'ทีโอที' หวั่นดีลพันธมิตรขัด พ.ร.บ. ร่วมลงทุน

กระทู้ข่าว

          บอร์ด "ทีโอที" ยังไม่สรุปปิดดีล "พันธมิตร" ร่อนหนังสือหารือ "คลัง-สคร." อีกรอบ หวั่นเข้าข่าย "พ.ร.บ.ร่วมทุน" ตั้งทีมวิเคราะห์ดีลให้ครบทุกมิติ คาด "ทาวเวอร์โค-บรอดแบนด์" จบก่อน พร้อมตั้งทีมกฎหมายร่วมกับอัยการเดินหน้าฟ้องเรียกค่าเสียหายแก้สัมปทานเอไอเอส

          แหล่งข่าวระดับสูงจาก บมจ.ทีโอที เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการทีโอที (23 ก.ย. 2558) ยังไม่สรุปเลือกพันธมิตรธุรกิจ (Strategy Partner) เนื่องจากกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าควรทำหนังสือสอบถามไปยังกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ให้ชัดเจนว่าข้อเสนอที่เอกชนเสนอมาโดยเฉพาะ รูปแบบการร่วมทุนที่ทีโอทีต้องทำสัญญากับเอกชนเข้าข่าย พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 หรือไม่

          "บอร์ดมีการหารือว่า ควรให้ชัดเจนว่าโมเดลร่วมทุนที่เอกชนเสนอมาเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ หากไม่รอบคอบอาจต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ยอมเสียเวลาตรงนี้ ดีกว่า แม้บางความเห็นมองว่าน่าจะเลียนแบบโมเดลความร่วมมือของทรูและแคทได้ ทั้งได้ให้ฝ่ายบริหารไปวิเคราะห์รายละเอียดของแต่ละดีลให้ครบทุกมิติ เพราะทีโอทีเป็นรัฐวิสาหกิจจะมองแต่เรื่องรายได้อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูหน้าที่ในแง่มุมอื่นด้วย"

          ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าข้อเสนอของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) มีความโดดเด่นด้านผลตอบแทนแต่ยังคงต้องพิจารณาในมิติอื่นด้วย ซึ่งนอกจากเอไอเอสแล้วยังมีอีก 4 ราย ได้แก่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น, บมจ.ล็อกซเล่ย์, กลุ่มทรู และบริษัท โมบายแอลทีอี จำกัด

          "เรื่องสรุปดีลพาร์ตเนอร์ต้องเร่งทำเพื่อให้ทีโอทีอยู่รอด แต่บอร์ดชุดนี้เน้นว่าต้องเป็นการทำธุรกิจร่วมกัน ไม่ใช่ให้ทีโอทีนอนรอส่วนแบ่งเฉย ๆ ต้อง Win-Win คาดว่า การใช้ประโยชน์จากเสาโทรคมนาคม และการหาพาร์ตเนอร์ให้ธุรกิจบรอดแบนด์จะได้ข้อยุติก่อน"

          ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (15 ก.ย. 2558) ที่ให้ดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาสัมปทานระหว่างทีโอทีและเอไอเอส ในครั้งที่ 6 และ 7 ให้เป็นไปตามกฎหมายนั้น บอร์ดทีโอทีส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว เพื่อให้ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย รวมถึงผู้บริหารทีโอที ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด ซึ่งคณะทำงานฝั่งอัยการ และฝ่ายบริหารของทีโอทีมีการหารือร่วมกันไป 2-3 ครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการประเมินมูลค่าความเสียหายว่าอยู่ที่ 72,000 ล้านบาท ตามที่บอร์ดชุดก่อนเคยสรุปไว้หรือไม่

          "การจะฟ้องร้องต้องละเอียดรอบคอบ เรื่องมูลค่าความเสียหายต้องมีหลักเกณฑ์การคำนวณ พร้อมหลักฐานประกอบชัดเจน ตัวเลขที่ปรากฏออกมาไม่ว่าจะเป็นในคำพิพากษาศาลฎีกาหรือคำชี้มูลอื่น ๆ ต้องรวบรวมให้ครบถ้วน บางส่วนเป็นการประเมินบนสมมุติฐานเท่านั้น แต่หลัก ๆ จะยึดตามเอกสารของคณะกรรมการตามมาตรา 22 พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ"

          ก่อนหน้านี้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า การหาพาร์ตเนอร์เป็นสิ่งที่ทีโอทีต้องเร่งดำเนินการ เช่นเดียวกับเสนอแผนธุรกิจมาให้กระทรวงไอซีทีพิจารณา สุดท้ายบอร์ดทีโอที จะได้ข้อสรุปว่าเอไอเอสจะเป็นพาร์ตเนอร์หรือไม่ก็ไม่มีปัญหา ถ้าชี้แจงเหตุผล และ รายละเอียดข้อเสนอทั้งหมดได้เหมาะสมและดีกับองค์กร

ขอขอบคุณแหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558 (หน้า 28)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่