นอกจาก Oppo R7 Lite ที่รีวิวไปแล้ว ในตลาดโทรศัพท์หมื่นบาท ยังมี vivo Y35 อยู่อีกรุ่นหนึ่ง ที่ผมได้ลองเล่นดู และก็เหมือนเดิมครับ คือผมไม่ได้เป็นคนยืมจากวีโว่ ผมไปยืมต่อมาอีกทีนึง
และในเมื่อได้มาอยู่ในมือพร้อมกัน รีวิวนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเอาไปเปรียบเทียบกับ Oppo R7 Lite
รูปร่างหน้าตา
ดูแล้ว vivo Y35 เป็นโทรศัพท์ที่สวยเครื่องนึงเลยนะครับ แต่สวยคนละสไตล์กับ Oppo R7 Lite ผมชอบหน้าตาเรียบๆ จืดๆ แบบ R7 Lite มากกว่า แต่คุณแม่กับคุณเพื่อนคนนึงของผมชอบ Y35 มากกว่า อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมของใครก็ของมัน
ถ้าเอามาวางเทียบกับ Oppo R7 Lite ก็คงบอกได้ทันทีว่าสองรุ่นนี้พี่น้องกันแน่นอน เพราะเหมือนกันในแทบทุกมิติตั้งแต่ตำแหน่งการตลาด รูปร่างหน้าตาไปยันสเป็ค แต่ถ้าได้ลองจับลองถือ ได้ใช้ดูแล้วถึงจะรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกันแฮะ Y35 เต็มไม้เต็มมือมากกว่ารู้สึกว่าหนากว่ากันเยอะ ทั้งๆ ที่หนากว่าแค่ไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร ระบบการทำงานก็ดูจะเป็นกันเองกว่าหน่อยนึง
ตัวถังแมกนีเซียมอัลลอยด์ ด้านบนล่างเป็นพลาสติกสีขาวสดใส ตัดกับฝาหลังสีทอง การประกอบเรียบร้อยแน่นหนามากเ น้ำหนักปุ่มกดกำลังดีไม่ลั่นง่ายเหมือน R7 Lite บนล่างเป็นพลาสติกขาวตัดกับฝาโลหะ ดูสวยดึงดูดตาดี
ปุ่มทั้งหมดไปกองรวมกันอยู่ฝั่งขวาฝั่งเดียว
ทางซ้ายเป็นถาดใส่ซิมการ์ด 2 ซิม เป็น nano SIM และ micro SIM อย่างละช่อง ใช้ 4G ได้ทั้งคู่ไม่ต้องแบ่งไม่มีกั๊ก ใครที่ใช้สองซิม น่าจะถูกใจกับ vivo Y35
แยกช่องใส่ micro SD ไว้ที่ด้านบนของเครื่องเป็นเอกเทศไม่ต้องไปสังสรรค์กับใคร
หนากว่ากันไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร แต่ดูช่องหูฟังจะอยู่สบายๆ ไม่แน่นเหมือน R7 Lite

ปุ่มสัมผัสก็วางเหมือนวีโว่และอ็อปโป้ทุกรุ่นแต่ไม่มีไฟส่องปุ่มมาให้
จอภาพเป็น IPS ความละเอียด HD 720 ถึงความหนาแน่นพิกเซลจะไม่ได้ต่างกันนัก แต่เวลาดูจะเห็นพิกเซลน้อยกว่า R7 Lite ที่เป็น Pentile AMOLED จนรู้สึกได้ และจอ IPS ของรุ่นนี้ยังแสดงผลภาพถ่ายออกมาได้ตรงกับความเป็นจริงมากกว่าอีกด้วย แต่ข้อเสียของจอ Y35 คือสีสันจะไม่สดใสจี๊ดจ๊าดมากนัก และจอสู้แสงได้ไม่ค่อยดี เวลาถ่ายกลางแจ้งแดดจ้าๆ จอจะมืดไปถนัดเลย
การทำงานของ Funtouch OS รวดเร็วลื่นไหลดีมาก ไม่ค่อยมีฟีเจอร์พิสดารอะไร ทำให้ไม่มีโปรแกรมส่วนเกินมากินกำลังประมวลผล วีโว่ปรับจูนแอนดรอยด์มาได้ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นที่ดูหนืดๆ กว่า ในสเป็คพอๆ กัน
[SR] แกะกล่องของเล่น: vivo Y35 รีวิวเน้นกล้อง โทรศัพท์ไม่เน้นกล้อง
นอกจาก Oppo R7 Lite ที่รีวิวไปแล้ว ในตลาดโทรศัพท์หมื่นบาท ยังมี vivo Y35 อยู่อีกรุ่นหนึ่ง ที่ผมได้ลองเล่นดู และก็เหมือนเดิมครับ คือผมไม่ได้เป็นคนยืมจากวีโว่ ผมไปยืมต่อมาอีกทีนึง
และในเมื่อได้มาอยู่ในมือพร้อมกัน รีวิวนี้ก็อดไม่ได้ที่จะเอาไปเปรียบเทียบกับ Oppo R7 Lite
รูปร่างหน้าตา
ดูแล้ว vivo Y35 เป็นโทรศัพท์ที่สวยเครื่องนึงเลยนะครับ แต่สวยคนละสไตล์กับ Oppo R7 Lite ผมชอบหน้าตาเรียบๆ จืดๆ แบบ R7 Lite มากกว่า แต่คุณแม่กับคุณเพื่อนคนนึงของผมชอบ Y35 มากกว่า อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมของใครก็ของมัน
ถ้าเอามาวางเทียบกับ Oppo R7 Lite ก็คงบอกได้ทันทีว่าสองรุ่นนี้พี่น้องกันแน่นอน เพราะเหมือนกันในแทบทุกมิติตั้งแต่ตำแหน่งการตลาด รูปร่างหน้าตาไปยันสเป็ค แต่ถ้าได้ลองจับลองถือ ได้ใช้ดูแล้วถึงจะรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกันแฮะ Y35 เต็มไม้เต็มมือมากกว่ารู้สึกว่าหนากว่ากันเยอะ ทั้งๆ ที่หนากว่าแค่ไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร ระบบการทำงานก็ดูจะเป็นกันเองกว่าหน่อยนึง
ตัวถังแมกนีเซียมอัลลอยด์ ด้านบนล่างเป็นพลาสติกสีขาวสดใส ตัดกับฝาหลังสีทอง การประกอบเรียบร้อยแน่นหนามากเ น้ำหนักปุ่มกดกำลังดีไม่ลั่นง่ายเหมือน R7 Lite บนล่างเป็นพลาสติกขาวตัดกับฝาโลหะ ดูสวยดึงดูดตาดี
ปุ่มทั้งหมดไปกองรวมกันอยู่ฝั่งขวาฝั่งเดียว
ทางซ้ายเป็นถาดใส่ซิมการ์ด 2 ซิม เป็น nano SIM และ micro SIM อย่างละช่อง ใช้ 4G ได้ทั้งคู่ไม่ต้องแบ่งไม่มีกั๊ก ใครที่ใช้สองซิม น่าจะถูกใจกับ vivo Y35
แยกช่องใส่ micro SD ไว้ที่ด้านบนของเครื่องเป็นเอกเทศไม่ต้องไปสังสรรค์กับใคร
หนากว่ากันไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตร แต่ดูช่องหูฟังจะอยู่สบายๆ ไม่แน่นเหมือน R7 Lite
ปุ่มสัมผัสก็วางเหมือนวีโว่และอ็อปโป้ทุกรุ่นแต่ไม่มีไฟส่องปุ่มมาให้
จอภาพเป็น IPS ความละเอียด HD 720 ถึงความหนาแน่นพิกเซลจะไม่ได้ต่างกันนัก แต่เวลาดูจะเห็นพิกเซลน้อยกว่า R7 Lite ที่เป็น Pentile AMOLED จนรู้สึกได้ และจอ IPS ของรุ่นนี้ยังแสดงผลภาพถ่ายออกมาได้ตรงกับความเป็นจริงมากกว่าอีกด้วย แต่ข้อเสียของจอ Y35 คือสีสันจะไม่สดใสจี๊ดจ๊าดมากนัก และจอสู้แสงได้ไม่ค่อยดี เวลาถ่ายกลางแจ้งแดดจ้าๆ จอจะมืดไปถนัดเลย
การทำงานของ Funtouch OS รวดเร็วลื่นไหลดีมาก ไม่ค่อยมีฟีเจอร์พิสดารอะไร ทำให้ไม่มีโปรแกรมส่วนเกินมากินกำลังประมวลผล วีโว่ปรับจูนแอนดรอยด์มาได้ดีทีเดียวเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นที่ดูหนืดๆ กว่า ในสเป็คพอๆ กัน