เมื่อผ่านตรงนั้นมา เราก็เผลอหลับไปนิดหน่อย และแล้วก็เดินทางมาถึงที่ปาย ซึ่งฝนก็กำลังจะตกลงมาอีกรอบ
นักท่องเที่ยวที่เพิ่งมาถึง และที่กำลังรอกลับ ยังคงอยู่เต็มท่ารถไปหมด

จากนั้นคนที่เกสเฮ้าส์ ก็มารับเรา เพื่อไปยังที่พัก ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ เรามาปาย เพื่อต้องการความรู้สึกแบบบ้านๆ
เราต้องหาที่พักที่ห่างจากย่านที่มีคนพลุกพล่าน ซักหน่อย ซึ่งดีมากเลยที่เพื่อนเราเลือกที่พักได้ดี
ข้างหลังเป็นต้นไม้ และภูเขา ข้างหน้าเป็นทุ่งนาสีเขียว และมีภูเขาเล็กๆซ้อนทับอีกที
ส่วนรอบๆบริเวณที่พัก ก็มีต้นไม้น้อยใหญ่ และดงดอกไม้หลากสี ให้ได้ชื่นใจ ส่วนที่นอนไม่ต้องหรูหรา หรือกว้างขว้างมากมาย
มีแค่ที่นอน หมอน มุ้ง ทีวี และพัดลม แค่นี้ก็สบายที่สุด ที่พักของเราก็ที่ปายก็คือ
Prilpai Guesthouse & Cafe'
การต้อนรับถือว่าอบอุ่นดี เหมือนได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลยค่ะ

หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พัก เราสองคนก็ไม่พลาดที่จะไปเดินเล่นชมแสงสียามค่ำคืนในเมืองปาย
ถ น น ค น เ ดิ น ที่ ป า ยวันนี้เงียบกว่าทุกครั้งแน่นอน เพราะฝนตกลงมาเรื่อยๆ
นักท่องเที่ยวก็เลยหลบฝนตามร้านอาหาร 2 ข้างทางเดินเต็มไปหมด
มื้อเย็นของวันแรกก็ฝากท้องไว้ที่ร้าน “
น้ อ ง เ บี ย ร์ อ า ห า ร ต า ม สั่ ง เจ้าดังในย่านนั้น”

กับข้าวที่นี่ อร่อยรสชาดดี หรือว่าเราหิวก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ เมื่อท้องอิ่มก็เดินกางร่มชิวๆ กันไป
เดินจนรู้สึกสบายท้องก็หาร้าน นั่งชิวกันยาวๆ ล่ะนะ ซึ่งก็เป็นร้านเล็กไม่ใหญ่มาก
แต่การบริการที่เป็นกันเองของคนขายที่ทำให้ใคร ๆก็ติดใจอยู่ยาว
ราคาไม่ขอพูดถึง เพราะขายเบียร์นอก เป็นหลัก คนไทยไม่ค่อยมานั่งกิน
จะมีก็แต่ ฝรั่ง เกาหลี คืนนี้คือค่ำคืนของ จขกท. ค่ำคืนนี้เราจะดื่มด่ำบรรยากาศ ของเมืองปาย
พักผ่อนทั้งที ขออยู่ในโหมด “ทิ้งตัว” เลยก็แล้วกัน

อยู่นี่ไม่มีใครรู้จักเรา จะกลัวอะไร วันนี้มีอะไรน่าลอง ก็ลอง กินเหมือนคนที่ไม่เคยกินมาก่อน ได้เพื่อนเป็นคนเกาหลีซะด้วย
ไม่รู้คุยกันยังไงเหมือนกัน ก่อนแยกย้ายกันกลับ ก็กอดร่ำลา ซะยกใหญ่ ก็ตลกดีนะ ....

เวลาเที่ยงคืน ทุกคนแยกย้าย ร้านปิด ใครอยากปาร์ตี้ต่อก็ที่บ้านแล้วกัน ส่วนเราคืนนี้ต้องสู้กับตัวเอง บ้านหมุน เข้าสู้วงโคจรของมนุษย์ไร้วิญญา และก็ อยู่ใน “สภาวะทิ้งตัว” ฝันดีทุกคน คืนนี้สนุกมาก ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้สร้างมิตรภาพที่ดี และพรุ่งนี้ จขกท. จะตื่นมารับแสงแดดยามเช้าของวันใหม่ สำหรับคืนนี้ฝันดี นะ (ณ) เมืองปาย
[CR] สายหมอก ณ ป(ล)าย ฝน
คิดมาหลายวันเหมือนกันค่ะ ว่าจะรีวิว อะไรดี เพื่อเป็นการบันทึกความทรงจำของตัวเองลงในกระทู้พันทิป
ส่วน จขกท.นั้น ถือว่าเป็นครั้งแรก ของการได้ไปเที่ยว อ.ปาย
แน่นอนอย่างที่เรารู้ เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ความเจริญก็วิ่งเข้าไปหาเมืองปาย อย่างรวดเร็ว
หลายๆ อย่างเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มมีการพัฒนา ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น มีที่พัก โรงแรม และเกสเฮ้าส์ ผุดขึ้นเต็มไปหมด ถึงแม้ปาย จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่มนต์เสน่ห์ของผู้คนเมืองปาย ก็ยังมีอยู่ให้เห็น
" เ ริ่ ม แ ร ก ข อ ง ก า ร เ ดิ น ท า ง ใ น ฤ ดู ฝน พ ร ำ "
เรื่องราวเริ่มต้นจากความไม่ได้ตั้งใจ ว่าตัวเองจะได้มีโอกาสไปเที่ยวเตร่ แบบนี้
เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะถึงสิ้นปี และต้องกลับบ้านที่ จ.ลำปาง
ค่าแท๊กซี่จากประชาชื่น ถึงสนามบิน 120.-บาท
บินลัดเลาะก้อนเมฆน้อยใหญ่ และสายฝนที่โปรยปราย ลงมาอย่างไม่ปราณี ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง
เมื่อถึงสนามบินเชียงใหม่ก็ต้อง ต่อรถ 4 ล้อแดง ไปที่ อาเขต 50.-บาท/คน และติดต่อบริษํทรถตู้ที่จะเดินทางไปอ.ปาย รถตู้รอบที่เร็วที่สุดรอบ 12.30 น. ค่ารถตู้ 150.-/คน ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมงจะถึงที่หมายของเรา รถตู้ไปปายเท่าที่เห็น จะเป็นของ บ.เปรมประชาขนส่ง
ระหว่างรอ เราก็หาข้าวกินรองท้อง เดินซื้อขนมไว้กินต่อบนรถ และจะต้องซื้อ ยาดม / ยาแก้เมารถ (เม็ดสีเหลือง)
มีขายค่ะ เม็ดละ 5.-บาทแต่ทริปนี้พวกเราไม่ต้องซื้อนะคะ เพราะ จขกท. เตรียมมา ปกติก็เป็นคนไม่ค่อยเมารถหรอกนะคะ
แต่! โค้งปายเรื่องเล่าเยอะ เตรียมพร้อมไว้ก่อนดีที่สุด ถึงเวลารถออกจากอาเขต ขึ้นรถก็กินยาก่อนเลย คนละ 1 เม็ด
ช่วงเวลาที่น่าสนุก ตื่นเต้น กำลังจะเกิดขึ้นในอีก ไม่กีชั่วโมงข้างหน้านี้
เมื่อแอร์รถเริ่มเย็น ระหว่างทางฝนก็ตกลงมา เที่ยวน่าฝน อากาศดีเหมือนกันนะคะ
ลมเย็นๆกับแสงแดดอุ่นๆที่ ปาย.จะเป็นยังไงกันนะ ซักอยากให้ถึงเร็วๆ
อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย อ.ขุนยวม ก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้พิชิตเส้นทางในฝัน 2,070 โค้ง สู่เมืองแม่ฮ่องสอน...
หากวนรอบไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 107 และ 1095 จะผ่าน อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ปาย อ.ปางมะผ้า ก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้พิชิตเส้นทางสุด
” ผู้ พิ ชิ ต เ ส้ น ท า ง สุ ด โ ร แ ม น ติ ก 1 , 8 6 4 โ ค้ ง ”
อย่าเพิ่งเมายาจนหลับซะก่อนล่ะ (แอบบอกคนข้างๆ) ><
เส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยวคงจะสนุกน่าดู อีกอย่างช่วงนี้ฤดูฝนด้วย คาดว่าจะได้เจอหมอกสวยๆ ตลอดทาง
ประมาณว่าเที่ยวเมืองปายในสายหมอก …จะว่าไปแล้ว การเที่ยวปายในฤดูฝน เป็นอะไรที่สวยมาก
คนปายเองยังแนะนำพวกเราอีกด้วยว่า " ป า ย ส ว ย สุ ด ใ น ฤ ดู ฝ น น ะ "
เพราะปายเป็นเมืองในหุบเขา มีภูเขาล้อบรอบไว้ทุกด้าน
นี่!...
ตกใจกับคำขู่
จขกท. หันไปมองหน้าคนข้างๆ อารมณ์ในตอนนั้นคือ มองแค่ตาก็เข้าใจตรงกัน เราคงต้องจัดยาแก้เมารถอีกซัก 1 เม็ด อย่างไม่ลังเล สรุปแค่เดินทางขาไป เราก็กินยา คนละ 2 เม็ด กว่าจะถึงปาย เราต้องเจอสถานการณ์ที่น่าตื่นเต้น ทั้งฝนตก ถนนที่กำลังสร้างใหม่ และต้นไม้ใหญ่ล้มขว้างทาง ซึ่งนั้นก็หมายความว่า เราจะเดินทางไปถึงที่หมาย ช้ากว่าที่กำหนดเอาไว้
เหตุการณ์ต้นไม้ล้มขว้างทาง ยามที่ถึงฤดูฝน มีได้บ่อยครั้ง ทำให้รถติดยาวซักพักใหญ่
นักท่องเที่ยวที่เพิ่งมาถึง และที่กำลังรอกลับ ยังคงอยู่เต็มท่ารถไปหมด
จากนั้นคนที่เกสเฮ้าส์ ก็มารับเรา เพื่อไปยังที่พัก ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ เรามาปาย เพื่อต้องการความรู้สึกแบบบ้านๆ
เราต้องหาที่พักที่ห่างจากย่านที่มีคนพลุกพล่าน ซักหน่อย ซึ่งดีมากเลยที่เพื่อนเราเลือกที่พักได้ดี
ข้างหลังเป็นต้นไม้ และภูเขา ข้างหน้าเป็นทุ่งนาสีเขียว และมีภูเขาเล็กๆซ้อนทับอีกที
ส่วนรอบๆบริเวณที่พัก ก็มีต้นไม้น้อยใหญ่ และดงดอกไม้หลากสี ให้ได้ชื่นใจ ส่วนที่นอนไม่ต้องหรูหรา หรือกว้างขว้างมากมาย
มีแค่ที่นอน หมอน มุ้ง ทีวี และพัดลม แค่นี้ก็สบายที่สุด ที่พักของเราก็ที่ปายก็คือ Prilpai Guesthouse & Cafe'
การต้อนรับถือว่าอบอุ่นดี เหมือนได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลยค่ะ
หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พัก เราสองคนก็ไม่พลาดที่จะไปเดินเล่นชมแสงสียามค่ำคืนในเมืองปาย
ถ น น ค น เ ดิ น ที่ ป า ยวันนี้เงียบกว่าทุกครั้งแน่นอน เพราะฝนตกลงมาเรื่อยๆ
นักท่องเที่ยวก็เลยหลบฝนตามร้านอาหาร 2 ข้างทางเดินเต็มไปหมด
มื้อเย็นของวันแรกก็ฝากท้องไว้ที่ร้าน “ น้ อ ง เ บี ย ร์ อ า ห า ร ต า ม สั่ ง เจ้าดังในย่านนั้น”
กับข้าวที่นี่ อร่อยรสชาดดี หรือว่าเราหิวก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ เมื่อท้องอิ่มก็เดินกางร่มชิวๆ กันไป
เดินจนรู้สึกสบายท้องก็หาร้าน นั่งชิวกันยาวๆ ล่ะนะ ซึ่งก็เป็นร้านเล็กไม่ใหญ่มาก
แต่การบริการที่เป็นกันเองของคนขายที่ทำให้ใคร ๆก็ติดใจอยู่ยาว
ราคาไม่ขอพูดถึง เพราะขายเบียร์นอก เป็นหลัก คนไทยไม่ค่อยมานั่งกิน
จะมีก็แต่ ฝรั่ง เกาหลี คืนนี้คือค่ำคืนของ จขกท. ค่ำคืนนี้เราจะดื่มด่ำบรรยากาศ ของเมืองปาย
พักผ่อนทั้งที ขออยู่ในโหมด “ทิ้งตัว” เลยก็แล้วกัน
อยู่นี่ไม่มีใครรู้จักเรา จะกลัวอะไร วันนี้มีอะไรน่าลอง ก็ลอง กินเหมือนคนที่ไม่เคยกินมาก่อน ได้เพื่อนเป็นคนเกาหลีซะด้วย
ไม่รู้คุยกันยังไงเหมือนกัน ก่อนแยกย้ายกันกลับ ก็กอดร่ำลา ซะยกใหญ่ ก็ตลกดีนะ ....
เวลาเที่ยงคืน ทุกคนแยกย้าย ร้านปิด ใครอยากปาร์ตี้ต่อก็ที่บ้านแล้วกัน ส่วนเราคืนนี้ต้องสู้กับตัวเอง บ้านหมุน เข้าสู้วงโคจรของมนุษย์ไร้วิญญา และก็ อยู่ใน “สภาวะทิ้งตัว” ฝันดีทุกคน คืนนี้สนุกมาก ได้เจอเพื่อนใหม่ ได้สร้างมิตรภาพที่ดี และพรุ่งนี้ จขกท. จะตื่นมารับแสงแดดยามเช้าของวันใหม่ สำหรับคืนนี้ฝันดี นะ (ณ) เมืองปาย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น