Pawn Sacrifice สร้างโดยอิงจากเรื่องจริงของเซียนหมากรุกอเมริกาคนแรกที่ท้าแข่งกับเซียนหมากรุกแชมป์โลกจากโซเวียทเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในช่วงสงครามเย็น นอกจากนั้นเขายังต้องสู้กับภาวะหวาดระแวงและความหวาดกลัวในจิตใจตัวเองด้วย
เป็นหนังที่มีโครงเรื่องน่าสนใจ เกี่ยวกับการใช้หมากรุกเป็นตัวแทนการแข่งขันเพื่อพิสูจน์ว่าว่าประเทศไหนจะเป็นเจ้าแห่งการเล่นเกมที่ใช้สติปัญญาเช่นนี้ ในช่วงที่อเมริกาและโซเวียทกำลังแข่งกันเป็นที่หนึ่งในทุกๆด้าน แต่ประเด็นนี้ก็ถูกนำเสนออย่างเบาบางไปหน่อย คนดูยังไม่ค่อยรู้สึกลุ้นไปกับพระเอกเท่าไร หรือไม่สามารถที่จะสัมผัสถึงความตึงเครียดได้ว่าถ้าพระเอกแพ้แล้ว จะส่งผลอะไรบ้าง หนังน่าจะเชื่อมโยงเกมส์หมากรุกเข้ากับสถาณการณ์สงครามเย็น รวมถึงเดิมพันแพ้ชนะให้ตึงเครียดมากกว่านี้หน่อย
แต่ประเด็นหลักที่หนังเน้นนำเสนอก็คืออาการหมกมุ่นในเกมส์หมากรุกของพระเอก รวมถึงอาการหวาดระแวงในจิตใจที่กลัวว่าจะมีคนลอบทำร้ายตลอดเวลา ซึ่งอาการเหล่านี้แม้จะทำให้พระเอกทุกข์ทรมาน แต่มันก็คือสาเหตุที่ทำให้เขามีฝีมือเดินหมากล้ำเลิศ หนังพยายามจะศึกษาประเด็นบุคลิคของอัจฉริยะที่ภายนอกอาจดูสวยหรู แต่เบื้องหลังต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆมาเยอะ ซึ่งตรงนี้หนังทำออกมาได้ดีพอควร
สิ่งหนึ่งที่คิดว่าหนังเรื่องนี้ ขาดหายไปอย่างน่าเสียดายก็คือการพัฒนาตัวละคร ตลอดเรื่องเราจะเห็นพระเอกเป็นอัจฉริยะหมากรุกที่ก้าวร้าวและไร้เหตุผล ดูไม่มีอะไรให้เอาใจช่วยเลยสักนิด และจนถึงตอนจบก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ พระเอกไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ถ้าหากว่าพระเอกมีการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงสักนิด เรียนรู้น้ำใจนักกีฬาจากเกมส์หมากรุก จากการแพ้ชนะที่ผ่านมาบ้าง คนดูคงเทใจ อินกับตัวพระเอกได้มากขึ้น
ฉากการแข่งขันเกมส์หมากรุกทำออกมาพอใช้ได้ แม้จะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก แต่ด้วยการแสดงที่ดีผ่านสายตาท่าทางเครียดๆ ทำให้คนดูพอมีอาการลุ้นด้วยได้บ้าง แต่ไคลแม็กซ์การแข่งขันก็ยังไม่พีคเท่าไร
2 ดาวครึ่ง
ติดตามชมข่าวสาร ตัวอย่างหนัง โปสเตอร์หนัง ใหม่ๆ และพูดคุยเรื่องหนังเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ สารวัตรโรงหนัง ตามลิงค์ด้านล่างนะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว "Pawn Sacrifice" เกมส์หมากรุกวุ่นๆ กับ นายตัวร้าย
เป็นหนังที่มีโครงเรื่องน่าสนใจ เกี่ยวกับการใช้หมากรุกเป็นตัวแทนการแข่งขันเพื่อพิสูจน์ว่าว่าประเทศไหนจะเป็นเจ้าแห่งการเล่นเกมที่ใช้สติปัญญาเช่นนี้ ในช่วงที่อเมริกาและโซเวียทกำลังแข่งกันเป็นที่หนึ่งในทุกๆด้าน แต่ประเด็นนี้ก็ถูกนำเสนออย่างเบาบางไปหน่อย คนดูยังไม่ค่อยรู้สึกลุ้นไปกับพระเอกเท่าไร หรือไม่สามารถที่จะสัมผัสถึงความตึงเครียดได้ว่าถ้าพระเอกแพ้แล้ว จะส่งผลอะไรบ้าง หนังน่าจะเชื่อมโยงเกมส์หมากรุกเข้ากับสถาณการณ์สงครามเย็น รวมถึงเดิมพันแพ้ชนะให้ตึงเครียดมากกว่านี้หน่อย
แต่ประเด็นหลักที่หนังเน้นนำเสนอก็คืออาการหมกมุ่นในเกมส์หมากรุกของพระเอก รวมถึงอาการหวาดระแวงในจิตใจที่กลัวว่าจะมีคนลอบทำร้ายตลอดเวลา ซึ่งอาการเหล่านี้แม้จะทำให้พระเอกทุกข์ทรมาน แต่มันก็คือสาเหตุที่ทำให้เขามีฝีมือเดินหมากล้ำเลิศ หนังพยายามจะศึกษาประเด็นบุคลิคของอัจฉริยะที่ภายนอกอาจดูสวยหรู แต่เบื้องหลังต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆมาเยอะ ซึ่งตรงนี้หนังทำออกมาได้ดีพอควร
สิ่งหนึ่งที่คิดว่าหนังเรื่องนี้ ขาดหายไปอย่างน่าเสียดายก็คือการพัฒนาตัวละคร ตลอดเรื่องเราจะเห็นพระเอกเป็นอัจฉริยะหมากรุกที่ก้าวร้าวและไร้เหตุผล ดูไม่มีอะไรให้เอาใจช่วยเลยสักนิด และจนถึงตอนจบก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ พระเอกไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ถ้าหากว่าพระเอกมีการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงสักนิด เรียนรู้น้ำใจนักกีฬาจากเกมส์หมากรุก จากการแพ้ชนะที่ผ่านมาบ้าง คนดูคงเทใจ อินกับตัวพระเอกได้มากขึ้น
ฉากการแข่งขันเกมส์หมากรุกทำออกมาพอใช้ได้ แม้จะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก แต่ด้วยการแสดงที่ดีผ่านสายตาท่าทางเครียดๆ ทำให้คนดูพอมีอาการลุ้นด้วยได้บ้าง แต่ไคลแม็กซ์การแข่งขันก็ยังไม่พีคเท่าไร
2 ดาวครึ่ง
ติดตามชมข่าวสาร ตัวอย่างหนัง โปสเตอร์หนัง ใหม่ๆ และพูดคุยเรื่องหนังเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ สารวัตรโรงหนัง ตามลิงค์ด้านล่างนะครับ
https://www.facebook.com/moviepolice
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและร่วมแสดงความคิดเห็นครับ