างทีมเวริคให้แข็งแกร่ง เล่นกันเป็นระบบมากขึ้น ซักซ้อมทำความเข้าใจในแท็คติก ที่จะเล่นกับเวียดนาม เพราะที่กิเลน วัล เลย์ นั้นเงียบสงบ บรรยากาศดี ปราศจากสิ่งเล้าต่าง สนามฝึกซ้อมอยู่ท่ามกลางหุบเขา ห่างไกลจากผู้คน ทำให้นักฟุตบอลมีสมาธิ จดจ่อกับการฝึกซ้อม ได้ดีกว่าที่กรุงเทพ เป็นโอกาสที่ดีในการที่จะหลอมรวมใจให้เป็นหนึ่งเดียว สร้างทีมเวิรคที่แข็งแกร่งปรับจูนระบบให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น เพราะเชื่อว่าหลังจากวันที่ 7 ตุลาคม 58 ทีมชาติกับเข้ากรุงเทพ บรรยากาศในกรุงเทพนั้นมีแต่ความวุ่นวาย สิ่งเล้ามากมาย นักข่าวผู้สื่อข่าวมากหน้าหลายตา ตัวนักฟุตบอลเอง คงยากที่จะมีจิตใจจดจ่อ มุ่งมั่นอยู่กับการฝึกซ้อมเตรียมทีม ได้ดีเท่าการฝึกซ้อมอยู่ที่กิเลน วัล เลย์ นี่คือแนวคิดว่า ทำไมถึงต้องมาเก็บตัวฝึกซ้อมกันที่ กิเลน วัล เลย์
ปล. เห้นคอมเม้นท์ข้างล่างบอกว่า ให้เอานักเตะคนอื่นๆลงแทน นักเตะบุรีรัมย์ ก็จบแล้ว ในความเป็นจริงที่จะต้องยอมรับกันคือ นักเตะจากทีมบุรีรัมย์ นั้นเป็นคีย์เวริดหัวใจสำคัญ ในเกมรับ การที่จะเลี่ยงไม่เอานักเตะจากบุรีรัมย์ลง คงเป็นไปได้ยาก จขกท. ถึงบอกว่าเสียดายเวลาและโอกาศ ในการฝึกซ้อมร่วมกันที่กิเลน วัลเลย์ จริงๆ ไม่น่ามีกรณี ขัดแข้งขัดขา เล่นเกมการเมืองกันเองระหว่าสโมสร กับ ทีมชาติ และถ้าผลการแข่งในวันที่ 13 ตุลาคม 58 ไม่เป้นไปอย่างที่คาดหวังกันไว้ ไม่ชนะเวียดนาม ไม่ได้ไปต่อรอบคัดเลือกรอบ 3 ฟุตบอลโลกโซนเอเชีย มันหมายถึงโอกาส เราได้สูญเสียโอกาส ในการวัดมาตรฐานของฟุตบอลไทย กับ ทีมแนวหน้าของเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย ว่าเราอยู่ตรงไหนกันแน่ ต้องพัฒนาอะไรอีกบ้าง ถ้าจะไปบอลโลก และโอกาสในการไต่ลำดับฟีฟ่าขึ้ันไป ถ้าทำผลงานได้ดี เพราะในรอบต่อไปอย่างน้อยก็มีเกมให้เราได้เล่น อีกอย่างน้อย 5 แมทซ์ เสียดายจริงๆเสียดายและ เสียดาย
หมายเหตุ : ไม่ใช่ติ่งซิโก้ ขอบอกตรงนี้เลย