ฝรั่งแคนาดาข้างบ้านเปิดเบสดังมาก สามารถทำอย่างไรได้บ้างคะ

อาศัยอยู่ที่ ชลบุรี ข้างบ้านเปิดเป็นบ้านสำหรับเช่า แต่เนื่องจากเป็น town home ผนังบ้านจะแชร์กัน คนเช่าเป็น ฝรั่งแคนาดา ที่มาเป็นอาจารย์สอนตามติวเตอร์ เขามักจะเข้าบ้านมาประมาณสี่ทุ่ม แล้วออกไปทำงานประมาณสายๆ แต่ไม่ทุกวัน  เขาย้ายเข้ามาที่บ้านเช่านี้ได้ก็เกือบปีแล้ว สามเดือนแรกยังไม่ค่อยมีปัญหาอะไร มามีปัญหาเดือนที่สี่เนื่องจากเขาเป็นคนนอนดึก ประมาณหลังตึ่สี หลังจากกลับมาก็จะเปิดเพลง ซึ่งมีเบสแน่นๆตามที่ใช้เปิดตามพับ กว่าจะปิดก็คือเวลาที่เขาจะเข้านอน  

เคยบอกกล่าวแล้วเมื่อประมาณตุลาปี 14 เขาก็บอกว่าเจ้าของบ้านบอกเขาว่า ผนังเป็นแบบ sound proof ซึ่งเราก็บอกเขาแล้วว่าไม่ใช่ ขอให้ลดเสียงเบสลงหน่อย เขาก็เหมือนจะเข้าใจบอกว่าจะลดเสียงเบสลงและบอกว่ากำลังหาที่อยู่ใหม่เพราะที่บ้านเองก็มีปัญหาหลายอย่าง  แต่หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ยังดำเนินต่อมาเรื่อยๆ มีการกดกริ่งหน้าบ้านไปหลายครั้ง ยามวิกาล ตี 1,2,3 ของวันทำงาน เพื่อที่จะให้เขาลดเบส หรือออกมาคุย แต่เขาก็ไม่ออกมา ระหว่างนี้ก็มีการแจ้ง รปภ ของหมู่บ้าน และ เจ้าของบ้านให้รับทราบเป็นระยะๆ

จดมาถึงประมาณพฤษภา 58 ฝรั่งแคนาดาเจ้าเดิมก็เปิดเบสดังมากตอนตีสองกว่าๆจนแฟนเราทนไม่ได้ต้องลงไปกดกริ่งอีก ซึ่งเราก็โทรแจ้งไปที่ รปภ หมู่บ้านเช่นเดิมให้มาที่หน้าบ้านของฝรั่ง กดกริ่งไปหลายรอบมากก็ไม่ออกมาคุย จนต้องแยกย้ายกันไปเอง  

เช้าถัดมาฝรั่งคนนี้ได้มากดกริ่งรัวๆที่หน้าบ้านเรา เราก็ตกใจนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเลยรีบลงไปเปิดประตู ซึ่งในเวลานั้นแฟนเราได้ออกไปทำงานแล้ว ประโยคแรกที่เราได้รับจากฝรั่งคนนี้คื่อ "Do you have *ucking problem" บอกเลยคะ ณ เวลานั้นเราองค์ลงทันที ก็เลยตอบว่า Yes ไปและ ก็บอกเขาไปว่า I have problem with your bass.  
อีตาฝรั่งนี้ก็บอกว่าก็พยายามจะเปลี่ยนเรื่องไปเรื่องแมวจรจัดแถวบ้านที่ชอบมาเที่ยวเล่นบ้านเราแล้วมันไปขูดเบาะรถมอเตอร์ไซด์ของเขา เราก็เลยตัดรำคาญบอกไปเลยว่าถ้างันคุณก็กำจัดแมวไปได้เลยนะตามที่เห็นควร เพราะมันไม่ใช่แมวเรา ฝรั่งก็คงคิดว่าเราบ้า
แต่ตอนนั้นเราโมโหมาก และแมวนั้นก็ไม่ใช่แมวเราจริงๆ  พร้อมกันนั้นเราก็ถามไปว่า แล้วคุณจะทำยังไงกะเบสคุณ ฝรั่งคนนี้ก็ไม่ตอบ แถมมาบอกว่าเราโกหกเรื่องแมวอีก เราก็เลยบอกว่าคุณก็โกหกเหมือนกันว่าคุณจะพยายามลดเสียงเบสลง ตั้งแต่ตอนโน้นที่บอกไปแล้วว่าผนั้งไม่ได้กันเสียง  คราวนี้เงียบแล้วเดินเลี่ยงเข้าบ้านไปเลยคะ เราก็กำลังโมโหเนอะ เรียกเรามาด่า เสร็จแล้วก็ไม่ได้บทสรุปอะไรสักอย่าง ก็เลยไปกดกริ่งหน้าบ้านให้ออกมาคุยกัน
แต่ตาฝรั่งคนนี้กลับออกมาไล่เราว่า  "Go away....ไปไกลไกล"
เราก็บอกไปว่า You call me out for talk, so talk
ฝรั่งแคนาดาคนนี้ก็เดินมาประจันหน้าเราเลยคะ พูดเป็นภาษาไทยว่า "ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องเหรอ"
เราตอบกลับเลยคะว่า "ไม่รู้เรื่อง" แล้วก็ถามไปว่า What are you going to do with your bass?  
ตานี่ก็เดินหลบเข้าบ้านไป เราก็กดกริ่งให้ออกมาคุย เขาก็ออกมาตรงระเบียงแล้วก็พูดคำเดิมว่า Go Away
เราก็เลยตอบไปว่า  "This is Thailand.  You come from civilized country, you should not act like this.  After all we are neighbor.  Once you ready to talk, i will be right next door.  I will be in my house all day today.  
แล้วก็เดินเข้าบ้าน แจ้งเจ้านายลางานหนึ่งวันเนื่องจากปัญหากับข้างบ้าน แจ้งแฟนให้โทรหาเจ้าของบ้านให้มาที่หมู่บ้าน
ส่วนตัวเราก็นั่งดักรอที่หน้าบ้านนั้นละคะ พอตาฝรั่งคนนี้ออกมา เราก็โผล่หัวไปถามเลยว่า Can we talk now คราวนี้เขาก็เบาลงมานะคะ ก็พูดดีกว่าเดิมเยอะ บอกว่าตอนแรกนึกว่าเราจะเป็นเหมือนคนไทยทั่วไปที่พูด F****
เราก็ตอบไปว่า "We got some education here, OK?  แล้วก็บอกเขาไปว่าเรื่องแมวอยากทำอะไรก็ทำ เรื่องแมวปิดไป ส่วนเรื่อง bass คุณจะทำยังไง"  
เขาก็พูดว่าเวลาของเราสองบ้านไม่สอดคล้องกัน แต่เขาจะพยายามเปิดเบาๆ ซึ่งเราก็เห็นว่ามันก็เปิดสิทธิ์ของเขาที่จะฟังเพลงตอนดึก ถ้าให้ปิดเลยก็คงใจร้าย ก็เลยไม่ได้พูดอะไร แต่ก็บอกไปนะคะว่า คงต้องมาคุยกันอีกทีรอบบ่ายนะ เพราะบ้านไม่ใช่ของเรา เป็นของแฟนที่กำลังเดินทางกลับจากที่ทำงาน (ลางานมาเลยคะเพราะเมียองค์ลง) ฝรั่งก็บอกว่าได้ๆ จับมือ shake hand แล้วก็แยกย้ายไปทำธุระของใครของมัน
ประมาณสิบเอ็ดโมงแฟนเราก็กลับมาที่บ้าน เราก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ประมาณบ่ายสอง ก็เชิญฝรั่งเข้ามาในบ้านเพื่อทำความเข้าใจ  และก็ได้แจ้งเจ้าของบ้านไปด้วยให้รับทราบ  

ดูเหมือนทุกอยู่จะจบลงด้วยดีแต่ไม่เลยคะ สองอาทิตย์ถัดมา เหมือนเดิมแต่เหมือนจะเบาลงให้หน่อย ทางเรากับแฟนก็ได้แต่เดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน ตอนสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ตีหนี่ง สอง สาม ตามวาระ
ฝรั่งแคนาดาคนนี้ก็ไม่ออกมานะคะ ก็มีแต่ลดเสียงบ้าง ปิดบ้าง เรากะแฟนก็ได้แต่ทนๆไปและก็พยายามคิดว่าเดี๋ยวคงย้ายออกไป

จดเมื่อต้นสิงหา บังเอิญบ้านฝรั่งมีเพื่อนมาจากแคนาดา จัดเต็มเลยคะ คืนวันเสาร์เสียงเบสมาตั้งแต่สี่ทุ่ม เราก็ทนๆไป (ไม่อยากมีปัญหากะแฟนเพราะก็เถียงกันด้วยเรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว) จนถึงตีสอง ทนไม่ไหวคะ มันนอนไม่ได้จริงๆ เสียงมัน ตึง ตึง ตึง ตลอด เราก็เดินลงมากดกริ่งโดยไม่พูดอะไร เห็นเสียงเงียบลงก็เดินกลับเข้าบ้านไป
ตีสามเอาอีก เราก็เลยโทรเรียก รปภมา  ก็ไปกดกริ่งอยู่หน้าบ้านก็เรียกให้ออกมานะค่ะ ก็เหมือนเดิมคือไม่ออกแต่เบาเสียงให้ อยู่หน้าบ้านเขาสักสิบนาทีเราก็เลยบอกพี่ รปภ คงไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันไป
พอเราเข้าบ้านมาสักพัก เสียงเพลงและเบสก็มาอีก พร้อมกับเสียงคุยของเขากับเพื่อนว่า
" She is crazy.  She wants me to be completely silent"
".....I want to have some fun"
" I may be her problem but she is not my problem"
ณ นาทีนั้นสติหลุดเลยคะ มองหาโทรศัพท์ โทรไปที่สถานีตำรวจแจ้งว่าข้างบ้านเปิดเสียงรบกวน  

ตำรวจสายตรวจก็มาจริงๆคะประมาณตี่สี่ มากดกริ่ง ก็ไม่ออกมา แถมยังมีการเปิดปิดไฟหน้าบ้าน ให้ติดๆดับๆด้วยนะคะ
ตำรวจเองก็งง ก็เลยเอาไฟฉายส่องเข้าไปในบ้าน ก็ไม่เห็นมีอะไร เสียงเพลงเงียบสนิท แต่ก็ยังเปิดปิดไฟให้ รู้ว่ามีคนอยู่แต่ไม่ออก
ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้คะเพราะไม่มีหมายค้น ก็บอกให้ไกล่เกลี่ยกัน แล้วให้ทาง รปภ แจ้งไปกับนิติ  

เช้าวันอาทิตย์เราก็ดักรอพบเหมือนเดิม คราวนี้เขาก็ทำหน้าเซ็งๆนะคะ แต่ก็คุยดีออกแนวกวนๆว่า "Do you want me to be completely silent"
เราก็เลยตอบไปคะว่า "I don't expect you to but if you can i will be glad"  
แต่ทางแฟนเราโมโหมาก บอกเราว่าไม่ต้องคุยแล้ว แล้วบอกทางฝรั่งว่า "Anything, you can talk to police"  
เราก็เลยตบท้ายไปว่า "I don't want to do this but you put me into this position" แล้วก็แยกย้ายกันไปคะ
วันนั้นเรากับแฟนก็ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจนะค่ะ แล้วก็มาแจ้งนิติ ซึ่งนิติก็เหมือนจะแจ้งไปกับผู้เช่าและเจ้าของบ้าน
ตัวเราเองก็พยายามเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โดยลองพยายามชวนคุย แต่แฟนเราสั่งห้ามเราเลยคะว่าไม่ต้องไปคุยดีกับคนแบบนี้
เราก็พยายามบอกแฟนนะว่าขอลองเปลี่ยนแผนดู เพราะใช้ไม้แข็งมาตลอด ของลองใช้ไม้อ่อนดูเผื่ออะไรๆจะดีขึ้น
เรากะแฟนเถียงกันอยู่นานค่ะกับเรื่องนี้ สุดท้ายก็ยอมบอกว่าทำอะไรก็ทำ จะคุยดีอะไรก็ทำไป แต่เขาไม่เห็นด้วยและไม่ทำนะ เราก็ไม่ว่าไรเพราะแค่อยากพิสูจน์ว่าฝรั่งแคนาดาคนนี้เป็นยังไง
สองอาทิตย์หลังจากนั้นก็เหมือนจะดีขึ้นนะคะ แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม
แรกๆเริ่มเปิดตอน เจ็ดโมงครึ่งตอนเช้าวันเสาร์อาทิตย์แทน ไม่เปิดเสียงเบสหนักๆหลังสี่ทุ่ม  
แต่มาวันนี้ 21 กันยายน มันมาอีกแล้วคะเสียงเบสตอนตีหนึ่งกว่าๆ
เราละปวดหัวกับฝรั่งแคนาดาคนนี้จริงๆ เราเองก็ไม่เคยเจอฝรั่งกวนมากอย่างงี้ทั้งๆที่เคยใช้ชีวิตที่ต่างประเทศพอสมควร
เล่าให้เพื่อนฟังก็งงกันเป็นแถวๆ เพราะปรกติฝรั่งแคนาดาไม่น่าจะเป็นอย่างงี้  
และสุดท้ายตอนนี้เราได้คำตอบแล้วคะว่าคำว่าสันดอนขุดง่าย สันดานขุดยากเป็นยังไง

กรณีอย่างงี้ เราสามารถทำอะไรได้บ้างคะ
ปัญหาคือเราไม่สามารถวัดความสั่นสะเทือนที่เป็นเสียงเบสได้ จะไปร้องทุกข์ที่ที่ว่าการอำเภอก็ไม่สามารถอัดเสียงเบสเป็นคลิปได้
จะเขียนไปปรึกษาที่ สถาทูตแคนาดา ก็ไม่รู้ว่าอีตาฝร่งคนนี้มันชื่อเสียงเรียงนามอะไร รู้ว่าชื่อ คริส เคยอยู่ญี่ปุ่นก่อนมาทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่ไทย

เพื่อนๆพอจะแนะนำอะไรวิธีอะไรได้บ้างคะ ขอความกรุณาด้วยคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่