ไทย จำเป็นต้องมี โรงไฟฟ้าถ่านหิน "สนพ." แจงเพื่อกระจายความเสี่ยง

ไทย จำเป็นต้องมี โรงไฟฟ้าถ่านหิน "สนพ." แจงเพื่อกระจายความเสี่ยง  
แนวหน้า ฉบับวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558


นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยในงานเสวนาในหัวข้อ “คนไทยกลัวอะไร ถ้ามีโรงไฟฟ้าถ่านหิน” ซึ่งจัดโดย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ไทยจำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติมากเกินไป เพราะขณะนี้ไทยมีปริมาณก๊าซเพียงพอที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าอีกเพียง 5 ปีเท่านั้น ขณะที่ไม่สามารถจัดหาแหล่งก๊าซได้เพิ่มเติม และหากจะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี มาผลิตกระแสไฟฟ้าทดแทน ก็ต้องเผชิญกับราคาค่าไฟที่ผันผวน เพราะราคาแอลเอ็นจีอ้างอิงจากราคาน้ำมันในตลาดโลก ขัดต่อแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ หรือพีดีพี 2015ที่วางกรอบอัตราค่าไฟฟ้าไว้ที่ 4.5 บาทต่อหน่วยตลอดแผน


“อยากให้คนไทยเปิดใจกว้าง เอาข้อมูลในอดีตมาคิดวิเคราะห์และมองในอนาคต ซึ่งในภาคใต้ไฟฟ้าปัจจุบันกำลังผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ หากปี 2562-2563 ไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่เลย จะเกิดปัญหาด้านคุณภาพไฟฟ้า ต้นทุนแพงขึ้น และหาก 20 ปี ไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่เลย จะเป็นอย่างไร และที่สำคัญการที่ภาคใต้อยากจะส่งเสริมการท่องเที่ยว จะมีจำนวนนักท่องเที่ยว

เพิ่มขึ้น ก็ต้องมีโรงไฟฟ้าให้เพียงพอ เพราะจากตัวเลขสถิติการใช้ไฟฟ้า นักท่องเที่ยว 1 คน ใช้ไฟฟ้ามากกว่า คนท้องถิ่น 4 คน” นายทวารัฐ กล่าว

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ช่วงปลายแผนพีดีพี 2015 ที่กำหนดว่า จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเป็น 30% หรือ 7,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 18% ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

ค่อนข้างมาก จึงมองว่าจำนวนโรงไฟฟ้าถ่านหิน 9 โรงในขณะนี้ แบ่งเป็นโรงที่สร้างทดแทนโรงเก่า 6 โรง และโรงที่มีแผนสร้างใหม่ช่วงปี 2569-2579 จำนวน 3 โรงเป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายเห็นต่างมองว่าควรเพิ่มสัดส่วนพลังงานประเภทอื่นทดแทนถ่านหินนั้น พลังงานทดแทนซึ่งดูจะมีความหวังมากที่สุด ก็ยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตามยืนยันว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีสะอาด ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา กล่าวว่า ตนคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เพราะเกรงจะกระทบต่อภาวะโลกร้อนที่นักท่องเที่ยวให้ความใส่ใจ และกระทบต่อการท่องเที่ยวในที่สุด รวมทั้งเกรงเรื่องผลกระทบต่อปะการังจากการขนส่งถ่านหิน โดยจังหวัดกระบี่มีการใช้ไฟฟ้า 120 เมกะวัตต์ มีโรงงานปาล์ม 30 โรง หากส่งเสริมให้ใช้พลังงานชีวมวลทดแทนในกระบี่ก็เพียงพอแล้ว

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2258104

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่