เครียดครับ รีบแต่งงานเหมือนเอาชีวิตไปลงนรก ยังไม่รู้จะแก้ยังไง

อยากจะฝากเตือนเด็ก ๆ ทุกคนด้วยน่ะถึงการแต่งงานคิดให้ดีคิดให้รอบด้าน
ว่าแต่คนอื่นผมยังเอาตัวไม่รอดเลย

ปัจจุบันอายุใกล้จะ 27 ครับ แต่งงานตอนอายุ 26 บางคนว่าเหมาะสมแล้ว บางคนว่าเด็กไป สัก 27-28ดีกว่าไหม ให้มีวุฒิภาวะมากขึ้น
เอาจริง ๆ ผมก็ยังไม่ได้อยากแต่งหรอกครับ เงินทองก็ไม่ได้พร้อม ที่บ้านไม่ได้รวยและยังมีภาระหลายด้านอยู่

เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ผมได้พบกับหญิงสาวคนนึงที่เข้ามาในชีวิตผม ซึ่งก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมีแฟนที่คบแบบจริง ๆ จัง ๆ การคบกันตอนนั้น ผมก็ไม่รู้เค้าชอบผมเพราะอะไร แต่เธอเป็นคนที่สวย ครับ ถือว่า สวยเลย ส่วนตัวผมเองไม่หล่อไม่รวย แต่อาจจะคารมดี มีอารมณ์ขัน และผมก็ซื่อตรงกับเธอมาตลอด ทำดีทุกอย่าง เป็นคนดีไม่นอกใจ (อย่าพึ่งหมั้นไส้น่ะครับอ่านให้จบ) ก็คบกันเรื่อยมา ชีวิตในช่วง 20ต้น ๆ มีความสุขดีครับ กิน เที่ยว กิน เที่ยว สบายมากครับ อ๋อลืมบอกไปครับ สาวคนนี้บ้านเธอมีกะตังพอสมควร ส่วนผมจนกว่าหลายเท่านัก

แต่พออายุ24-25อะไร ๆ มันก็เปลี่ยนไปครับ ผมทำงานประจำเดือน ๆ นึงรายได้ok ย้ายบ.เพิ่มupเงินมาระดับนึง มีรายได้ทเสริม
ส่วนแฟนทำงานได้ทีละ 1-2เดือนก็ออกทุกที่ครับ ส่วนมากเพราะไปวีนใส่คนอื่นในบริษัท ผมก็ปลอบเรื่อยมา จนมันมีอยุ๋วันนึง

เธอเริ่มจะเปรียบเทียบผมกับคนอื่น เนี่ยแฟนเพื่อนคนนู้นน แฟนเก่าเราคนนี้ ยังทำนู้นทำนี้ให้เลย ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไรหรอกครับ ผมมันผ้าขาว จากขยันก็ขยันมากขึ้นเป็น2เท่า แถมยังแบกหน้าไปหาผู้ใหญ่ฝากงานให้เธออีก  รายได้ต่อเดือนเธอค่อนข้างสูงกว่าผมอีกครับ  เพราะต้องบินไปทำ ตปท บินไปบินกลับ
รายได้เรา 2คนรวมกันหักค่าใช้จ่ายเหลือเกือบแสนเลยน่ะครับ ผมคิดว่าชีวิตเรามีความสุขแล้วแน่ ๆ  เก็บเงินสัก 2-3 ปีแต่งงานกัน มีลูก happy

แต่ก็เช่นเดิมครับพอทำงานไปได้สักพัก เธอมาอีกแล้ว เนีย่แฟนเพื่อนเราไปรับไปส่งตลอด okครับ ผมก็ไปไม่คิดอะไร เป็นห่วง
แต่มันหนัก้ขอขึ้นทุกวัน เนี่ยแฟนเก่าเราพาไปเที่ยวทุกเสาร์เลย  ผมก็พาไป จนร่างกายมันทนไม่ไหวครับ น็อคเข้าโรงพยาบาลเพราะไม่ได้พัก

ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลเหมือนเธอจะเป็นห่วงลางานมาดูแล  แต่ก้ยังไม่หยุด เนี่ยเพื่อนเราจะแต่งงานแล้วน่ะ แต่งไป3คนแล้ว แฟนเพื่อนเราหาไปฮันนี่มูล ที่ฝรั่งเศสเราอยากไปบ้าง  ตอนนี้เริ่มมีปากมีเสียงกันแล้วครับ ผมเริ่มโมโหเรื่องเปรียบเทียบ  สุดท้ายเธอก็ขอโทษ แล้วบอกว่าเธออยากมีชีวิตดี ๆ บ้าง อยากให้มีความสุขบ้าง   ผมไปปรึกษาเพื่อนผู้หญิงหลายคนก็บอก ปกติ ผู้หญิงเป็นแบบนี้แหละ แกไม่เข้าใจ     ผมก็เลยตกลงที่จะแต่งงานด้วย แต่ช่วยกันหาเงินก่อนน่ะ
----------------------
อายุย่างเข้า25 เรื่องมันเริ่มเข้มข้นตรงนี้ครับ

อย่างที่บอกไปครับว่า ผมไม่มีอะไรเลย ดังนั้นแล้วจะแต่งงานได้มันต้องมีเงินครับ ผมพยายามหาเงินทุกวิถีทาง แต่ละเดือนเธอก็มาคะยั้นคะยอเรื่องแต่งงานตลอด จนอายุใกล้ 26  ผมก็ตกลงที่จะแต่งงาน เอาเงินทีมีมาลงตรงนี้  ซื้อบ้าน  โดยที่บ้านกู้ร่วมกัน มีผู้ใหญ่ช่วยนดำเนินเรื่องนิดหน่อย  งานแต่งเราก็ไม่ได้จัดดีอะไรมากมายครับเนื่องจากต้องเซฟงบ

พอแต่งงานได้ไม่2เดือนแรก เธอก็ออกจากงานครับ เหตุผล เหนื่อย ขออยู่เป็นแม่บ้านแล้วกัน จากเดิมที่บ้านช่วยกันผ่อนคนละหมื่นเศษ ก็กลายเป็นผมผ่อนนคงเดียว  อ่อลืมบอกไปปกิตอนอยู่บ้าน ผมทำทุกอย่างน่ะครับ กวาดบ้าน หุงข้าว ทำกับข้าว ล้างส้วม เช็ดขี้หมา ซักผ้า รีดผ้า คือเธอไม่ทำอะไรเลย  ผมก็คิดว่า เอาว่ะไหน ๆ เราก็หน้าตาไม่ดี จนก็จน ได้แฟนสวยแถมฐานะเดิมเธอก็รวย คงทำอะไรไม่เป็น ก็ยอมครับซึ่ง ตอนนั้นที่เธอกำลังออกจากงานเธอบอกว่าเธอท้องด้วย

แต่พอเธอออกจากงานมาเงินที่มีเก็บพร้อมโบนัสเธอกลับเอาไปบำเรอความสวยและเที่ยวจนหมด งานบ้านที่บอกจะทำก็ไม่ทำ ทุก ๆ อย่างไม่ทำอะไรเลย
ทุกวันที่ผมกลับจากงานผมต้องมานั่งทำหมด จนเสียการเสียงาน หลับในเวลางานก็มี   แถมเธอยังคงเอาแต่ใจอยากได้กระเป๋าแพง ๆ ทั้ง ๆ ที่เดิมเคยซื้อให้อยุ่แล้ว อยาก slow life  วัน ๆ ตื่นบ่าย2 จนมีอยู่ช่วงนึงผมทนไม่ไหว และได้มีปากเสียงกัน หนัก

สิ่งที่ทำให้ผมเสียใจที่สุดคือ เธอพูดออกมาว่า guไม่ได้โง่แต่งงานกับคนควาย ๆ อย่าง_เลย วัน ๆ ไม่มีความสุข ไม่มีhereอะไร  วัน ๆ ทำแต่งาน ไม่สนใจ ผู้ชายคนอื่นแม่มดีกว่า_ทุกอย่าง    guน่าจะหลอกฟันคนอื่นไปให้จบเรื่อง     เป็นคำพูดที่ผมช็อคมาครับ  ผมไม่กลับบ้านเกือบเดือนเก็บผ้าไนอนที่อื่น

ส่วนตัวเธอก็ทำร้ายร่างกายตัวเองเหมือนคนบ้า ขังตัวเองอยู่ในบ้าน  มารู้ที่หลังว่าไม่ได้ออกไปไหนเลย วัน ๆ กันแต่มาม่ากับน้ำเปล่า เอาเข็มหมุดจิ้มตัวเองทั้งวัน  จนสุดท้ายเธอแท้งลูกตอน3เดือน เรื่องนี้ทำให้ แม่ของเธอรับสภาพไม่ได้เลยครับ สุดท้ายเสียชิวิต เพราะเม่อลอยแล้วเดินข้ามถนน ส่วนพ่อของเธอไปนานแล้ว

นับจากวันนั้นจนถึงตอนนี้ก็เกือบปีแแล้ว ผมยังคงต้องทำงานหนักมากเพื่อผ่อนบ้านไ่ม่มีเงินเที่ยวไม่มีเงินกินหรู เพราะเชื่อคำพูดที่ว่า ใช้ชีวิตร่วมกันน่ะ ช่วยกันผ่อนน่ะ....ความสุขของเรา  มันไม่ได้สวยหรูแบบที่คิดไว้เลย    จะหันหน้าพึ่งพ่อแม่ก็คงไม่ได้ครับ พ่อแม่ไม่ได้มีเงินให้ผมเลย ผมตัดสินใจจะหย่าครับ อย่างน้อย ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและลดความเครียดลง  แต่ญาติ ๆทั้ง2ฝ่ายก็เข้ามาบอกว่า แต่งกันแล้วก็อยู่ไปเถอะ สงสารผู้หญิง ตัวคนเดียว

ใจนึงผมก็สงสารน่ะ แต่งงานกันแ้ลวลงเรือลำเดียวกัน เธอก็ไม่มีใคร
แต่อีกใจก็โมโหน่ะ คบมาหลายปี เธอเปรียบเทียบผมกับคนอื่นตลอด ไม่เคยภูมิใจอะไรในตัวผม ผมไม่มีอะไรดี ไม่นอกใจ แต่อยากให้ผมเป็นเหมือนส่วนดีของคนนู้น เป็นส่วนนึงของคนนี้  และวัน ๆ ก็ทำอะไรไม่เป็น ไม่คิดจะหาเงิน ไม่ทำงาน ใด ๆ ทั้งสิ้น

ผมควรทำอย่างไรดีครับ เมื่อมาถึงจุดนี้ ผิดเองรึเปล่าครับ ที่ผมไปชอบคนสวย ชอบคุณหนู ไฮโซ แต่ผมไม่พร้อม..
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เราว่าเรื่องมันผิดตั้งแต่คุณเลือกคบคนที่ความสวยแล้วล่ะ
การแต่งงานเร็วไม่น่าใช่ปัญหาเลยค่ะถ้าคุณเลือกผู้หญิงถูกคน
นี่ิอ่านมาเราว่าลายเค้าออกตั้งแต่แรกแล้วอะ แต่คุณก็ยังยอมทุกอย่าง ยอมแต่งงานกับเค้า คิดแต่ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนได้ผญสวยๆมาเป็นภรรยา คือเราว่ามันไม่ใช่แนวคิดที่ถูกต้องนะ
ถ้าหย่าแล้วจะแต่งงานใหม่ก็เลือกคนให้ดีๆหน่อยนะคะ อย่าหลงแต่ความสวย
ความคิดเห็นที่ 23
คุณปล่อยปัญหามาเนิ่นนาน
ตั้งแต่แฟนคุณออกจากงาน อาจจะเพราะท้องทำให้รู้สึกอ่อนแอ
ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เหนื่อย อ่อนเพลีย
และต่อมาก็ทะเลาะกันรุนแรง คุณก็ไม่ปรับความเข้าใจ
อธิบายกับเธอไปว่าคุณทำอะไรไปบ้างในแต่ละวัน
คุณเหนื่อยแค่ไหน และทำเพื่อใคร
แต่มิหนำซ้ำคุณกลับไม่กลับบ้านเป็นเดือน
ปล่อยผู้หญิงท้องซึ่งเป็นภรรยาคุณอยู่คนเดียว
คิดน้อยใจ เศร้าใจ ทำร้ายตัวเอง เครียด ซึมเศร้า
จนแท้งลูกในเวลาต่อมา
เรื่องงานบ้าน เรื่องเงิน เรื่องงาน ก็ควรพูดปรับความเข้าใจกัน ถ้าคนหนึ่งร้อน อีกคนก็ต้องเย็น ที่ชีวิตคู่พังส่วนหนึ่งคุณก็เป็นสาเหตุ
เธอติดชีวิตสบาย ใช้เงินเยอะ ทำให้คุณทำงานหนักก็จริง แต่คุณไม่พูดใจเย็นๆ ไม่ปรับ
กลับหนีปัญหา ปล่อยเรื้อรัง คุณไม่พร้อมกับการแต่งงานจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 34
ทำไมเรารู้สึกว่า แฟนคุณควรจะไปพบจิตแพทย์นะคะ  พฤติกรรมหลายอย่างมันชวนให้คิดถึงความเจ็บป่วยทางจิตน่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
เอามาเป็นข้อๆนะครับ ง่ายต่อการเข้าใจ

1. ที่เธอเปรียบเทียบ กับเพื่อนเก่า หรือ กับแฟนเพื่อนเธอ มันเป็นมุกที่เธออยากให้คุณจขกท ขอเธอแต่งงาน หรือ ทำให้อะไรเธอมั่นใจครับ อันนี้อย่าไปคิดมากหรือใส่ใจเลย เธอแค่อยากให้คุณขอเธอ

2. ที่โมโหแรงตอนนั้นเธออาจจะไม่ได้ตั้งใจพูดก็ได้ครับ คนเราบางทีก็โมโหขาดสตินะครับ แต่ไงก็ต้องดูพื้นฐานว่าปกติ เป็นคนโมโหร้าย หรืออะไรรึป่าว อันนี้ คนเราผิดพลาดกันได้ให้อภัยได้ก็ให้อภัยเธอ เหมือนคนเราขับรถจากที่ทำงานกับบ้าน 365 วัน แม้งก็ต้องมีเลี้ยงผิดกันได้บ้างละ

3. แต่เรื่องที่ลาออก ไม่หาเงินเข้าบ้าน เพราะเหนื่อย และปล่อยภาระผ่อนบ้านของคุณคนเดียว ผมว่า อันนี้หนักเกิน

คนเรากว่าจะแต่งงานกันได้ ก็ต้องสร้างบุญหรือสร้างกรรมมาร่วมกัน ไม่ชาติใดชาติหนึ่ง แต่ก็แต่งงานกันแล้ว ก่อนที่จะทำอะไร แนะนำคุยกันให้เรียบร้อย คุยกันอย่างจริงๆจังๆ ปรับตัวได้ไม หรือยังไง เล่าความเหนื่อยของคุณให้เธอฟัง และ ให้เธอบอกว่า เธอต้องการอะไร หรือ อยากให้คุณปรับปรุงอะไร

" อะไรก็ตามที่มีผลต่อชีวิตในอนาคตข้างหน้า 3 ปี 5 ปี 10 ปี ต้องคิดเยอะๆ คิดให้รอบครอบ ปรึกษาคนที่มีประสบการณ์ หรือมีความรู้เรื่องนั้นๆ แล้วเอามาปรับใช้กับตัวเอง และ ตัดสินใจ ต้องยอมรับผลกระทบที่คุณตัดสินใจลงไป คิดดีสุด และคิดแย่สุด เอาไว้แล้วเตรียมรับมันให้ได้  "
ความคิดเห็นที่ 20
เหรียญมีสองด้าน ตอนนี้เราได้รับข้อมูลด้านของคุณแต่เรายังไม่ได้รับเรื่องอีกด้าน โดยหลักทั่วไปเมื่อหมดรักหมดประโยชน์ทุกอย่างที่เคยว่าดีก็เป็นเลวร้ายไปซะหมด เคยเปิดใจคุยกันหรือยัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่