ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะค่ะว่าไม่เคยเขียนกระทู้พันทิปมาก่อน แต่อยากมาแชร์ประสบการณ์ความรักของตัวเอง เลยจะมาลองเขียนดู แต่พอเปิด login เข้ามามันเป็นของแฟน ความจริงก็ไม่ใช่แฟนแล้ว (ขอเรียกผู้ชายที่ยังรักอยู่) ขอใช้กระทู้ของเค้าเพื่อเขียนถึงเค้า
เรื่องมันเริ่มเมื่อเราเจอกันตอนไปเข้าค่ายภาษาของมหาลัย (มหาลัยย่านบางเขน) จำไม่ได้แล้วว่ากี่วัน แต่สำคัญคือเราได้เจอกันเพราะได้อยู่ห้องเรียนเดียวกัน ตลอดการเข้าค่ายหลายวัน เราได้คุยกันแค่ครั้งเดียวตอนอาจารย์ให้ทำกิจกรรมกลุ่ม แต่ก็จำได้ว่าคุยกันน้อยมาก ครั้งนั้นครั้งเดียว จนจบค่าย เพื่อนๆก็ถ่ายรูปกัน เพื่อนๆเค้าและตัวเค้าก็มาขอเราถ่ายรูป และแลกไลน์เพื่อขอรูปถ่ายกัน หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันจากไลน์ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรก็คิดว่าเป็นเพื่อนกัน เพราะเค้าไม่ใช่ผู้ชายในสเปกเราเลย เค้าเป็นผู้ชายตัวเล็ก ดูเด็กๆอ่า แล้วเราก็คุยกับเค้ามาจนเปิดเทอม เค้าเรียนเศรษฐศาสตร์ เราเรียนมนุษยศาสตร์ (ความจริงเค้าเป็นรุ่นพี่เราปีนึง แต่หน้าเด็กกว่าเราซะอีก) เค้าเป็นผู้ชายแบบที่เราไม่เคยเจอเลย เราเคยเจอแต่ผู้ชายที่ support เรา เลี้ยงเราตลอด จนเรามีทัศนคติว่าผู้ชายที่เลี้ยงเราไม่ได้เราไม่โอเค แต่พอเจอเค้ามันแปลกสำหรับเรา ที่ต้องแชร์กันคนละครึ่ง เค้าบอกกับเราว่าเค้ายังหาเงินเองไม่ได้ ยังใช้เงินพ่อแม่อยู่ เค้าไม่สามารถจะมาเลี้ยงได้ เราก็โอเคลองดูสักตั้ง เราคุยกันได้ประมาณ2-3เดือนเค้าก็ขอเราเป็นแฟน ตอนแรกเราก็บอกว่าเร็วไปไหม ยังไม่รู้จักกันดีพอรึป่าว จนเค้าขอเราอีกรอบ เราก็ตอบตกลง ความจริงเค้าเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ชอบทำอะไรๆให้เราแปลกใจเสมอ เค้าชอบให้อะไรที่เราคาดไม่ถึง เช่น เอาน้ำเปล่ามาให้แทนที่จะเป็นขนมหวาน หรือเอาสมุดเขียนมาให้และก็เขียนข้อความสั้นๆให้แทนที่จะเป็นดอกไม้ ดูเป็นผู้ชายที่น่ารักอีกแบบ ตอนแรกเราก็คิดตลอดว่าผู้ชายคนนี้จะไปรอดกับเราไหม ก็เหมือนจะมีปัญหามากเพราะเค้าเป็นผู้ชายตัวเล็กกว่าเรา เค้าสูงประมาณ 168 ซม. ส่วนเราสูง 173 ซม.เวลาเดินด้วยกันก็รู้สึกแปลกๆเหมือนพี่สาวกะน้องชายเลย บางทีรู้สึกเหมือนแม่ลูกกันด้วยซ้ำ และก็มักจะโดนเข้าใจผิดว่าเค้าเป็นเพื่อนสาวเราบ้าง เหมือนเป็นน้องชายบ้าง จนเรารู้สึกไม่พอใจ แต่เค้าไม่เคยมีท่าทีอายเลยเวลาที่อยู่กับเราทั้งจับมือ โอบเอวเราได้ไม่อาย มีแต่เราที่สนใจว่ามันไม่โอเค มันไม่สมดุล ตอนคบกันใหม่ๆมันก็หวาน แต่ก็ปรับตัวอะไรกันเยอะ เพื่อนเค้า เค้าเป็นคนมีเพื่อนเยอะ รักครอบครัว เค้าเป็นคนประหยัด ติดดิน กินง่าย อดทน ซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมา มีความพยายามสูง อะไรที่เค้าทำไม่ได้เค้าก็ทำจนกว่าจะได้ ที่สำคัญเค้าไม่เคยคิดที่จะนอกใจเลย ( ผู้ชายอารายจะดีขนาดนี้) แต่เราไม่เคยสนใจในสิ่งที่เค้าเป็นเลย สนใจแต่ตัวเอง อยากแต่ให้เค้าตามใจ เอาใจ ดูแล มีเวลาให้ อยากจะเป็นแต่ผู้รับอย่างเดียว นึกแต่ถึงความสุขของตัวเอง คิดแต่ว่าถ้าเค้ารักเราเค้าทำเพื่อเราได้ เค้ายอมเราได้ แล้วเค้าก็ทำมาตลอด เค้าเอาเวลาส่วนตัวของเค้า มาให้เราตลอด เค้านั่งรอเราเป็นวันๆเค้าก็รอ รีบตื่นทุกเช้าเพื่อมารับเราไปเรียน เราก็ไม่เคยใส่ใจในสิ่งที่เค้าทำให้เลย ยังบ่น ยังว่าเค้าอีก เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเราก็ดูมีความสุขดี แต่พอห่างกันเราก็จะเอาแต่งอแง เอาแต่ใจอยากให้เค้ามาหา งอลเค้าตลอดด แต่เค้าก็ไม่เคยบ่นไม่เคยพูดให้รู้สึกไม่ดีเลย เวลาที่เราทะเลาะกันเค้ามักจะเงียบ และยื่นมือมาจับมือเราให้เข้าไปสบเค้าและก็โอบเรา เราก็ทำเป็นเล่นตัวตลอด เค้าง้อเราตลอดแม้เค้าไม่ได้ผิด เค้าดีมากๆ พ่อแม่เค้าก็น่ารักมากๆ เป็นครอบครัวที่ขยันและอารมณ์ดี เค้าเหมือนแม่เป็นคนน่ารัก ใจดี ต่อมาเค้าเรียนจบไปเมืองนอก 3 เดือน เราก็ไม่ได้ไปส่งเค้า เพราะคิดแต่ว่าตัวเองมีธุระไปไม่ได้ เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เข้าใจ ตลอด 3เดือนที่เค้าอยู่เมืองนอกเราก็ไม่เคยทำตัวเป็นคนรักที่ดีเลยเอาแต่ชวนทะเลาะ งอแง เหงาไม่มีเค้า ทั้งที่เค้าต้องทำงานต้องเหนื่อย ใช้ชีวิตในที่ๆใหม่ไม่คุ้นเคย ต้องเจออุปสรรคมากมาย แต่เราไม่เคยให้กำลังใจเค้าเลย เวลาที่เค้าท้อ หรือทุกข์ใจ เราเอาแต่ทำลายความรู้สึกเค้า เค้าไม่เคยโกรธเราเลย พูดแต่ว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด เค้าพูดถึงขนาดอยากสร้างครอบครัวกับเรา มีครอบครัวที่เรียบง่าย ช่วยกันทำมาหากิน มีความสุขร่วมกัน เราก็คิดแต่ว่าทำได้หรอ จะดูแลชีวิตเราได้หรอ แค่นั้นพอหรอ และก็งอแงให้เค้ารีบกลับมา จนเค้ากลับมาจากเมืองนอกเราก็ไม่ได้ไปรับเค้าเลย ไม่เคยคิดว่าควรจะให้ความสำคัญกับเค้าบ้าง เราแย่มาก คิดแต่ว่ากะทำเค้กเซอร์ไพร์เค้าพอ เพราะเป็นวันคอบรอบของเรา 1ปี เด่วเค้าก็มาหาเราเอง เค้ากลับมาคืนนั้นเค้าก็รีบมาหาเราคืนนั้นเลย ทั้งที่เค้าเดินทางก็เหนื่อยแล้ว ต้องดื้อกับที่บ้านเพื่อมาหาเรา รู้สึกผิดต่อครอบครัวเค้าด้วยที่ทำร้ายจิตใจลูกชายเค้าแบบนี้ เราไม่เคยคิดถึงความสุขเค้าเลย จนเค้าเริ่มทำงาน ไม่มีเวลาว่างให้เรา บอกว่ามีเวลามาหาเราได้แค่วันเดียว เราก็งอลไม่พอใจเค้า จนเค้าเริ่มแปลกไป เริ่มแข็งกับเรา ดูเย็นชาขึ้น เราก็ไม่เคยสังเกตอะไรเลย คิดแต่ว่าเค้ามีคนอื่นรึป่าว เจอผญ.ใหม่ใช่ไหม ก็งี่เง่าใส่เค้าอีก เอาแต่ใจสุดๆไปเลย โกดที่เค้าไม่ยอมมาดูแลเราตอนป่วย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายเค้าเป็นยังไง ไหวไหม ไม่เคยรักษาน้ำใจเค้าเลย มองข้ามสิ่งดีๆที่เค้าทำมาให้ตลอด จนเค้าบอกเราว่าขอเวลา เค้าบอกว่ารักเราน้อยลง วันนั้นถึงได้รู้ว่ากำลังจะเสียเค้าไปแล้ว ก็ถามว่าทำไม ทำไมรักน้อยลง เค้าก็บอกว่าเราต่างกันเกินไป เค้าติดดิน ลุยๆ สบายๆ แต่เราติดหรู กลัวแดดกลัวไม่สวย เค้าดูแลเราไม่ไหว เค้าไม่มีเวลาให้ ตอนนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา เราก็เอาแต่พยายามบอกขอโอกาสๆให้เราอีกสักครั้งได้ไหม ขอเริ่มใหม่ จะแก้ไข จะปรับตัวใหม่ จะทำตัวใหม่ สรรหาคำเพื่อให้ได้เค้าคืนมา ตอนนั้นเพิ่งทำจมูกมาได้2-3วันก็เจ็บจมูกจะร้องไห้ก็ทรมาน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จิตใจและร่างกายไปหมดเลย นั่งคิดทบทวนตัวเอง คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาที่เค้าเป็นผู้ให้มาตลอด เค้ารักเราให้แบบที่เราเป็นตลอด ปรับตัวเพื่อเรามาตลอด มีแต่เราที่ต้องการมากขึ้นๆ และไม่เคยทำสิ่งดีๆให้เค้าบ้างเลย เสียใจที่ไม่ได้อยู่เพื่อเค้า ให้ความสุขกับเค้า ในวันที่เค้าท้อแท้ และเป็นทุกข์เลย มองตัวเองว่าเป็นผู้หญิงที่แย่มากกกกกกก มากที่สุด และโง่ที่สุด ที่ไม่เคยลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ไม่เคยเข้าใจเค้าในสิ่งที่เค้าเป็น ไม่เคยปรับตัวเพื่อเค้า แล้วลองใช้ชีวิตคู่ของเราดีๆเลย มารู้ตัวว่ารักเค้ามากแค่ไหนก็ตอนที่สายไปแล้ว เสียเค้าไปแล้ว ใจเค้าเปลี่ยนไปแล้ว แม้เราจะขอร้องแค่ไหน ขอโอกาสแค่ไหน เป็นช่วงที่ทรมานที่สุด เรารักแต่จะครอบครองเค้า เค้าบอกว่ายื้อกันไปก็เจ็บกันป่าวๆ เค้าให้โอกาสเราหลายครั้งแล้วแต่เราไม่เคยรู้ตัว เค้าบอกกับเราว่าเค้าไม่ชอบแบบนั้นไม่ชอบแบบนี้ มันคือการเตือนแล้วแต่เราก็ดื้อไม่ฟัง แล้วเค้าก็บอกว่าเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ มีอะไรก็บอกเค้าให้ช่วยได้ มันยากเกินไปไหมใครจะทำได้ รักก็รัก ผิดก็ผิด เสียใจก็เสียใจ เหมือนตั้งตัวไม่ทันไม่คิดว่าเค้าจะไปจริงๆ
เหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดอะไรได้หลายอย่าง ทำให้เรามองย้อนไปในช่วงเวลาของเค้ากะเราสองคน ไม่ใช่เค้าดูแลเราไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราต่างกันเกินไป แต่เป็นเพราะเรายังไม่เคยเริ่มปรับอะไรเพื่อเค้าเลย ทำลายความรู้สึกดีๆมาตลอดจนวันนึงเค้าเหนื่อย เค้าท้อ เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย มันเป็นบทเรียนครั้งสำคัญครั้งนึงที่ทำให้รู้สึกว่ามันเหมือนเราคิดได้ เข้าใจ ว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันรักกันเราควรให้ความสุขซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกันในวันที่คนรักของเราทุกข์ หรือท้อแท้ ใช้ทุกช่วงเวลาที่มีเค้าในชีวิตให้ดีที่สุด เพราะไม่รู้เลยว่าวันนึงเค้าจะหายไปตอนไหน เหมือนเสียของมีค่าไป ของมีค่าที่เรามองข้ามมันมาตลอด เหมือนตัวเองแคร์สิ่งรอบข้างมากเกินไปจนลืมแคร์สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคือ คนสำคัญ ทุกครั้งที่เราพูดกับเค้าว่าอยากสวยเหมือนคนนู้นคนนี้ อยากทำโน่นนี่นั้นให้สวย เค้ามักบอกกับเราว่าตะเองสวยแล้วน่ารักแล้วแค่นี้เค้าก็รักแล้ว มีงานดีๆทำได้แล้ว แต่เราก็ไม่เคยฟังไม่สนใจ ไม่รู้จักพอ จนถึงวันนี้ก็ทำได้แค่เฝ้าดูเค้าอยู่ห่างๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองตลอดว่าถ้าได้กลับมารักกันอีกก็คงจะดี จะรักษาความรักนี้ไว้ให้ดีๆ จะไม่ทำตัวเป็นวงกลม2วงที่ซ้อนกันทับกันจนหายใจไม่ออก จะเป็นวงกลม 2วงที่เกี่ยวกันไว้ ให้เค้าได้มีพื้นที่หายใจ และค่อยเป็นเพื่อนเป็นคนรักเป็นกำลังใจให้เค้าอยู่ข้างๆเสมอ จะได้ไม่มาเสียใจที่ไม่ได้ทำอะไรเลย บางครั้งเราก็สนใจแต่ปลายทางว่าจะเป็นยังไงจะจบแบบไหน แต่ความจริงแล้วระหว่างทางมันก็สำคัญมากเพราะเราอาจมองข้ามสิ่งสำคัญหลายสิ่งไปได้ จะได้ไม่มาเสียใจทีหลัง
ก็บอกตัวเองว่าไม่ได้ปิดโอกาสตัวเองที่จะได้เจอคนใหม่ เพราะเค้าที่ทำให้เรารู้สึกอยากทำอะไรให้ดีขึ้นกับชีวิต อยากพัฒนาตัวเองในหลายๆด้าน เพราะเค้าทำให้ความคิดของเราเปลี่ยนไปเยอะมาก อยากเป็นคนที่ดีขึ้น ต้องขอบคุณเค้าจริงๆที่ผ่านเข้ามาให้ชีวิต แล้วก็สร้างสิ่งดีๆไว้มากมาย และไม่เคยเสียใจที่ได้เจอเค้า และก็ไม่โกรธเค้าที่เลือกจะเดินไปจากชีวิต เมื่อเค้าได้ไปเจอโลกใบใหม่ ที่เค้าก้าวไปก่อนแล้ว ชีวิตการทำงานมันคงไม่เหมือนชีวิตวัยเรียนที่ยังสวยงาม มันคงต่างจากชีวิตทำงานที่ต้องใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง แม้วันนี้ความรักของเค้าจะหมดลงแล้ว เราก็ไม่เคยลืมความทรงจำดีๆที่ผ่านมา แม้เราจะทำมันไม่ได้ดีเท่าไรแต่ก็เป็นบทเรียนราคาแพงครั้งหนึ่งที่จะไม่ลืม ถ้าเมื่อสักวันเราโตเป็นผู้ใหญ่กันทั้งสองคน ก็คงเข้าใจอะไรๆมากกว่านี้ อย่างที่เค้าชอบพูดกันคนเราจะได้คู่กัน มันก็จะได้คู่กันเอง แม้เวลาจะผ่านไปนาน คนจะเป็นคู่กันมันก็จะได้คู่กัน อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างน้อยๆก็ได้เพื่อนที่รู้จักตัวเราดีกว่าใครอีกคนเพิ่งขึ้น
ก็อยากมาแชร์บทเรียนชีวิตความรักค่ะ แม้จะไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นเท่าไร เผื่อมีคู่รักที่เจอสถานการณ์แบบนี้จะได้เข้าใจเค้า ผู้ชายถ้าเค้าเป็นคนไม่ค่อยพูด เราเป็นผู้หญิงไม่เข้าใจก็ถามเค้าเลย แต่ต้องถามแบบถนอมความรู้สึกเค้าด้วย ถ้าพูดออกไปแล้วเค้าจะรู้สึกยังไง อย่าคิดเอง เพราะมันจะเป็นว่าผู้ชายเค้าก้ไม่เข้าใจเรา เราก็ไม่เข้าใจเค้า การคุยกันด้วยความเข้าใจคือสิ่งที่ดีที่สุดมันทำให้เราเข้าใจกันได้มากขึ้น และก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความรักว่าเค้ารับในสิ่งที่เราเป็นได้ไหม แม้จะต่างกันแค่ไหนแต่เข้าใจกัน ความต่างไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เราเชื่อแบบนั้นตอนนี้ แต่ถ้าเค้าพูดและไม่ฟังก็จะเป็นแบบเรา 55555 ถึงตอนนี้จะไม่ได้อยู่ในสถานะแฟนเค้าแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆต่อเค้ามันก็ยังคงอยู่ มันจะไม่หายไปไหน เพราะเค้าคือบทเรียนที่ดีสำหรับเรา
ถ้ามีภาษาผิดพลาดอะไรต้องขออภัยด้วยนะค่ะ เพิ่งเขียนครั้งแรก
อยากแชร์บทเรียนความรักที่เปลี่ยนชีวิตตัวเอง
เรื่องมันเริ่มเมื่อเราเจอกันตอนไปเข้าค่ายภาษาของมหาลัย (มหาลัยย่านบางเขน) จำไม่ได้แล้วว่ากี่วัน แต่สำคัญคือเราได้เจอกันเพราะได้อยู่ห้องเรียนเดียวกัน ตลอดการเข้าค่ายหลายวัน เราได้คุยกันแค่ครั้งเดียวตอนอาจารย์ให้ทำกิจกรรมกลุ่ม แต่ก็จำได้ว่าคุยกันน้อยมาก ครั้งนั้นครั้งเดียว จนจบค่าย เพื่อนๆก็ถ่ายรูปกัน เพื่อนๆเค้าและตัวเค้าก็มาขอเราถ่ายรูป และแลกไลน์เพื่อขอรูปถ่ายกัน หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันจากไลน์ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไรก็คิดว่าเป็นเพื่อนกัน เพราะเค้าไม่ใช่ผู้ชายในสเปกเราเลย เค้าเป็นผู้ชายตัวเล็ก ดูเด็กๆอ่า แล้วเราก็คุยกับเค้ามาจนเปิดเทอม เค้าเรียนเศรษฐศาสตร์ เราเรียนมนุษยศาสตร์ (ความจริงเค้าเป็นรุ่นพี่เราปีนึง แต่หน้าเด็กกว่าเราซะอีก) เค้าเป็นผู้ชายแบบที่เราไม่เคยเจอเลย เราเคยเจอแต่ผู้ชายที่ support เรา เลี้ยงเราตลอด จนเรามีทัศนคติว่าผู้ชายที่เลี้ยงเราไม่ได้เราไม่โอเค แต่พอเจอเค้ามันแปลกสำหรับเรา ที่ต้องแชร์กันคนละครึ่ง เค้าบอกกับเราว่าเค้ายังหาเงินเองไม่ได้ ยังใช้เงินพ่อแม่อยู่ เค้าไม่สามารถจะมาเลี้ยงได้ เราก็โอเคลองดูสักตั้ง เราคุยกันได้ประมาณ2-3เดือนเค้าก็ขอเราเป็นแฟน ตอนแรกเราก็บอกว่าเร็วไปไหม ยังไม่รู้จักกันดีพอรึป่าว จนเค้าขอเราอีกรอบ เราก็ตอบตกลง ความจริงเค้าเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ชอบทำอะไรๆให้เราแปลกใจเสมอ เค้าชอบให้อะไรที่เราคาดไม่ถึง เช่น เอาน้ำเปล่ามาให้แทนที่จะเป็นขนมหวาน หรือเอาสมุดเขียนมาให้และก็เขียนข้อความสั้นๆให้แทนที่จะเป็นดอกไม้ ดูเป็นผู้ชายที่น่ารักอีกแบบ ตอนแรกเราก็คิดตลอดว่าผู้ชายคนนี้จะไปรอดกับเราไหม ก็เหมือนจะมีปัญหามากเพราะเค้าเป็นผู้ชายตัวเล็กกว่าเรา เค้าสูงประมาณ 168 ซม. ส่วนเราสูง 173 ซม.เวลาเดินด้วยกันก็รู้สึกแปลกๆเหมือนพี่สาวกะน้องชายเลย บางทีรู้สึกเหมือนแม่ลูกกันด้วยซ้ำ และก็มักจะโดนเข้าใจผิดว่าเค้าเป็นเพื่อนสาวเราบ้าง เหมือนเป็นน้องชายบ้าง จนเรารู้สึกไม่พอใจ แต่เค้าไม่เคยมีท่าทีอายเลยเวลาที่อยู่กับเราทั้งจับมือ โอบเอวเราได้ไม่อาย มีแต่เราที่สนใจว่ามันไม่โอเค มันไม่สมดุล ตอนคบกันใหม่ๆมันก็หวาน แต่ก็ปรับตัวอะไรกันเยอะ เพื่อนเค้า เค้าเป็นคนมีเพื่อนเยอะ รักครอบครัว เค้าเป็นคนประหยัด ติดดิน กินง่าย อดทน ซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมา มีความพยายามสูง อะไรที่เค้าทำไม่ได้เค้าก็ทำจนกว่าจะได้ ที่สำคัญเค้าไม่เคยคิดที่จะนอกใจเลย ( ผู้ชายอารายจะดีขนาดนี้) แต่เราไม่เคยสนใจในสิ่งที่เค้าเป็นเลย สนใจแต่ตัวเอง อยากแต่ให้เค้าตามใจ เอาใจ ดูแล มีเวลาให้ อยากจะเป็นแต่ผู้รับอย่างเดียว นึกแต่ถึงความสุขของตัวเอง คิดแต่ว่าถ้าเค้ารักเราเค้าทำเพื่อเราได้ เค้ายอมเราได้ แล้วเค้าก็ทำมาตลอด เค้าเอาเวลาส่วนตัวของเค้า มาให้เราตลอด เค้านั่งรอเราเป็นวันๆเค้าก็รอ รีบตื่นทุกเช้าเพื่อมารับเราไปเรียน เราก็ไม่เคยใส่ใจในสิ่งที่เค้าทำให้เลย ยังบ่น ยังว่าเค้าอีก เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเราก็ดูมีความสุขดี แต่พอห่างกันเราก็จะเอาแต่งอแง เอาแต่ใจอยากให้เค้ามาหา งอลเค้าตลอดด แต่เค้าก็ไม่เคยบ่นไม่เคยพูดให้รู้สึกไม่ดีเลย เวลาที่เราทะเลาะกันเค้ามักจะเงียบ และยื่นมือมาจับมือเราให้เข้าไปสบเค้าและก็โอบเรา เราก็ทำเป็นเล่นตัวตลอด เค้าง้อเราตลอดแม้เค้าไม่ได้ผิด เค้าดีมากๆ พ่อแม่เค้าก็น่ารักมากๆ เป็นครอบครัวที่ขยันและอารมณ์ดี เค้าเหมือนแม่เป็นคนน่ารัก ใจดี ต่อมาเค้าเรียนจบไปเมืองนอก 3 เดือน เราก็ไม่ได้ไปส่งเค้า เพราะคิดแต่ว่าตัวเองมีธุระไปไม่ได้ เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เข้าใจ ตลอด 3เดือนที่เค้าอยู่เมืองนอกเราก็ไม่เคยทำตัวเป็นคนรักที่ดีเลยเอาแต่ชวนทะเลาะ งอแง เหงาไม่มีเค้า ทั้งที่เค้าต้องทำงานต้องเหนื่อย ใช้ชีวิตในที่ๆใหม่ไม่คุ้นเคย ต้องเจออุปสรรคมากมาย แต่เราไม่เคยให้กำลังใจเค้าเลย เวลาที่เค้าท้อ หรือทุกข์ใจ เราเอาแต่ทำลายความรู้สึกเค้า เค้าไม่เคยโกรธเราเลย พูดแต่ว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด เค้าพูดถึงขนาดอยากสร้างครอบครัวกับเรา มีครอบครัวที่เรียบง่าย ช่วยกันทำมาหากิน มีความสุขร่วมกัน เราก็คิดแต่ว่าทำได้หรอ จะดูแลชีวิตเราได้หรอ แค่นั้นพอหรอ และก็งอแงให้เค้ารีบกลับมา จนเค้ากลับมาจากเมืองนอกเราก็ไม่ได้ไปรับเค้าเลย ไม่เคยคิดว่าควรจะให้ความสำคัญกับเค้าบ้าง เราแย่มาก คิดแต่ว่ากะทำเค้กเซอร์ไพร์เค้าพอ เพราะเป็นวันคอบรอบของเรา 1ปี เด่วเค้าก็มาหาเราเอง เค้ากลับมาคืนนั้นเค้าก็รีบมาหาเราคืนนั้นเลย ทั้งที่เค้าเดินทางก็เหนื่อยแล้ว ต้องดื้อกับที่บ้านเพื่อมาหาเรา รู้สึกผิดต่อครอบครัวเค้าด้วยที่ทำร้ายจิตใจลูกชายเค้าแบบนี้ เราไม่เคยคิดถึงความสุขเค้าเลย จนเค้าเริ่มทำงาน ไม่มีเวลาว่างให้เรา บอกว่ามีเวลามาหาเราได้แค่วันเดียว เราก็งอลไม่พอใจเค้า จนเค้าเริ่มแปลกไป เริ่มแข็งกับเรา ดูเย็นชาขึ้น เราก็ไม่เคยสังเกตอะไรเลย คิดแต่ว่าเค้ามีคนอื่นรึป่าว เจอผญ.ใหม่ใช่ไหม ก็งี่เง่าใส่เค้าอีก เอาแต่ใจสุดๆไปเลย โกดที่เค้าไม่ยอมมาดูแลเราตอนป่วย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายเค้าเป็นยังไง ไหวไหม ไม่เคยรักษาน้ำใจเค้าเลย มองข้ามสิ่งดีๆที่เค้าทำมาให้ตลอด จนเค้าบอกเราว่าขอเวลา เค้าบอกว่ารักเราน้อยลง วันนั้นถึงได้รู้ว่ากำลังจะเสียเค้าไปแล้ว ก็ถามว่าทำไม ทำไมรักน้อยลง เค้าก็บอกว่าเราต่างกันเกินไป เค้าติดดิน ลุยๆ สบายๆ แต่เราติดหรู กลัวแดดกลัวไม่สวย เค้าดูแลเราไม่ไหว เค้าไม่มีเวลาให้ ตอนนั้นน้ำตาก็ไหลออกมา เราก็เอาแต่พยายามบอกขอโอกาสๆให้เราอีกสักครั้งได้ไหม ขอเริ่มใหม่ จะแก้ไข จะปรับตัวใหม่ จะทำตัวใหม่ สรรหาคำเพื่อให้ได้เค้าคืนมา ตอนนั้นเพิ่งทำจมูกมาได้2-3วันก็เจ็บจมูกจะร้องไห้ก็ทรมาน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จิตใจและร่างกายไปหมดเลย นั่งคิดทบทวนตัวเอง คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาที่เค้าเป็นผู้ให้มาตลอด เค้ารักเราให้แบบที่เราเป็นตลอด ปรับตัวเพื่อเรามาตลอด มีแต่เราที่ต้องการมากขึ้นๆ และไม่เคยทำสิ่งดีๆให้เค้าบ้างเลย เสียใจที่ไม่ได้อยู่เพื่อเค้า ให้ความสุขกับเค้า ในวันที่เค้าท้อแท้ และเป็นทุกข์เลย มองตัวเองว่าเป็นผู้หญิงที่แย่มากกกกกกก มากที่สุด และโง่ที่สุด ที่ไม่เคยลองเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ไม่เคยเข้าใจเค้าในสิ่งที่เค้าเป็น ไม่เคยปรับตัวเพื่อเค้า แล้วลองใช้ชีวิตคู่ของเราดีๆเลย มารู้ตัวว่ารักเค้ามากแค่ไหนก็ตอนที่สายไปแล้ว เสียเค้าไปแล้ว ใจเค้าเปลี่ยนไปแล้ว แม้เราจะขอร้องแค่ไหน ขอโอกาสแค่ไหน เป็นช่วงที่ทรมานที่สุด เรารักแต่จะครอบครองเค้า เค้าบอกว่ายื้อกันไปก็เจ็บกันป่าวๆ เค้าให้โอกาสเราหลายครั้งแล้วแต่เราไม่เคยรู้ตัว เค้าบอกกับเราว่าเค้าไม่ชอบแบบนั้นไม่ชอบแบบนี้ มันคือการเตือนแล้วแต่เราก็ดื้อไม่ฟัง แล้วเค้าก็บอกว่าเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ มีอะไรก็บอกเค้าให้ช่วยได้ มันยากเกินไปไหมใครจะทำได้ รักก็รัก ผิดก็ผิด เสียใจก็เสียใจ เหมือนตั้งตัวไม่ทันไม่คิดว่าเค้าจะไปจริงๆ
เหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดอะไรได้หลายอย่าง ทำให้เรามองย้อนไปในช่วงเวลาของเค้ากะเราสองคน ไม่ใช่เค้าดูแลเราไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราต่างกันเกินไป แต่เป็นเพราะเรายังไม่เคยเริ่มปรับอะไรเพื่อเค้าเลย ทำลายความรู้สึกดีๆมาตลอดจนวันนึงเค้าเหนื่อย เค้าท้อ เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย มันเป็นบทเรียนครั้งสำคัญครั้งนึงที่ทำให้รู้สึกว่ามันเหมือนเราคิดได้ เข้าใจ ว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันรักกันเราควรให้ความสุขซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกันในวันที่คนรักของเราทุกข์ หรือท้อแท้ ใช้ทุกช่วงเวลาที่มีเค้าในชีวิตให้ดีที่สุด เพราะไม่รู้เลยว่าวันนึงเค้าจะหายไปตอนไหน เหมือนเสียของมีค่าไป ของมีค่าที่เรามองข้ามมันมาตลอด เหมือนตัวเองแคร์สิ่งรอบข้างมากเกินไปจนลืมแคร์สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคือ คนสำคัญ ทุกครั้งที่เราพูดกับเค้าว่าอยากสวยเหมือนคนนู้นคนนี้ อยากทำโน่นนี่นั้นให้สวย เค้ามักบอกกับเราว่าตะเองสวยแล้วน่ารักแล้วแค่นี้เค้าก็รักแล้ว มีงานดีๆทำได้แล้ว แต่เราก็ไม่เคยฟังไม่สนใจ ไม่รู้จักพอ จนถึงวันนี้ก็ทำได้แค่เฝ้าดูเค้าอยู่ห่างๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองตลอดว่าถ้าได้กลับมารักกันอีกก็คงจะดี จะรักษาความรักนี้ไว้ให้ดีๆ จะไม่ทำตัวเป็นวงกลม2วงที่ซ้อนกันทับกันจนหายใจไม่ออก จะเป็นวงกลม 2วงที่เกี่ยวกันไว้ ให้เค้าได้มีพื้นที่หายใจ และค่อยเป็นเพื่อนเป็นคนรักเป็นกำลังใจให้เค้าอยู่ข้างๆเสมอ จะได้ไม่มาเสียใจที่ไม่ได้ทำอะไรเลย บางครั้งเราก็สนใจแต่ปลายทางว่าจะเป็นยังไงจะจบแบบไหน แต่ความจริงแล้วระหว่างทางมันก็สำคัญมากเพราะเราอาจมองข้ามสิ่งสำคัญหลายสิ่งไปได้ จะได้ไม่มาเสียใจทีหลัง
ก็บอกตัวเองว่าไม่ได้ปิดโอกาสตัวเองที่จะได้เจอคนใหม่ เพราะเค้าที่ทำให้เรารู้สึกอยากทำอะไรให้ดีขึ้นกับชีวิต อยากพัฒนาตัวเองในหลายๆด้าน เพราะเค้าทำให้ความคิดของเราเปลี่ยนไปเยอะมาก อยากเป็นคนที่ดีขึ้น ต้องขอบคุณเค้าจริงๆที่ผ่านเข้ามาให้ชีวิต แล้วก็สร้างสิ่งดีๆไว้มากมาย และไม่เคยเสียใจที่ได้เจอเค้า และก็ไม่โกรธเค้าที่เลือกจะเดินไปจากชีวิต เมื่อเค้าได้ไปเจอโลกใบใหม่ ที่เค้าก้าวไปก่อนแล้ว ชีวิตการทำงานมันคงไม่เหมือนชีวิตวัยเรียนที่ยังสวยงาม มันคงต่างจากชีวิตทำงานที่ต้องใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง แม้วันนี้ความรักของเค้าจะหมดลงแล้ว เราก็ไม่เคยลืมความทรงจำดีๆที่ผ่านมา แม้เราจะทำมันไม่ได้ดีเท่าไรแต่ก็เป็นบทเรียนราคาแพงครั้งหนึ่งที่จะไม่ลืม ถ้าเมื่อสักวันเราโตเป็นผู้ใหญ่กันทั้งสองคน ก็คงเข้าใจอะไรๆมากกว่านี้ อย่างที่เค้าชอบพูดกันคนเราจะได้คู่กัน มันก็จะได้คู่กันเอง แม้เวลาจะผ่านไปนาน คนจะเป็นคู่กันมันก็จะได้คู่กัน อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างน้อยๆก็ได้เพื่อนที่รู้จักตัวเราดีกว่าใครอีกคนเพิ่งขึ้น
ก็อยากมาแชร์บทเรียนชีวิตความรักค่ะ แม้จะไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นเท่าไร เผื่อมีคู่รักที่เจอสถานการณ์แบบนี้จะได้เข้าใจเค้า ผู้ชายถ้าเค้าเป็นคนไม่ค่อยพูด เราเป็นผู้หญิงไม่เข้าใจก็ถามเค้าเลย แต่ต้องถามแบบถนอมความรู้สึกเค้าด้วย ถ้าพูดออกไปแล้วเค้าจะรู้สึกยังไง อย่าคิดเอง เพราะมันจะเป็นว่าผู้ชายเค้าก้ไม่เข้าใจเรา เราก็ไม่เข้าใจเค้า การคุยกันด้วยความเข้าใจคือสิ่งที่ดีที่สุดมันทำให้เราเข้าใจกันได้มากขึ้น และก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความรักว่าเค้ารับในสิ่งที่เราเป็นได้ไหม แม้จะต่างกันแค่ไหนแต่เข้าใจกัน ความต่างไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เราเชื่อแบบนั้นตอนนี้ แต่ถ้าเค้าพูดและไม่ฟังก็จะเป็นแบบเรา 55555 ถึงตอนนี้จะไม่ได้อยู่ในสถานะแฟนเค้าแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆต่อเค้ามันก็ยังคงอยู่ มันจะไม่หายไปไหน เพราะเค้าคือบทเรียนที่ดีสำหรับเรา
ถ้ามีภาษาผิดพลาดอะไรต้องขออภัยด้วยนะค่ะ เพิ่งเขียนครั้งแรก