คนเดียว "เกียวโต-ชิงะ-โอซากะ 2025" 4 คืน 5 วัน (ตอนที่ 3)

กระทู้สนทนา

เที่ยวญี่ปุ่น คันไซ โอซาก้า เที่ยวต่างประเทศ Rurouni Kenshin (ภาพยนตร์)

สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะในตอนที่ 3 ต่อจากตอนที่แล้ว

คนเดียว "เกียวโต-ชิงะ-โอซากะ 2025" 4 คืน 5 วัน (ตอนที่ 2)

วันนี้กลับเข้าโอซากะแล้วค่ะ จะเรียบง่าย งุนงงยังไง ไปกันเล้ย

เช้าวันที่ 3 ฝนตกเหมือนเดิม

วันนี้ต้องเช็คเอาต์ที่พัก Kyoto ค่ะ ตอน 10 โมง แต่ว่ายังมีอีก 1 สถานที่ ที่ต้องไปตามหาค่ะ ยังคงเป็นโลเคชันถ่ายหนัง Rurouni Kenshin ตอนแรกว่าจะไปเมื่อวาน แต่เมื่อวานแบบว่าเหนื่อย ไม่ไหวแล้ว บางทีรุ้งก็ลืมอายุตัวเอง โอ้ แก่แล้วเหมือนกันนะ ^0^

ตรวจดูสภาพอากาศในโทรศัพท์ 1-2 ชั่วโมงนี้ ฝนตก 100 เปอร์เซ็นต์ แบบเดียวกับเมื่อวานเลย แต่ตอนนี้ยังไม่ตก รีบออกไปก่อนดีกว่า ... เก็บกระเป๋าแล้วตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ก็อาบน้ำ แต่งตัว แต่งหน้า โอเคเสร็จแล้ว ไปกันโลด

รุ้งเอากระเป๋ามาฝากไว้ที่ตู้ ที่สถานีเกียวโตค่ะ มีหลายเว็บไซต์บอกว่า มีทั้งแบบเงินสด+ไขกุญแจ กับจ่ายด้วย IC Card+กดรหัสค่ะ รุ้งบังเอิญเจอตู้ข้างนอก ซึ่งว่างพอดี เป็นแบบไขกุญแจค่ะ อุ๊ยถูกใจ เพราะแบบรหัส กลัวกดผิด เปิดไม่ได้ลำบากอีก

ใครไม่มีเหรียญ มีตู้แลกเหรียญค่ะ ตั้งอยู่ติดกันเลย ในรูปคือตู้สีขาวฝั่งซ้าย สำหรับช่องไซซ์ปานกลาง ตู้ละ 500 เยนค่ะ รุ้งเอาตู้นี้ค่ะ ... วิธีการใช้ คือ เปิดตู้ (ซึ่งมีกุญแจเสียบอยู่ แปลว่า ว่าง) > ใส่กระเป๋า > ปิดตู้ > หยอดเหรียญ 500 เยน > หมุนกุญแจ เป็นอันเสร็จค่ะ

แวะซื้อขนมแป๊บ ทุกคนขนมในเซเว่น ในแฟมิลี่ น่ากินทั้งนั้นเลย ดูนุ่มนิ่ม หรือเป็นเพราะเบื่อขนมเซเว่นไทยแล้ว พอมาเห็นขนมเซเว่นญี่ปุ่นเลยอู้หูอ้าหา ซื้ออันนี้มา น้องนุ่มนิ่ม เด้งดึ๋ง ๆ มาก
อ้อ เผื่อใครยังไม่รู้ ตกลงว่าของในเซเว่นขายกี่เยนกันแน่ เพราะเห็นใน 1 ป้ายมี 2 ราคา การอ่านญี่ปุ่นไม่ออก แถมขี้เกียจเปิดกูเกิลแปล ก็มีวิธีดูค่ะ ให้ดูที่ราคาในวงเล็บค่ะ หรือถ้าดูป้าย ให้ดูที่อยู่บรรทัดล่างค่ะ ใครเคยมาญี่ปุ่นจะพอนึกออก นั่นเป็นราคาที่เราจ่ายค่ะ ... อย่างในรูปขนมนุ่มนิ่ม คือ 181 เยนค่ะ

ที่เราจะไปก่อนส่งท้ายเกียวโต คือ วัด Onjo-ji ค่ะ หรือในกูเกิลจะพ่วงคำว่า Mii-dera มาด้วย ก็คือที่เดียวกันค่ะ แต่ดูตามป้ายในญี่ปุ่นจะเรียก วัด Onjo-ji และ เราทำแพลนเที่ยวมาก่อนแล้ว รู้ว่าต้องไปลงที่สถานี Zeze ค่ะ

วันนี้ต้องได้นั่ง JR Rapid ให้ได้ อยากรู้จะเร็วสักแค่ไหน ตั้งใจมาก ดูขบวนที่ต้องขึ้นจากกูเกิลเหมือนเดิม สรุปคือไปรุ้งถึงตอนรถ Local เข้าพอดีอีก วาสนาไม่มีอะเนาะ ^0^

จากสถานีเกียวโต มาถึง Zeze ใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ รถไฟวิ่งเส้นเดียวกับที่ไปคลองฮาจิมังเมื่อวานอะแหละ ออกจากรถไฟ JR ต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Keihan อีกต่อค่ะ เดินตามป้ายไปสถานี Keihan ได้เลย เป็นรถไฟเอกชนท้องถิ่น ฟีลประมาณนี้

แตะบัตรออกจาก JR ปุ๊บ เดินไม่กี่ก้าวก็เตะเข้าสถานี Keihan ได้เลย อยู่ติดกันเลยค่ะ เป็นสถานีกระจุ๋มกระจิ๋มมาก เล็กนิดเดียว ให้เรียกว่าสถานีร่วม ก็น่าจะได้

ขบวนรถไฟมีแค่ 2 ตู้ค่ะ และ ได้เจอขบวนโทมัสด้วย น่ารักมาก ^_^ น้องมีหลายสีเลย แต่วาสนาไม่มีอีก เพราะคันที่รุ้งต้องขึ้น เขียวล้วนค่ะ แหงะ

รถไฟวิ่งขนาดไปกับทะเลสาบ Biwa นิดหน่อยค่ะ คิดว่าถ้าไม่ขี้เกียจมาก จะแวะเดินเล่น รุ้งเจอในเว็บหนึ่ง มีคนเคยไปบอกว่าบรรยากาศดี ... นั่งมาได้สักแป๊บก็ถือค่ะ สถานี Miidera อ๋ออออ รู้แล้ว ที่เมื่อกี้รุ้งบอกว่า ต่อท้ายชื่อวัดเขียนว่า Mii-dera ด้วย อ๋อ เป็นชื่อสถานีที่ต้องลงนี่เอง
เจอเสาสีฟ้า มีสัญลักษณ์ IC แตะออกโลด ปี๊บบบบบ หืม แตะอีกที ปี๊บบบบบ อ้าวเฮ้ยยยย บัตรใช้งานไม่ได้เหรอ ยังไงเนี่ย พนักงานประจำสถานีก็ไม่มี ยืนงงที่ตู้ อ๋อ เขียนว่า Entrance เลยเดินกลับขึ้นไปข้างบนชานชาลา เจอเสาสีส้ม อ๋อ สีส้มคือ Exit แตะใหม่ ติ๊ด โอเคเรียบร้อยค่ะ

ปีที่แล้ว (2024) ตอนทำแพลนเที่ยว Tokyo รุ้งเจอในเว็บแนะนำวิธีแตะจ่ายบัตร IC ตามสถานีเล็ก ๆ ว่าจะมีเสา 2 ต้น 2 สี แต่เขาทำเป็นกราฟิก อ๋ออออ เสาหน้าตาแบบนี้นี่เอง ... แล้วดูสิ สถานีเล็กจริง มีแค่หลังคา 2 หลังอะ

พอออกมา จะมีป้ายบอกทางไปวัด กับสถานที่อื่น ๆ ตรงนี้เลยค่ะ เดินตามไปได้เลย ตอนแรกรุ้งก็ไม่มั่นใจ เพราะดูจากกูเกิล วัดเหมือนอยู่ในป่า แถมเข้าได้หลายทาง เดินข้ามถนนไปมาอยู่นาน สุดท้ายตัดสินใจเดินตาม 2 คนข้างหน้าไปค่ะ (รูปข้างล่าง) หน้าไม่เหมือนคนญี่ปุ่นเท่าไหร่ คิดเดาเองว่า เป็นนักท่องเที่ยวจะไปวัดเหมือนกัน

ระหว่างทางจะเป็นคูคลองค่ะ เห็นตามเว็บบอกว่า ถ้าซากุระบานจะวิวสวยมาก แต่รุ้งไปหน้าฝนค่ะ เขียวขจีเลย แล้วน้ำใสมากด้วย ... ไปเที่ยวญี่ปุ่น นี่เป็นครั้งที่ 4 ค่ะ แต่เพิ่งเคยออกต่างจังหวัดครั้งแรก คือเงียบสงบมาก แทบจะไม่เจอผู้คน รถยนต์น้อยค่ะ โดยเฉพาะถนนเล็ก ๆ แต่ถ้าถนนใหญ่ก็เยอะ แต่ก็ยังถือว่าน้อย ไม่งงเนาะ ^_^ เดินเล่นก็เพลินดี มีกลัวนิดหน่อย ก็เพราะไม่มีคนนี่แหละ

(โดนหลอก) ขึ้นเขาอีกแล้ว

เดินไปไม่กี่เลี้ยวจะเจอซุ้มค่ะ มีคุณตานั่งอยู่ 1 คน เลยเข้าไปถามว่าใช่ที่นี่มั้ย คุณตาไม่พูดภาษาอังกฤษค่ะ แต่เขาฟังอังกฤษรู้เรื่อง เขาถามรุ้งว่ามีตั๋วหรือยัง ค่าเข้า 600 เยน พร้อมถามจะเอาแผนที่ภาษาอะไร แล้วก็ไกด์เส้นทาง ให้ไปตรงนี้ก่อน แล้วก็วนไปตรงนั้น ให้ไปออกตรงนี้

ตอนกำลังคุย มีคนญี่ปุ่นมาเที่ยวเหมือนกัน รุ้งเลยเดินตามไป ก็ไปตามทางที่คุณตาบอกนั่นแหละ อ๋อย มีขึ้นบันไดด้วยอะ ... ภาพตอนสมัยมากับเพื่อน แล้วไปขึ้นเขา Inari วนกลับมาในหัวเลย อย่าหาไปขึ้นถึงยอดเขาทุกคน มันเหนื่อย 55555555555

โอ๊ะ เรียกว่าโดนคุณตาหลอกให้ขึ้นมาได้มั้ย เพราะมันไม่มีอะไร นอกจากวิวอ่าวไกล ๆ กับศาลเจ้า เรียกแบบนี้ได้มั้ยนะ หรือให้เรียกวัด ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่อยู่พื้นที่ของวัดค่ะ ... ญี่ปุ่น 2 คนนั้นก็งงเหมือนกัน ง่ะ

ขึ้นปุ๊บ ลงปั๊บเลย ^0^ กางแผนที่ดู โอเค ให้เดินวนไปทางนี้ใช่มะ ไปค่ะ เดินไปตามถนนหินกรวด ซึ่งแฉะเละนิดหน่อย เพราะฝนตกมาเมื่อคืน ... รุ้งมองลอดไปตามช่องต้นไม้เล็ก ๆ เห็นลานจอดรถ มีรถยนต์ รถบัส จอดเยอะเหมือนกันค่ะ ถ้าเดินไปถึงข้างใน น่าจะเจอคนเยอะกว่านี้

ที่วัดนี้ เป็นโลเคชันใช้ถ่ายหนัง Rurouni Kenshin รุ้งเซิร์ตหามาเองค่ะ มีแฟนอินเตอร์ฯบอกพิกัดไว้เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่หนังฉาย ก็มีคนมาตามหาแบบรุ้งเหมือนกัน ถึงขั้นมีคนมัดรวมโลฯให้เลย แต่กว่ารุ้งจะได้มาก็ผ่านไป 10 ได้ ฮ่า

ตอนแรกจะพยายามเดินหาเอง แต่วัดพื้นที่กว้างมาก ถามคนในวัดเลยละกัน ถามกับคนขายเครื่องรางค่ะ Excuse me, where is location Rurouni Kenshin. ดีส-เฮียร์ ที่นี่ใช่มั้ยคะ พร้อมโชว์รูปในมือถือ แล้วก็กางแผนที่ให้เขาชี้ให้หน่อย ... รุ้งพยายามออกเสียงคำ "รุโรหนิ" แบบคนญี่ปุ่นด้วยนะ ช่างกล้า เหมือนหรือเปล่าก็ไม่รู้ 5555555555 เขายิ้มพยักหน้าทันที