[UN] FORGOTTEN เพราะความทรงจำไม่ทำให้ลืม .. เชียงใหม่-แม่กำปอง กับสองเท้าเล็กเล็ก ..


มีหลายเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนออกเดินทาง ..
บางคน,,เดินทางเพื่อพักผ่อน
บางคน,,เดินทางเพื่อหาแรงบันดาลใจ
บางคน,,เดินทางเพื่อหาความทรงจำใหม่ใหม่ใหม่
ในขณะที่บางคน,,เดินทางเพื่อให้ลืมความทรงจำเดิมเดิม

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราก็เป็นอีกคนที่ชอบเดินทาง ชอบเที่ยว ชอบเพิ่มรอยยิ้ม ชอบหาเรื่องให้ตัวเองหัวเราะ ชอบสร้างแรงบันดาลใจ ชอบที่จะสร้างความทรงจำดีๆให้กับชีวิต

ครั้งนี้เป็นการวางแผนเที่ยวคนเดียวจริงจังครั้งแรก เนื่องจากเพื่อนที่จะร่วมทริปพ่อป่วยกะทันหัน จะชวนใครไปตอนนี้คงลำบากแน่
แต่จะไหวมั้ย..เที่ยวคนเดียวเนี่ย เพราะเดิมกะว่าจะไปแม่กำปอง ซึ่งเป็นที่ๆไม่เคยไปเลย แต่หลังจากอ่านรีวิว เห็นรูปจากคนอื่นที่มาแชร์ในกรุ๊ปแบกเป้เที่ยว และตามกระทู้ใน Pantip ไม่ไหวอ่ะ ไปเถอะ อุตส่าห์ได้ลางาน ตั๋วก็จองเเล้ว ไม่เห็นมีอะไรน่ากังวลเลย ลุยยยยยยย !!

Day 1 : No plan
วันแรกของการเดินทางเป็นวันเสาร์ เช็คอินและรับรถมอเตอร์ไซด์ที่เช่าไว้ หลังจากที่กินข้าวเย็นเสร็จ ไม่ได้วางแผนว่าจะทำอะไร
คิดไปคิดมามีถนนคนเดินที่วัวลาย แต่เอ๊ะ .. พรุ่งนี้ก็มีถนนคนเดินท่าแพนี่นา เหอๆงั้นไปไหนดีน๊าาาาา
.. แล้วก็เป็นอีกครั้งที่แวนซ์มาวนเวียนแถวนิมมาน เอี๊ยดดดดดด .. Beer Lab !!! ก็ละกัน
ผู้หญิงคนเดียวนั่งกินเบียร์จะดีมั้ยนะ ? มองนาฬิกาก็เพิ่ง 2 ทุ่มตรงเอง กินเสร็จก็ไม่น่าจะดึก คงเเวนซ์กลับที่พักได้สบายๆ >___<

คืนวันเสาร์ร้านจะคนเยอะเป็นพิเศษ บางคนมาเป็นคู่ บางคนมาเป็นกลุ่ม ส่วนเรามาคนเดียว บอกตรงๆดูเป็นผู้หญิงขี้เมามาก
แต่ก็เอาเถอะ เข้ามาในร้านแค่มีคนมองแปลกๆนิดหน่อยแค่นั้นเอ๊งง นั่งไปสักพักก็บอกตัวเองให้กลับไปนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้พลังเยอะเป็นพิเศษ


Day 2 : วันแห่งการถ่ายรูป
7 โมงเช้า .. กล้องพร้อม โทรศัพท์มือถือเก่าๆพร้อม ขาตั้งกล้องกับรีโมทพร้อม เป้ใส่ของกันฝนพร้อม แล้วก็บรื๊นนนนนนน ..
ขี่ไปซักพัก เปาะแปะๆๆๆ ซู่วววววว ฝนตกสิคะนี่หน้าฝนนะ! จะเชียงใหม่หรือกทม.ก็ต้องมีฝน เอาๆหยิบเสื้อกันฝนใส่แล้วก็ลุยกันต่อเลย
จุดที่ 1 สะพานขัวเหล็ก หรือสะพานนวรัฐจำลอง เป็นสะพานเหล็กที่จำลองสะพานนวรัฐเมื่อครั้งที่ยังเป็นสะพานเหล็กสมัยก่อน
ถ้าใครพอจะจำได้ สะพานนี้อยู่ในฉากนึงของหนังเรื่อง "เพื่อนสนิท" ตอนที่ไข่ย้อยขับมอเตอร์ไซค์ให้กากานดาซ้อนท้ายข้ามสะพานเหล็กตอนกลางคืน
แต่ดันมาคนเดียวครั้งนี้ เลยขอแวะถ่ายรูปตอนเช้าน่าจะดีกว่า โชคดีที่ฝนซาลงพอดี อุ๊ยย..แอบรู้สึกตัวเองเหมือนคนบ้าซีรีส์เกาหลีเลยอ่ะ


]

จุดที่ 2 ประตูท่าแพ ใครๆที่มาเชียงใหม่น่าจะคุ้นเคยกับประตูนี้ดี เพราะเป็นประตูที่มีถนนคนเดินทุกคืนวันอาทิตย์ เป็นอิฐสีส้ม รู้สึกมีความขลังอยู่ และเป็นประตูเดียวที่ยังมีประตูไม้ ระหว่างการถ่ายรูปตรงนี้ ฝนตกหนักมากค่ะ เปียกทั้งฝนเปียกทั้งน้ำขังกระเด็นใส่ รูปที่น่าจะออกมาขลังเลยหมดไปกับเสื้อกันฝนเลยอ่ะ  


จุดที่ 3 กาดหลวง หรือ ตลาดวโรรส เป็นตลาดที่มีของกินเยอะมากๆโดยเฉพาะไส้อั่ว และแคปหมู ส่วนตัวคิดว่า ตลาดนี้ของสดกว่าตลาดอื่นนะคะ มาตลาดรอบนี้ถึงฝนจะตกคนก็ยังเยอะอยู่ เลยไม่กล้าเอาขาตั้งกล้องออกมาถ่ายรูปตัวเองเลย เขิล..




จากที่ไปเที่ยวเล่น ถ่ายรูปมาแล้ว ได้เวลาหาอะไรรองท้องค่ะ จบลงที่ คั่วไก่นิมมาน ลองสั่งแบบกะทะร้อน ก็อร่อยดี หัวเราะ


ได้เวลา Check Out ย้ายที่พัก วันนี้จองที่พักชื่อ บ้านโอบอุ่น Homestay ไว้ พอไปถึงเจอความน่ารักของสถานที่และพี่เจ้าของที่พักแล้ว
เป็นไปตามที่คาดเลยค่ะ ห้องน่ารักสุดๆ เลยมุดตัวนอน ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยเปื่อย ปล.ห้องนอนชื่อ ห้องหมอก มีห้องใต้หลังคาด้วยนะคะ




หลังจากเอ้อละเหยในห้องพัก บ่าย 4 โมงเย็นเป็นเวลาที่ดีที่จะไปออกไปหาร้านกาแฟนั่งเล่นและไปต่อที่ถนนคนเดิน
list ร้านกาแฟที่เอาติดตัวมา The Barn Eatery , สีนวลในสวนหลังบ้าน และ Graph Cafe แต่โชคไม่เข้าข้าง ไปทุกร้าน ไม่มีที่นั่งซักร้าน เลยไปจบที่ร้าน อาข่าอาม่า สันติธรรม หลังจากนั้นก็ไปถนนคนเดินค่ะ ปกติเคยมาแต่ตอนหัวค่ำ ครั้งนี้มาเร็วกว่าปกติเลยมีโอกาสแวะไหว้อนุสารีย์สามกษัตริย์ เดินเร็วก็ดีเหมือนกันค่ะ ไม่อึดอัดมาก อีกอย่างแสงกำลังได้


Day 3 : Let's go to แม่กำปอง
ตื่นเช้ามาหลังจากพี่เจ้าของที่พักใจดีทำอาหารเช้าแสนอร่อยให้กินแล้ว มีเวลาเหลือนิดหน่อยเพราะเช่ารถตอนเที่ยงตรง นึกได้ว่าวันจันทร์บ้านข้างวัดหยุดเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ถ่ายรูปเล่นในวันที่คนอื่นเค้าไม่ไปเที่ยวกัน คนไม่เยอะ และไม่ต้องเขิลใคร (ลืมบอกว่า บ้านโอบอุ่นอยู่แถวเลียบคลองใช้เวลาขี่รถไปโครงการไม่นานเลยค่ะ)




พอถ่ายรูปเสร็จ เราก็แวนซ์ไปเอารถเช่าแถวไนซ์บาร์ซ่า (ซื้อจากงานไทยเที่ยวไทยวันธรรมดา 499 บาท/วัน เลทได้ 4 ชม.)
ข้อดีคือถูกเเละเลทได้นาน ข้อเสียคือ ต้องไปรับรถที่ไนซ์บาร์ซ่าหรือสนามบินเท่านั้น
** เตือนคนขี่มอเตอรไซด์นิดนึง เราโดนจับและปรับทันทีเพราะไม่มีใบขับขี่นะ ยังไงก็ระวังนิดค่ะ

จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าไป อ.แม่ออน เพื่อไปพิสูจน์ความชิลของหมู่บ้านแม่กำปอง ระหว่างทางเห็นป้ายน้ำพุร้อน และถ้ำนะคะ แต่ส่วนตัวอยากมุ่งหน้าไปให้ถึงแม่กำปองเร็วๆมากกว่า ตอนที่เดินทางไปมีงงทางบ้างเพราะ GPS เนทหลุด เลยได้แวะถามชาวบ้านบ้าง พอไปถึงก็โทรหาพ่อผู้ใหญ่บ้านที่ได้ติดต่อขอพักที่ Homestay ไว้ แต่ดันขับเลยวนไปวนมา เลยไปไกล ซึ่งถนนเป็นทางเล็กและชัน และมีบางจุดหวั่นๆบ้าง แต่ก็ตื่นเต้นดีพิสูจน์ความกลัว

"แม่กำปอง" หมู่บ้านเล็กๆในป่ากว้างที่มีแต่คนพูดถึง มองรูป อ่านรีวิวมาเยอะจนอดไปสัมผัสของจริงไม่ได้ ที่นี่อากาศเย็นทั้งปี มีลำธาร ต้นไม้ใหญ่ และระบบนิเวศน์ที่เอื้อให้คนที่อยู่อาศัยปลูกพืชออแกร์นิก และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เหมาะกับคำว่าพอเพียงอย่างแท้จริง

เเละเเล้วก็ถึงบ้านที่เราจะพักในคืนนี้ บ้านแม่อรุณ (Homestay หลังที่ 7 จาก 20 กว่าหลังที่เข้าร่วม) ที่นี่ทุกหลังจะมีลำธารไหลผ่าน เสียงของลำธารดังเหมือนฝนตกให้ตกใจตลอดคืนเลยล่ะค่ะ

หลังจากเจอแม่อรุณแล้ว ความน่ารักของแม่ถามคำแรกเลยว่า หนูกินข้าวมารึยัง เเล้วก็เปิดกระทะทอดไข่เจียวกับผัดมะระให้กิน ก่อนที่จะชวนไปเดินป่ากับฝรั่งที่มาเที่ยวกับ Homestay อีกหลัง .. จริงๆเป็นคนไม่ชอบเดินป่าเลยค่ะ แต่ก็อยากลองอยากรู้ว่ามันจะเขียวขนาดไหน เเละคงมีอะไรที่น่าสนใจแน่ๆ




หลังจากเดินป่าแล้ว แม่อรุณก็พาเรากับชาวต่างชาติอีก 2 คนเดินไปที่น้ำตกแม่กำปอง อยู่เลยร้านกาแฟชมนกชมไม้ไปอีก 550 ม. น้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ที่เดินได้จะอยู่ถึงชั้นที่ 3-4 น้ำเย็นมาก แล้วก็ทางขึ้นน้ำตกมีบันไดให้ปืน ความชันของบันไดทำให้ถึงกับขาสั่นเลยค่ะ ฮ่าๆ

หลังจากกลับจากเดินป่า ได้แวะไปวัด ในวัดมีศาลากลางน้ำ และมีน้องหมาที่ชอบเล่นก้อนหินเป้นชีวิตจิตใจ เห็นแม่บอกว่า คนที่นี่เรียกมันว่า เจ้าหิน หมาอะไรก็ไม่รู้ลงไปคาบก้อนหินในน้ำ ขี้เล่นดี นักท่องเที่ยวเยอะ มันคงมีความสุขที่มีคนมาเล่นด้วยเนอะ





เกือบ 5 โมงเย็นเเล้ว .. โชคดีที่บ้านแม่อรุณอยู่ใกล้ร้านลุงปู๊ดป้าเป็ง เราเลยถือโอกาสเอาขาตั้งกล้องออกมาใช้
ร้านนี้เป็นร้านกาแฟริมลำธารที่มีคนไปถ่ายรูปเยอะมากกกกกก เสียดายที่วันนี้ร้านใกล้ปิดเเล้วเลยถ่ายรูปได้แค่หน้าร้าน


และแล้วฝนก็ตกลงมาพักใหญ่ เกือบเก็บของวิ่งกลับบ้านไม่ทันแน่ะ คืนนี้จบลงที่ห้องนอนนี้ค่ะ เล็กแต่อบอุ่น

อากาศเย็นแสนเย็นนอนหลับสบาย แม่อรุณพยายามบอกว่าถ้าหนูกลัวให้มานอนกับแม่นะ แม่นอนห้องข้างๆเป็นเพื่อนอยู่ แม่น่ารักมากค่ะ แถมทำกับข้าวอร่อยสุดๆ (ลืมบอกไป Homestay 580/คน พร้อมอาหาร 3 มื้อนะคะ)

ความสุขของการเดินทางมาที่นี่ เป็นความสุขที่ทำให้เราได้ใช้เวลาลืมเรื่องแย่ๆที่ผ่านมา ผ่อนคลาย และรู้สึกได้พักผ่อนจริงๆค่ะ ละก็ความเป็นอยู่แบบง่ายๆแบบนี้ก็ทำให้เรามีเวลาหันมาสนใจ หันมามองความรู้สึกตัวเอง มีเวลาเหลือให้ถามตัวเองว่า เราชอบและไม่ชอบอะไร นอนอ่านหนังสือ คิดอะไรเพลินๆได้ ไม่รีบเร่ง ไม่ปวดหัว ไม่ตื่นกลางดึกเพราะฝันถึงงาน

ลาไปก่อนด้วยการนอนพร้อมเสียงลำธารที่แม่กำปอง เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อบรรยากาศตอนเช้านะคะ ^^
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่งเคยรีวิวครั้งแรกเลยค่ะ มือใหม่ถ่ายรูปมากๆ
Ps. รูปที่มีตัวเองทุกรูปมาจากกล้องมือถือ Galaxy Note2 ย้ำว่า Note2 ค่ะ เก่ามากเเต่ก็ยังพอไหวอยู่ ถ่ายพร้อมขาตั้งกล้องและใช้รีโมทบลูทูชสำหรับกดชัตเตอร์(เรียนถ่ายรูปจากโทรศัพท์จากครูพลอย Plypapat ก่อนเดินทาง 1 สัปดาห์) ส่วนรูปที่เป็นวิวทั้งหมดมาจาก กล้อง Fuji X-A1 ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่