สวัสดีค่ะ
สมัยนี้ใครๆก็แบกเป้เที่ยวคนเดียวใช่มั้ย ใครๆก็อยากชิค อยากคลู เราเอก็เป็นคนนึงที่ชอบเที่ยว แต่ไม่ได้อยากทำตัวชิคๆอะไรหรอกนะ เราไม่มีอะไรทำ 555
เรื่องของเรื่อง มันก็เกิดจากการที่เรามีธุระต้องทำที่หาดใหญ่ แล้วบังเอิญเห็นว่ามันมีรถตู้ปีนัง หาดใหญ่ เราก็เลยถือโอกาสมาเที่ยวซะเลย มาแบบงงๆจริงๆ คือไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แค่เห็นคนมารีวิว ก็เปิดๆดู เซฟไว้ พอมาถึงที่พักเราก็ออกไปหาอะไรกิน เริ่มคุ้นทาง
แล้ววันที่สอง เราก็กางแผนที่ กะจะเดินเที่ยวแถวๆที่พักนั่นแหละ หาอะไรกินตอนดึกๆ เพราะส่วนใหญ่ร้านรวงมันคึกคักยามราตรี
ในระหว่างที่เราไปเดินเล่นมั่วๆตามประสาเรา ก็มีผชคนนึงเป็นคนหน้าตี๋ๆอายุสักสามสิบ ยืนถือแผนที่อยู่ทำหน้าเอ๋อๆ แล้วพอเราเดินผ่านเค้าก็ถามเราว่า "รู้มั้ยว่าจะไปตรงนี้ไปยังไง"
ด้วยความที่เราเองก็อาศัยถามชาวบ้านตลอดทาง เลยทำตัวเป็นคนมีน้ำใจ 555 เราก็ดูที่เขาชี้ในแผนที่ ซึ่งบังเอิญเป็นทางที่เรากำลังจะไปพอดี ก็เลยมีบทสนทนาเกิดขึ้น
A(แทนตัวเรา) : อ๋อ ไปทางนี้นะ บลาๆๆ
B : อ้อๆ โอเค (พยักหน้าเข้าใจ) คุณมาจากไหนหรอ
A : ไทยแลนด์
B : ผมมาจากสิงคโปรนะ ชื่อ ××× คือ (เราจำไม่ได้ อันที่จริงไม่จำเพราะกะว่าจะเดินผ่านไปแล้ว) คุณจะไปทางนั้นเหมือนกันหรอ
A : อ๋อใช่ (ตรงที่เราจะไปคือเดินไปสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปอีก)
B : ดีใจมากเลยที่เจอคุณ (ก็กล่าวขอบคุณไปตามเรื่องตามราว ก่อนจะเสนอตัวด้วยความหวังดี) ไปมอไซค์ผมมั้ย
คือเราพึ่งเห็นว่าเค้ามีมอไซค์ เป็นมอไซค์เช่าแล้วก็คงประมาณจอดดูแผนที่ เราก็ชั่งใจนิดหน่อย คือเคยเจอสถานการณืแบบนี้มาก่อนตอนอยู่ซิดนี่ย์ แล้วพอเราไปทางเดียวกันก้อกลายเป็นเพื่อนกัน ตอนไปอเมริกาก็เคยโบกรถชาวบ้าน เราเองก็เคยชินกับการผูกมิตรชาวบ้านไปทั่ว ทางที่จะไปก็แอบไกลอยู่ ท่าทางนางก็ดูไม่มีอะไร แถมทางก็ใช่จะเปลี่ยว รถไปลงที่จุดหมายปลายทาง
แต่เราเริ่มไม่ชอบใจตรงที่พอเราขึ้นนั่ง นางก็บอกให้เราจับแน่นๆนะ แล้วบอกให้เราจับเอว เราก็เลยแถไปว่า มีของกินอยู่ (มีหมูปิ้งกับน้ำแตงโมปั่น) นางก็บอกให้เอามาไว้ตะกร้า เราก็บอกไม่เอา น้ำนี่เรายังไม่หมดเลย
ปล. เราพิมพ์ในโทรศัพท์ ขอตัดตรงนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวพิมพ์ต่อในคอมเม้นต์ รออ่านนะ (ถ้ามีพิมพ์ตกพิมพ์ผิดก็ขอโทษด้วยนะคะ)
ฉันเจอมิจฉาชีพในปีนังว่ะแก
สมัยนี้ใครๆก็แบกเป้เที่ยวคนเดียวใช่มั้ย ใครๆก็อยากชิค อยากคลู เราเอก็เป็นคนนึงที่ชอบเที่ยว แต่ไม่ได้อยากทำตัวชิคๆอะไรหรอกนะ เราไม่มีอะไรทำ 555
เรื่องของเรื่อง มันก็เกิดจากการที่เรามีธุระต้องทำที่หาดใหญ่ แล้วบังเอิญเห็นว่ามันมีรถตู้ปีนัง หาดใหญ่ เราก็เลยถือโอกาสมาเที่ยวซะเลย มาแบบงงๆจริงๆ คือไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แค่เห็นคนมารีวิว ก็เปิดๆดู เซฟไว้ พอมาถึงที่พักเราก็ออกไปหาอะไรกิน เริ่มคุ้นทาง
แล้ววันที่สอง เราก็กางแผนที่ กะจะเดินเที่ยวแถวๆที่พักนั่นแหละ หาอะไรกินตอนดึกๆ เพราะส่วนใหญ่ร้านรวงมันคึกคักยามราตรี
ในระหว่างที่เราไปเดินเล่นมั่วๆตามประสาเรา ก็มีผชคนนึงเป็นคนหน้าตี๋ๆอายุสักสามสิบ ยืนถือแผนที่อยู่ทำหน้าเอ๋อๆ แล้วพอเราเดินผ่านเค้าก็ถามเราว่า "รู้มั้ยว่าจะไปตรงนี้ไปยังไง"
ด้วยความที่เราเองก็อาศัยถามชาวบ้านตลอดทาง เลยทำตัวเป็นคนมีน้ำใจ 555 เราก็ดูที่เขาชี้ในแผนที่ ซึ่งบังเอิญเป็นทางที่เรากำลังจะไปพอดี ก็เลยมีบทสนทนาเกิดขึ้น
A(แทนตัวเรา) : อ๋อ ไปทางนี้นะ บลาๆๆ
B : อ้อๆ โอเค (พยักหน้าเข้าใจ) คุณมาจากไหนหรอ
A : ไทยแลนด์
B : ผมมาจากสิงคโปรนะ ชื่อ ××× คือ (เราจำไม่ได้ อันที่จริงไม่จำเพราะกะว่าจะเดินผ่านไปแล้ว) คุณจะไปทางนั้นเหมือนกันหรอ
A : อ๋อใช่ (ตรงที่เราจะไปคือเดินไปสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปอีก)
B : ดีใจมากเลยที่เจอคุณ (ก็กล่าวขอบคุณไปตามเรื่องตามราว ก่อนจะเสนอตัวด้วยความหวังดี) ไปมอไซค์ผมมั้ย
คือเราพึ่งเห็นว่าเค้ามีมอไซค์ เป็นมอไซค์เช่าแล้วก็คงประมาณจอดดูแผนที่ เราก็ชั่งใจนิดหน่อย คือเคยเจอสถานการณืแบบนี้มาก่อนตอนอยู่ซิดนี่ย์ แล้วพอเราไปทางเดียวกันก้อกลายเป็นเพื่อนกัน ตอนไปอเมริกาก็เคยโบกรถชาวบ้าน เราเองก็เคยชินกับการผูกมิตรชาวบ้านไปทั่ว ทางที่จะไปก็แอบไกลอยู่ ท่าทางนางก็ดูไม่มีอะไร แถมทางก็ใช่จะเปลี่ยว รถไปลงที่จุดหมายปลายทาง
แต่เราเริ่มไม่ชอบใจตรงที่พอเราขึ้นนั่ง นางก็บอกให้เราจับแน่นๆนะ แล้วบอกให้เราจับเอว เราก็เลยแถไปว่า มีของกินอยู่ (มีหมูปิ้งกับน้ำแตงโมปั่น) นางก็บอกให้เอามาไว้ตะกร้า เราก็บอกไม่เอา น้ำนี่เรายังไม่หมดเลย
ปล. เราพิมพ์ในโทรศัพท์ ขอตัดตรงนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวพิมพ์ต่อในคอมเม้นต์ รออ่านนะ (ถ้ามีพิมพ์ตกพิมพ์ผิดก็ขอโทษด้วยนะคะ)