จากเพื่อนสนิท กลายเป็น "คนแปลกหน้าที่รู้จักดี"

ก่อนอื่นออกตัวก่อนเลยค่ะว่า ถ้าได้อ่านเรื่องของเรา บางคนที่อ่านก็อาจจะสมน้ำหน้ากับความเห็นแก่ตัวของเรา
หรือบางคน ก็อาจจะ ด่าทั้งคู่ 555555
แต่อย่าด่าเยอะนะ รับไม่ทันค่ะ

อ่อที่เรื่องยาวๆ สามารถจบได้รวดเดียวแบบไม่มีให้ปูเสื่อรอ
เพราะเดี๋ยวจะหาว่า จขกท.  ชอบตั้งกระทู้ดักพวกรอปูเสื่อ
และแบบเราเองก็เข้าใจอารมณ์ค้างของคนอ่าน เพราะนี่ก็นักอ่านตัวยงในพันทิป
เรามักจะเจอเรื่องที่มันค้างแบบไม่จบไม่สิ้นกันแทบทุกกระทู้
แต่ก็ไม่รู้ว่าการที่เราพิมพ์ใส่ Word แล้วอัพรวดเดียวจะหาว่าเป็นการแต่งนิยายหรือเปล่า 5555
เอาเนอะ คนเราคิดได้หลายแบบ
หลักฐานไม่มี ไม่ต้องขอดูเพราะไม่เก็บหลักฐานไว้เนื่องจากมีเหตุจำเป็นที่จะไม่เก็บ

และตัว จขกท. ต้ออกตัวก่อนว่า เราก็จำเรื่องไม่ได้เป๊ะๆ ถึงขั้นทุกประโยคหรอกนะคะ
เพราะเรื่องมันนานมามากแล้ว  น้ำมันตับปลาไม่ค่อยได้กินเนื่องจากไม่มีเงินซื้อค่าาาา คริคริ
แต่จะถ่ายทอดเรื่องราวตามความรู้สึกจริง ณ ตอนนั้น

เข้าเรื่องเลยละกันนะ เราจะเรียกแทนตัวเองว่า C ละกันนะ
เราเป็นคน ตจว. สอบเข้าได้มหาวิทยาลัยแถวๆ โซนติดกับเมืองหลวง หน่อย
ฐานะทางครอบครัวจัดอยู่ว่าดี แต่แม่ไม่สอนให้ฟุ่มเฟือย
ประมาณว่าเด็กเข้ามหาลัยแทบทุกคนก็จะตามเพื่อน ต้องทันสมัย หรือบางคนต้องล้ำ
แต่เราก็อยากจะล้ำนะคะ แต่แม่ไม่อนุญาต ก็ตามมีตามเกิดค่ะ พอเพียง 5555ประมาณนั้น
ทางมหาลัยเราไม่ได้บังคับเด็กว่าจะต้องพักอยู่หอในนะคะ
แต่เราเลือกที่จะอยู่หอในค่ะ เพราะเข้าชีวิตเด็กมหาลัย มันก็ต้องอยู่หอในสิถึงจะเรียกว่า เป็นเด็กมหาลัยจริง เราคิดแบบนั้นนะคะ
อีกอย่างแม่ชอบด้วยเพราะประหยัดและปลอดภัย
เรามีเพื่อนต่างคณะที่เรียกได้ว่าสนิทกันมากยิ่งกว่าเพื่อนในคณะเราอีก
เพราะการอยู่หอในเนี่ยะแหล่ะ ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนต่างคณะ
ด้วยความที่เราเป็นเด็กผิวขาว ใส ตัวเล็ก สเปคเหมาะแก่การพกพา 55555
ก็จะมีคนเข้ามาจีบเยอะมากค่ะ เรียกได้ว่าช่วงแรกๆนี่ เข้ามาขอเบอร์ ขอเมล ตลอด
สมัย MSN ดัง ซึ่งนานม๊ากกกก เหมาะแก่การเรียกว่า แก่ ได้ 555555
แต่เราด้วยความที่เด็กอ่าค่ะ มักต้องเลือกรูปร่าง หน้าตา คณะที่เรียน ฐานะทางบ้าน
แต่อันดับแรกด่านหน้าตา ต้องมาก่อน มาแบบอ้วน เตี้ย ดำ เชิญค่ะ ด่านหน้าค่ะ
คือไม่ได้สวยนะคะ แต่เลือกได้ประมาณนั้น ถึงเลือกไม่ได้ ก็จะเลือกค่ะ
แน่นอนสิ อยู่ปี 1 เฟรชชี่อ่าเนอะ ยังมีมาอีกเยอะ 55555
แต่คือก็มีหลงๆ ให้เบอร์ไปบ้างนะคะ
เนื่องจากเป็นคนสายตาไม่ดี แต่ไม่ยอมใส่แว่น
คือมันแก่อ่ะ คอนแทคก็ใส่ไม่ได้เคืองตาไปหมด
เลยไม่ใส่อะไรเลยค่ะ เดินมันแบบเบลอๆไปเลย
เกิดเป็นชะนีที่ลำบากมาก 55555 เอาหน่ะเพื่อความสวย (หรอ)
แต่บอกไว้เลยนะคะ ผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามาจีบได้เบอร์ไปปุ๊ป กรุณาโทรมาเลยค่ะ
อย่าส่งข้อความ เพราะทันทีที่เราไม่ปิ๊งหรือสนใจใคร เบอร์นั้นจะถูกเมมและตัดสิทธิ์ในการรับสายถ้าคุณโทรมา
และจะไม่มีการตอบข้อความใดๆ ทั้งสิ้นกลับ เพราะมีคนนึงใช้วิธีนี้กับเราได้ปุ๊ปส่งข้อความมา
แล้วเราเป็นประเภทแบบคือถ้า ไม่โดนจริงๆ อย่าหวังว่าจะได้แม้แต่คุย 55555
หยิ่งระดับเลเวล 100 ม๊ากกกก 555555
แต่เราเป็นแบบนั้นจริงๆ ใครอยากด่าเชิญเลยค่ะ เพราะโดนเพื่อนสนิทด่ามาแล้ว ด่าจนชินและชากันเลยทีเดียว
ถามว่า ก่อนเข้ามหาลัยช่วง ม.ปลาย มีแฟนไหม?  มีค่ะ แต่มีไว้เพื่อ   เฮ้ยตูมีนะ
ไม่ได้หวือหวา อะไรเลยค่ะ จับมือแทบไม่มี แบบรักใสๆ กันม๊ากกกก
แล้วแม่เราก็ไม่สนับสนุนเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เราเลยไม่ได้ออกตัวมาก
เพราะกลัวแม่รู้ และโมโห แต่ก็อยากรู้ว่ามีแฟนมันเป็นยังไง เลยตกลงคบแต่คบได้ไม่นานค่ะ
เลิก!!! เพราะเห็นเพื่อนในกลุ่มโสดกันหมด เลยอยากตามเพื่อนบ้าง โดยไม่สนใจว่าคนที่โดนบอกเลิกจะเป็นยังไงเลวไหมคะ? 5555555555555

ต่อๆ ค่ะ จนกระทั่งวันนึงถึงวันปฐมนิเทศนักศึกษา ก็จะมีพวกรุ่นพี่ของคณะพาน้องๆ เข้าหอประชุม
และก็คอยนั่งคุมน้องๆ ในหอประชุม ตอนนั้นเวลาเดินเข้า หรือเดินไปไหนเราก็ไม่ได้ใส่แว่นเหมือนเดิม
เราจะใส่เฉพาะตอนดูเค้าฉายวีดีทัศน์ หรือพวกการแสดงเท่านั้น
เรานั่งดูไปได้สักพัก ปวดฉี่ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำกับเพื่อน ก็มีรุ่นพี่ผู้หญิงเรียกเรา
“C เพื่อนชอบ” พร้อมกับชี้ไปทาง เพื่อน ผู้ชาย ในคณะเดียวกับเรา  เราขอเรียกว่า “F” นะคะ
ด้วยความที่เราไม่ได้ใส่แว่น มองอะไรก็เบลอๆ ประกอบกับเสียงในหอประชุมดัง ก็เลยได้แต่ยิ้มไม่ได้สนใจอะไร และก็เข้าห้องน้ำต่อ
คือถ้าเราเป็น ผู้ชายคงคิดในใจว่า อีนี่มุงหยิ่งมากกกก 55555
เสร็จปุ๊ปเราก็กลับมานั่งที่ค่ะ  ก็นั่งดูการแสดงสวยๆไป

ผ่านมาได้ไม่ได้กี่วัน เราก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ค่ะ
เพราะว่า F เป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนเรา งงไหม
คือเรามีเพื่อนชื่อ “B” ซึ่งมีแฟน  แล้ว “F” เป็นเพื่อนของแฟน “B” โอเคเนอะ รู้เรื่อง?
แต่ B เรียนคนละสาขากับเรานะคะ แต่ว่าปี 1 ยังเรียนรวมกันอยู่ยังไม่ขึ้นวิชาคณะ
เวลา F ไปกินเหล้า ก็มักจะไปกับ Bและแฟน B
แต่เราไม่ได้ไปค่ะ เด็กดีอยู่หอใน ร้านเหล้าไม่เข้า   ป๊าดดดดดด
ปี 1 เรียกว่าร้านเหล้าแทบไม่ได้กินเงินค่ะ ไปประมาณ 2 ครั้งได้ 5555

วันนึง B มาบอกว่า F ชอบเรา
และยังมาขอเบอร์เราจาก Bด้วย B ให้ไปค่ะ
แต่ว่าโทรมาหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะว่าเราไปอาบน้ำมา
แล้วเปิดดูโทรศัพท์ เจอสายไม่ได้รับสาย 1 สาย แล้วเป็นเบอร์แปลก
เลยคิดว่าน่าจะเป็นเบอร์ F
แต่เราไม่ได้โทรกลับไปนะคะ เรายังเฉยๆกับเรื่องพวกนี้อยู่ (หราาา 5555)
ชีวิตปี 1 ไม่มีอะไรมาก เรียนเสร็จ เข้าคณะทำกิจกรรม ซ้อมร้องเพลงมหาลัย
F ก็จะโดนเรียกให้ออกมาเต้นหน้าแถวตลอด
แต่เรามองว่า F ขี้เก๊ก คิดว่าตัวเองหล่อ ไม่ชอบเลย ณ ตอนนั้น
จ้ะ ไม่ได้มองตัวเองเล๊ยยย ว่ามุงหยิ่งม๊ากกกก 5555555555555
เรายังคุยกับBลย ว่าแม่ม ขี้เก๊กหว่ะ ไม่ชอบ
แต่ Bก็เหมือนจะเชียร์  บอกเราว่า “F นิสัยดีนะ”
เราก็ได้แต่รับฟัง ไม่ได้ออกอาการ คือ มันเก๊กอ่ะ เราไม่ชอบ รู้แค่นั้น

จนกระทั่งวันนั้นเป็นวันตัดสินของการมีแฟนคนแรกในมาลัยค่ะ
คือ มันจะมีวิชานึง ที่เรียนรวมกับคณะอื่น เราก็เลือกที่นั่งหลังๆ นะคะ
ก็มี ผู้ชาย 3 คน มาขอนั่งข้าง ๆ เพื่อนเราค่ะ
ตอนนี้เรานั่งกับเพื่อนเรา ทั้งหมด 3 คนนะคะ
มี  เรา     J  (เพื่อนสาวคนสนิทเราอีกคน)  B  นั่งเรียงตามลำดับเลยค่ะ
ส่วน ผู้ชายที่มาขอนั่งด้วย ถัดไปจาก B ค่ะ
ด้วยความที่ B เป็นคนเฟรนลี่มาก นางก็ชวนผู้ชาย 3 คนนั้นคุย
ระหว่างที่คุยกัน F ที่นั่งอีกฟาก ก็พยายามโบกไม้โบกมือมาให้เรา
B ก็เชียร์ F นะคะ บอกดูสิๆ F ทักมาหน่ะ
เราก็ได้แต่ยิ้มๆ ณ ตอนนั้น แต่ไม่ชอบ เพราะมันเก๊กเนี่ยะแหล่ะ
B ยังคงคุยกับผู้ชาย 3 คน อยู่
J เพื่อนสาวเราอยากได้เบอร์ ผู้ชายนึงในนั้น
ปรากฎว่า N ชาย 1 ใน 3 คนนั้น
บอกว่า อยากได้เบอร์เราค่ะ
เรามองหน้าตา N มองรูปร่าง ลักษณะ แล้วรู้สึกเลยล่ะว่า คนนี้แหล่ะที่ตูเลือก
เราเลยตัดสินใจให้เบอร์ N ไปโดยที่ไม่สนใจ แยแส F เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่