ในที่สุดก็เริ่มการแข่งรอบสามแล้ว แต่ยังไงตอนแรกของรอบก็เรื่อยๆก่อนอยู่แล้ว แค่ลุ้นกันว่าใครเจอกับใครก็พอ ว่าแล้วมาอ่านกันเลย
เปิดตอน ผู้คุมคลังแสงกำลังคุยกับรีลิสที่ตอนนี้อยู่ในสถานะ GM ตำแหน่งผู้วางแผนการในฐานะผู้ช่วยของบร็อคโคลี่ ในเรื่องที่กำลังกังวลที่แม้จะมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วแต่เลเวลของผู้เล่นส่วนใหญ่ยังน้อยเกินไป และอีเวนท์ที่คาดหวังซ่อนซะดิบดีจนเริ่มคิดแล้วว่าอีเวนท์สำคัญอย่างหนึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นนั้นคือ "Decisive Confrontation" รีลิสเองก็คิดเช่นนั้น ยิ่งการวิวัฒนาการของมอนสเตอร์ในกองดาวสมาพันธ์ที่ช้ามากผิดกับมอนสเตอร์ในอวกาศที่พัฒนาไปเร็วมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยสำหรับเพลเยอร์
ผู้คุมถามรีลิสต่อว่าเฟเดริคเคยบอกอะไรเกี่ยวกับอีเวนท์นี้บ้างหรือเปล่า รีลิสที่เคยเป็นคีย์มาสเตอร์จึงรู้บ้างนิดหน่อยอยู่แล้ว แต่ที่รู้ก็แค่มีอีเวนท์นี้ในเกมแน่นอนแต่จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นอีกเรื่อง ที่รู้อีกอย่างคืออีเวนท์ "Decisive Confrontation" จะเกิดหลังจากการรวมกุญแจครบ แต่เนื้อหาแม้แต่ NPC ระดับสูงเองก็ยังไม่รู้ ไม่มีปรากฎในตาราง Timeline และไม่มี NPC คอยควบคุมด้วย
รีลิสบอกเฟเดริคเคยพูดว่าถึงจะมีผู้จบเกมเพียงหนึ่ง แต่ก็ต้องการให้ทุกคนได้สัมผัสการเผชิญหน้าอันยิ่งใหญ่ ข้อมูลในตอนนี้จึงไม่อาจเดารายละเอียดของอีเวนท์ได้ แต่การที่ซุกซ่อนไว้จะต้องมีค่าอย่างมากสำหรับเพลเยอร์อย่างแน่นอน ถ้าอยู่ใน Timeline มักจะเกิดขึ้นเองอยู่แล้ว แต่อีเวนท์นี้ทำให้หน้าที่ในการตามหาเงื่อนไขอยู่ที่พวก NPC ฝ่ายเพลเยอร์ทำเอาผู้คุมบ่นเลยว่าเฟเดริคถึงขนาดตายไปแล้วก็ยังทำให้ลำบากไม่หยุดหย่อน แต่รีลิสนึกถึงตอนที่คุยกับเฟเดริคตอนมีชีวิตอยู่แล้วกลับขำมากกว่าที่ตอนนั้นทำเกมด้วยใบหน้าเคร่งขรึมแต่รู้เลยว่าทำเกมด้วยความสนุก ผู้คุมเองก็คิดแบบนั้นและยังคิดด้วยว่าเฟเดริคบ้าเข้าขั้นจนเห็นใจจักรวาล Neo-Universe จริงๆที่มีพระเจ้าติ๊งต๊อง
แต่ในการประเมินคร่าวๆตอนนี้คิดว่าโอกาสที่จะเกิดอีเวนท์ "Decisive Confrontation" เพลเยอร์น่าจะมีเลเวลอยู่ในช่วง 160-170 แต่ถ้าถูกข้ามไปเมื่อไรก็จะเข้าสู่อีเวนท์ "ไฟนอลดันเจี้ยน" และจะเหลืออีเวนท์สุดท้ายอย่างเดียวในจักรวาลคือ "ลาสต์แบทเทิล" ซึ่งนั้นเรียกได้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเลยทีเดียว ประมาณว่าเล่มเกม RPG ของสมัยก่อนแล้วไปเผลอเซฟในปราสาทบอสทั้งที่เลเวลยังน้อยแล้วออกไม่ได้ ตอนนี้ผู้คุมเลยส่งซีน่อนออกไปเสี่ยงตายหาข้อมูลอยู่เพื่อจะได้ประเมินเวลาที่เหลือ.... ก่อนที่ ไฟนอลบลาสต์ครั้งที่สอง จะยิงออกมา
ทางด้านคอสมิคแกรนท์แบลเทิลที่กำลังเข้าสู่รอบที่สาม ด้านมัจฉาถามถึงความพร้อมของกานดา ตอนนี้จัสติสเรย์ซ่อมเสร็จสมบูรณ์แล้ว แผนการต่อสู้ก็ยัดไปเต็มสมอง กล่องแพนโดร่าที่ให้ภัสสรช่วยภัสสรก็บอกพร้อมแล้ว มัจฉาจึงมั่นใจได้เลยว่าครั้งนี้พร้อมที่สุดแล้วแต่ไวพจน์ก็ยังมีพูดขำๆว่าถึงแบบนั้นกานดาอาจจะลืมแผนหมดก็ได้ มัจฉาก็คิดว่าเป็นไปได้เหมือนกัน
ส่วนทางด้านผู้เหลือรอดทั้ง 4 คน ตอนนี้ก็มาพร้อมกันที่ห้องรอแล้ว กานดาที่มองดูแต่ละคนก็ล้วนมีแต่คนที่หนักใจจะสู้ด้วย แต่ก็คิดว่ายังไงก็ต้องเจออยู่แล้วไม่ช้าก็เร็ว แต่ถึงจะคิดแบบนั้นคนที่กานดาไม่อยากเจอด้วยที่สุดในตอนนี้ก็คืออัษฎา ยิ่งคิดก็ยิ่งเผลอจ้องอัษฎาจนอัษฎารู้สึกได้และรู้เลยคิดอะไรก็เลยบอกจ้องมากเดี๋ยวได้เจอจริงๆหรอก กานดาเลยขอโทษบอกเกรงไปหน่อย
ในรอบนี้กานดาบอกเลยอย่างน้อยขอให้ได้เจอกับพัมพ์กิ้นหรือวัลแคนดีกว่า แต่พอพัมพ์กิ้นได้ยินแบบนั้นก็เลยแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวบอกถึงเขาจะเจอกับใครก็ได้แต่ก็อยากเจอกานดาเหมือนกัน กานดาเลยเริ่มกลัวแล้วบอกขอเป็นวัลแคนดีกว่า แต่อัษฎาบอกเลือกได้ที่ไหนกัน พอพัมพ์กิ้นถามวัลแคนไม่คุยอะไรบ้างเหรอ วัลแคนก็เงียบเหมือนเดิมเลยเซ็งบอกอุตส่าห์จะสร้างบรรยากาศผ่อนคลายสักหน่อย ระหว่างที่คุยกันนั้นเองผู้คุมคลังแสงก็ปรากฎตัวบอกทุกคนไม่ต้องคุยกันมากมาย เดี๋ยวก็รู้แล้วว่าจะได้เจอกับใคร กลับมาทางด้านพรรคพวกกานดา เกษมที่พึ่งมาสมทบคนอื่นๆก็ถามเกษมว่าทางอัษฎาฝึกไม้ตายพร้อมไหม เกษมเองก็บอกไม่รู้ บอกได้อย่างมากแค่ว่าครึ่งๆและบอกเป็นยังไงจะได้เห็นเองในไม่ช้า
แล้วการแข่งรอบที่สามก็เริ่มต้น ทันทีที่ประกาศทั้งสี่คนก็ถูกวาร์ปส่งไปสนามต่อสู้ทันที เหล่าคนดูก็เริ่มจับจ้องที่มอนิเตอร์กันทันที ทางด้านกานดาที่ถูกส่งมาปุ๊บ ทันทีที่เหยียบพื้นสนามต่อสู้ก็รู้สึกได้ถึงแรงลมที่เข้ามาปะทะร่างกายทั้งตัวทันทีจนตกใจ แถมยังรู้สึกแรงขึ้นในพริบตาเดียวจนขาทั้งสองข้างไม่อาจหยุงตัวได้ไหวอีกกานดาจึงต้องรีบก้มอยู่ในท่าเกาะคลานกับพื้นก่อนที่ตัวจะปลิวไปตามแรงลม พอตั้งหลักได้ก็คิดทันทีว่าที่นี่ที่ไหนกันถึงได้สุดโต้งแบบนี้ พอมองรอบๆตัวจึงได้รู้ว่าพื้นที่เกาะอยู่นั้นไม่ใช่พื้นดินหรืออะไรที่อยู่นิ่งกับที่อะไรทั้งนั้น แต่อยู่บน "ยานจรวด" ที่กำลังพุ่งเหนือน้ำด้วยความเร็วสูงมากและรอบๆก็มียานอีกหลายลำพุ่งไปขนาดกัน
สนามต่อสู้ในรอบนี้ของกานดาคือ "มหาสมุทร Esk trail" เป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลและเป็นสนามต่อสู้ความเร็วสูง หากตกลงจากยานจะเสีย HP จำนวนมากและจะถูกดีดกลับมาขึ้นยานใหม่ กานดาถึงกับพูดเลยว่าเร็วจนเกือบร่วงแบบนี้แล้วจะต้องสู้ที่นี่จริงๆเหรอ และที่สำคัญคือคู่ต่อสู้เป็นใครกันเลยรีบมองหาโดยไม่รู้เลยสักนิดว่าคู่ต่อสู้ที่ว่ากำลังยืนสู้ลมอยู่ที่ยานอีกลำใกล้ๆ วัลแคน ตามที่กานดาต้องการนั้นเอง (ตัวฮาทั้งคู่มาเจอกันจนได้)
อีกด้านในอีกสนาม อัษฎาที่มาถึงสนามต่อสู้แล้ว แต่ทันทีที่เดินก็รู้สึกได้ว่าพื้นนั้นไม่แข็งและยิ่งมองดูก็เหมือน "เมฆ" จนพูดได้เลยว่าพื้นแบบนี้ต่อสู้ไม้ถนัด แต่พอมองดูไกลๆก็เห็นว่ายังมีสิ่งก่อสร้างอยู่บ้าง เป็นทิวทัศน์ที่ราวกับสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือคู่ต่อสู้ พอคิดได้และเริ่มหาเสียงของคู่ต่อสู้ก็ส่งมาถึงทันที พัมพ์กิ้นพูดเป็นการทักทายว่าสถานที่ต่อสู้ที่เป็นม่านเมฆสีทองกับบรรยากาศสิ่งก่อสร้างแบบนี้ เหมือนสวรรค์เลยทีเดียว
พออัษฎารู้ว่าต้องเจอกับพัมพ์กิ้นก็ตกใจรีบเตรียมตัวสู้ทันที แต่พัมพ์กิ้นบอกให้รอก่อนและค่อยๆเดินเข้ามาหาอัษฎา แต่อัษฎาระวังตัวแจจนเหงื่อตกเพราะยังไงพัมพ์กิ้นได้ชื่อว่าชอบเล่นทีเผลออยู่แล้ว แต่พัมพ์กิ้นบอกขอเวลาครึ่งนาทีบอกขอเข้าไปคุยใกล้ๆและรับรองด้วยว่าจะไม่โจมตี แต่คนดูที่ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยกันอยู่ก็เลยเห็นแต่ว่าพัมพ์กิ้นค่อยๆเข้าไปในระยะโจมตีแล้ว
พัมพ์กิ้นค่อยๆเดินเข้าไปอีกพร้อมกับบอกว่าถ้าอัษฎาลดดาบให้จะถือว่ายอมคุยด้วย แต่ถ้าโจมตีมาจะถือว่าเลิกคุย จนในที่สุดพัมพ์กิ้นก็เข้าถึงตัวอัษฎาได้และเริ่มทำสิ่งหนึ่งทันทีนั้นคือ.... กอด
ทันทีที่พัมพ์กิ้นกอดอัษฎา เหล่าคนดู(โดยเฉพาะพวกสาวๆ)ถึงกับตะลึง เดากันไม่ออกเลยว่าทำอะไรกัน กระชับมิตรหรือเป็นไม้ตายแบบใหม่ แต่ที่แน่ๆที่เหล่าคนดูต่างรู้กันก็คือทั้งสองคนนี้เป็นศัตรูกันแน่ๆจากประวัติการต่อสู้ทั้งสงครามวินเชสเตอร์และสงครามข้ามทวีปบนดาวเรทิคิวลัม แต่สิ่งที่เหล่าคนดูไม่อาจรู้ได้คือการคุยกันของทั้งสองคนที่จริงๆแล้วพัมพ์กิ้นกำลังพูดอยู่ฝ่ายเดียวอยู่ พัมพ์กิ้นบอกคิดพูดแล้วที่ให้เข้ามาพูดใกล้ๆ บอกไม่ช้าก็เร็วก็ต้องรู้อยู่ดีแต่บอกอัษฎาคงไม่อยากให้เพื่อนได้ยินจากปากเขาแน่และพูดกับอัษฎาเลยว่า...
พัมพ์กิ้น: คุณอัษฎา.. ที่มีโอกาสเป็นผู้ชนะหรือแม้กระทั่งจบเกมนี้
พัมพ์กิ้น: พรรคพวกของพวกเรา
จบตอน
เริ่มต่อประเด็นของอัษฎาแล้วสิ แต่จะเฉลยหรือกักต่อก็รอกันตอนหน้าต่อไป ส่วนฝั่งกานดาคงสู้กันแบบทั้งฮาและเงิบแน่ๆ
ภาพเดียวตอนนี้ตอนต้นก็คุยอย่างเดียว ตอนท้ายก็ยังไม่ได้สู้อะไรอลังการ ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะเอาภาพไหนดี คิดไปคิดมางั้นตอนนี้จัดให้แม่ยกเขาสักตอนละกัน...
[Spoil] EXEcutional - 266 # Suspicious embrace
เปิดตอน ผู้คุมคลังแสงกำลังคุยกับรีลิสที่ตอนนี้อยู่ในสถานะ GM ตำแหน่งผู้วางแผนการในฐานะผู้ช่วยของบร็อคโคลี่ ในเรื่องที่กำลังกังวลที่แม้จะมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วแต่เลเวลของผู้เล่นส่วนใหญ่ยังน้อยเกินไป และอีเวนท์ที่คาดหวังซ่อนซะดิบดีจนเริ่มคิดแล้วว่าอีเวนท์สำคัญอย่างหนึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นนั้นคือ "Decisive Confrontation" รีลิสเองก็คิดเช่นนั้น ยิ่งการวิวัฒนาการของมอนสเตอร์ในกองดาวสมาพันธ์ที่ช้ามากผิดกับมอนสเตอร์ในอวกาศที่พัฒนาไปเร็วมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยสำหรับเพลเยอร์
ผู้คุมถามรีลิสต่อว่าเฟเดริคเคยบอกอะไรเกี่ยวกับอีเวนท์นี้บ้างหรือเปล่า รีลิสที่เคยเป็นคีย์มาสเตอร์จึงรู้บ้างนิดหน่อยอยู่แล้ว แต่ที่รู้ก็แค่มีอีเวนท์นี้ในเกมแน่นอนแต่จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นอีกเรื่อง ที่รู้อีกอย่างคืออีเวนท์ "Decisive Confrontation" จะเกิดหลังจากการรวมกุญแจครบ แต่เนื้อหาแม้แต่ NPC ระดับสูงเองก็ยังไม่รู้ ไม่มีปรากฎในตาราง Timeline และไม่มี NPC คอยควบคุมด้วย
รีลิสบอกเฟเดริคเคยพูดว่าถึงจะมีผู้จบเกมเพียงหนึ่ง แต่ก็ต้องการให้ทุกคนได้สัมผัสการเผชิญหน้าอันยิ่งใหญ่ ข้อมูลในตอนนี้จึงไม่อาจเดารายละเอียดของอีเวนท์ได้ แต่การที่ซุกซ่อนไว้จะต้องมีค่าอย่างมากสำหรับเพลเยอร์อย่างแน่นอน ถ้าอยู่ใน Timeline มักจะเกิดขึ้นเองอยู่แล้ว แต่อีเวนท์นี้ทำให้หน้าที่ในการตามหาเงื่อนไขอยู่ที่พวก NPC ฝ่ายเพลเยอร์ทำเอาผู้คุมบ่นเลยว่าเฟเดริคถึงขนาดตายไปแล้วก็ยังทำให้ลำบากไม่หยุดหย่อน แต่รีลิสนึกถึงตอนที่คุยกับเฟเดริคตอนมีชีวิตอยู่แล้วกลับขำมากกว่าที่ตอนนั้นทำเกมด้วยใบหน้าเคร่งขรึมแต่รู้เลยว่าทำเกมด้วยความสนุก ผู้คุมเองก็คิดแบบนั้นและยังคิดด้วยว่าเฟเดริคบ้าเข้าขั้นจนเห็นใจจักรวาล Neo-Universe จริงๆที่มีพระเจ้าติ๊งต๊อง
แต่ในการประเมินคร่าวๆตอนนี้คิดว่าโอกาสที่จะเกิดอีเวนท์ "Decisive Confrontation" เพลเยอร์น่าจะมีเลเวลอยู่ในช่วง 160-170 แต่ถ้าถูกข้ามไปเมื่อไรก็จะเข้าสู่อีเวนท์ "ไฟนอลดันเจี้ยน" และจะเหลืออีเวนท์สุดท้ายอย่างเดียวในจักรวาลคือ "ลาสต์แบทเทิล" ซึ่งนั้นเรียกได้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเลยทีเดียว ประมาณว่าเล่มเกม RPG ของสมัยก่อนแล้วไปเผลอเซฟในปราสาทบอสทั้งที่เลเวลยังน้อยแล้วออกไม่ได้ ตอนนี้ผู้คุมเลยส่งซีน่อนออกไปเสี่ยงตายหาข้อมูลอยู่เพื่อจะได้ประเมินเวลาที่เหลือ.... ก่อนที่ ไฟนอลบลาสต์ครั้งที่สอง จะยิงออกมา
ทางด้านคอสมิคแกรนท์แบลเทิลที่กำลังเข้าสู่รอบที่สาม ด้านมัจฉาถามถึงความพร้อมของกานดา ตอนนี้จัสติสเรย์ซ่อมเสร็จสมบูรณ์แล้ว แผนการต่อสู้ก็ยัดไปเต็มสมอง กล่องแพนโดร่าที่ให้ภัสสรช่วยภัสสรก็บอกพร้อมแล้ว มัจฉาจึงมั่นใจได้เลยว่าครั้งนี้พร้อมที่สุดแล้วแต่ไวพจน์ก็ยังมีพูดขำๆว่าถึงแบบนั้นกานดาอาจจะลืมแผนหมดก็ได้ มัจฉาก็คิดว่าเป็นไปได้เหมือนกัน
ส่วนทางด้านผู้เหลือรอดทั้ง 4 คน ตอนนี้ก็มาพร้อมกันที่ห้องรอแล้ว กานดาที่มองดูแต่ละคนก็ล้วนมีแต่คนที่หนักใจจะสู้ด้วย แต่ก็คิดว่ายังไงก็ต้องเจออยู่แล้วไม่ช้าก็เร็ว แต่ถึงจะคิดแบบนั้นคนที่กานดาไม่อยากเจอด้วยที่สุดในตอนนี้ก็คืออัษฎา ยิ่งคิดก็ยิ่งเผลอจ้องอัษฎาจนอัษฎารู้สึกได้และรู้เลยคิดอะไรก็เลยบอกจ้องมากเดี๋ยวได้เจอจริงๆหรอก กานดาเลยขอโทษบอกเกรงไปหน่อย
ในรอบนี้กานดาบอกเลยอย่างน้อยขอให้ได้เจอกับพัมพ์กิ้นหรือวัลแคนดีกว่า แต่พอพัมพ์กิ้นได้ยินแบบนั้นก็เลยแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวบอกถึงเขาจะเจอกับใครก็ได้แต่ก็อยากเจอกานดาเหมือนกัน กานดาเลยเริ่มกลัวแล้วบอกขอเป็นวัลแคนดีกว่า แต่อัษฎาบอกเลือกได้ที่ไหนกัน พอพัมพ์กิ้นถามวัลแคนไม่คุยอะไรบ้างเหรอ วัลแคนก็เงียบเหมือนเดิมเลยเซ็งบอกอุตส่าห์จะสร้างบรรยากาศผ่อนคลายสักหน่อย ระหว่างที่คุยกันนั้นเองผู้คุมคลังแสงก็ปรากฎตัวบอกทุกคนไม่ต้องคุยกันมากมาย เดี๋ยวก็รู้แล้วว่าจะได้เจอกับใคร กลับมาทางด้านพรรคพวกกานดา เกษมที่พึ่งมาสมทบคนอื่นๆก็ถามเกษมว่าทางอัษฎาฝึกไม้ตายพร้อมไหม เกษมเองก็บอกไม่รู้ บอกได้อย่างมากแค่ว่าครึ่งๆและบอกเป็นยังไงจะได้เห็นเองในไม่ช้า
แล้วการแข่งรอบที่สามก็เริ่มต้น ทันทีที่ประกาศทั้งสี่คนก็ถูกวาร์ปส่งไปสนามต่อสู้ทันที เหล่าคนดูก็เริ่มจับจ้องที่มอนิเตอร์กันทันที ทางด้านกานดาที่ถูกส่งมาปุ๊บ ทันทีที่เหยียบพื้นสนามต่อสู้ก็รู้สึกได้ถึงแรงลมที่เข้ามาปะทะร่างกายทั้งตัวทันทีจนตกใจ แถมยังรู้สึกแรงขึ้นในพริบตาเดียวจนขาทั้งสองข้างไม่อาจหยุงตัวได้ไหวอีกกานดาจึงต้องรีบก้มอยู่ในท่าเกาะคลานกับพื้นก่อนที่ตัวจะปลิวไปตามแรงลม พอตั้งหลักได้ก็คิดทันทีว่าที่นี่ที่ไหนกันถึงได้สุดโต้งแบบนี้ พอมองรอบๆตัวจึงได้รู้ว่าพื้นที่เกาะอยู่นั้นไม่ใช่พื้นดินหรืออะไรที่อยู่นิ่งกับที่อะไรทั้งนั้น แต่อยู่บน "ยานจรวด" ที่กำลังพุ่งเหนือน้ำด้วยความเร็วสูงมากและรอบๆก็มียานอีกหลายลำพุ่งไปขนาดกัน
สนามต่อสู้ในรอบนี้ของกานดาคือ "มหาสมุทร Esk trail" เป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลและเป็นสนามต่อสู้ความเร็วสูง หากตกลงจากยานจะเสีย HP จำนวนมากและจะถูกดีดกลับมาขึ้นยานใหม่ กานดาถึงกับพูดเลยว่าเร็วจนเกือบร่วงแบบนี้แล้วจะต้องสู้ที่นี่จริงๆเหรอ และที่สำคัญคือคู่ต่อสู้เป็นใครกันเลยรีบมองหาโดยไม่รู้เลยสักนิดว่าคู่ต่อสู้ที่ว่ากำลังยืนสู้ลมอยู่ที่ยานอีกลำใกล้ๆ วัลแคน ตามที่กานดาต้องการนั้นเอง (ตัวฮาทั้งคู่มาเจอกันจนได้)
อีกด้านในอีกสนาม อัษฎาที่มาถึงสนามต่อสู้แล้ว แต่ทันทีที่เดินก็รู้สึกได้ว่าพื้นนั้นไม่แข็งและยิ่งมองดูก็เหมือน "เมฆ" จนพูดได้เลยว่าพื้นแบบนี้ต่อสู้ไม้ถนัด แต่พอมองดูไกลๆก็เห็นว่ายังมีสิ่งก่อสร้างอยู่บ้าง เป็นทิวทัศน์ที่ราวกับสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือคู่ต่อสู้ พอคิดได้และเริ่มหาเสียงของคู่ต่อสู้ก็ส่งมาถึงทันที พัมพ์กิ้นพูดเป็นการทักทายว่าสถานที่ต่อสู้ที่เป็นม่านเมฆสีทองกับบรรยากาศสิ่งก่อสร้างแบบนี้ เหมือนสวรรค์เลยทีเดียว
พออัษฎารู้ว่าต้องเจอกับพัมพ์กิ้นก็ตกใจรีบเตรียมตัวสู้ทันที แต่พัมพ์กิ้นบอกให้รอก่อนและค่อยๆเดินเข้ามาหาอัษฎา แต่อัษฎาระวังตัวแจจนเหงื่อตกเพราะยังไงพัมพ์กิ้นได้ชื่อว่าชอบเล่นทีเผลออยู่แล้ว แต่พัมพ์กิ้นบอกขอเวลาครึ่งนาทีบอกขอเข้าไปคุยใกล้ๆและรับรองด้วยว่าจะไม่โจมตี แต่คนดูที่ไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยกันอยู่ก็เลยเห็นแต่ว่าพัมพ์กิ้นค่อยๆเข้าไปในระยะโจมตีแล้ว
พัมพ์กิ้นค่อยๆเดินเข้าไปอีกพร้อมกับบอกว่าถ้าอัษฎาลดดาบให้จะถือว่ายอมคุยด้วย แต่ถ้าโจมตีมาจะถือว่าเลิกคุย จนในที่สุดพัมพ์กิ้นก็เข้าถึงตัวอัษฎาได้และเริ่มทำสิ่งหนึ่งทันทีนั้นคือ.... กอด
ทันทีที่พัมพ์กิ้นกอดอัษฎา เหล่าคนดู(โดยเฉพาะพวกสาวๆ)ถึงกับตะลึง เดากันไม่ออกเลยว่าทำอะไรกัน กระชับมิตรหรือเป็นไม้ตายแบบใหม่ แต่ที่แน่ๆที่เหล่าคนดูต่างรู้กันก็คือทั้งสองคนนี้เป็นศัตรูกันแน่ๆจากประวัติการต่อสู้ทั้งสงครามวินเชสเตอร์และสงครามข้ามทวีปบนดาวเรทิคิวลัม แต่สิ่งที่เหล่าคนดูไม่อาจรู้ได้คือการคุยกันของทั้งสองคนที่จริงๆแล้วพัมพ์กิ้นกำลังพูดอยู่ฝ่ายเดียวอยู่ พัมพ์กิ้นบอกคิดพูดแล้วที่ให้เข้ามาพูดใกล้ๆ บอกไม่ช้าก็เร็วก็ต้องรู้อยู่ดีแต่บอกอัษฎาคงไม่อยากให้เพื่อนได้ยินจากปากเขาแน่และพูดกับอัษฎาเลยว่า...
พัมพ์กิ้น: คุณอัษฎา.. ที่มีโอกาสเป็นผู้ชนะหรือแม้กระทั่งจบเกมนี้
พัมพ์กิ้น: พรรคพวกของพวกเรา
จบตอน
เริ่มต่อประเด็นของอัษฎาแล้วสิ แต่จะเฉลยหรือกักต่อก็รอกันตอนหน้าต่อไป ส่วนฝั่งกานดาคงสู้กันแบบทั้งฮาและเงิบแน่ๆ
ภาพเดียวตอนนี้ตอนต้นก็คุยอย่างเดียว ตอนท้ายก็ยังไม่ได้สู้อะไรอลังการ ตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะเอาภาพไหนดี คิดไปคิดมางั้นตอนนี้จัดให้แม่ยกเขาสักตอนละกัน...