ไปเห็นมาจากกระทู้นี้ครับ
https://www.quora.com/Thailand/What-is-unique-about-Thai-culture-and-what-can-the-world-learn-from-it มีคนตั้งกระทู้ถามว่าอะไรคือเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยและอะไรที่โลกสามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งนั้น?
เห็นว่ามีเรื่องที่น่าสนใจดีอย่างชื่อเล่น ใครจะไปนึกว่าเค้าจะคิดเอาเรื่องนี้ไปไกล เอาไปเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัว การตรวจสอบตัวตนเลยทีเดียว อ่านแล้วก็คิดไม่ถึงว่าชื่อเล่นมันจะเป็นประเด็นได้ขนาดนี้ ส่วนเรื่องอื่นก็อาจจะเป็นแง่ลบบ้างเช่น Thai time
ลองมาอ่านกันดูครับ
อะไรเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยและอะไรที่โลกสามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งนั้น?
Tim Bushell, ท่องเที่ยวในไทยมา 3 ปีครึ่ง อาศัยอยู่ในหลายที่
ทุกคนในประเทศไทยมีชื่อเล่น และรู้กันในเพื่อนๆ ครอบครัว และใช้แนะนำตัวเองในบริบทต่างๆ ในสังคม
ชื่อเล่นถูกเลือกโดยพ่อแม่ ปกติแล้วก็จะมีพยางค์เดียว เลือกคำที่ฟังแล้วดูน่ารัก บางครั้งเด็กก็จะตั้งชื่อเล่นเองเมื่อโตขึ้นหรือโรงเรียนตั้งให้หรือเพื่อนๆ ตั้งให้ บางทีก็อาจจะอิงมาจากลักษณะของตัวคนนั้น ดูตัวอย่างชื่อเล่นได้จากลิงค์นี้
http://www.thai-language.com/id/589843
คนไทยใช้ชื่อจริงกับสิ่งที่เป็นทางการเช่น ชื่อบัญชีธนาคาร, ทะเบียนสมรส, ใบขับขี่, บัตรประชาชน, หนังสือเดินทาง และอื่นๆ
การตั้งชื่อเล่นนอกเหนือจากเพื่อความสนุกสนานแล้วมันดูเข้ากันได้กับโลกสมัยใหม่ สิ่งที่ระบุตัวตนของเราและความเป็นส่วนตัวมักจะถูกเอามาขาย เป้าหมายเพื่อการโจรกรรม มันดูเข้าท่าถ้าจะระบุตัวตนของเราในระดับที่เหมาะสม
ผมคิดว่าในหลายๆ สถานการณ์มันก็ดูว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ที่จะต้องใช้ชื่อจริงของเรา เช่นในสถานที่อย่างผับ, ปาร์ตี้ และคลับ
การจัดการในฟิตเนสต้องการรู้ว่าสมาชิกเป็นใครบ้างอันนี้เป็นเหตุผลที่รับได้เผื่อมีปัญหาทางด้านกฎหมายแต่สมาชิกคนอื่นในคลับก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าใครชื่อจริงว่าอะไร เมื่อเริ่มสนิทกันแล้วก็รู้จักชื่อจริงกันได้เป็นสัญลักษณ์ถึงการไว้ใจกัน มันทำให้ผมนึกถึงหนังสือของ Le Guin ที่ชื่อ "Earthsea" ในเรื่องชื่อจริงจะมีพลังเวทมนตร์ดังนั้นจึงไม่ค่อยบอกให้ใครรู้ยกเว้นคนที่เชื่อถือได้
ในเรื่องอื่นๆ ที่การใช้ชื่อเล่นเหมาะสมกว่าก็เช่นการสั่งอาหารในร้านอาหารหรือการจองโต๊ะ พวกเขาจะรู้ชื่อจริงไปทำไม? ถ้าลูกค้าจ่ายสดอยู่แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้ว่าเค้าเป็นใคร ตัวอย่างอื่นก็เช่นถ้าฝากรูปไว้แล้วมาเอาในวันพรุ่งนี้หรือถ้าสั่งของในร้านแล้วรอของ เค้ารู้แค่เบอร์โทรศัพท์ที่จะเอาไว้แจ้งก็พอและการใช้ชื่อเล่นในการติดต่อก็จะลดความเสี่ยงที่จะต้องเปิดเผยตัวตนมากเกินไปซึ่งพวกมิจฉาชีพอาจเอาไปใช้ทำอะไรไม่ดีได้
ลองคิดให้ไกลขึ้น ทำไมถึงไม่มีสองชื่อในบัตรเครดิตเลยล่ะ ชื่อนึงเอาไว้ใช้ในการซื้อของในร้านเพื่อให้ร้านเอาไว้ตรวจสอบกับธนาคาร ส่วนอีกชื่อนึงจะรู้กันเฉพาะกับธนาคารเพื่อให้คนที่ถือบัตรใช้ในการติดต่อกับธนาคาร
และในอินเตอร์เนตมันดูเหมาะสมที่จะมีชื่อที่ใช้ในทางการและชื่อที่ไม่เป็นทางการอยู่แล้ว นี่ควรจะมีในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บ การแชร์ชื่อจริงก็ทำได้แค่ในวงจำกัด
และวัฒนธรรมการตั้งชื่อของคนไทยไม่ได้มีไว้เพื่อความสนุกสนานแต่เพื่อว่าการรู้ชื่อจริงหมายถึงการใช้ในการตรวจสอบด้วยว่าใช่คนนี่หรือเปล่า (เพราะชื่อจริงก็ซ้ำได้ การใช้ชื่อจริงและชื่อเล่นในการระบุคนจะทำได้แม่นยำกว่า) นี่มันก็เหมือนการตรวจสอบ 2 ชั้น มันหมายความว่าคนไทยเข้าสู่ยุคดิจิตอลเรียบร้อยแล้ว และก็เหมือนว่าเราก็น่าจะใช้วิธีตรวจสอบแบบนี้เหมือนกัน
Steve Waddington, วิศวกรเครือข่าย, CIO และ CEO ตอนนี้เป็น Gemologist(นักวิเคราะห์พลอย?)
วัฒนธรรมไทยมีที่อะไรที่แตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตกหลายอย่าง เช่น
- การให้ความเคารพนับถือต่อผู้ปกครองและผู้สูงอายุ
- ความสุภาพและเคารพคนแปลกหน้า
- การให้ความเคารพนับถือต่อครูบาอาจารณ์
- เด็กเป็นอิสระในการเป็นเด็ก (อาจจะเพราะไม่ต้องทำงานเรียนอย่างเดียว เวลาว่างก็เที่ยวเล่น?)
- เซนส์ในการติดต่อสื่อสารและการใช้คำเรียกคนอื่นเช่น พี่ น้อง
- ความเชื่อเรื่องจิตและวิญญาณ
- ระดับในการใช้คำแบบสุภาพ
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยคือการไหว้ซึ่งใช้ในการทักทายและการลาหรือเพื่อขอบคุณหรือขอโทษ ผมว่าเป็นวัฒนธรรมที่ดูน่ารัก
Graham Marshall
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย
ผมไม่รู้ว่านี่เป็นเอกลักษณ์หรือเปล่า แต่ผมได้เรียนรู้สิ่งนึงจากวัฒนธรรมไทย คือไม่เคร่งเรื่องเวลา "Thai time" เป็นเรื่องที่รู้กันเวลาต้องติดต่อกับคนไทยและส่วนมากจะอึดอัดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมก็เป็น
ง่ายๆ เลยคนไทยดูไม่ได้ใช้ชีวิตโดยผูกกับนาฬิกา เวลานัดหมายของคนไทยดูจะเป็นเวลาอ้างอิงมากกว่าจะเป็นเดดไลน์ ผมเคยเห็นคนเขียนบอกว่าเป็นเพราะการจราจรในกรุงเทพที่ไม่แน่นอนทำให้กำหนดเวลาที่ใช้ในการเดินทางไม่ได้ แต่จากที่เจอก็เป็นเหมือนกันทั้งประเทศนะ ก็ไม่รู้เหมือนว่าใช่เหตุผลนี่แน่เหรอ
เวลากินอาหารก็เหมือนกัน ผมเคยเห็นคนไทยกินข้าวเที่ยงตอน 10:30 กินข้าวเย็นตอน 5:30 มันดูเร็วไปสำหรับผมนะ แต่คนไทยก็มีทำอย่างนี้เหมือนกัน
แล้วผมได้เรียนรู้อะไรมา? มันยากที่จะได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ ถ้าผมมีนัดหมายตอน 10:30 และตอนนี้เป็นเวลา 10:25 และต้องใช้เวลาอีก 10 นาทีกว่าจะไปถึงผมคงอยู่ไม่สุขแล้วล่ะ การเลทไป 95% ก็คือ 5 นาทีมันไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นักแต่ก็ยังกังวลอยู่ดี แต่สำหรับคนไทย แม้แต่ว่ากำลังเดินทางอยู่ก็ยังไม่เหลือบมองนาฬิกาเลย เดี๋ยวก็ถึงเอง ไม่มีอะไรต้องกังวล
Brad Florescu, นักเขียนคอลัมภ์เกี่ยวกับท่องเที่ยวประเทศไทย
www.thailander.eu
สิ่งนึงที่ทำให้วัฒนธรรมไทยแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ก็คือการนำเอาสิ่งต่างๆ จากวัฒนธรรมอื่นมาผสมรวมกันได้พอดี ลองกินอาหารไทยหรือฟังเพลงไทยดูแล้วจะเข้าใจ
เมื่อต่างชาติพูดถึงคนไทย
เห็นว่ามีเรื่องที่น่าสนใจดีอย่างชื่อเล่น ใครจะไปนึกว่าเค้าจะคิดเอาเรื่องนี้ไปไกล เอาไปเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัว การตรวจสอบตัวตนเลยทีเดียว อ่านแล้วก็คิดไม่ถึงว่าชื่อเล่นมันจะเป็นประเด็นได้ขนาดนี้ ส่วนเรื่องอื่นก็อาจจะเป็นแง่ลบบ้างเช่น Thai time
ลองมาอ่านกันดูครับ
อะไรเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยและอะไรที่โลกสามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งนั้น?
Tim Bushell, ท่องเที่ยวในไทยมา 3 ปีครึ่ง อาศัยอยู่ในหลายที่
ทุกคนในประเทศไทยมีชื่อเล่น และรู้กันในเพื่อนๆ ครอบครัว และใช้แนะนำตัวเองในบริบทต่างๆ ในสังคม
ชื่อเล่นถูกเลือกโดยพ่อแม่ ปกติแล้วก็จะมีพยางค์เดียว เลือกคำที่ฟังแล้วดูน่ารัก บางครั้งเด็กก็จะตั้งชื่อเล่นเองเมื่อโตขึ้นหรือโรงเรียนตั้งให้หรือเพื่อนๆ ตั้งให้ บางทีก็อาจจะอิงมาจากลักษณะของตัวคนนั้น ดูตัวอย่างชื่อเล่นได้จากลิงค์นี้ http://www.thai-language.com/id/589843
คนไทยใช้ชื่อจริงกับสิ่งที่เป็นทางการเช่น ชื่อบัญชีธนาคาร, ทะเบียนสมรส, ใบขับขี่, บัตรประชาชน, หนังสือเดินทาง และอื่นๆ
การตั้งชื่อเล่นนอกเหนือจากเพื่อความสนุกสนานแล้วมันดูเข้ากันได้กับโลกสมัยใหม่ สิ่งที่ระบุตัวตนของเราและความเป็นส่วนตัวมักจะถูกเอามาขาย เป้าหมายเพื่อการโจรกรรม มันดูเข้าท่าถ้าจะระบุตัวตนของเราในระดับที่เหมาะสม
ผมคิดว่าในหลายๆ สถานการณ์มันก็ดูว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ที่จะต้องใช้ชื่อจริงของเรา เช่นในสถานที่อย่างผับ, ปาร์ตี้ และคลับ
การจัดการในฟิตเนสต้องการรู้ว่าสมาชิกเป็นใครบ้างอันนี้เป็นเหตุผลที่รับได้เผื่อมีปัญหาทางด้านกฎหมายแต่สมาชิกคนอื่นในคลับก็ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าใครชื่อจริงว่าอะไร เมื่อเริ่มสนิทกันแล้วก็รู้จักชื่อจริงกันได้เป็นสัญลักษณ์ถึงการไว้ใจกัน มันทำให้ผมนึกถึงหนังสือของ Le Guin ที่ชื่อ "Earthsea" ในเรื่องชื่อจริงจะมีพลังเวทมนตร์ดังนั้นจึงไม่ค่อยบอกให้ใครรู้ยกเว้นคนที่เชื่อถือได้
ในเรื่องอื่นๆ ที่การใช้ชื่อเล่นเหมาะสมกว่าก็เช่นการสั่งอาหารในร้านอาหารหรือการจองโต๊ะ พวกเขาจะรู้ชื่อจริงไปทำไม? ถ้าลูกค้าจ่ายสดอยู่แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้ว่าเค้าเป็นใคร ตัวอย่างอื่นก็เช่นถ้าฝากรูปไว้แล้วมาเอาในวันพรุ่งนี้หรือถ้าสั่งของในร้านแล้วรอของ เค้ารู้แค่เบอร์โทรศัพท์ที่จะเอาไว้แจ้งก็พอและการใช้ชื่อเล่นในการติดต่อก็จะลดความเสี่ยงที่จะต้องเปิดเผยตัวตนมากเกินไปซึ่งพวกมิจฉาชีพอาจเอาไปใช้ทำอะไรไม่ดีได้
ลองคิดให้ไกลขึ้น ทำไมถึงไม่มีสองชื่อในบัตรเครดิตเลยล่ะ ชื่อนึงเอาไว้ใช้ในการซื้อของในร้านเพื่อให้ร้านเอาไว้ตรวจสอบกับธนาคาร ส่วนอีกชื่อนึงจะรู้กันเฉพาะกับธนาคารเพื่อให้คนที่ถือบัตรใช้ในการติดต่อกับธนาคาร
และในอินเตอร์เนตมันดูเหมาะสมที่จะมีชื่อที่ใช้ในทางการและชื่อที่ไม่เป็นทางการอยู่แล้ว นี่ควรจะมีในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บ การแชร์ชื่อจริงก็ทำได้แค่ในวงจำกัด
และวัฒนธรรมการตั้งชื่อของคนไทยไม่ได้มีไว้เพื่อความสนุกสนานแต่เพื่อว่าการรู้ชื่อจริงหมายถึงการใช้ในการตรวจสอบด้วยว่าใช่คนนี่หรือเปล่า (เพราะชื่อจริงก็ซ้ำได้ การใช้ชื่อจริงและชื่อเล่นในการระบุคนจะทำได้แม่นยำกว่า) นี่มันก็เหมือนการตรวจสอบ 2 ชั้น มันหมายความว่าคนไทยเข้าสู่ยุคดิจิตอลเรียบร้อยแล้ว และก็เหมือนว่าเราก็น่าจะใช้วิธีตรวจสอบแบบนี้เหมือนกัน
Steve Waddington, วิศวกรเครือข่าย, CIO และ CEO ตอนนี้เป็น Gemologist(นักวิเคราะห์พลอย?)
วัฒนธรรมไทยมีที่อะไรที่แตกต่างจากวัฒนธรรมตะวันตกหลายอย่าง เช่น
- การให้ความเคารพนับถือต่อผู้ปกครองและผู้สูงอายุ
- ความสุภาพและเคารพคนแปลกหน้า
- การให้ความเคารพนับถือต่อครูบาอาจารณ์
- เด็กเป็นอิสระในการเป็นเด็ก (อาจจะเพราะไม่ต้องทำงานเรียนอย่างเดียว เวลาว่างก็เที่ยวเล่น?)
- เซนส์ในการติดต่อสื่อสารและการใช้คำเรียกคนอื่นเช่น พี่ น้อง
- ความเชื่อเรื่องจิตและวิญญาณ
- ระดับในการใช้คำแบบสุภาพ
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยคือการไหว้ซึ่งใช้ในการทักทายและการลาหรือเพื่อขอบคุณหรือขอโทษ ผมว่าเป็นวัฒนธรรมที่ดูน่ารัก
Graham Marshall
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย
ผมไม่รู้ว่านี่เป็นเอกลักษณ์หรือเปล่า แต่ผมได้เรียนรู้สิ่งนึงจากวัฒนธรรมไทย คือไม่เคร่งเรื่องเวลา "Thai time" เป็นเรื่องที่รู้กันเวลาต้องติดต่อกับคนไทยและส่วนมากจะอึดอัดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมก็เป็น
ง่ายๆ เลยคนไทยดูไม่ได้ใช้ชีวิตโดยผูกกับนาฬิกา เวลานัดหมายของคนไทยดูจะเป็นเวลาอ้างอิงมากกว่าจะเป็นเดดไลน์ ผมเคยเห็นคนเขียนบอกว่าเป็นเพราะการจราจรในกรุงเทพที่ไม่แน่นอนทำให้กำหนดเวลาที่ใช้ในการเดินทางไม่ได้ แต่จากที่เจอก็เป็นเหมือนกันทั้งประเทศนะ ก็ไม่รู้เหมือนว่าใช่เหตุผลนี่แน่เหรอ
เวลากินอาหารก็เหมือนกัน ผมเคยเห็นคนไทยกินข้าวเที่ยงตอน 10:30 กินข้าวเย็นตอน 5:30 มันดูเร็วไปสำหรับผมนะ แต่คนไทยก็มีทำอย่างนี้เหมือนกัน
แล้วผมได้เรียนรู้อะไรมา? มันยากที่จะได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้ ถ้าผมมีนัดหมายตอน 10:30 และตอนนี้เป็นเวลา 10:25 และต้องใช้เวลาอีก 10 นาทีกว่าจะไปถึงผมคงอยู่ไม่สุขแล้วล่ะ การเลทไป 95% ก็คือ 5 นาทีมันไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่นักแต่ก็ยังกังวลอยู่ดี แต่สำหรับคนไทย แม้แต่ว่ากำลังเดินทางอยู่ก็ยังไม่เหลือบมองนาฬิกาเลย เดี๋ยวก็ถึงเอง ไม่มีอะไรต้องกังวล
Brad Florescu, นักเขียนคอลัมภ์เกี่ยวกับท่องเที่ยวประเทศไทย www.thailander.eu
สิ่งนึงที่ทำให้วัฒนธรรมไทยแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ก็คือการนำเอาสิ่งต่างๆ จากวัฒนธรรมอื่นมาผสมรวมกันได้พอดี ลองกินอาหารไทยหรือฟังเพลงไทยดูแล้วจะเข้าใจ