หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
Torm Adventure: บุกป่าดงดิบภูเขาไฟในรวันดาและยูกันดา ตอน การผจญภัยแกะรอยกอริลล่าภูเขาเป็นครั้งที่ 2
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
เดินป่า
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวภูเขา
เช้านี้ฟ้าใสแดดอ่อนส่องลงมากระทบกับละอองน้ำค้างเป็นหมอกจาง เราออกเดินทางตอน 6 โมงครึ่งไปสำนักงานอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟ ซึ่งเป็นกระท่อมหินหลายหลัง ต้องแสดงใบอนุญาตดูกอริลล่าพร้อมพาสปอร์ตเพื่อลงทะเบียน ระหว่างรอเจ้าหน้าที่จัดสรรกลุ่มกอริลล่า 10 กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน รวม 80 คนตามระเบียบ ก็มีการแสดงโดยชาวพื้นเมืองในสนามหญ้า นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นฝรั่ง แทบจะไม่มีชาวเอเชียเลย
วันนี้เราได้ครอบครัวกอริลล่า Agashya แปลว่าพิเศษ มีสมาชิกถึง 25 ตัว ถือเป็นครอบครัวใหญ่อันดับ 2 มีประวัติเรื่องราวที่น่าสนใจ ครอบครัวนี้เดิมมี silverback จ่าฝูงและลูกเมียรวม 13 ตัว แต่เมื่อหลายปีก่อน จ่าฝูงตายก่อนวัยอันควร เมื่อครอบครัว 13 ขาดจ่าฝูง ก็เกิดระส่ำระสาย ตัวผู้ที่อายุมากที่สุดในครอบครัวยังเด็กเป็น blackback อยู่ ยังไม่มีอิทธิพลหรือวุฒิภาวะพอในการเป็นผู้นำ จึงไม่ได้รับการยอมรับจากกอริลล่าอื่นในฝูง ระหว่างนั้น มี silverback อีกตัวหนึ่ง ซึ่งตัดสินใจแยกตัวออกจากครอบครัวเดิมเมื่อโตเนื่องจากไม่ต้องการยอมตกอยู่ใต้อำนาจพ่อ จึงอยู่ตัวเดียวเร่ร่อนในป่า เคยมาเจอกับครอบครัว 13 นี้ตั้งแต่ silverback จ่าฝูงยังไม่ตาย และดูจะมาตกหลุมรักตัวเมียบ้านนี้อยู่ เลยวนเวียนมาดูครอบครัว 13 นี้เรื่อยมา แอบดูพฤติกรรมจนวันที่จ่าฝูงตาย จึงเข้ามาจีบตัวเมียที่เล็งอยู่ ด้วยความที่เคยศึกษาพฤติกรรมจ่าฝูงเดิมอยู่แล้ว เลยสามารถครองใจตัวเมียครอบครัวนี้ได้ 2 ตัว ทำให้กอริลล่าตัวอื่นในครอบครัวยอมรับ silverback ตัวใหม่ให้มาเป็นจ่าฝูง
ด้วยความกำยำและฉลาดปราดเปรื่องของ silverback ตัวนี้ ทำให้เสน่ห์แรง ไปจีบตัวเมียจากฝูงอื่นสำเร็จนำมารวมในครอบครัวได้อีก 8 ตัว ส่วนตัวเมีย 2 ตัวแรกเมื่อเห็น silverback จ่าฝูงใหม่ไปมีหญิงอื่นอีกมากมาย ก็ตัดสินใจหนีจากไป ครอบครัว Agashya ได้ตั้งรกรากใหม่ โดยมีทั้งสมาชิกครอบครัว 13 เดิมและสมาชิกที่หามาเพิ่ม สถานะล่าสุดของครอบครัว Agashya คือเมื่อสองวันก่อนมี silverback จากครอบครัวอื่นบุกมาแย่งเอาตัวเมีย 2 ตัวของครอบครัวนี้ เกิดการต่อสู้รุนแรง แต่จ่าฝูง Agashya พ่ายแพ้ ถูกกัดที่แขนเป็นแผลใหญ่ และที่หน้าก็โดนตัดเป็นทางยาว เสียตัวเมียไป 2 ตัว ทำให้วันนี้ สมาชิกครอบครัว Agashya ลดเหลือ 23 ตัว
ฟังเรื่องราวอันแสนพิเศษของการก่อตั้งครอบครัว Agashya เราก็ออกเดินทางด้วยรถไปที่เชิงภูเขาไฟ Sabyinyo ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พัก รับลูกหาบและไม้เท้าเดินป่าสลักเป็นรูปหัวกอริลล่า และเริ่มออกเดินทางด้วยความตื่นเต้น ผ่านไร่ยูคาลิปตัส เดินตัดบนคันไร่ของชาวบ้าน เพื่อเลาะไปที่ชายป่า ใช้เวลาจากที่จอดรถจนถึงกำแพงหินกั้นเขตอุทยานและเขตชาวบ้านประมาณครึ่งชั่วโมง
ป่าแถบนี้โปร่งและแห้งกว่าวันแรก มีต้นไม้สูงสลับกับต้นเฟิร์นใบใหญ่และต้นไผ่ลำโต กล้วยไม้ป่าสวยงาม ทางเดินชันขึ้นไปสู่ยอดภูเขาไฟ ประมาณ 45 นาทีก็ถึงด้านบน เป็นปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่มาก แต่ดับแล้วหลายล้านปีก่อน ในปล่องภูเขาไฟเบื้องล่างปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เขียวแน่นไปหมด เราเดินรอบปากปล่องเพียงครู่ ก็พบกับนายพรานแกะรอยถืออาวุธปืนยาว 2 คน ครอบครัวกอริลล่าอยู่ใกล้แล้ว
กอริลล่าตัวแรกที่พบเป็นกอริลล่าตัวผู้ blackback ที่ตัวใหญ่มาก คงอายุใกล้จะได้เป็น silverback แล้ว น้ำหนักน่าจะใกล้ 180 กิโล นั่งอยู่บนเนินในป่าโปร่ง เคี้ยวใบไผ่ตากแดดสบายอารมณ์ แต่ไม่เห็นตัวอื่น เราอยู่กับ blackback ตัวนี้เพียง 5 นาที เค้าก็วิ่งฝ่าเราลงจากบริเวณปากปล่องภูเขาไฟลงไปในปล่องข้างล่างที่ทางลงเป็นกึ่งหน้าผา กอริลล่าแม้จะตัวใหญ่แต่เคลื่อนตัวเร็วมาก เรารีบสาวเท้าตามไปที่ขอบปล่อง มองตามว่าจะลงไปดีมั้ย แต่ทางที่กอริลล่าลงไปเป็นทางดินที่ชันเกือบ 80 องศา คนคงไม่สามารถลงที่ชันได้ปราดเปรียวเท่ากอริลล่า ระหว่างที่ไกด์นายพรานตัดสินใจอยู่ว่าจะเอายังไงต่อ ก็มีกอริลล่าตัวเมียอีก 2 ตัววิ่งผ่านหน้าเราตาม blackback ตัวนั้นไป และมีกอริลล่าตัวเมียอีก 2 ตัว พร้อมลูกเล็กเกาะอยู่บนหลังอีกคู่ วิ่งเกือบชนขาเราลงไปในปล่อง ไกด์นายพรานผู้มากประสบการณ์แจ้งว่า ฝูงกอริลล่าจะต้องตามจ่าฝูง ดังนั้นเราควรหาก่อนว่า silverback อยู่ไหน ถ้าอยู่ในปล่องภูเขาไฟในหุบเบื้องล่าง แม้ทางลงจะสูงชันและรกชัฏ เราก็คงต้องตามไปด้วย ทีแรกเราหัวเราะนึกว่าพูดเล่น เพราะทางลงไปในปล่องที่ทั้งชันและลึกอย่างนั้น เบื้องล่างมีต้นไม้เป็นป่าทึบขนาดนั้น คนอย่างเราจะลงไปได้ยังไงกัน
ไกด์นายพรานพาเดินเลาะปากปล่องภูเขาไฟต่อไปอีกครู่ เพื่อหา silverback ของครอบครัวนี้ จุดที่เราสังเกตการณ์บนปากปล่องภูเขาไฟ สามารถมองลงไปด้านล่างได้ชัดเจน เห็นการเคลื่อนไหวของต้นไม้กิ่งไม้ที่กอริลล่าอยู่ มีกอริลล่าเต็มปล่องภูเขาไฟไปหมดเหมือนในหนังไม่มีผิด แต่เป็นการเห็นแบบระยะไกล พรานแกะรอยอีก 2 คนจึงปีนลงไปสำรวจข้างล่าง จากจุดที่เห็นกอริลล่าตัวแรกบนปากปล่องถึงตอนนี้ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง แต่ไกด์นายพรานบอกว่า จะยังไม่เริ่มจับเวลาว่าได้เจอกอริลล่า ครู่นึงพรานที่ลงไปข้างในปล่องภูเขาไฟพบ silverback แล้ว เราจะตามลงไป หา! เราจะลงไปในหุบเหวนี้! เค้าไม่ได้พูดเล่น สิ่งที่ผุดอยู่ในหัวไม่ใช่แค่ชั้นจะลงไปยังไงอีท่าไหน แต่เมื่อลงถึงก้นแล้ว จะกลับขึ้นมาได้ยังไง แต่เมื่อพรานเดินนำลงไปเบื้องล่างแล้ว ไม่ใช่เวลาลังเล เราใส่ถุงมือพร้อมเผชิญขวากหนามและก้าวเท้าตามไป เหตุการณ์ข้างหน้าเป็นเรื่องของอนาคต เป็นไงเป็นกัน
หนทางลงไปนั้น Indiana Jones เรียกพี่ เพราะนอกจากทางจะชันและลึกแล้ว พื้นยังเป็นดินโคลนที่ลื่นมาก ทางลงปกคลุมด้วยต้นไม้หนาทึบ มีช่องเพียงเท่าคนเดินที่พรานฟันทางและเดินกรุยนำแล้วเท่านั้น กิ่งก้านต้นไม้มีลักษณะคล้ายเถาวัลย์ แม้จะเป็นอุปสรรคกับการเดินแต่ก็เป็นที่เกาะเกี่ยวให้เราเป็นอย่างดี ยามลื่นเวลาปีนลงจะได้ไม่รูดยาวไปถึงข้างล่าง
ใช้เวลาลงประมาณ 15 นาที ยังไม่ถึงก้นปล่อง มีทางราบแคบให้ยืนได้ถนัด ไกด์นายพรานส่งสัญญาณให้เงียบ มีกอริลล่าขนาดเขื่องอยู่หลังพุ่มไม้ห่างเราไปเพียงไม่ถึง 2 เมตร พรานฟันกิ่งเถาวัลย์ที่ขวางออกอย่างระมัดระวัง เผยโฉมหน้ากอริลล่าตัวผู้ blackback ที่ไม่ได้สนใจเราเท่าไหร่ ถัดไปอีกไม่กี่ก้าว พรานฟันทางให้เปิดออก มีตัวผู้อีกตัวนั่งกินใบไม้อยู่ มันดูไม่ตกใจ แต่ไม่ได้ชอบใจนักที่ไปขัดจังหวะกิน
ฟันทางต่อไปอีกนิด เจอ silverback แล้ว ตัวสูงใหญ่ เห็นด้านซ้ายของเค้า นั่งท่าอาสนะเด็ดใบไม้กิน ยังไม่เห็นแผลที่แขนขวาและหน้า
วันนี้เป็นวันที่นับกอริลล่าที่เห็นไม่ถ้วน ระหว่างที่เรากำลังตั้งใจดูเจ้า silverback ตัวนี้อยู่ ก็มีตัวเมียอีกตัวลงจากเขาโผล่มาจากด้านหลังเรา แต่ไม่เข้าใกล้เกิน 2 เมตร ตัวเมียอีกตัวพร้อมลูกอายุซัก 3 ขวบเดินออกจากพุ่มไม้ด้านขวาของเรา แล้วตัวเมียก็เดินผ่านเราและ silverback ลงไปข้างล่าง ลูกจะตามแม่ไปแต่ยังตัวเล็ก โดนพุ่มไม้เถาวัลย์เกี่ยวขา ลงไม่ถนัด เลยตัดสินใจกลิ้งตามลงไป เป็นภาพที่สร้างความฮาเป็นอย่างมาก ซักพัก ตัวเมียที่มีลูกเล็กน่าจะซัก 6 เดือนเกาะหลังก็โผล่ออกมา เป็นคู่ที่เราเห็นจากด้านบนปากปล่องภูเขาไฟก่อนจะวิ่งลงมาในปล่องข้างล่าง
img]http://f.ptcdn.info/693/035/000/1442898255-IMG9224-o.jpg[/img]
กอริลล่าพวกนี้กินไปผายลมไปตลอดเวลา เสียงดังสนั่นและยาวเป็นที่น่าหัวเราะ บางตัวกินจนอิ่มก็หาวหวอด ทำให้เห็นฟันดำของกอริลล่าซึ่งเป็นทรงเหลี่ยมแบนคล้ายฟันมนุษย์ทั่วไป ไว้เคี้ยวพืชผักแต่มีเขี้ยวบางจุดที่แหลมคม เอาไว้เพื่อต่อสู้ ไม่ใช่ไว้ล่าสัตว์ เพราะกอริลล่ากินมังสวิรัติ ไม่กินเนื้อสัตว์ ต่างจากลิงอื่น พรานบอกว่ากอริลล่าฟันดีมาก ไม่ค่อยผุ ดูกอริลล่านั่งกินใบไม้อยู่ตรงนี้ หมดแล้วก็ย้ายไปกินตรงนั้น เวลาเดินเค้าจะเดิน 4 ขา ช่วงแขนยาวกว่าช่วงขา เวลาเดิน ด้านหน้าเลยสูงกว่าด้านหลัง
พรานเดินนำเพื่อตัดทางลงด้านล่างต่อไปอีก ทางชันมากเหมือนตอนแรก ตรงหน้าพบ silverback กอริลล่าจ่าฝูงนอนหงายท้องขาวปราศจากขน เอาแขนขวาก่ายหน้าผาก ขากางแบะแฉะ ท่าเหมือนคนอ้วนที่ตัวใหญ่มาก นอนหมดสภาพอยู่ ไม่แน่ใจว่ากินอิ่มแล้วนอนอาบแดด หรือเจ็บปวดเพราะพิษบาดแผลที่ข้อศอก ที่ดูลึกและเหวอะหวะมาก มีเลือดกรังอยู่ คงเจ็บสุดๆ พอเค้าเปลี่ยนท่านอน ก็เห็นแผลแห้งยาวบนหน้าแต่ไม่มีเลือดแล้ว
บัดนี้ไกด์นายพรานชี้นาฬิกาข้อมือส่งสัญญาณว่าเวลา 1 ชั่วโมงหมดลงแล้ว รู้สึกว่าวันนี้ได้อยู่ในป่ากับกอริลล่านานมาก ตั้งแต่ปากปล่องยันก้นปล่องภูเขาไฟ เรียกว่าเป็นการบุกป่าแกะรอยหากอริลล่าจริงๆ ขากลับพรานเลือกขึ้นจากอีกด้านที่สูงน้อยกว่า เกาะรากเถาวัลย์ปีนสี่ขาขึ้นไปจนถึงขอบปล่อง ไกด์นายพรานปีนขึ้นไปก่อน ให้ลูกหาบช่วยเอามือเป็นบันไดให้เราเหยียบเพื่อยกตัวขึ้นแล้วดึงเราขึ้นไป เป็นอันว่าไม่ต้องคิดว่าจะกลับขึ้นไปยังไง แต่ก็ขึ้นมาบนปากปล่องได้แล้ว
ขาเดินลงจากป่า ผ่านไร่มันชาวบ้าน ไกด์นายพรานเห็นฝูงลิงทอง Golden Monkeys ที่ถือเป็นสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์อีกชนิด ถ้าจะไปเดินแกะรอยตามหามีค่าใช้จ่ายซื้อใบอนุญาตอีกคนละ 200 ดอลล่าสหรัฐ แต่เราโชคดี ฝูงลิงทองร่วมโหลกำลังขโมยขุดมันกินอย่างเอร็ดอร่อย ตัวมันแปลกไม่เหมือนลิงทั่วไป คือนอกจากจะมีขนาดใหญ่ ขนยังฟูฟ่องสีน้ำตาลทองดูสะอาดสวยงาม หน้าขาวปากแดง ตาเหมือนมีอายแชโดและอายไลน์เนอร์ เราดีใจเจอลิงทอง แต่ชาวบ้านผู้ปลูกมันคงไม่ชอบใจที่ถูกขโมย ทำให้เข้าใจหนึ่งในสาเหตุที่มีการฆ่าสัตว์เหล่านี้ของชาวบ้านกันมากขึ้น และดีใจที่เค้ามีนโยบายอนุรักษ์สัตว์ที่ได้ผล จะได้ไม่ต้องสูญพันธุ์อีกต่อไป
แม้เนื้อตัวจะมอม กางเกงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล รองเท้าเคลือบโคลน เสื้อมีรอยหนามเกี่ยวไปหมด ขาอ่อนล้าไปบ้าง แต่จิตใจพองโตปลื้มปิติ วันนี้เป็นการเดินทางที่บรรลุจุดมุ่งหมายในตัวเอง คือกอริลล่าก็เรื่องนึง การปีนขึ้นมาที่ปากปล่องภูเขาไฟแล้วปีนลงไปในปล่องก็อีกเรื่องนึง พอสองเรื่องมารวมกัน เราคือ Lala Croft นอกจอ กลับถึงที่พักบ่ายโมงครึ่ง เป็นวันที่เหนื่อยแต่เต็มไปด้วยความสุข รักเลยรวันดา
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Torm Adventure: บุกป่าดงดิบภูเขาไฟ ตามหากอริลล่าภูเขาในรวันดาและยูกันดา ตอนที่ 6 ณ อุทยานป่าดงดิบ Bwindi Impenetrable
Bwindi Impenetrable National Park (อุทยานแห่งชาติบวินดี้ที่ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้) แค่ชื่อก็แสดงความดิบทึบและสร้างความตื่นเต้นได้เป็นอย่างมาก ป่านี้อยู่ที่ความสูงประมาณ 1800-2400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเ
Torm Adventure
Torm Adventure: บุกป่าดงดิบภูเขาไฟ แกะรอยกอริลล่าภูเขา ในรวันดาและยูกันดา ตอนแรก
สวัสดีค่ะ เราเพิ่งได้โอกาสไปเที่ยวที่ที่ไม่เคยรู้เลยว่ามันเจ๋งสุดขอบโลก คือ ไปตะลุยป่าดงดิบที่ต้นไม้รกทึบบนภูเขาไฟ เพื่อไปเดินแกะรอยตามหากอริลล่าภูเขาตัวเป็นๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติ ในประเทศรวันดาและยูกัน
สมาชิกหมายเลข 2642217
จากชัยภูมิ มาลำปลายมาศ ที่พักน่ารักดี ขาหมูกับก๋วยเตี๋ยวเป็ด✌️😃😄😁เข้าเมืองบุรีรัมย์ ขึ้นยอดเขากระโดงชมปากปล่องภูเขาไฟ
จากชัยภูมิ มาลำปลายมาศ ที่พักน่ารักดี ขาหมูกับก๋วยเตี๋ยวเป็ด เช้ามาในเมืองบุรีรัมย์ ขึ้นยอดเขากระโดง ชมปากปล่องภูเขาไฟ✌️😃😄😁 ผมเสร็จธุระที่ชัยภูมิ
กานต์(วีระพัฒน์)
Torm Adventure: จากกอริลล่าภูเขาในรวันดา สิงโตปีนต้นไม้ในซาวันน่ายูกันดา สู่อุทยานป่าดิบ Kibale ตอนที่ 9 แกะรอยชิมแปนซี
เช้านี้พระอาทิตย์ดวงกลมใหญ่ซ่อนอยู่หลังเมฆบางสาดแสงสีส้มไปทั่วฟ้าและโค้งเว้าของผืนน้ำในช่องแคบ Kazinga และทะเลสาบ Edward ใจกลางอุทยานแห่งชาติ Queen Elizabeth เสียงนกร้องจิ๊บๆ สวัสดีวันใหม่ เราเดินทางข
Torm Adventure
ภูเขาไฟเอตนาปะทุ พ่นควันขึ้นฟ้าหลายกิโลเมตร นักท่องเที่ยวหนีระทึก
ภูเขาไฟเอตนาในอิตาลี ปะทุรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี พ่นเถ้าถ่านขึ้นฟ้าสูงหลายกิโลเมตร ทำปากปล่องภูเขาไฟถล่มบางส่วน ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งอยู่บนเขาต้องพากันหนีลงมาด้วยความระทึก สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน
สมาชิกหมายเลข 7918220
Torm Adventure: บุกป่าดงดิบภูเขาไฟ แกะรอยกอริลล่าภูเขา ในรวันดาและยูกันดา ข้อมูลเกริ่นนำ
สำหรับท่านที่ได้อ่าน "บุกป่าดงดิบภูเขาไฟ แกะรอยกอริลล่าภูเขา ในรวันดาและยูกันดา ตอนแรก" ที่เขียนแบบ fast forward เรื่องไปวันที่ได้เดินป่าแกะรอยเข้าไปเจอกอริลล่าเลย ตอนนี้เราขอย้อนกลับไปให้ข้
สมาชิกหมายเลข 2642217
เรามาย้อนดู เรื่องราวในอดีต ของการปาดแซงเข้าวิน ของ แชมป์ ในงาน GE3 และ GE4 กันว่า ทำกันในช่วงเวลาใด?
เราเริ่มด้วย งาน GE3 กันครับ. อันนี้คลิปที่อ้างอิง ข้อมูลนะครับ. https://www.youtube.com/watch?v=A2DMzuNqPhI *ยุทธการตีป้อมตอนตีสี่ของแฟนด้อมเซนตี้น้อย* - เป็นการปาดเข้าป้ายของน้องโมบายล์ ต้องเรียก
เตียวกงจื้อ
น่าทึ่ง⁉️สามเหลี่ยมอาฟาร์ ตื่น เหตุจากการรุกล้ำของแมกมา (ในระดับตื้น🆙)
ทะเลสาบที่มีไอน้ำก่อตัวขึ้นรอบ ๆ ปล่องภูเขาไฟใหม่ที่สังเกตเห็นเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ภูเขาไฟโดเฟน (ภาพ: Naty Berhane Yifru @NatyYifru / X.com) ⚠️วิกฤตยังคงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และโอกาสที่แมกมาจะพุ่
สมาชิกหมายเลข 7804397
กระเต็นน้อยธรรมดา@บ้านกัญจน์
นกกะเต็นน้อยธรรมดา Common Name :Common Kingfisher ลำตัวด้านบนสีน้ำเงินเหลือบเขียว หลังและตะโพกฟ้าวาว ขนคลุมหูน้ำตาลแดงต่อกับแถบขาว คอขาว ลำตัวด้านล่างสีส้มแกมน้ำตาล แข้งและตีนแดง ตัวเ
บ้านกัญจน์
(EP. 2) 7 สัตว์ที่มีเซ็กส์เพื่อความสุข
ต่อจาก EP. ที่แล้วครับ 5. ลิงแสม นักวิจัยเชื่อว่าลิงแสมมีเพศสัมพันธ์เพื่อความสุข เนื่องจากพฤติกรรมทางเพศของพวกมันคล้ายกับมนุษย์ ตัวอย่างเช่นลิงแสมจะมีอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นและช่องคลอดกระตุ
สมาชิกหมายเลข 6859312
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เดินป่า
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวภูเขา
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
Torm Adventure: บุกป่าดงดิบภูเขาไฟในรวันดาและยูกันดา ตอน การผจญภัยแกะรอยกอริลล่าภูเขาเป็นครั้งที่ 2
วันนี้เราได้ครอบครัวกอริลล่า Agashya แปลว่าพิเศษ มีสมาชิกถึง 25 ตัว ถือเป็นครอบครัวใหญ่อันดับ 2 มีประวัติเรื่องราวที่น่าสนใจ ครอบครัวนี้เดิมมี silverback จ่าฝูงและลูกเมียรวม 13 ตัว แต่เมื่อหลายปีก่อน จ่าฝูงตายก่อนวัยอันควร เมื่อครอบครัว 13 ขาดจ่าฝูง ก็เกิดระส่ำระสาย ตัวผู้ที่อายุมากที่สุดในครอบครัวยังเด็กเป็น blackback อยู่ ยังไม่มีอิทธิพลหรือวุฒิภาวะพอในการเป็นผู้นำ จึงไม่ได้รับการยอมรับจากกอริลล่าอื่นในฝูง ระหว่างนั้น มี silverback อีกตัวหนึ่ง ซึ่งตัดสินใจแยกตัวออกจากครอบครัวเดิมเมื่อโตเนื่องจากไม่ต้องการยอมตกอยู่ใต้อำนาจพ่อ จึงอยู่ตัวเดียวเร่ร่อนในป่า เคยมาเจอกับครอบครัว 13 นี้ตั้งแต่ silverback จ่าฝูงยังไม่ตาย และดูจะมาตกหลุมรักตัวเมียบ้านนี้อยู่ เลยวนเวียนมาดูครอบครัว 13 นี้เรื่อยมา แอบดูพฤติกรรมจนวันที่จ่าฝูงตาย จึงเข้ามาจีบตัวเมียที่เล็งอยู่ ด้วยความที่เคยศึกษาพฤติกรรมจ่าฝูงเดิมอยู่แล้ว เลยสามารถครองใจตัวเมียครอบครัวนี้ได้ 2 ตัว ทำให้กอริลล่าตัวอื่นในครอบครัวยอมรับ silverback ตัวใหม่ให้มาเป็นจ่าฝูง
ด้วยความกำยำและฉลาดปราดเปรื่องของ silverback ตัวนี้ ทำให้เสน่ห์แรง ไปจีบตัวเมียจากฝูงอื่นสำเร็จนำมารวมในครอบครัวได้อีก 8 ตัว ส่วนตัวเมีย 2 ตัวแรกเมื่อเห็น silverback จ่าฝูงใหม่ไปมีหญิงอื่นอีกมากมาย ก็ตัดสินใจหนีจากไป ครอบครัว Agashya ได้ตั้งรกรากใหม่ โดยมีทั้งสมาชิกครอบครัว 13 เดิมและสมาชิกที่หามาเพิ่ม สถานะล่าสุดของครอบครัว Agashya คือเมื่อสองวันก่อนมี silverback จากครอบครัวอื่นบุกมาแย่งเอาตัวเมีย 2 ตัวของครอบครัวนี้ เกิดการต่อสู้รุนแรง แต่จ่าฝูง Agashya พ่ายแพ้ ถูกกัดที่แขนเป็นแผลใหญ่ และที่หน้าก็โดนตัดเป็นทางยาว เสียตัวเมียไป 2 ตัว ทำให้วันนี้ สมาชิกครอบครัว Agashya ลดเหลือ 23 ตัว
ฟังเรื่องราวอันแสนพิเศษของการก่อตั้งครอบครัว Agashya เราก็ออกเดินทางด้วยรถไปที่เชิงภูเขาไฟ Sabyinyo ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พัก รับลูกหาบและไม้เท้าเดินป่าสลักเป็นรูปหัวกอริลล่า และเริ่มออกเดินทางด้วยความตื่นเต้น ผ่านไร่ยูคาลิปตัส เดินตัดบนคันไร่ของชาวบ้าน เพื่อเลาะไปที่ชายป่า ใช้เวลาจากที่จอดรถจนถึงกำแพงหินกั้นเขตอุทยานและเขตชาวบ้านประมาณครึ่งชั่วโมง
ป่าแถบนี้โปร่งและแห้งกว่าวันแรก มีต้นไม้สูงสลับกับต้นเฟิร์นใบใหญ่และต้นไผ่ลำโต กล้วยไม้ป่าสวยงาม ทางเดินชันขึ้นไปสู่ยอดภูเขาไฟ ประมาณ 45 นาทีก็ถึงด้านบน เป็นปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่มาก แต่ดับแล้วหลายล้านปีก่อน ในปล่องภูเขาไฟเบื้องล่างปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เขียวแน่นไปหมด เราเดินรอบปากปล่องเพียงครู่ ก็พบกับนายพรานแกะรอยถืออาวุธปืนยาว 2 คน ครอบครัวกอริลล่าอยู่ใกล้แล้ว
กอริลล่าตัวแรกที่พบเป็นกอริลล่าตัวผู้ blackback ที่ตัวใหญ่มาก คงอายุใกล้จะได้เป็น silverback แล้ว น้ำหนักน่าจะใกล้ 180 กิโล นั่งอยู่บนเนินในป่าโปร่ง เคี้ยวใบไผ่ตากแดดสบายอารมณ์ แต่ไม่เห็นตัวอื่น เราอยู่กับ blackback ตัวนี้เพียง 5 นาที เค้าก็วิ่งฝ่าเราลงจากบริเวณปากปล่องภูเขาไฟลงไปในปล่องข้างล่างที่ทางลงเป็นกึ่งหน้าผา กอริลล่าแม้จะตัวใหญ่แต่เคลื่อนตัวเร็วมาก เรารีบสาวเท้าตามไปที่ขอบปล่อง มองตามว่าจะลงไปดีมั้ย แต่ทางที่กอริลล่าลงไปเป็นทางดินที่ชันเกือบ 80 องศา คนคงไม่สามารถลงที่ชันได้ปราดเปรียวเท่ากอริลล่า ระหว่างที่ไกด์นายพรานตัดสินใจอยู่ว่าจะเอายังไงต่อ ก็มีกอริลล่าตัวเมียอีก 2 ตัววิ่งผ่านหน้าเราตาม blackback ตัวนั้นไป และมีกอริลล่าตัวเมียอีก 2 ตัว พร้อมลูกเล็กเกาะอยู่บนหลังอีกคู่ วิ่งเกือบชนขาเราลงไปในปล่อง ไกด์นายพรานผู้มากประสบการณ์แจ้งว่า ฝูงกอริลล่าจะต้องตามจ่าฝูง ดังนั้นเราควรหาก่อนว่า silverback อยู่ไหน ถ้าอยู่ในปล่องภูเขาไฟในหุบเบื้องล่าง แม้ทางลงจะสูงชันและรกชัฏ เราก็คงต้องตามไปด้วย ทีแรกเราหัวเราะนึกว่าพูดเล่น เพราะทางลงไปในปล่องที่ทั้งชันและลึกอย่างนั้น เบื้องล่างมีต้นไม้เป็นป่าทึบขนาดนั้น คนอย่างเราจะลงไปได้ยังไงกัน
ไกด์นายพรานพาเดินเลาะปากปล่องภูเขาไฟต่อไปอีกครู่ เพื่อหา silverback ของครอบครัวนี้ จุดที่เราสังเกตการณ์บนปากปล่องภูเขาไฟ สามารถมองลงไปด้านล่างได้ชัดเจน เห็นการเคลื่อนไหวของต้นไม้กิ่งไม้ที่กอริลล่าอยู่ มีกอริลล่าเต็มปล่องภูเขาไฟไปหมดเหมือนในหนังไม่มีผิด แต่เป็นการเห็นแบบระยะไกล พรานแกะรอยอีก 2 คนจึงปีนลงไปสำรวจข้างล่าง จากจุดที่เห็นกอริลล่าตัวแรกบนปากปล่องถึงตอนนี้ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง แต่ไกด์นายพรานบอกว่า จะยังไม่เริ่มจับเวลาว่าได้เจอกอริลล่า ครู่นึงพรานที่ลงไปข้างในปล่องภูเขาไฟพบ silverback แล้ว เราจะตามลงไป หา! เราจะลงไปในหุบเหวนี้! เค้าไม่ได้พูดเล่น สิ่งที่ผุดอยู่ในหัวไม่ใช่แค่ชั้นจะลงไปยังไงอีท่าไหน แต่เมื่อลงถึงก้นแล้ว จะกลับขึ้นมาได้ยังไง แต่เมื่อพรานเดินนำลงไปเบื้องล่างแล้ว ไม่ใช่เวลาลังเล เราใส่ถุงมือพร้อมเผชิญขวากหนามและก้าวเท้าตามไป เหตุการณ์ข้างหน้าเป็นเรื่องของอนาคต เป็นไงเป็นกัน
หนทางลงไปนั้น Indiana Jones เรียกพี่ เพราะนอกจากทางจะชันและลึกแล้ว พื้นยังเป็นดินโคลนที่ลื่นมาก ทางลงปกคลุมด้วยต้นไม้หนาทึบ มีช่องเพียงเท่าคนเดินที่พรานฟันทางและเดินกรุยนำแล้วเท่านั้น กิ่งก้านต้นไม้มีลักษณะคล้ายเถาวัลย์ แม้จะเป็นอุปสรรคกับการเดินแต่ก็เป็นที่เกาะเกี่ยวให้เราเป็นอย่างดี ยามลื่นเวลาปีนลงจะได้ไม่รูดยาวไปถึงข้างล่าง
ใช้เวลาลงประมาณ 15 นาที ยังไม่ถึงก้นปล่อง มีทางราบแคบให้ยืนได้ถนัด ไกด์นายพรานส่งสัญญาณให้เงียบ มีกอริลล่าขนาดเขื่องอยู่หลังพุ่มไม้ห่างเราไปเพียงไม่ถึง 2 เมตร พรานฟันกิ่งเถาวัลย์ที่ขวางออกอย่างระมัดระวัง เผยโฉมหน้ากอริลล่าตัวผู้ blackback ที่ไม่ได้สนใจเราเท่าไหร่ ถัดไปอีกไม่กี่ก้าว พรานฟันทางให้เปิดออก มีตัวผู้อีกตัวนั่งกินใบไม้อยู่ มันดูไม่ตกใจ แต่ไม่ได้ชอบใจนักที่ไปขัดจังหวะกิน
ฟันทางต่อไปอีกนิด เจอ silverback แล้ว ตัวสูงใหญ่ เห็นด้านซ้ายของเค้า นั่งท่าอาสนะเด็ดใบไม้กิน ยังไม่เห็นแผลที่แขนขวาและหน้า
วันนี้เป็นวันที่นับกอริลล่าที่เห็นไม่ถ้วน ระหว่างที่เรากำลังตั้งใจดูเจ้า silverback ตัวนี้อยู่ ก็มีตัวเมียอีกตัวลงจากเขาโผล่มาจากด้านหลังเรา แต่ไม่เข้าใกล้เกิน 2 เมตร ตัวเมียอีกตัวพร้อมลูกอายุซัก 3 ขวบเดินออกจากพุ่มไม้ด้านขวาของเรา แล้วตัวเมียก็เดินผ่านเราและ silverback ลงไปข้างล่าง ลูกจะตามแม่ไปแต่ยังตัวเล็ก โดนพุ่มไม้เถาวัลย์เกี่ยวขา ลงไม่ถนัด เลยตัดสินใจกลิ้งตามลงไป เป็นภาพที่สร้างความฮาเป็นอย่างมาก ซักพัก ตัวเมียที่มีลูกเล็กน่าจะซัก 6 เดือนเกาะหลังก็โผล่ออกมา เป็นคู่ที่เราเห็นจากด้านบนปากปล่องภูเขาไฟก่อนจะวิ่งลงมาในปล่องข้างล่าง
กอริลล่าพวกนี้กินไปผายลมไปตลอดเวลา เสียงดังสนั่นและยาวเป็นที่น่าหัวเราะ บางตัวกินจนอิ่มก็หาวหวอด ทำให้เห็นฟันดำของกอริลล่าซึ่งเป็นทรงเหลี่ยมแบนคล้ายฟันมนุษย์ทั่วไป ไว้เคี้ยวพืชผักแต่มีเขี้ยวบางจุดที่แหลมคม เอาไว้เพื่อต่อสู้ ไม่ใช่ไว้ล่าสัตว์ เพราะกอริลล่ากินมังสวิรัติ ไม่กินเนื้อสัตว์ ต่างจากลิงอื่น พรานบอกว่ากอริลล่าฟันดีมาก ไม่ค่อยผุ ดูกอริลล่านั่งกินใบไม้อยู่ตรงนี้ หมดแล้วก็ย้ายไปกินตรงนั้น เวลาเดินเค้าจะเดิน 4 ขา ช่วงแขนยาวกว่าช่วงขา เวลาเดิน ด้านหน้าเลยสูงกว่าด้านหลัง
พรานเดินนำเพื่อตัดทางลงด้านล่างต่อไปอีก ทางชันมากเหมือนตอนแรก ตรงหน้าพบ silverback กอริลล่าจ่าฝูงนอนหงายท้องขาวปราศจากขน เอาแขนขวาก่ายหน้าผาก ขากางแบะแฉะ ท่าเหมือนคนอ้วนที่ตัวใหญ่มาก นอนหมดสภาพอยู่ ไม่แน่ใจว่ากินอิ่มแล้วนอนอาบแดด หรือเจ็บปวดเพราะพิษบาดแผลที่ข้อศอก ที่ดูลึกและเหวอะหวะมาก มีเลือดกรังอยู่ คงเจ็บสุดๆ พอเค้าเปลี่ยนท่านอน ก็เห็นแผลแห้งยาวบนหน้าแต่ไม่มีเลือดแล้ว
บัดนี้ไกด์นายพรานชี้นาฬิกาข้อมือส่งสัญญาณว่าเวลา 1 ชั่วโมงหมดลงแล้ว รู้สึกว่าวันนี้ได้อยู่ในป่ากับกอริลล่านานมาก ตั้งแต่ปากปล่องยันก้นปล่องภูเขาไฟ เรียกว่าเป็นการบุกป่าแกะรอยหากอริลล่าจริงๆ ขากลับพรานเลือกขึ้นจากอีกด้านที่สูงน้อยกว่า เกาะรากเถาวัลย์ปีนสี่ขาขึ้นไปจนถึงขอบปล่อง ไกด์นายพรานปีนขึ้นไปก่อน ให้ลูกหาบช่วยเอามือเป็นบันไดให้เราเหยียบเพื่อยกตัวขึ้นแล้วดึงเราขึ้นไป เป็นอันว่าไม่ต้องคิดว่าจะกลับขึ้นไปยังไง แต่ก็ขึ้นมาบนปากปล่องได้แล้ว
ขาเดินลงจากป่า ผ่านไร่มันชาวบ้าน ไกด์นายพรานเห็นฝูงลิงทอง Golden Monkeys ที่ถือเป็นสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์อีกชนิด ถ้าจะไปเดินแกะรอยตามหามีค่าใช้จ่ายซื้อใบอนุญาตอีกคนละ 200 ดอลล่าสหรัฐ แต่เราโชคดี ฝูงลิงทองร่วมโหลกำลังขโมยขุดมันกินอย่างเอร็ดอร่อย ตัวมันแปลกไม่เหมือนลิงทั่วไป คือนอกจากจะมีขนาดใหญ่ ขนยังฟูฟ่องสีน้ำตาลทองดูสะอาดสวยงาม หน้าขาวปากแดง ตาเหมือนมีอายแชโดและอายไลน์เนอร์ เราดีใจเจอลิงทอง แต่ชาวบ้านผู้ปลูกมันคงไม่ชอบใจที่ถูกขโมย ทำให้เข้าใจหนึ่งในสาเหตุที่มีการฆ่าสัตว์เหล่านี้ของชาวบ้านกันมากขึ้น และดีใจที่เค้ามีนโยบายอนุรักษ์สัตว์ที่ได้ผล จะได้ไม่ต้องสูญพันธุ์อีกต่อไป
แม้เนื้อตัวจะมอม กางเกงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล รองเท้าเคลือบโคลน เสื้อมีรอยหนามเกี่ยวไปหมด ขาอ่อนล้าไปบ้าง แต่จิตใจพองโตปลื้มปิติ วันนี้เป็นการเดินทางที่บรรลุจุดมุ่งหมายในตัวเอง คือกอริลล่าก็เรื่องนึง การปีนขึ้นมาที่ปากปล่องภูเขาไฟแล้วปีนลงไปในปล่องก็อีกเรื่องนึง พอสองเรื่องมารวมกัน เราคือ Lala Croft นอกจอ กลับถึงที่พักบ่ายโมงครึ่ง เป็นวันที่เหนื่อยแต่เต็มไปด้วยความสุข รักเลยรวันดา