คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
8. ตบท้ายด้วยขำขัน สมันน้อย
ลูกค้าท่านนี้เป็นผู้หญิงครับ(เพิ่งสังเกตุเห็นนะครับ
ข้อ1-7 เป็นชายล้วน) ก้เดิมๆละครับ มาทานอยู่เรื่อยๆ
แต่พอได้เซ็นต์แค่นั้นละครับ หายไปเลย
ไม่มาเหยียบที่ร้านอีกเลย เงินแค่500กว่าบาท
ไม่น่าทำให้คนเปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้
และแล้วก็ถึงวันที่ทำให้เราได้พบกัน
วันนั้นผมพาหลานไปกินไก่ kfc ขณะที่กวาดสายตา
เพื่อหาโต๊ะว่าง แว๊บๆ เจอแล้วคนนี้ไงที่ค้างเงินที่ร้าน
5ร้อยกว่า แต่ก็นะที่สาธารณะขนาดนั้นคงไม่ทวงหรอก
แต่แล้ววินาทีนั้น "เราได้สบตากัน"
ทันใดนั้น เธอก็ยกเอกสารขนาด A4 ประมาณ 3-4แผ่น
ขึ้นมาปิดหน้าโดยฉับพลัน ทั้งๆที่เราสบตากันแล้วนะ
(มุขนี้คิดนานมั้ยเธอ)
ยัง ยังไม่พอ ผ่านไปประมาณ1นาที เธอค่อยๆเลื่อน
เอกสารลงมาที่ละนิด เพื่อมาสบตาผมอีกครั้ง
จะเอ๋ เราสบตากันอีกครั้ง
แล้วกระดาษก็เลื่อนขึ้นอีกครั้งอย่างอัติโนมัติ
นี่แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่ดีของเธออย่างชัดเจน
ไม่ได้การละ จะปล่อยให้แม่สมันน้อยหลุดลอด
กรงเล้บหมีแพนด้าอย่างผมไปได้อย่างไร
ผมเลยเดินเข้าไปหาเธอที่โต๊ะพร้อมคำทักทาย
"ขอเก็บเงินบิลเก่าที่ค้างไว้ด้วยนะครับ 700บ."
(ผมคิดรวมดอกเบี้ยเรียบร้อยแล้ว)
หลังจากสนทนากัน4-5ประโยค อาจจะเพราะเธออาย
ก็เลยจ่ายโดยดีนะครับ คิดเสียว่าได้กิน kfc ฟรีก็แล้วกัน
- > โชคดีหนี้ไม่สูญครับ < -
สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ถ้าไม่มีตังส์จ่ายจริงๆ ที่ร้านให้วางบัตรประชาชนกับโทรศัพท์เป็นประกันไว้ ส่วนใหญ่ก้กลับมาจ่ายกันนะครับ แต่ก็มีบ้างที่หายไปเลย ตอนนี้ในลิ้นชัก มีบัตรอยู่8ใบ กับโทรศัพท์ง่อยๆ อยู่ 5เครื่อง จะโทรตามก้นะขนาดโทรศัพท์กับบัตรยังไม่มาเอา จะไปแจ้งความก็เสียเวลาทำมาหากิน
จบแล้วครับ
ลูกค้าท่านนี้เป็นผู้หญิงครับ(เพิ่งสังเกตุเห็นนะครับ
ข้อ1-7 เป็นชายล้วน) ก้เดิมๆละครับ มาทานอยู่เรื่อยๆ
แต่พอได้เซ็นต์แค่นั้นละครับ หายไปเลย
ไม่มาเหยียบที่ร้านอีกเลย เงินแค่500กว่าบาท
ไม่น่าทำให้คนเปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้
และแล้วก็ถึงวันที่ทำให้เราได้พบกัน
วันนั้นผมพาหลานไปกินไก่ kfc ขณะที่กวาดสายตา
เพื่อหาโต๊ะว่าง แว๊บๆ เจอแล้วคนนี้ไงที่ค้างเงินที่ร้าน
5ร้อยกว่า แต่ก็นะที่สาธารณะขนาดนั้นคงไม่ทวงหรอก
แต่แล้ววินาทีนั้น "เราได้สบตากัน"
ทันใดนั้น เธอก็ยกเอกสารขนาด A4 ประมาณ 3-4แผ่น
ขึ้นมาปิดหน้าโดยฉับพลัน ทั้งๆที่เราสบตากันแล้วนะ
(มุขนี้คิดนานมั้ยเธอ)
ยัง ยังไม่พอ ผ่านไปประมาณ1นาที เธอค่อยๆเลื่อน
เอกสารลงมาที่ละนิด เพื่อมาสบตาผมอีกครั้ง
จะเอ๋ เราสบตากันอีกครั้ง
แล้วกระดาษก็เลื่อนขึ้นอีกครั้งอย่างอัติโนมัติ
นี่แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่ดีของเธออย่างชัดเจน
ไม่ได้การละ จะปล่อยให้แม่สมันน้อยหลุดลอด
กรงเล้บหมีแพนด้าอย่างผมไปได้อย่างไร
ผมเลยเดินเข้าไปหาเธอที่โต๊ะพร้อมคำทักทาย
"ขอเก็บเงินบิลเก่าที่ค้างไว้ด้วยนะครับ 700บ."
(ผมคิดรวมดอกเบี้ยเรียบร้อยแล้ว)
หลังจากสนทนากัน4-5ประโยค อาจจะเพราะเธออาย
ก็เลยจ่ายโดยดีนะครับ คิดเสียว่าได้กิน kfc ฟรีก็แล้วกัน
- > โชคดีหนี้ไม่สูญครับ < -
สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ถ้าไม่มีตังส์จ่ายจริงๆ ที่ร้านให้วางบัตรประชาชนกับโทรศัพท์เป็นประกันไว้ ส่วนใหญ่ก้กลับมาจ่ายกันนะครับ แต่ก็มีบ้างที่หายไปเลย ตอนนี้ในลิ้นชัก มีบัตรอยู่8ใบ กับโทรศัพท์ง่อยๆ อยู่ 5เครื่อง จะโทรตามก้นะขนาดโทรศัพท์กับบัตรยังไม่มาเอา จะไปแจ้งความก็เสียเวลาทำมาหากิน
จบแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 4
ที่บ้านมีร้านอาหารเหมือนกันครับ เจอบ่อยทั้งลูกค้าทั้งราชการ
1.ร้านผมเป็นร้านใหญ่ จะมีลานข้างนอกกับในร่ม เมื่อไหร่ที่ฝนตกนี่จะชุลมุน ย้ายโต๊ะทันที
บังเอิ๊ญญ ก็จะมีลูกค้าบางท่าน เนียนใช้โอกาสอันดีงามนี้ กลับบ้านโดยที่ไม่จ่ายสักบาท
พนักงานก็สังเกตไม่ทันเพราะคนเยอะ
2.ข้าราชการหน่วยงานที่เก็บภาษีอ่ะครับ จะมาจัดเลี้ยงที่ร้านประมาณเดือนละครั้ง
พอจะกลับก็บอกว่า "วันนี้ดูแลพวกพี่นะ" เป็นอันเข้าใจว่ากรูไม่จ่าย
เคยถามพ่อว่าทำไมทำอย่างนั้น ยอมได้ไง พ่อบอก "เคยบอกให้เข้าจ่าย เค้าบอกจะขึ้นภาษี ก็เลยให้กินฟรีๆไป"
แย่เนอะ
1.ร้านผมเป็นร้านใหญ่ จะมีลานข้างนอกกับในร่ม เมื่อไหร่ที่ฝนตกนี่จะชุลมุน ย้ายโต๊ะทันที
บังเอิ๊ญญ ก็จะมีลูกค้าบางท่าน เนียนใช้โอกาสอันดีงามนี้ กลับบ้านโดยที่ไม่จ่ายสักบาท
พนักงานก็สังเกตไม่ทันเพราะคนเยอะ
2.ข้าราชการหน่วยงานที่เก็บภาษีอ่ะครับ จะมาจัดเลี้ยงที่ร้านประมาณเดือนละครั้ง
พอจะกลับก็บอกว่า "วันนี้ดูแลพวกพี่นะ" เป็นอันเข้าใจว่ากรูไม่จ่าย
เคยถามพ่อว่าทำไมทำอย่างนั้น ยอมได้ไง พ่อบอก "เคยบอกให้เข้าจ่าย เค้าบอกจะขึ้นภาษี ก็เลยให้กินฟรีๆไป"
แย่เนอะ
ความคิดเห็นที่ 2
6.ข้องใจมากๆ(2)
เหตุการณ์ก็เหมือนเดิมๆละครับ ลืมเอาตังส์มา
สมมุติชื่อเล่นว่า ดารามณีกรศักดิ์สวัสดิ์ ละกันครับ
พี่ ผมลืมเอาตังส์มา เอางี้ละกัน พรุ่งนี้ผมเอามาจ่ายให้นะ
โอเคเคยเห็นหน้ามาทานที่ร้านบ้าง
อีกสี่ห้าวัน คุณลูกค้าก็มาทาน พร้อมกับเพื่อน(มั้ง)
สมมุติชื่อเล่นว่า ศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร ก็ทานกันไป
ปรกติ ตอนคิดตังส์ คุณ ดารามณีกรศักดิ์สวัสดิ์
ก้บอกกับเพื่อนว่า เฮ้ยร้านนี้กรูเซ็นต์ได้นะเว้ย
กรูเซ็นต์ได้ๆๆๆๆๆ
(เป็นเรื่องที่น่าคุยโอ้อวดมากที่สุดในปฐพี)
พี่คิดตังส์รวมกับบิลเก่าด้วยนะ จ่ายเงินครบจบเรียบร้อย
อีกอาทิตย์นึงต่อมาคุณ ศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร
ก้มาทานที่ร้านพร้อมกับเพื่อนผู้หญิง(อันนี้ไม่มีชื่อเล่น
แล้วนะครับ ผมเริ่มงงแล้ว) ทานเสร็จเรียบร้อย
เรียกคิดตังส์ พอบิลมาที่โต็ะแค่นั้นละครับ
คุณศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร บิลนี้พี่ขอเซ็นต์ไว้นะครับ
พร้อมใบหน้า ที่มองได้ว่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต
ผมตอบกลับไปว่า"ไม่ได้ครับ" ที่ร้านขายเป็นเงินสด
คุณศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร สวนกลับมาทันใด "ทำไม"
ทีไอ้ดารามณีกรศักดิ์สวัสดิ์ ทำไมมันเซ็นต์ได้
ตำแหน่งมันก็น้อยกว่าผม เงินเดือนมันก็น้อยกว่า
ทำไมผมถึงจะเซ็นต์ไม่ได้
ผม - %%&^$#@#%^& แปลได้ว่า "คือกรูต้องบอกมั้ย"
ทางร้านต้องขออภัยคุณ คุณศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร
มากนะครับ ไม่ได้ตั้งใจทำให้หน้าแตก แต่มันเป็น
นโยบายของร้านจริงๆ
- > โชคดีหนี้ไม่สูญครับ ลค.มีเงินจ่าย < -
7. ส.ส. ผู้ทรงเกลียด(ท่านนี้)
ขอเน้นนะครับ ท่านนี้เท่านั้น
ปกติ ส.ส. มาทานที่ร้าน ถ้าถึงกับเอ่ยปาก ทางร้าน
ไม่กล้าปฏิเสธหรอกครับ แต่เซ็นต์แล้วอยากเบี้ยว
ไม่อยากจ่ายก็มีนะครับ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เงินเพียงแค่5พันกว่าๆ
ก็สามารถทำให้รู้นิสัย ส.ส.ท่านนี้ได้
ปกติท่านนี้มาทานที่ร้านเดือนละครั้ง ผมยกมือไหว้
"ตามมารยาท " ตลอด มีอยู่วันนึง ด้วยความที่ท่าน
เป็นคนกว้างขวาง มีคนรู้จักเยอะ ท่านก็จะพูดว่า
โต๊ะนั้นคิดกับผมนะ โต๊ะโน้นคิดกับผมนะ โต๊ะนี้
คิดกับผมนะ แล้วท่านก็จากไป เหลือไว้แค่ความคิดถึง
หลังจากนั้นเกือบปีที่ท่านไม่แวะเวียนมาทานข้าว-
เหมือนก่อนอีกเลย(ที่คิดว่าจะเบี้ยวคือพฤติกรรม
ไม่เหมือนเดิม คงไม่ใช่ผมคิดมากไปใช่มั้ยครับ)
จากที่มาเดือนละครั้งก็ไม่มาอีกเลย จะไปทวงก็ดูจะ
ไม่ให้เกียรติท่าน จะไม่ทวงก็คงหนี้สูญ
ท่านคงเป็นพวกที่ถือคติว่า "ทวงโกรธ ไม่ทวงลืม"
และแล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ท่านจำเป็นต้องมาทานข้าว
ที่ร้านเนื่องจาก หัวหน้าของท่านนัดมากินที่ร้าน
จอดรถปุ้ป ท่านรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาเป็นคนแรก
เพื่อที่จะมาบอกผมว่า บิลที่ค้างไว้ท่านจำได้นะไม่ลืม
แต่ไม่ว่างมาเคลียซักที เดี๋ยวคิดรวมกับวันนี้ทีเดียวเลย
ผมคิดว่าท่านคงกลัวว่าทางร้านจะทวงต่อหน้าแขก
ท่านอื่นกระมัง(ยอดค้างผมบวกเพิ่มอีก 2พัน ถือว่าเป็น
ดอกเบี้ย คิดว่าผมทำผิดมั้ยครับ)
หลังจากนั้นท่านก็มาทานเป็นปกติ
ผมก็ยกมือไหว้"ตามมารยาท "ต่อไป
เหตุการณ์แบบนี้ก็คงเกิดขึ้นอีกเป็นแน่แท้
เพราะผมไม่กล้าปฏิเสธ
- > โชคดีหนี้ไม่สูญครับ ท่านมาจ่าย < -
เหตุการณ์ก็เหมือนเดิมๆละครับ ลืมเอาตังส์มา
สมมุติชื่อเล่นว่า ดารามณีกรศักดิ์สวัสดิ์ ละกันครับ
พี่ ผมลืมเอาตังส์มา เอางี้ละกัน พรุ่งนี้ผมเอามาจ่ายให้นะ
โอเคเคยเห็นหน้ามาทานที่ร้านบ้าง
อีกสี่ห้าวัน คุณลูกค้าก็มาทาน พร้อมกับเพื่อน(มั้ง)
สมมุติชื่อเล่นว่า ศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร ก็ทานกันไป
ปรกติ ตอนคิดตังส์ คุณ ดารามณีกรศักดิ์สวัสดิ์
ก้บอกกับเพื่อนว่า เฮ้ยร้านนี้กรูเซ็นต์ได้นะเว้ย
กรูเซ็นต์ได้ๆๆๆๆๆ
(เป็นเรื่องที่น่าคุยโอ้อวดมากที่สุดในปฐพี)
พี่คิดตังส์รวมกับบิลเก่าด้วยนะ จ่ายเงินครบจบเรียบร้อย
อีกอาทิตย์นึงต่อมาคุณ ศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร
ก้มาทานที่ร้านพร้อมกับเพื่อนผู้หญิง(อันนี้ไม่มีชื่อเล่น
แล้วนะครับ ผมเริ่มงงแล้ว) ทานเสร็จเรียบร้อย
เรียกคิดตังส์ พอบิลมาที่โต็ะแค่นั้นละครับ
คุณศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร บิลนี้พี่ขอเซ็นต์ไว้นะครับ
พร้อมใบหน้า ที่มองได้ว่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต
ผมตอบกลับไปว่า"ไม่ได้ครับ" ที่ร้านขายเป็นเงินสด
คุณศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร สวนกลับมาทันใด "ทำไม"
ทีไอ้ดารามณีกรศักดิ์สวัสดิ์ ทำไมมันเซ็นต์ได้
ตำแหน่งมันก็น้อยกว่าผม เงินเดือนมันก็น้อยกว่า
ทำไมผมถึงจะเซ็นต์ไม่ได้
ผม - %%&^$#@#%^& แปลได้ว่า "คือกรูต้องบอกมั้ย"
ทางร้านต้องขออภัยคุณ คุณศักดิ์สวัสดิ์ดารามณีกร
มากนะครับ ไม่ได้ตั้งใจทำให้หน้าแตก แต่มันเป็น
นโยบายของร้านจริงๆ
- > โชคดีหนี้ไม่สูญครับ ลค.มีเงินจ่าย < -
7. ส.ส. ผู้ทรงเกลียด(ท่านนี้)
ขอเน้นนะครับ ท่านนี้เท่านั้น
ปกติ ส.ส. มาทานที่ร้าน ถ้าถึงกับเอ่ยปาก ทางร้าน
ไม่กล้าปฏิเสธหรอกครับ แต่เซ็นต์แล้วอยากเบี้ยว
ไม่อยากจ่ายก็มีนะครับ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เงินเพียงแค่5พันกว่าๆ
ก็สามารถทำให้รู้นิสัย ส.ส.ท่านนี้ได้
ปกติท่านนี้มาทานที่ร้านเดือนละครั้ง ผมยกมือไหว้
"ตามมารยาท " ตลอด มีอยู่วันนึง ด้วยความที่ท่าน
เป็นคนกว้างขวาง มีคนรู้จักเยอะ ท่านก็จะพูดว่า
โต๊ะนั้นคิดกับผมนะ โต๊ะโน้นคิดกับผมนะ โต๊ะนี้
คิดกับผมนะ แล้วท่านก็จากไป เหลือไว้แค่ความคิดถึง
หลังจากนั้นเกือบปีที่ท่านไม่แวะเวียนมาทานข้าว-
เหมือนก่อนอีกเลย(ที่คิดว่าจะเบี้ยวคือพฤติกรรม
ไม่เหมือนเดิม คงไม่ใช่ผมคิดมากไปใช่มั้ยครับ)
จากที่มาเดือนละครั้งก็ไม่มาอีกเลย จะไปทวงก็ดูจะ
ไม่ให้เกียรติท่าน จะไม่ทวงก็คงหนี้สูญ
ท่านคงเป็นพวกที่ถือคติว่า "ทวงโกรธ ไม่ทวงลืม"
และแล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่ท่านจำเป็นต้องมาทานข้าว
ที่ร้านเนื่องจาก หัวหน้าของท่านนัดมากินที่ร้าน
จอดรถปุ้ป ท่านรีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามาเป็นคนแรก
เพื่อที่จะมาบอกผมว่า บิลที่ค้างไว้ท่านจำได้นะไม่ลืม
แต่ไม่ว่างมาเคลียซักที เดี๋ยวคิดรวมกับวันนี้ทีเดียวเลย
ผมคิดว่าท่านคงกลัวว่าทางร้านจะทวงต่อหน้าแขก
ท่านอื่นกระมัง(ยอดค้างผมบวกเพิ่มอีก 2พัน ถือว่าเป็น
ดอกเบี้ย คิดว่าผมทำผิดมั้ยครับ)
หลังจากนั้นท่านก็มาทานเป็นปกติ
ผมก็ยกมือไหว้"ตามมารยาท "ต่อไป
เหตุการณ์แบบนี้ก็คงเกิดขึ้นอีกเป็นแน่แท้
เพราะผมไม่กล้าปฏิเสธ
- > โชคดีหนี้ไม่สูญครับ ท่านมาจ่าย < -
แสดงความคิดเห็น
ใครเปิดร้านอาหาร แล้วมีลูกค้าขอเซ็นต์บ้างครับ เซ็นต์แล้วเค้ากลับมาจ่ายบ้างมั้ยครับ T T...
1. กระทู้ยาวมาก
2. ไม่มีหลักฐานนะครับ โปรดใช้จักรยานในการอ่าน
ขอถามคนที่เปิดร้านอาหาร หรือเปิดร้านขายของนะครับ
ว่า เคยมีลูกค้ามาเซ็นต์บ้างใหมครับ พอเซ็นต์แล้วลูกค้า
ก็หายไปเลยแบบไร้ร่องรอย ไม่มาเหยียบที่ร้านอีกเลย
เหมือนที่ร้านผมเจอบ้างมั้ยครับ
(ผมคิดว่า 100% ต้องเจอเหมือนกันแน่ๆ)
ร้านที่ผมรู้จักบอกว่า ถ้าให้ลูกค้าเซนต์เท่ากับไล่เค้าหนี
อันนี้ผมเห็นด้วย1000%
เข้าเรื่องเลยละกัน
กิจการของที่บ้านของผมคือเปิด"ร้านอาหาร"ครับ
เปิดมานานแล้วพอสมควร มีเรื่องราวผ่านมามากมาย
แต่วันนี้อยากจะมาเล่าถึงการขอเซ็นของลูกค้าที่มาทาน
ที่ร้าน ว่าเจอแบบใหนกันบ้าง
โดยปกติๆของ "คนปกติๆ" แล้ว การที่เราจะไปทานอาหาร
ที่ใดก็แล้วแต่ นอกจากจะนึกถึงว่าเราอยากทานอะไร
อร่อยมั้ย ร้านอยู่ที่ใหน อีกอย่างนึงที่ต้องนึกถึงคือ
เรามีเงินมั้ย ถ้าเราไม่มีเงินแน่นอนว่าเราไม่กล้าเข้าไป-
ร้านอาหาร สั่งอาหารทาน กินจนอิ่มหนำสำราญ
แล้วบอกเจ้าของร้านว่าไม่มีเงินจ่าย ถูกมั้ยครับ
แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มนึงที่เค้ากล้า ช่างกล้ามากๆ
ก็กินไปแล้ว ไม่มีเงินจ่าย เจ้าของร้านจะทำอะไรได้
หรือบางครั้งเจ้าของร้านก็ตกกะไดพลอยโจร
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก คนกลุ่มนี้มีลักษณะแบบใหน
พฤติกรรมยังไง มาๆ ผมจะเล่าให้ฟัง
(กรณีลืมเอาเงินมา ลืมเอากระเป๋าตังส์มาไม่นับนะครับ ถือว่าเจตนาสุจริต)
1. ลูกค้าขาประจำ(นิดหน่อย)ทิ้งทวน
กรณีนี้ เป็นลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้านบ่อยพอสมควร
ประมาณ 1-2อาทิตย์/ครั้ง คนขายจะจำหน้าลูกค้าได้
ว่าเคยมาทาน ชอบทานอะไร จะมากินสัก 5-6 ครั้ง
ครั้งสุดท้ายจะมาทานปกติ แล้วก็ลืมเอากระเป่าตังส์มา
คนขายก็นะ เห็นหน้าบ่อยๆ มาทานเรื่อย
"ไม่เป็นไรครับ ครั้งหน้าค่อยเอามาจ่ายก็ได้"
เขื่อมั้ยครับเราจะไม่ได้เจอหน้าลูกค้าคนสำคัญท่านนี้
อีกเลย(คิดถึ้งคิดถึง)
จนเมื่อดาวเคราะห์ทั้ง9 โคจรมาเรียงตรงกัน
ทำให้เราบังเอิญมาเจอกันที่ร้านขายของแห่งนึง
และแล้ว เราก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเค้า
เราไม่เคยรู้จักกัน เลยทวงเงิน ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รุ้จัก
เหมือนผมเป็นมนุษย์ล่องหนไงไม่รู้
- > หนี้สูญครับ < -
2. ผมไม่ได้เซ็น ยืนยัน อย่ามั่ว
ท่านนี้เป็นข้าราชการตำแหน่งสูง มาทานที่ร้านเรื่อยๆ
เช่นกัน ชอบมาทานเป็นฝูงเล็กๆ 5-6คน เหล้าเบียร์
กับแกล้มพร้อม ครั้งสุดท้ายคือตังส์ไม่พอจ่าย
"ก็ไม่เป็นไรครับ ครั้งหน้ามาค่อยจ่ายก็ได้"
ก็ต้องพูดตามสเต็ปแหละครับ จะให้ทำยังไง
จะเอาบัตร เอาโทรศัพท์ประกันไว้ก้ดูจะไม่ให้เกียรติ-
ข้าราชการตำแหน่งสูงสิครับ ซื้อหวยไม่เคยถูก
แต่ทายเรื่องแบบนี้แม่นนัก
8เดือนผ่านไป ยังไม่เห็นหน้าท่านมาที่ร้านเลย
บังเอิ้ญบังเอิญ ไปเจอท่านที่บิกซี
กลัวจะหาว่าไม่ให้เกียรติ กลัวท่านจะอายเลย
รอท่านกลับ เดินตามไปที่จอดรถ ถามท่านว่า
ไม่เห็นไปทานที่ร้านเลย ยังมีบิลเก่าค้างอยู่นะครับ
เฮ้ยท่านโมโหเว้ย พูดเป็นชุดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
บิลอะไร ไปเซ็นตั้งแต่เมื่อใหร่ อย่ามามั่ว
คุณกล้าให้ผมเซ็นเนี่ย รู้มั้ยผมชื่ออะไร นามสกุลอะไร
ทำงานที่ใหน ตน.อะไร ฯลฯ
ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกจากปากผมสักนิด
เพราะอึ้งแดรกครับ ปลีกตัวออกมาอย่างเงียบๆ
ได้แต่นึกในใจ นี่เราโง่จริงๆใช่มั้ย ขอบคุณที่สั่งสอน
แต่ผมมั่นใจนะครับว่า
1. ไม่มีร้านใหนถามชื่อ-นามสกุล ตน.งานของลูกค้า
ที่มาทานอาหารแน่ๆ
2. เจ้าหนี้กับลูกหนี้ ไม่มีทางลืมแน่นอน นอกซะจากว่า
"จะทำเป็นลืม"
- > 2พันกว่า หนี้สูญครับ < -