(2 ต.ค.58) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ประชาชนกลุ่มหนึ่งคัดค้านและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อเรื่อง Single Gateway ส่งผลให้เว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐล่มว่า
ขอเน้นย้ำให้สังคมเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่านโยบายดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ยังไม่มีข้อสั่งการให้ดำเนินการอื่นใด เป็นเพียงแนวคิดการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศภายใต้เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ที่รวมหลายประเด็นเข้าด้วยกัน ทั้งความปลอดภัย ความมั่นคง การค้าขาย การลงทุน การใช้ข้อมูลเพื่อการศึกษาและบริการ เป็นต้น
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า โดยกระบวนการในขณะนี้ เป็นขั้นตอนตามปกติที่ต้องศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสมว่าควรทำอย่างไร จึงจะทำให้การเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัลบรรลุเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลได้นำข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาทางไซเบอร์ซึ่งมีทั้งวิกฤตและโอกาสจากต่างประเทศมาศึกษาด้วย เพราะเราจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลไว้เพื่อพูดคุยหารือกับมิตรประเทศ ให้เขาเกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทยที่กำลังจะสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐานทั้งเรื่องการพัฒนาช่องทางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน และการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลและอาชญากรรมทางไซเบอร์ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ไปกระทบสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก
นอกจากนี้ พล.ต.สรรเสริญยังกล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี อยากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย เมื่อพบสิ่งผิดปกติจากการใช้งานโลกไซเบอร์ เพราะหากไม่ช่วยกัน อาจเกิดผลเสีย โดยเฉพาะปัจจุบันมีการกระทำความผิดโจรกรรมข้อมูลและอาชญากรรมทางไซเบอร์ทั่วโลก ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้นในเรื่องซิงเกิล เกตเวย์ และขอให้เข้าใจว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังจะปิดหูปิดตาประชาชน เว้นแต่ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้น และอย่าหลงเชื่อการปลุกระดมใด ๆ ที่ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย เพราะประเทศกำลังเดินหน้าไปในทางที่ดีขึ้น รัฐบาลจะไม่สร้างปัญหาใหม่ แต่ต้องการความเข้าใจและความร่วมมือจากทุกฝ่าย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1443768420
JJNY : "สรรเสริญ" ย้ำ ซิงเกิล เกตเวย์ แค่ศึกษาข้อมูล วอนทุกฝ่ายเข้าใจให้ถี่ถ้วน
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า โดยกระบวนการในขณะนี้ เป็นขั้นตอนตามปกติที่ต้องศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสมว่าควรทำอย่างไร จึงจะทำให้การเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิทัลบรรลุเป้าหมาย ซึ่งรัฐบาลได้นำข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาทางไซเบอร์ซึ่งมีทั้งวิกฤตและโอกาสจากต่างประเทศมาศึกษาด้วย เพราะเราจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลไว้เพื่อพูดคุยหารือกับมิตรประเทศ ให้เขาเกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทยที่กำลังจะสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐานทั้งเรื่องการพัฒนาช่องทางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน และการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลและอาชญากรรมทางไซเบอร์ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ไปกระทบสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก
นอกจากนี้ พล.ต.สรรเสริญยังกล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี อยากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย เมื่อพบสิ่งผิดปกติจากการใช้งานโลกไซเบอร์ เพราะหากไม่ช่วยกัน อาจเกิดผลเสีย โดยเฉพาะปัจจุบันมีการกระทำความผิดโจรกรรมข้อมูลและอาชญากรรมทางไซเบอร์ทั่วโลก ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้นในเรื่องซิงเกิล เกตเวย์ และขอให้เข้าใจว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังจะปิดหูปิดตาประชาชน เว้นแต่ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้น และอย่าหลงเชื่อการปลุกระดมใด ๆ ที่ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย เพราะประเทศกำลังเดินหน้าไปในทางที่ดีขึ้น รัฐบาลจะไม่สร้างปัญหาใหม่ แต่ต้องการความเข้าใจและความร่วมมือจากทุกฝ่าย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1443768420