เนื่องจาก มีธุระเร่งด่วนบน ดอยอินทนนท์ กระทันหัน
เลยจำเป็น ต้องนอกใจ PCX All new มาควบ Grand filano ขึ้นยอดดอย อินทนนท์ แทน...
เส้นทางโดย ประมาณ ไป-กลับ 210Km.+ และมีเส้นทางลาดชัน ขึ้นเขา ลงดอย สลับกันไป(ขาไป เติมน้ำมัน ไป 100บาท จากเดิมน้ำมันในถังมีขีดเดียว)
สภาพอากาศต้นๆก็มี แดดส่องตั้งแต่ตัวเมืองเชียงใหม่ แดดส่องยาวไปถึง จุดตรวจและซื้อบัตรเข้าอุทยานดอยอินทนนท์
Cr.Google.map ขออนุญาตใช้ภาพเพื่อสร้างความเข้าใจแก่เพื่อนสมาชิกส่วนร่วม นะครับ
ความเร็วที่ใช้ ก็แตกต่างกันออกไป ช่วงถนนยาวๆ เส้น เชียงใหม่-ฮอด ก็วิ่งประมาณ80-90 km/hr.
ขี่เพลิน จนผ้าปิดจมูกตกหาย ระหว่างจะเข้าทางขึ้นดอย
พอชำระเงินเสร็จ และรับตั๋ว ฝนก็ตกปุ๊ป และลมแรงมาก (อากาศเปลี่ยนไปไวมาก เหมือนสั่งได้จริงๆ)
พอขึ้นดอย ก็วิ่งประมาณ 30-60 km/hr. ตามสภาพอากาศที่หมอกหนาจัด สลับกับลมฝนที่พัดแรง และถนนเปียก ตลอดเส้นทาง
แรกๆ ช่วงทางขึ้น สภาพอากาศเหมือนหลอกให้ตายใจว่า ฝนตกแปปเดียว
ทริปเฉพาะกิจนี้ ผมขอยอมรับว่า ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ทั้งชุดกันฝน การ์ดป้องกัน ถุงมือ และหมวกกันน็อคแบบปิดหน้า
เพราะตอนมาเชียงใหม่นั้น ไม่ได้วางแผนว่าจะมาบนนี้ แต่สุดท้ายงานก็ต้องมาก่อน
แต่ยังโชคดี ที่มีเสื้อตัวนี้ ติดอยู่ใน เป้มาด้วย
ช่วงนี้ เป็นลานจอดรถ ช่วงเขตเดินป่า กิ่วแม่ปาน ซึ่งเป็นจุดระหว่างช่องของภูเขาพอดี ทำให้ลมนั้นรุนแรนกว่าปกติ
และที่หนักกว่านั้น ทั้งฝน และหมอก มากันแบบจัดเต็ม ระยะการมองเห็น ไม่เกิน3-5เมตร และลมแรงขนาดที่ว่า จอดรถถ่ายรูป ล้อหน้าจะส่ายไปตามลม
ฮ่าๆๆ ถึงจนได้...ไม่น่า เชื่อ ว่าGrand Filano ทำได้ดี ครับ...น้ำมันตอนนี้ เหลืออยู่ 1ขีด และยางเดิมๆ ของรถก็ไม่ได้แสดงอาการลื่นแต่อย่างใด
ใช้เวลามาถึงนี่ก็ 2ชม.กว่าๆ เกือบ3ชม.
พอเสร็จธุระ ก็เดินดื่มด่ำ บรรยากาศอยู่หลาย ชม. เพราะตัวเปียกไปทั้งตัว
ยิ่งบนดอยช่วงนี้ มีอุณหภูมิเย็น ต่ำกว่า 14องศา(เห็นเลขแจ้งต่ำสุด 10องศา ของวันนั้น) ก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากับทานของร้อนๆ นิดหน่อย ให้ร่างกายพักฟื้น
เอาล่ะ คนพร้อมแล้ว อีกทั้งได้ซื้อ เสื้อกันฝนตัวใหม่ กับถุงมือกันหนาวที่ห่อด้วยถุงพลาสติกกันเปียกอีกชั้น
คราวนี้ก็เริ่มขี่รถลงดอยแล้ว ในใจก็พะวงเรื่องน้ำมันในถัง เพราะเหลือขีดเดียว แต่พอจำได้ว่า ช่วงก่อนถึง ที่ทำการอุทยานใหญ่ จะมีปั้มหยอดเหรียญอยู่
ก็เลย เลี้ยงรถ ลงดอยมาเรื่อยๆ ฝนก็ยังตก ลมก็ยังแรง เหมือนเดิม และเศษซากต้นไม้ที่หักขวางถนน ก็เต็มไปหมด
จุดไหนปลอดภัย พอจอดรถได้ ผมก็จะลงไปเคลียซากต้นไม้ให้
ซึ่งช่วงนี้ Grand Filano ทำได้ดี เรื่องการชลอความเร็วลงที่ลาดชัน และยางก็ยึดเกาะดีนะครับ ยางไม่แถ สักครั้งเลย
สุดท้ายนี้ ก็ได้ขับขี่ Grand Filano ลงมาถึง ถนนหลักอย่างปลอดภัย และก็ขี่กลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ในเย็นวันนั้นทันที
โดยได้เติมน้ำมันอีกครั้งตรงปั้มข้างๆถนนหลักอีก 80บาท...ก่อนนั้นได้เติมตู้หยอดเหรียญช่วงขาลงมาแล้วครั้งหนึ่ง1ลิตร(กันเหนียว)
สำหรับผม น่าแปลกใจดีครับ...ประหยัดใช้ได้เหมือนกัน กับรถรุ่นนี้
ความคิดเห็นส่วนตัวในทริปนี้ กับ Grand Filano :
-กำลังเครื่อง มีแรงพอส่งรถ ขึ้นดอยได้...แต่ อาจจะมีปัญหา ถ้าหากมีการบรรทุกของมาก และมีคนซ้อนอีกคน ซึ่งมันจะดูว่า เป็นการใช้รถไม่ถูกประเภท
-อัตราการประหยัดน้ำมัน นั้น ประทับใจผมมาก รวมๆ เงินทั้งหมดที่เติม 220บาท แถมมีน้ำมันเหลือในถัง ได้ขี่ทั่วเมืองได้อีก1คืน
-ความรู้สึกในการขับขี่ ก็สบายดีครับ ไม่เมื่อย หรือต้องคอยเปลี่ยนท่าทางในการขับขี่ เลย...
-การยึดเกาะของยาง อย่างที่ได้บอกไป ผมโอเคกับมันนะ แต่อาจเป็นเพราะผมขับขี่ ไม่เกิน 90km. เลย อาจจะไม่เป็นปัญหา ซักเท่าไหร่
-ช่องเก็บของใต้เบาะ U-box ก็มีพื้นที่ พอตัว ใส่หมวก ไซด์M และกระเป๋าเป้ขนาด15L ได้อีกใบ ก็โอเคนะจุดนี้
-เรื่องไฟ และหน้าปัจท์โชว์ ก็ใช้ได้ดีครับ...โดย เฉพาะไฟหน้า ผมลองจอด แล้ววิ่งไปไกลๆ หันมามองไฟรถ ว่าเห็นชัดไหมในหมอก สรุปว่า จ้า ดี
แต่ ที่พามึนบ่อยๆ คือ ไฟโชว์ของไฟเลี้ยว มันเล็กไปนิด แล้วตำแหน่งไปทางซ้าย ของหน้าปัจท์ หลงนึกว่าเปิดไฟเลี่ยวผิดด้านทุกที
ขอ สรุปรีวิวแบบสั้นๆ และเฉพาะกิจเท่านี้ ครับ
ขาดเหลือ อะไรไป เพื่อนๆสามารถเสริม หรือสอบถามมาได้ ครับ
[รีวิวสั้นๆแบบเฉพาะกิจ] Grand Filano ขึ้นดอย อินทนนท์ ....ทั้ง อากาศเย็น ฝน ฟ้า ลมกระโชก และหมอก มาครบ
เลยจำเป็น ต้องนอกใจ PCX All new มาควบ Grand filano ขึ้นยอดดอย อินทนนท์ แทน...
เส้นทางโดย ประมาณ ไป-กลับ 210Km.+ และมีเส้นทางลาดชัน ขึ้นเขา ลงดอย สลับกันไป(ขาไป เติมน้ำมัน ไป 100บาท จากเดิมน้ำมันในถังมีขีดเดียว)
สภาพอากาศต้นๆก็มี แดดส่องตั้งแต่ตัวเมืองเชียงใหม่ แดดส่องยาวไปถึง จุดตรวจและซื้อบัตรเข้าอุทยานดอยอินทนนท์
Cr.Google.map ขออนุญาตใช้ภาพเพื่อสร้างความเข้าใจแก่เพื่อนสมาชิกส่วนร่วม นะครับ
ความเร็วที่ใช้ ก็แตกต่างกันออกไป ช่วงถนนยาวๆ เส้น เชียงใหม่-ฮอด ก็วิ่งประมาณ80-90 km/hr.
ขี่เพลิน จนผ้าปิดจมูกตกหาย ระหว่างจะเข้าทางขึ้นดอย
พอชำระเงินเสร็จ และรับตั๋ว ฝนก็ตกปุ๊ป และลมแรงมาก (อากาศเปลี่ยนไปไวมาก เหมือนสั่งได้จริงๆ)
พอขึ้นดอย ก็วิ่งประมาณ 30-60 km/hr. ตามสภาพอากาศที่หมอกหนาจัด สลับกับลมฝนที่พัดแรง และถนนเปียก ตลอดเส้นทาง
แรกๆ ช่วงทางขึ้น สภาพอากาศเหมือนหลอกให้ตายใจว่า ฝนตกแปปเดียว
ทริปเฉพาะกิจนี้ ผมขอยอมรับว่า ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ทั้งชุดกันฝน การ์ดป้องกัน ถุงมือ และหมวกกันน็อคแบบปิดหน้า
เพราะตอนมาเชียงใหม่นั้น ไม่ได้วางแผนว่าจะมาบนนี้ แต่สุดท้ายงานก็ต้องมาก่อน
แต่ยังโชคดี ที่มีเสื้อตัวนี้ ติดอยู่ใน เป้มาด้วย
ช่วงนี้ เป็นลานจอดรถ ช่วงเขตเดินป่า กิ่วแม่ปาน ซึ่งเป็นจุดระหว่างช่องของภูเขาพอดี ทำให้ลมนั้นรุนแรนกว่าปกติ
และที่หนักกว่านั้น ทั้งฝน และหมอก มากันแบบจัดเต็ม ระยะการมองเห็น ไม่เกิน3-5เมตร และลมแรงขนาดที่ว่า จอดรถถ่ายรูป ล้อหน้าจะส่ายไปตามลม
ฮ่าๆๆ ถึงจนได้...ไม่น่า เชื่อ ว่าGrand Filano ทำได้ดี ครับ...น้ำมันตอนนี้ เหลืออยู่ 1ขีด และยางเดิมๆ ของรถก็ไม่ได้แสดงอาการลื่นแต่อย่างใด
ใช้เวลามาถึงนี่ก็ 2ชม.กว่าๆ เกือบ3ชม.
พอเสร็จธุระ ก็เดินดื่มด่ำ บรรยากาศอยู่หลาย ชม. เพราะตัวเปียกไปทั้งตัว
ยิ่งบนดอยช่วงนี้ มีอุณหภูมิเย็น ต่ำกว่า 14องศา(เห็นเลขแจ้งต่ำสุด 10องศา ของวันนั้น) ก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากับทานของร้อนๆ นิดหน่อย ให้ร่างกายพักฟื้น
เอาล่ะ คนพร้อมแล้ว อีกทั้งได้ซื้อ เสื้อกันฝนตัวใหม่ กับถุงมือกันหนาวที่ห่อด้วยถุงพลาสติกกันเปียกอีกชั้น
คราวนี้ก็เริ่มขี่รถลงดอยแล้ว ในใจก็พะวงเรื่องน้ำมันในถัง เพราะเหลือขีดเดียว แต่พอจำได้ว่า ช่วงก่อนถึง ที่ทำการอุทยานใหญ่ จะมีปั้มหยอดเหรียญอยู่
ก็เลย เลี้ยงรถ ลงดอยมาเรื่อยๆ ฝนก็ยังตก ลมก็ยังแรง เหมือนเดิม และเศษซากต้นไม้ที่หักขวางถนน ก็เต็มไปหมด
จุดไหนปลอดภัย พอจอดรถได้ ผมก็จะลงไปเคลียซากต้นไม้ให้
ซึ่งช่วงนี้ Grand Filano ทำได้ดี เรื่องการชลอความเร็วลงที่ลาดชัน และยางก็ยึดเกาะดีนะครับ ยางไม่แถ สักครั้งเลย
สุดท้ายนี้ ก็ได้ขับขี่ Grand Filano ลงมาถึง ถนนหลักอย่างปลอดภัย และก็ขี่กลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ในเย็นวันนั้นทันที
โดยได้เติมน้ำมันอีกครั้งตรงปั้มข้างๆถนนหลักอีก 80บาท...ก่อนนั้นได้เติมตู้หยอดเหรียญช่วงขาลงมาแล้วครั้งหนึ่ง1ลิตร(กันเหนียว)
สำหรับผม น่าแปลกใจดีครับ...ประหยัดใช้ได้เหมือนกัน กับรถรุ่นนี้
ความคิดเห็นส่วนตัวในทริปนี้ กับ Grand Filano :
-กำลังเครื่อง มีแรงพอส่งรถ ขึ้นดอยได้...แต่ อาจจะมีปัญหา ถ้าหากมีการบรรทุกของมาก และมีคนซ้อนอีกคน ซึ่งมันจะดูว่า เป็นการใช้รถไม่ถูกประเภท
-อัตราการประหยัดน้ำมัน นั้น ประทับใจผมมาก รวมๆ เงินทั้งหมดที่เติม 220บาท แถมมีน้ำมันเหลือในถัง ได้ขี่ทั่วเมืองได้อีก1คืน
-ความรู้สึกในการขับขี่ ก็สบายดีครับ ไม่เมื่อย หรือต้องคอยเปลี่ยนท่าทางในการขับขี่ เลย...
-การยึดเกาะของยาง อย่างที่ได้บอกไป ผมโอเคกับมันนะ แต่อาจเป็นเพราะผมขับขี่ ไม่เกิน 90km. เลย อาจจะไม่เป็นปัญหา ซักเท่าไหร่
-ช่องเก็บของใต้เบาะ U-box ก็มีพื้นที่ พอตัว ใส่หมวก ไซด์M และกระเป๋าเป้ขนาด15L ได้อีกใบ ก็โอเคนะจุดนี้
-เรื่องไฟ และหน้าปัจท์โชว์ ก็ใช้ได้ดีครับ...โดย เฉพาะไฟหน้า ผมลองจอด แล้ววิ่งไปไกลๆ หันมามองไฟรถ ว่าเห็นชัดไหมในหมอก สรุปว่า จ้า ดี
แต่ ที่พามึนบ่อยๆ คือ ไฟโชว์ของไฟเลี้ยว มันเล็กไปนิด แล้วตำแหน่งไปทางซ้าย ของหน้าปัจท์ หลงนึกว่าเปิดไฟเลี่ยวผิดด้านทุกที
ขอ สรุปรีวิวแบบสั้นๆ และเฉพาะกิจเท่านี้ ครับ
ขาดเหลือ อะไรไป เพื่อนๆสามารถเสริม หรือสอบถามมาได้ ครับ