ผมเป็นคนนึงที่อยากเป็นนักแสดง อาจเพราะเป็นวัยรุ่นอยู่มัธยม ถ้าออกทีวีเวลาไป รร. คงเท่น่าดู แต่จิงๆ การจะได้เป็นยากมากคับ
การเป็นนักแสดง มี3 ทาง
1.มีแมวมองมาดึงตัว
ในข้อนี้จะเป็นการมาติดต่อเรา แน่นอนคุณต้องหน้าตาดี หรือ บุคลิกให้ ซึ่งยากมากๆ แต่งานจะมีมารองรับเสมอ
2.อยู่กับโมเดลลิ่ง
อันนี้ก็ต้องเหนื่อยนิดนึง เพราะ ถึงมีโมเดลลิ่งแต่ก็ต้องส่งตัวไปเเคสติ้งบทอยู่ดี ซึ่งต้องพึ่งความสามารถส่วนตัวอยู่เหมือนกัน
3.พยายามดันตัวเอง
อันนี้เหนื่อยมาก เหนื่อยจิงๆ โคตรเหนื่อยอะ ตัวผมเองเริ่มต้นจากข้อนี้ ผมรับข่าวสารแล้วไปหาที่เอา ตอนแรกก็รับเป็นเอ็กตร้า(ตัวประกอบ) แต่พอรับงานเอ็กตร้าไป 2 งาน มานั่งคิดว่า ชีวิตมันเป็นเอ็กตร้าตลอดไม่ได้หรอก จะรอให้ใครมาดึงก็ฝันไป เอ้กตร้าออกกล้อง 2 วิ ไม่มีใครสนใจ. ผมเลยเริ่มหาที่แคสติ้ง
วันนั้นผมไปแคสเข้าสังกัด ของค่ายค่ายนึงทำซีรี่วัยรุ่น ผมก็ไม่รู้หรอกคนไปเยอะไม๊ บางคนเรียนการแสดงมา บางคนเส้นมา บางคนพ่อแม่สนับสนุน ซึ่งผมไม่ใช่ ผมไปเอง วันนั้นวัน ศ. ผมมีเรียน ผมโดดเรียนไป ผมก็ไปแคส ผ่านมา 1 เดือน เค้าโทรมาบอกว่าติดแล้ว ให้มาได้เลย ผมรู้สึกตกใจ ตื่นเต้น เมื่อไปรวม เค้าบอกว่า นี่คือผู้เข้ารอบ 20 คน จาก 370 คน. ซึ่งผมเด็กสุดในนั้น ทุกวันเสาร์ เราจะมีเวิคช้อปตอน 1-5 ทุ่ม ซึ่งผมไม่สะดวก ไปเพียง2 รอบ ตอนแรกผมจะขอลาออกแล้ว แต่ใจนึงก็เสียดายแทน 350 คนที่เหลือ ผมเลยอยู่ต่อ ค่ายที่ผมอยู่ ผมดิวงานตรงกับผู้กำกับ มีคนในทีม 20 คน ตอนนี้มีบางคนไปเซ็นสัญญากับช่อง 3 แล้ว เหลือรวมๆ 17 คน ผมคือ 1 ใน 17 ที่เข้ารอบ ผู้กำกับบอกว่า ทางค่ายจะทำหนัง1เรื่อง กับ ซีรี่1เรื่อง. ทางเราจะดูว่าใคร เหมาะกับเล่นหนังหรือซีรี่ ซึ่งอาจได้เล่นทั้ง 17 คน และเป็นตัวเมนทุกคน ตัวเมนคือตัวหลัก. ผมมาทราบตอนทำบุญสตูดิโอว่า ผมได้เล่นซีรี่ เปิดกล้องปลายๆปี ผมดีใจมาก แต่ผมก็คงไม่หยุดแค่นี้ ผมต้องเดินหน้าประกวด Smart Boy ประกวด Workpoint และอีกหลายๆงาน. มันไม่ง่ายคับที่จะมาเป็นนักแสดง. หน้าตาเอาแค่ 30%. อีก70% ความสามารถคับ. ทั้งนี้ผมจะบอกว่า. งานที่ไม่ดี หรืองานที่ไม่ต้องการดั่งที่หวัง ทำไปเถอะคับ ทำเอาประสพการณ์ เพื่อไปใช้ให้เกิดผลสำเร็จในงานหน้า
อยากจะเป็นนักแสดง ไม่ง่ายนะคับ
การเป็นนักแสดง มี3 ทาง
1.มีแมวมองมาดึงตัว
ในข้อนี้จะเป็นการมาติดต่อเรา แน่นอนคุณต้องหน้าตาดี หรือ บุคลิกให้ ซึ่งยากมากๆ แต่งานจะมีมารองรับเสมอ
2.อยู่กับโมเดลลิ่ง
อันนี้ก็ต้องเหนื่อยนิดนึง เพราะ ถึงมีโมเดลลิ่งแต่ก็ต้องส่งตัวไปเเคสติ้งบทอยู่ดี ซึ่งต้องพึ่งความสามารถส่วนตัวอยู่เหมือนกัน
3.พยายามดันตัวเอง
อันนี้เหนื่อยมาก เหนื่อยจิงๆ โคตรเหนื่อยอะ ตัวผมเองเริ่มต้นจากข้อนี้ ผมรับข่าวสารแล้วไปหาที่เอา ตอนแรกก็รับเป็นเอ็กตร้า(ตัวประกอบ) แต่พอรับงานเอ็กตร้าไป 2 งาน มานั่งคิดว่า ชีวิตมันเป็นเอ็กตร้าตลอดไม่ได้หรอก จะรอให้ใครมาดึงก็ฝันไป เอ้กตร้าออกกล้อง 2 วิ ไม่มีใครสนใจ. ผมเลยเริ่มหาที่แคสติ้ง
วันนั้นผมไปแคสเข้าสังกัด ของค่ายค่ายนึงทำซีรี่วัยรุ่น ผมก็ไม่รู้หรอกคนไปเยอะไม๊ บางคนเรียนการแสดงมา บางคนเส้นมา บางคนพ่อแม่สนับสนุน ซึ่งผมไม่ใช่ ผมไปเอง วันนั้นวัน ศ. ผมมีเรียน ผมโดดเรียนไป ผมก็ไปแคส ผ่านมา 1 เดือน เค้าโทรมาบอกว่าติดแล้ว ให้มาได้เลย ผมรู้สึกตกใจ ตื่นเต้น เมื่อไปรวม เค้าบอกว่า นี่คือผู้เข้ารอบ 20 คน จาก 370 คน. ซึ่งผมเด็กสุดในนั้น ทุกวันเสาร์ เราจะมีเวิคช้อปตอน 1-5 ทุ่ม ซึ่งผมไม่สะดวก ไปเพียง2 รอบ ตอนแรกผมจะขอลาออกแล้ว แต่ใจนึงก็เสียดายแทน 350 คนที่เหลือ ผมเลยอยู่ต่อ ค่ายที่ผมอยู่ ผมดิวงานตรงกับผู้กำกับ มีคนในทีม 20 คน ตอนนี้มีบางคนไปเซ็นสัญญากับช่อง 3 แล้ว เหลือรวมๆ 17 คน ผมคือ 1 ใน 17 ที่เข้ารอบ ผู้กำกับบอกว่า ทางค่ายจะทำหนัง1เรื่อง กับ ซีรี่1เรื่อง. ทางเราจะดูว่าใคร เหมาะกับเล่นหนังหรือซีรี่ ซึ่งอาจได้เล่นทั้ง 17 คน และเป็นตัวเมนทุกคน ตัวเมนคือตัวหลัก. ผมมาทราบตอนทำบุญสตูดิโอว่า ผมได้เล่นซีรี่ เปิดกล้องปลายๆปี ผมดีใจมาก แต่ผมก็คงไม่หยุดแค่นี้ ผมต้องเดินหน้าประกวด Smart Boy ประกวด Workpoint และอีกหลายๆงาน. มันไม่ง่ายคับที่จะมาเป็นนักแสดง. หน้าตาเอาแค่ 30%. อีก70% ความสามารถคับ. ทั้งนี้ผมจะบอกว่า. งานที่ไม่ดี หรืองานที่ไม่ต้องการดั่งที่หวัง ทำไปเถอะคับ ทำเอาประสพการณ์ เพื่อไปใช้ให้เกิดผลสำเร็จในงานหน้า