นัดเมื่อคืนพี่เสือชนะไป 3-0 ชนะ 5 นัดรวด ตอนนี้มี 15 คะแนนเต็มขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว
นัดต่อไปที่จะต้องลุ้นระทึกคือ ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เวลา 01.00 น. พี่เสือต้องเตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของโวล์ฟบวร์ก พอถีงตอนนั้นเลวานน่าจะหายกลับมาแล้วนะ ..สำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากเช่นเคยตามมาดูด้านล่างกันเลยค่ะ
การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำสัปดาห์ที่ 5 ที่สนามเเมร์ก สตาดิโอน ระหว่าง ดาร์มสตัดต์ 98 ทีมน้องใหม่ ก่อนเกมรั้งอันดับ 11 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์เก่า ก่อนเกมรั้งอันดับ 2 ของตาราง
เดิร์ค ชูสเตอร์ เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ไม่มีนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด ทำให้เกมนี้ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมนัดก่อน ที่พลิกล็อคบุกชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ถึงถิ่น 1-0 นำโดย คริสเตียน มาเธเนีย (ผู้รักษาประตู), ปีเตอร์ นีเมเยอร์, มาร์เซล เฮลเลอร์ และหน้าเป้าเป็น โดมินิค สโตรห์ - แองเกิ้ล
ขณะที่ผู้มาเยือนของกุนซือ เป็บ กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจพักแกนหลักหลายราย และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสำรองอย่าง โยชัว กิมมิช, เซบาสเตียน โรเด้ และ คิงสลีย์ โคมอง ลงหาประสบการณ์ โดยมี มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), เยโรม บัวเต็ง และ เดวิด อลาบ้า ปักหลักคุมแนวรับเช่นเคย
เปิดฉากเกมมา 9 นาที แชมป์เก่าเริ่มหาโอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ คิงสลีย์ โคมอง แทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ อาร์ตูโร วิดัล ตวัดตามน้ำด้วยขวา ส่งบอลพุ่งหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
Goal! เพียงนาทีที่ 19 บาเยิร์นฯ ก็มาทำประตูออกนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า ลากตัดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ากลางและไหลให้ อาร์ตูโร วิดัล จับแต่งหนึ่งจังหวะ ก่อนบรรจงตะบันด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งหนีมือ คริสเตียน มาเธเนีย เช็ดเสาแรกเข้าประตูไปอย่างสุดสวย ช่วยให้แชมป์เก่าขึ้นนำ 1-0
จากนั้นนาทีที่ 22 เจ้าถิ่นเริ่มหาโอกาสทักทายบ้าง จากลูกที่ อายทัก ซูลู สาดยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ โดมินิค สโตรห์ - แองเกิ้ล ปล่อยบอลตกเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนตามฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวา แต่ว่า มานูเอล นอยเออร์ ยังปฏิกิริยาไวล้มตัวทุบทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 31 เจ้าถิ่นมาได้โอกาสลุ้นประตูตีเสมออีกครั้ง จากจังหวะที่ คอนสแตนติน รอยส์ ปาดเลียดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษเสาไกลให้ มาร์เซล เฮลเลอร์ วางเท้าแปด้วยขวาเน้นๆ แต่โดนไม่ดี ทำให้บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
5 นาทีต่อมา กลับมาเป็นโอกาสลุ้นประตูที่สองของ บาเยิร์น มิวนิค จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษให้ อาร์ตูโร วิดัล ขึ้นโขกเน้นๆเต็มศรีษะตรงตัว คริสเตียน มาเธเนีย รับเข้าซองเอาไว้ได้แบบสบายมือ จากนั้นเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก แชมป์เก่ายังนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน เพียงนาทีที่ 55 บาเยิร์น เริ่มหาโอกาสทักทายก่อนทันที จากจังหวะที่ อาร์ตูโร วิดัล แทงยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เดวิด อลาบ้า แหวกฝ่าด่านแนวรับเจ้าถิ่นเข้ากลาง ก่อนปั่นด้วยขวา ทว่า คริสเตียน มาเธเนีย โชว์ซูเปอร์เซฟ ด้วยการพุ่งปัดสุดปลายมือออกไป
Goal!! นาทีที่ 62 บาเยิร์น ทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เซบาสเตียน โรเด้ โชว์สเต็ปพริ้วแตะอ้อมตัวผู้เล่นเจ้าถิ่นแล้วกระชากขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนปาดเลียดเข้าเขตโทษไปตรงจุดนัดพบให้ คิงสลีย์ โคมอง วางเท้าแปหักข้อด้วยขวาเสียบเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม พร้อมกับเป็นประตูแรกของเจ้าตัวกับ บาเยิร์น อีกด้วย
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น บาเยิร์น มาบวกประตูที่ 3 เพิ่มทันที จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า ลากฝ่าด่านผู้เล่นเจ้าบ้านบริเวณกลางสนาม ก่อนไหลทะลุช่องให้ เซบาสเตียน โรเด้ หลุดกับดักล้ำหน้ากระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วแปเล่นทางด้วยขวาไปชนเสาไกล แต่ว่าบอลยังเป็นใจกระดอนมาเข้าทาง โรเด้ ซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ แชมป์เก่าทิงห่างเป็น 3-0
นาทีที่ 66 แฟนเสือใต้ได้เฮอีก เมื่อ ฆาบี มาร์ติเนซ กองกลางสารพัดประโยชน์ที่บาดเจ็บไปนานร่วมปี กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง โดยลงมาเล่นแทน อาร์ตูโร วิดัล แต่ว่าเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้
จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกถล่ม ดาร์มสตัดต์ 98 ไปอย่างขาดลอย 3-0 ซิวชัย 5 นัดรวด พร้อมขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว โดยมี 15 คะแนนเต็ม นำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูงอยู่ 3 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป บาเยิร์น มิวนิค เตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โวล์ฟบวร์ก ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เวลา 01.00 น. ขณะที่ ดาร์มสตัดต์ 98 ยังคงได้เล่นในบ้านอีกนัด โดยเตรียมพบกับ แวเดอร์ เบรเมน ในวันเเละเวลาเดียวกัน
****[Bayern Munich]***[20.09.2015] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกม SV Darmstadt 1898 e.V. 0-3 FC Bayern München ]
สวัสดีแฟนๆพี่เสือทุกๆคนค่ะ
นัดเมื่อคืนพี่เสือชนะไป 3-0 ชนะ 5 นัดรวด ตอนนี้มี 15 คะแนนเต็มขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว
นัดต่อไปที่จะต้องลุ้นระทึกคือ ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เวลา 01.00 น. พี่เสือต้องเตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของโวล์ฟบวร์ก พอถีงตอนนั้นเลวานน่าจะหายกลับมาแล้วนะ ..สำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากเช่นเคยตามมาดูด้านล่างกันเลยค่ะ
การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำสัปดาห์ที่ 5 ที่สนามเเมร์ก สตาดิโอน ระหว่าง ดาร์มสตัดต์ 98 ทีมน้องใหม่ ก่อนเกมรั้งอันดับ 11 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์เก่า ก่อนเกมรั้งอันดับ 2 ของตาราง
เดิร์ค ชูสเตอร์ เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ไม่มีนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแต่อย่างใด ทำให้เกมนี้ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมนัดก่อน ที่พลิกล็อคบุกชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ถึงถิ่น 1-0 นำโดย คริสเตียน มาเธเนีย (ผู้รักษาประตู), ปีเตอร์ นีเมเยอร์, มาร์เซล เฮลเลอร์ และหน้าเป้าเป็น โดมินิค สโตรห์ - แองเกิ้ล
ขณะที่ผู้มาเยือนของกุนซือ เป็บ กวาร์ดิโอลา ตัดสินใจพักแกนหลักหลายราย และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสำรองอย่าง โยชัว กิมมิช, เซบาสเตียน โรเด้ และ คิงสลีย์ โคมอง ลงหาประสบการณ์ โดยมี มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), เยโรม บัวเต็ง และ เดวิด อลาบ้า ปักหลักคุมแนวรับเช่นเคย
เปิดฉากเกมมา 9 นาที แชมป์เก่าเริ่มหาโอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ คิงสลีย์ โคมอง แทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ อาร์ตูโร วิดัล ตวัดตามน้ำด้วยขวา ส่งบอลพุ่งหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
Goal! เพียงนาทีที่ 19 บาเยิร์นฯ ก็มาทำประตูออกนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า ลากตัดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ากลางและไหลให้ อาร์ตูโร วิดัล จับแต่งหนึ่งจังหวะ ก่อนบรรจงตะบันด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งหนีมือ คริสเตียน มาเธเนีย เช็ดเสาแรกเข้าประตูไปอย่างสุดสวย ช่วยให้แชมป์เก่าขึ้นนำ 1-0
จากนั้นนาทีที่ 22 เจ้าถิ่นเริ่มหาโอกาสทักทายบ้าง จากลูกที่ อายทัก ซูลู สาดยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ โดมินิค สโตรห์ - แองเกิ้ล ปล่อยบอลตกเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนตามฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวา แต่ว่า มานูเอล นอยเออร์ ยังปฏิกิริยาไวล้มตัวทุบทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 31 เจ้าถิ่นมาได้โอกาสลุ้นประตูตีเสมออีกครั้ง จากจังหวะที่ คอนสแตนติน รอยส์ ปาดเลียดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษเสาไกลให้ มาร์เซล เฮลเลอร์ วางเท้าแปด้วยขวาเน้นๆ แต่โดนไม่ดี ทำให้บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
5 นาทีต่อมา กลับมาเป็นโอกาสลุ้นประตูที่สองของ บาเยิร์น มิวนิค จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษให้ อาร์ตูโร วิดัล ขึ้นโขกเน้นๆเต็มศรีษะตรงตัว คริสเตียน มาเธเนีย รับเข้าซองเอาไว้ได้แบบสบายมือ จากนั้นเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก แชมป์เก่ายังนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน เพียงนาทีที่ 55 บาเยิร์น เริ่มหาโอกาสทักทายก่อนทันที จากจังหวะที่ อาร์ตูโร วิดัล แทงยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เดวิด อลาบ้า แหวกฝ่าด่านแนวรับเจ้าถิ่นเข้ากลาง ก่อนปั่นด้วยขวา ทว่า คริสเตียน มาเธเนีย โชว์ซูเปอร์เซฟ ด้วยการพุ่งปัดสุดปลายมือออกไป
Goal!! นาทีที่ 62 บาเยิร์น ทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เซบาสเตียน โรเด้ โชว์สเต็ปพริ้วแตะอ้อมตัวผู้เล่นเจ้าถิ่นแล้วกระชากขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนปาดเลียดเข้าเขตโทษไปตรงจุดนัดพบให้ คิงสลีย์ โคมอง วางเท้าแปหักข้อด้วยขวาเสียบเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม พร้อมกับเป็นประตูแรกของเจ้าตัวกับ บาเยิร์น อีกด้วย
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น บาเยิร์น มาบวกประตูที่ 3 เพิ่มทันที จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า ลากฝ่าด่านผู้เล่นเจ้าบ้านบริเวณกลางสนาม ก่อนไหลทะลุช่องให้ เซบาสเตียน โรเด้ หลุดกับดักล้ำหน้ากระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วแปเล่นทางด้วยขวาไปชนเสาไกล แต่ว่าบอลยังเป็นใจกระดอนมาเข้าทาง โรเด้ ซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ แชมป์เก่าทิงห่างเป็น 3-0
นาทีที่ 66 แฟนเสือใต้ได้เฮอีก เมื่อ ฆาบี มาร์ติเนซ กองกลางสารพัดประโยชน์ที่บาดเจ็บไปนานร่วมปี กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง โดยลงมาเล่นแทน อาร์ตูโร วิดัล แต่ว่าเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้
จบเกม บาเยิร์น มิวนิค บุกถล่ม ดาร์มสตัดต์ 98 ไปอย่างขาดลอย 3-0 ซิวชัย 5 นัดรวด พร้อมขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว โดยมี 15 คะแนนเต็ม นำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูงอยู่ 3 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป บาเยิร์น มิวนิค เตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ โวล์ฟบวร์ก ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เวลา 01.00 น. ขณะที่ ดาร์มสตัดต์ 98 ยังคงได้เล่นในบ้านอีกนัด โดยเตรียมพบกับ แวเดอร์ เบรเมน ในวันเเละเวลาเดียวกัน
ขอบคุณภาพข่าวจาก GOAL.COM และ Getty Images