เรื่องมีอยู่ว่า เราจับได้ว่ามามีตัวเองมีกิ๊ก เราไม่รู้หรอกว่าเค้ามีอะไรกันหรือไม่มี เราคบกับสามีมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญา จบมาแต่งงาน มีลูก ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทำงานด้วยกันเจอหน้ากันทุกวัน เรามีลูกสองคน คนโตจะ 6 ขวบพรุ่งนี้ คนเล็ก 4 ขวบ จริงๆมีคนพูดเรื่องนี้เข้าหูมานานแล้ว แต่เรารู้จักสามีดี สามีเราเป็นคนหนักแน่น รักลูก รักเรา เพราะเราลำบากมาด้วยกัน มาสร้างบ้าน ซื้อรถ กว่าจะมีวันนี้ได้ เรียกได้ว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาด ไม่มีเงินติดบ้านก็เคยเป็นมาแล้ว กอดกันร้องไห้ก็ทำมาแล้ว เราไว้ใจเค้า เราปกป้องเค้าจากคนอื่นเสมอ เค้าไปมาไหนเราถามเรื่องงาน เรื่องนู้นนี่นั้น เพราะหน่วยงานของเค้าค่อนข้างมีปัญหา เราเลยไม่คิดอะไร พูดง่ายๆว่าเรามันใจและเชื่อใจเค้ามาก แต่ช่วงหลังๆเค้าพยายามจะให้เราออกจากบ้านเสาร์ อาทิตย์ คือตอนนี้เราเรียนต่ออยู่อีกจังหวัด พยายามหาข้ออ้างให้เราออกจากบ้านเสาร์อาทิตย์ให้ได้ แต่ก่อนเค้าจะไปกับเราตลอด แต่ปีกว่ามานี่เค้าแทบไม่ไปกับเราเลย ให้เรานั่งรถโดยสารไปเอง
พฤติกรรมทที่เปลี่ยนไป
เค้ากลับบ้านค่ำ ไม่เรียกว่าค่ำดีกว่า เรียกว่าดึกดีกว่า
ไม่สอนการบ้านลูก
ไม่เอาลูกเข้านอน
ไม่ ไม่ ไม่ ทุกอย่างที่เค้าเคยทำ แต่เราก็ยังเชื่อใจเค้านะว่าเค้าไม่มีใคร คงเป็นเพราะงาน
แต่สุดท้าย เรื่องที่คนอื่นพูดเป็นจริง เราเห็นกับตา เป็นแค่รูปถ่ายค่ะ แล้วคลิปวีดีโอ พึ่งเห็นวันเสาร์ที่ผ่านมา เราทำใจไม่ได้เลยบินไป กทม. เพื่อหาเพื่อนแล้วระบาย เรานั่งร้องไห้ไปตลอดทาง เราจะโดดคอนโดเพื่อน แต่เพื่อนดึงไว้ทัน แล้วบอกเราว่าคิดถึงลูกเยอะๆ เราก็เรียกสติกลับมา วันอาทิตย์เรากลับบ้าน เราไม่พูดอะไร ทำตัวปกติ แล้วเราก็โพสเฟสบุ๊ค เป็นเนื้อเพลงถ้าเธอจะไป ก่อนหน้าก็โพสว่า "อยู่ให้ได้ ชีวิตจะเป็นสุขขึ้น" และอีกหลายๆโพส แต่หนักสุดคงเป็น "อายมั้ย ไม่อาย แต่กูอาย" เที่ยงวันจันทร์สามีเราโทรมา ซึ่งปกติเมื่อนานมาแล้วเราทานข้าวกลางวันกันทุกวัน แต่ปีกว่ามานี้ เรากับเค้าไม่ทานข้าวด้วยกันเลย นานๆที แต่วันจันทร์ที่ผ่านมาเค้าโทรมา เรารู้แล้วว่าเค้าเริ่มร้อนตัว เค้าคงคิดว่าเรารู้ แต่คงไม่คิดว่าเราจะเห็นหลักฐานพวกนี้ เค้าคิดว่าแค่คนอื่นพูด เค้ามาใส่อารมณ์กับเรา บอกว่าจะไปเชื่อคนอื่นทำไม เธอต้องเชื่อฉัน ฉันอยู่กับเธอ เราอยู่ด้วยกัน คนอื่นไม่เคยหวังดีกับเธอ ใครเคยช่วยเหลือเธอบ้าง มีแต่ฉันไม่ใช่หรอ นู้นนี้นั้น จริงอย่างเค้าพูดเราไม่มีเพื่อนเลย ชีวิตเราไม่แต่เค้า เพื่อนเราคือเพื่อนสมัยมันธยม นอกนั้นที่เรารู้จักคือเพื่อนเค้าทั้งหมด ตอนนั้นเค้าไม่ยอมรับ ไม่ยอมรับอะไรเลย พอบ่ายโมงกว่า เราก็แยกย้ายกันไปทำงาน เย็นไปรับลูก เราไม่ไหว เราตะครอกลูก เรารู้ว่าเราทำไม่ดี เราเลยโทรหาเค้า แล้วพาเด็กๆไปส่งยาย ตอนนั้นสภาพจริงใจเราแย่มาก เพราะเค้ายังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลับจากส่งลูก เค้ามาส่งเราที่บ้านเราเปิดรูปทั้งหมดให้เค้าดู เค้าไม่พูดอะไร เค้าเดินออกจากบ้านไป พอกลับมาเราโทรถามว่าโทรบอกผู้หญิงคนนั้นแล้วหรอ เค้าตอบว่าใช่ เราไม่มีอะไรจะพูดอีก เพราะเค้ายังทำอะไรลับหลังเรา สุดท้ายเราก็ร้องไห้จนหลับไป
วันอังคาร เมื่อวานนี้เอง เราไม่พูดกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง เที่ยง เค้าโทรมาอีก เราบอกว่าไม่หิว ถามเค้าจะว่าจะทานที่ไหน เค้าบอกจะกลับบ้าน เพราะเห็นเราซักผ้าไว้ จะกลับไปตาก (แอบดีใจที่เราเริ่มจะมาใส่ใจเราอีก) เราเลยยืมมอเตอร์ไซต์พี่ที่ทำงานกลับเข้าบ้าน (เราพักอยู่บ้านพักข้าราชการค่ะ ซึ่งอยู่ในที่ทำงาน) แต่เราไปไม่เห็นเค้า เราเลยโทรถามว่าอยู่ไหน เค้าบอกออกมากินข้าว (กับผู้หญิงคนนั้น และ เพื่อนร่วมงาน) เค้าบอกเราว่าที่บ้านไม่มีอะไรกิน (ความเป็นจริงที่บ้านมีทุกอย่าง) เราไม่พูดไรต่อเลยบอกซื้อเผือกทอดมาให้ด้วยนะ เสียงผู้หญิงบอกมีประชุมบ่ายโมง คงไม่ทัน เค้าก็บอกเราว่าไม่ทันจะประชุมแล้ว เราก็ไม่พูดอะไรแล้ววางสาย บ่ายจะครึ่งเค้ามาหาเราที่ทำงานพร้อมเผือกทอด เราก็บอกขอบคุณนะ
ถึงจุดนี้ เราเลยคิดว่าเค้าคงจะรักกันมาก เราเป็นแค่แม่ของลูก เท่านั้น
เย็นไปส่งลูกบ้านยายให้เหตุผลลูกว่าคุณพ่อมีงานด่วน คุณแม่จะต้องไปบ้านป้าแอน ลูกเข้าใจ จบ ไปแวะซื้อขนม ตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน
ระหว่างทางขากลับ เราก็ทะเลาะกันมาตลอดทาง เค้าบอกให้เราเฉย ให้เรามองผ่าน เรายอมรับว่าเราเจ็บกับคำพูดเค้ามาก แต่จากเที่ยงวันที่วางสายกับเรา เราก็คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเลยพูดคำนี้ออกไป เราให้เค้าเลือก ถ้ายังจะเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นให้ลาออกไปซะ ถ้าพูดหญิงคนนั้นไม่ออก เราจะหย่ากัน เค้าบอกแบบไม่คิดเลย ต้องจะลาออกเอง จะไปเอง เราถามต่อว่าแล้วลูก ภาระต่างๆจะทิ้งไว้ให้เราหรอ เค้าไม่พูด เราถามย้ำอีก แล้วลูกล่ะ เค้าตอบว่าก็อยู่กับเธอไง จบ เราไม่พูดอะไรอีก กลับมาบ้านร้องไห้เป็นนางเอกแปบนึง เค้าออกไปทำงานต่อ เราเค้าไปบ้านญาตผู้ใหญ่เพื่อระบาย สุดท้ายแล้วพอเรากลับมาบ้าน เค้าพูดหว่านล้อม เค้าบอกผู้หญิงคนนั้นจะลาออก แต่เราก็สงสารอีก นางเอกมากค่ะ เราเป็นคนขี้สงสาร ใจอ่อน ซึ่งสามีเรารู้ดี ผู้หญิงอยากคุย นัดเราเจอเย็นวันนี้ เราบอกว่าเราไม่คุย ไม่อะไรทั้งนั้น เราฝากเค้าไปถามผู้หญิงคนนั้นว่าถ้าเค้าเป็นเราจะทำยังไง เราไม่พร้อมเจอใคร พรุ่งนี้วันเกิดลูกก็พาไปทำบุญ นู้นนี่นั้น เหมือนที่ผ่านมา เราทำใจ คือเราก็ไม่ได้สวยอะไรมากมายพอดูได้ไม่อายใคร แต่หลังจากมีลูกเราก็ปล่อยตัวเองอ้วน หน้าเป็นรอยสิว แต่เรื่องแต่งหน้านี้ไม่เคยเลยเราแต่หน้าไม่เป็นออกเป็นผ฿้หญิงลุยๆมากกว่า ไม่อ่อนหวาน ไม่มีมารยาอะไรทั้งนั้น เป็นคนตรงไปตรงมา เราควรทำยังไงดีค่ะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สาวโสด แต่งงานมีสามี มีลูกสาม คน นี่คือเรื่องที่เราช๊อค สามีเราทำได้ยังไง แล้วผู้หญิงคนนั้นทำได้ยังไง แล้วถ้าสามีของผู้หญิงคนั้นรู้ อะไรจะเกิดขึ้น เราจะเป็นนางเองยอมรับซะตากรรม ที่ให้เพื่อนร่วมงานมองเราว่าเป็นควาย อยู่แบบนี้ หรือเราจะเป็นนางมรร้ายประกาศให้โลกรู้ถึงความเลวของพวกเค้า จะเลือกอยู่แบบไหนดี
ปล. ถามใจตัวเองแล้วค่ะ ใจเราเองยังรักและผูกพันกับสามี เรายังเป็นห่วงเค้าเพราะเราดูแลเค้าทุกเรื่อง แต่เราสับสนมาก เพราะเราไม่มีความไว้ใจให้เค้าอีกแล้ว เรามองผ่านไม่ได้ ขนาดเรื่องกิ๊กเก่าสมัยเรียนเรายังพูดไม่จบเลย (พูดจนลูกบวชยังไม่จบค่ะ เจ็บมาก นั้นยังไม่แต่นะค่ะ) เราจะอยู่กับความระแวง สุดท้ายคนที่ไม่มีความสุขคือเรา ใช่มั้ยค่ะ เรากำลังจะเป็นบ้า 5555555
ปล.อีก พิมพ์ผิด หรือ พิมพ์วนไปวนมาก็ขออภัยมาด้วยนะค่ะ คือตอนนี้ไหวจะเคลียร์ตัวเองจริง
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำนะค่ะ
สามีมีภรรยาน้อย หาทางออก จากผู้มีประสบการณ์ค่ะ
พฤติกรรมทที่เปลี่ยนไป
เค้ากลับบ้านค่ำ ไม่เรียกว่าค่ำดีกว่า เรียกว่าดึกดีกว่า
ไม่สอนการบ้านลูก
ไม่เอาลูกเข้านอน
ไม่ ไม่ ไม่ ทุกอย่างที่เค้าเคยทำ แต่เราก็ยังเชื่อใจเค้านะว่าเค้าไม่มีใคร คงเป็นเพราะงาน
แต่สุดท้าย เรื่องที่คนอื่นพูดเป็นจริง เราเห็นกับตา เป็นแค่รูปถ่ายค่ะ แล้วคลิปวีดีโอ พึ่งเห็นวันเสาร์ที่ผ่านมา เราทำใจไม่ได้เลยบินไป กทม. เพื่อหาเพื่อนแล้วระบาย เรานั่งร้องไห้ไปตลอดทาง เราจะโดดคอนโดเพื่อน แต่เพื่อนดึงไว้ทัน แล้วบอกเราว่าคิดถึงลูกเยอะๆ เราก็เรียกสติกลับมา วันอาทิตย์เรากลับบ้าน เราไม่พูดอะไร ทำตัวปกติ แล้วเราก็โพสเฟสบุ๊ค เป็นเนื้อเพลงถ้าเธอจะไป ก่อนหน้าก็โพสว่า "อยู่ให้ได้ ชีวิตจะเป็นสุขขึ้น" และอีกหลายๆโพส แต่หนักสุดคงเป็น "อายมั้ย ไม่อาย แต่กูอาย" เที่ยงวันจันทร์สามีเราโทรมา ซึ่งปกติเมื่อนานมาแล้วเราทานข้าวกลางวันกันทุกวัน แต่ปีกว่ามานี้ เรากับเค้าไม่ทานข้าวด้วยกันเลย นานๆที แต่วันจันทร์ที่ผ่านมาเค้าโทรมา เรารู้แล้วว่าเค้าเริ่มร้อนตัว เค้าคงคิดว่าเรารู้ แต่คงไม่คิดว่าเราจะเห็นหลักฐานพวกนี้ เค้าคิดว่าแค่คนอื่นพูด เค้ามาใส่อารมณ์กับเรา บอกว่าจะไปเชื่อคนอื่นทำไม เธอต้องเชื่อฉัน ฉันอยู่กับเธอ เราอยู่ด้วยกัน คนอื่นไม่เคยหวังดีกับเธอ ใครเคยช่วยเหลือเธอบ้าง มีแต่ฉันไม่ใช่หรอ นู้นนี้นั้น จริงอย่างเค้าพูดเราไม่มีเพื่อนเลย ชีวิตเราไม่แต่เค้า เพื่อนเราคือเพื่อนสมัยมันธยม นอกนั้นที่เรารู้จักคือเพื่อนเค้าทั้งหมด ตอนนั้นเค้าไม่ยอมรับ ไม่ยอมรับอะไรเลย พอบ่ายโมงกว่า เราก็แยกย้ายกันไปทำงาน เย็นไปรับลูก เราไม่ไหว เราตะครอกลูก เรารู้ว่าเราทำไม่ดี เราเลยโทรหาเค้า แล้วพาเด็กๆไปส่งยาย ตอนนั้นสภาพจริงใจเราแย่มาก เพราะเค้ายังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลับจากส่งลูก เค้ามาส่งเราที่บ้านเราเปิดรูปทั้งหมดให้เค้าดู เค้าไม่พูดอะไร เค้าเดินออกจากบ้านไป พอกลับมาเราโทรถามว่าโทรบอกผู้หญิงคนนั้นแล้วหรอ เค้าตอบว่าใช่ เราไม่มีอะไรจะพูดอีก เพราะเค้ายังทำอะไรลับหลังเรา สุดท้ายเราก็ร้องไห้จนหลับไป
วันอังคาร เมื่อวานนี้เอง เราไม่พูดกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง เที่ยง เค้าโทรมาอีก เราบอกว่าไม่หิว ถามเค้าจะว่าจะทานที่ไหน เค้าบอกจะกลับบ้าน เพราะเห็นเราซักผ้าไว้ จะกลับไปตาก (แอบดีใจที่เราเริ่มจะมาใส่ใจเราอีก) เราเลยยืมมอเตอร์ไซต์พี่ที่ทำงานกลับเข้าบ้าน (เราพักอยู่บ้านพักข้าราชการค่ะ ซึ่งอยู่ในที่ทำงาน) แต่เราไปไม่เห็นเค้า เราเลยโทรถามว่าอยู่ไหน เค้าบอกออกมากินข้าว (กับผู้หญิงคนนั้น และ เพื่อนร่วมงาน) เค้าบอกเราว่าที่บ้านไม่มีอะไรกิน (ความเป็นจริงที่บ้านมีทุกอย่าง) เราไม่พูดไรต่อเลยบอกซื้อเผือกทอดมาให้ด้วยนะ เสียงผู้หญิงบอกมีประชุมบ่ายโมง คงไม่ทัน เค้าก็บอกเราว่าไม่ทันจะประชุมแล้ว เราก็ไม่พูดอะไรแล้ววางสาย บ่ายจะครึ่งเค้ามาหาเราที่ทำงานพร้อมเผือกทอด เราก็บอกขอบคุณนะ
ถึงจุดนี้ เราเลยคิดว่าเค้าคงจะรักกันมาก เราเป็นแค่แม่ของลูก เท่านั้น
เย็นไปส่งลูกบ้านยายให้เหตุผลลูกว่าคุณพ่อมีงานด่วน คุณแม่จะต้องไปบ้านป้าแอน ลูกเข้าใจ จบ ไปแวะซื้อขนม ตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน
ระหว่างทางขากลับ เราก็ทะเลาะกันมาตลอดทาง เค้าบอกให้เราเฉย ให้เรามองผ่าน เรายอมรับว่าเราเจ็บกับคำพูดเค้ามาก แต่จากเที่ยงวันที่วางสายกับเรา เราก็คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเลยพูดคำนี้ออกไป เราให้เค้าเลือก ถ้ายังจะเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นให้ลาออกไปซะ ถ้าพูดหญิงคนนั้นไม่ออก เราจะหย่ากัน เค้าบอกแบบไม่คิดเลย ต้องจะลาออกเอง จะไปเอง เราถามต่อว่าแล้วลูก ภาระต่างๆจะทิ้งไว้ให้เราหรอ เค้าไม่พูด เราถามย้ำอีก แล้วลูกล่ะ เค้าตอบว่าก็อยู่กับเธอไง จบ เราไม่พูดอะไรอีก กลับมาบ้านร้องไห้เป็นนางเอกแปบนึง เค้าออกไปทำงานต่อ เราเค้าไปบ้านญาตผู้ใหญ่เพื่อระบาย สุดท้ายแล้วพอเรากลับมาบ้าน เค้าพูดหว่านล้อม เค้าบอกผู้หญิงคนนั้นจะลาออก แต่เราก็สงสารอีก นางเอกมากค่ะ เราเป็นคนขี้สงสาร ใจอ่อน ซึ่งสามีเรารู้ดี ผู้หญิงอยากคุย นัดเราเจอเย็นวันนี้ เราบอกว่าเราไม่คุย ไม่อะไรทั้งนั้น เราฝากเค้าไปถามผู้หญิงคนนั้นว่าถ้าเค้าเป็นเราจะทำยังไง เราไม่พร้อมเจอใคร พรุ่งนี้วันเกิดลูกก็พาไปทำบุญ นู้นนี่นั้น เหมือนที่ผ่านมา เราทำใจ คือเราก็ไม่ได้สวยอะไรมากมายพอดูได้ไม่อายใคร แต่หลังจากมีลูกเราก็ปล่อยตัวเองอ้วน หน้าเป็นรอยสิว แต่เรื่องแต่งหน้านี้ไม่เคยเลยเราแต่หน้าไม่เป็นออกเป็นผ฿้หญิงลุยๆมากกว่า ไม่อ่อนหวาน ไม่มีมารยาอะไรทั้งนั้น เป็นคนตรงไปตรงมา เราควรทำยังไงดีค่ะ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่สาวโสด แต่งงานมีสามี มีลูกสาม คน นี่คือเรื่องที่เราช๊อค สามีเราทำได้ยังไง แล้วผู้หญิงคนนั้นทำได้ยังไง แล้วถ้าสามีของผู้หญิงคนั้นรู้ อะไรจะเกิดขึ้น เราจะเป็นนางเองยอมรับซะตากรรม ที่ให้เพื่อนร่วมงานมองเราว่าเป็นควาย อยู่แบบนี้ หรือเราจะเป็นนางมรร้ายประกาศให้โลกรู้ถึงความเลวของพวกเค้า จะเลือกอยู่แบบไหนดี
ปล. ถามใจตัวเองแล้วค่ะ ใจเราเองยังรักและผูกพันกับสามี เรายังเป็นห่วงเค้าเพราะเราดูแลเค้าทุกเรื่อง แต่เราสับสนมาก เพราะเราไม่มีความไว้ใจให้เค้าอีกแล้ว เรามองผ่านไม่ได้ ขนาดเรื่องกิ๊กเก่าสมัยเรียนเรายังพูดไม่จบเลย (พูดจนลูกบวชยังไม่จบค่ะ เจ็บมาก นั้นยังไม่แต่นะค่ะ) เราจะอยู่กับความระแวง สุดท้ายคนที่ไม่มีความสุขคือเรา ใช่มั้ยค่ะ เรากำลังจะเป็นบ้า 5555555
ปล.อีก พิมพ์ผิด หรือ พิมพ์วนไปวนมาก็ขออภัยมาด้วยนะค่ะ คือตอนนี้ไหวจะเคลียร์ตัวเองจริง
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำนะค่ะ