ประสบการณ์ชีวิตเหลวแหลกของเด็กม.ปลาย กลายเป็นสาวไซด์ไลน์

สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรก
จะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตของเราให้ฟัง
ขอใช้นามแฝงว่าเกว นะคะ

          เริ่มเลยนะคะ เกวเป็นลูกคนที่3 ครอบครัวมีพี่น้อง4คน มีพี่ชาย1 พี่สาว1 น้องสาว1 ครอบครัวของเกวเหมือนจะมีสมาชิกเยอะแลดูมีความสุขดีแต่มันไม่ใช่เลยค่ะ  แม่เลิกกับพ่อไปตั้งแต่เกวยังป1  พอพ่อเลิกกับแม่ได้ไม่ถึงเดือนพ่อก็เอาแฟนใหม่เข้ามาที่บ้านทำให้พวกเราพี่น้องกีดกันกันเต็มที่ ตอนแรกๆที่แฟนใหม่ของพ่อเข้ามาที่บ้านก็ทำให้ทุกอย่างสารพัดซักผ้า ซักถุงเท้า กระเป๋านักเรียน ทำงานบ้านทุกอย่าง แต่พอยายแฟนใหม่ของพ่อท้อง(ก็คือน้องสาวอีกคนของเกวเพราะปกติเกวเป็นลูกคนสุดท้ายจากแม่ก่อนที่พ่อจะมีแฟนใหม่) พอมันท้องมันก็เริ่มทำตัวกร่าง เป็นใหญ่ ข้าท้องใครจะทำไมจะทำไรได้ ประมาณนั้น เกวเกลียดมันที่สุดมาแย่งพ่อเกวไปจากแม่ยังมาทำตัวเหมือนพวกยืนอยู่ริมถนน ปกติเกวจะเป็นคนที่ติดพ่อมากๆ แต่พอพ่อมีน้องใหม่พ่อก็เริ่มจะเขวไปทางนั้นมากกว่า เรา3คนพี่น้องเลยรักและปรองดองกันมากๆ พอน้องสาวเกวคลอดมาเกวเกลียดน้องสาวมากๆ ที่ได้ทุกอย่างมากกว่าเกว หลังจากนั้นทำให้เกวรู้สึกเก็บกด เหมือนพ่อแม่ไม่รักคิดมากตั้งแต่เด็กๆ    เกวเป็นเด็กที่ขยันแต่เรียนไม่เก่งเกวเก็บตังเองเวลาอยากได้อะไรเพราะถ้าขอพ่อพ่อก็ไม่ให้ยายแฟนใหม่ของพ่อก็จะคอยพูดว่า ซื้อทำไมไม่เห็นมีประโยชน์ ไม่ต้องซื้อให้มันหรอก (หืม..ยิ้มยิ่งกว่าตัวร้ายในละครอีก) เกวเก็บตังซื้อโทรศัพท์เองตอนป2 เครื่องละ2000กว่าบาท     ปกติเกวไม่ได้เป็นเด็กขี้โกหกเลย เวลาเกวมีเรื่องอะไรจะปรึกษาพ่อและคุยกับพ่อตลอดตอนประมาณม.ต้น เกวก็ถามพ่อว่า "พ่อมีแฟนคนแรกตอนไหนหรอ?"  พ่อ"ก็มีประมาณเรานั้นแหละ"  เราก็บอกด้วยความที่สนิทกันมาก่อนว่า "หนูมีแฟนด้วยตอนนี้เขานิสัยดีด้วย"  พ่อเกวก็โมโหและบอกว่า"จะมีทำไมเลิกไปเลยนะ" เกวก็งงแล้วร้องไห้เพราะพ่อไม่เคยพูดกับเราแบบนี้ เรื่องนี้ทำไมไม่พูดดีๆ  

          หลังจากนั้นเกวก็แอบคบกับแฟนมาตลอดและรู้สึกผิดตลอดที่แอบคบแต่เกวก็เปลี่ยนแฟนบ่อย ประมาณว่าพ่อยิ่งห้ามมันเหมือนยิ่งยุ เราเที่ยวเกือบทุกวันกับบ้านดึกทุกวัน เหมือนเราเป็นเด็กใจแตกไปเลย ไม่อยากกลับบ้านไม่รู้จักพูดคุยกับใคร พูดอะไรไปก็ไม่ถูกปากถูกใจ  ทำให้เกวเก็บไปคิดคนเดียวกลายเป็นเด็กเก็บกดชอบร้องไห้คนเดียว ระบายใครก็ไม่ได้บางทีเพื่อนก็ช่วยไรไม่ได้ซะทุกอย่าง  

          พอเกวจบม.ต้น เพื่อนๆในกลุ่มก็ต้องแยกย้ายกันไปเพราะโรงเรียนไม่มีม.ปลาย   เราตั้งใจจะไปต่อพานิชเพราะเราคิดว่าเราชอบและเราถนัดมากกว่าสายสามัญ   แต่พ่อเกวบังคับให้เรียนม.ปลาย  เราก็แกล้งๆ บอกว่าโอเคเดี๋ยวจะลองไปสอบดู ถ้าไม่ติดก็ไปพานิชนะ พ่อก็โอเค เราก็ไปสอบกามั่วๆ ไปเลย พอผลสอบออกไม่ติด* เราก็เย้ๆๆๆๆๆๆๆดีใจมากๆ ไปบอกพ่อ"เนี่ยไม่ติด" พ่อก็บอก"เดี๋ยวฝากเข้าให้"ร้องไห้เส้นใหญ่อีกโอ้ย-3-) เราก็บอกไม่"เราไม่อยากเรียนอย่ามาบังคับ" พ่อก็ด่าเราว่า"กูเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเองยังไม่เอา"  ส่วนเราก็น้ำตาคลอและคิดในใจว่า'ไม่อยากเรียนถ้าเรียนไม่อย่ามาว่าและกัน' พอพ่อฝากเข้าให้เราก็ต้องไปเรียนปรับพื้นฐานในไม่กี่สัปดาห์  ช่วงนี้กำลังเป็นช่วงสงกรานต์พอดี เราก็คบกับแฟนอยู่ก็แนวแว๊นๆ หน่อย เราก็ไปอยากไปเล่นกับแฟน ถ้าอยู่กับพ่อพ่อต้องไม่ให้ไปแน่ๆ เราเลยบอกพ่อ"จะไปนอนกับยายไปดูแกด้วยช่วงเทศกาลทั้งที"  พอถึงวันสงกรานต์วันแรก เราก็ไปเล่นกับแฟนเข้าบ้านตี2เห็นยายนั่งรอ เราก็ถามยายว่า"ยังไม่นอนอีกหรอ" ยายก็บอก"รอเอ็งนั่นแหละเข้าบ้านดึกขนาดนี้ยายเป็นห่วง" เราก็หัวดื้อก็บอก"พรุ่งนี้ไม่ต้องรอนะยายนอนก่อนเลย"  พอวันต่อไปเราก็เข้าดึกอีกเช่นเคย จนวันสุดท้ายก็เหมือนเดิม สงสารยายนะแต่ก็ทำไม่รู้ทำไมTT

          และแล้ววันที่ไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงวันที่ต้องไปเรียนปรับพื้นฐานเรากลัวเพื่อนใหม่ กลัวว่าจะเข้ากับใครไม่ได้พอวันแรกเราก็ออกจากบ้านตั้งแต่ตี4-5ไปอยู่กับแฟนไม่อยากไปโรงเรียนแต่วันนั้นเป็นวันที่ต้องมอบตัวและประชุมผู้ปกครอง ตอนเราไปสมัครเราก็ไปเองเรารู้คนเดียวพ่อไม่รู้  เราก็ให้ป้าเราไปป้าเราเข้าใจวัยรุ่นพอสมควร  พอเราเดินเข้าไปในโรงเรียนใหม่ ทุกคนก็มองเราและนินทาทำสีหน้าใส่ เราก็คิดในใจแค่เริ่มก็ไม่สวยแล้ว แต่จังหวะเจอเพื่อนเก่าพอดีเลยนั่งคุยกันจนรอป้าประชุมเสร็จก็กลับ  เราก็กลับกะป้าและแยกกับป้าเลย และวันที่2ของปรับพื้นฐานเราก็ไปเรียนเราไปสาย ห้องก็หาไม่เจอเลยเดินมั่วๆไปจนเจอ  เราเข้าไปในห้องครูก็จับให้เรานั่งหน้าห้องเลย ทุกคนในห้องก็มองและเพื่อนข้างหลังเราก็ทักเราชวนเราคุย เราก็โอเคมันก็ไม่ได้เลวอย่างที่คิด แต่เราก็ไม่ชอบอยู่ดี ไม่อยากเรียนไม่ชอบไม่ได้รักในทางนี้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเราก็ไปคุยกับรองโรงเรียนคนเดียวด้วยตนเองเลยว่า "หนูไม่อยากเรียนที่นี่ค่ะเพราะพ่อบังคับหนูให้เรียน" เขาก็ถามว่า "หนูอยากเรียนอะไร" เราก็ตอบว่า "หนูอยากเรียนพานิชย์ค่ะ"  ครูก็บอกว่า "อื้มก็ดีหนิทำไมพ่อไม่ให้เรียนล่ะ ครูก็จบพานิชย์มานะ" เราก็บอก"ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ"  ครูก็ยิ้มละบอกว่า "พ่อคงคิดละสิว่าพานิชย์นี่ไปไม่รอดแน่นอน และต้องเกเรแน่นอน ถ้าหนูไม่อยากเรียนครูก็จะคุยกับพ่อให้นะ" เราก็ขอบคุณครู

          พอเรากลับบ้านครูน่าจะโทรไปหาพ่อแล้ว พ่อก็เรียกเรามาคุยว่า"ทำไมไม่อยากเรียน" เราก็บอก"หนูไม่ชอบหนูไม่อยากเรียน" พ่อก็บอกว่า "ทำเพื่อพ่อได้มั้ยเรียนให้พ่อได้มั้ย" เราก็น้ำตาคลอเบ้า พ่อก็บอกว่า"เรายังจะอยากเรียนอยู่มั้ย"  เราก็บอกพ่อว่า"อยาก หนูจะเรียนเพื่อพ่อ" และเราก็ถามต่อว่า "ทำไมพ่อต้องมาบังคับหนูเรียน ทำไมพี่2คนยังเรียนพานิชย์ได้เลย" พ่อก็บอก"ก็เพราะว่ามันเรียนไปแล้วพ่อก็อยากให้เราลองดูบ้าง"  เราก็โอเคตามนั้น

          จากนั้นเปิดเทอมมาเราก็ใช้ชีวิตปกติ เราอยากได้โทรศัพท์เราก็เลยคิดที่จะทำงาน เราบอกให้พ่อหางานให้หน่อยเพราะอายุไม่ถึงหางานทำยาก พ่อก็บอกไม่ต้องทำหรอกตั้งใจเรียนไปเถอะ  เราก็บอกหนูอยากได้โทรศัพท์พ่อก็ซื้อให้สิจะได้ไม่ทำ  พ่อก็ไม่ได้พูดอะไร   เราก็เริ่มหางานในเน็ตทำ เป็นตัวแทนบ้างมีคนเรียกไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมบ้างแต่ก็รายได้ไม่พออยู่ดี   เราก็ลองค้นหาในกูเกิ้ลเรื่อยๆจนเจอ **งานรับจ้างเที่ยว**  เราก็งง เห้ยงานไรวะเราก็คลิกเข้าไปอ่านรายละเอียด จ้างเที่ยวไม่นัวไม่เซ็ก ได้2000-3000 เลยเราก็แบบเห้ยอยากทำอะ แต่กลัวแฟนจับได้ เราก็ลองหาๆ ดูลองทักไปคุยเล่นๆ เขาก็บอกให้ออกมานัดเจอหน่อยได้มั้ย เราก็บอกเราไม่เคยทำขอ3000นะคะ ด้วยความที่เราไม่รู้เขาก็มารับเราไปกินข้าวที่โรงแรมริมแม่น้ำวิวสวยๆ หรูมาก เราก็ดีใจที่ได้มากินที่แบบนี้ และเขาก็บอกจะพาไปดูวิวชั้น10 จะเห็นทั่วตึกเลย เราก็กล้าๆ กลัวๆ ก็เลยเออเสี่ยงๆ ไปละกัน ขึ้นปุ้บเรายืนดูวิวอยู่ตรงระเบียงพี่เขาก็เข้ามาสวมกอดละถามว่า"วิวสวยมั้ย" เราก็ตกใจและใจหายมากและก็บอกว่า"สวยค่ะ" เราก็บอกให้เราเข้ามานั่งเล่นในห้องเย็นๆ นิ  เราก็นั่งเล่นโทรศัพท์และเขาก็หยิบโทรศัพท์เราวางและอุ้มเราไปนอนบนเตียง ณ ตอนนั้นเราคิดว่าเอาแล้วไม่รอดแน่ทำไงดีวะ เราก็บอกพี่เขาเลยว่า"พี่คะใส่ถุงด้วยนะ" พี่เขาก็บอก"ครับรู้แล้ว"  

---------เดี๋ยวมาต่อนะคะ--------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 128
ทีแรกจะแสดงความยินดีที่กลับตัวกลับใจได้

มีเจอย่อหน้าสุดท้าย ว่า " ถ้าไม่เดือดร้อนใครแล้วเราสบายใจที่จะทำเราก็ทำไปเถอะค่ะ  ถือว่าเป็นประสบการณ์" แล้วอึ้ง แถมมีเด็ก ๆ มาอวยว่าสุดยอดอีก

ตรรกะคุณเพี้ยนมาก การที่อยากได้เสื้อผ้า ไอโฟน และลูกหมา ถึงกับต้องขายตัว แล้วยังคิดว่าไม่เดือดร้อนใคร  มันผิดศีลธรรมนะคะ คุณผิดต่อครอบครัวคุณ แฟนคุณ และแฟนของคนที่มาใช้บริการคุณ

ถ้าไม่แคร์เรื่องศีลธรรม การขายบริการก็ทำให้แฟนคุณเสี่ยงติดโรคได้ รวมถึงแฟนหรือภรรยาของคนที่มาใช้บริการคุณด้วย อย่าคิดว่าใส่ถุงแล้วจะป้องกันได้ทุกโรคนะ ถุงยางไม่ได้ป้องกันการติดต่อ เริม  ไวรัสตับอักเสบ A, B, C หรือ HPV นะคะ เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกอีกต่างหาก

จบเกือบสวยละ ดันมีการมายุคนอื่นให้ทำตามอีก "ถือว่าเป็นประสบการณ์" ....ประสบการณ์อย่างนี้นี่ควรมีเหรอคะ ถามจริง?

เม่าเซย์โน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่