ในช่วงก่อนสอบประมาณ 2 สัปดาห์ ผมพอมีเวลาว่างบ้าง เลยไปดูหนัง ช่วงเวลาที่ไปดูคือประมาณ 4 โมงเย็น วันศุกร์ ที่ sf ครับ ก่อนซื้อตั๋วหนังก็เพิ่งนึกได้ว่าลืมทำบัตรนักศึกษาเพื่อเป็นส่วนลด เพราะบัตรเก่าหมดอายุแล้ว ก็เลยเดินไปที่โต๊ะทำบัตรซึ่งมีพนักงานผู้หญิงคนนึงนั่งประจำอยู่ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรครับ ก็ยื่นๆบัตรไปแล้ว พนักงานเค้าก็บอกว่า '' ทำบัตรใหม่ใช่มั้ยคะ ขอบัตรนักศึกษาและบัตรเก่าด้วยค่ะ '' ผมก็เลยควักบัตรเก่าพร้อมกับบัตรนักศึกษายื่นให้เค้าไป จากนั้นเค้าก็พิมพ์ข้อมูล แล้วอยู่ๆเธอก็จ้องมองรูปผมที่บัตรนึกศึกษาแบบแปลกๆแล้วก็เกิดการสนทนาขึ้นดังนี้ครับ
พนักงาน sf : น้องค่ะ ทำไมรูปในบัตรกับตัวจริงดูต่างกันเลยจังอ่ะคะ
ผม : หาาา O_O อ่อ สงสัยปัจจุบันหน้าผมคงแก่แล้วอ่ะครับ ไม่ได้อยู่ปีหนึ่งแล้ว เลยไม่เหมือนตอน freshy ที่ทำบัตรติดรูปใหม่ๆ ( ผมคิดในใจว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงถามแบบนี้ หรือรูปผมมีปัญหาตรงไหนหรือเปล่า อ่า ช่างมันเถอะ )
พนักงาน sf : น้องคิดว่าพี่หน้าแก่มั้ย ฮ่าๆ แต่นี่พี่แต่งหน้ามาแล้วนะ
ผม : ก็ไม่แก่นะครับ หน้าเด็กอยู่นะ 55+
... จังหวะนี้เองผมเพิ่งสังเกตเห็นว่า พนักงาน sf คนนี้เธอน่ารักดีครับ เป็นสาวแว่น หน้าหมวยๆ ขาวๆ ยิ้มแล้วผมประทับใจแบบบอกไม่ถูก ^^
พนักงาน sf : นี่เธอเรียนอยู่ปีไรอ่ะ (เธอถามระหว่างเครื่องกำลังทำบัตรใหม่)
ผม : อ่อ ปี 4 ครับ คณะ... แล้วพี่เรียนคณะไหนอ่ะครับ ปีไหน
พนักงาน sf : อ่อ เราเรียนอยู่คณะ... อ้าว ปี 4 เหมือนกัน งั้นก็ไม่ต้องเรียกพี่เรียกน้องแล้วสิ รุ่นเดียวกันหนิเนาะ
ผม : ครับๆ เอ่อ แล้วทำไมถึงมาเป็นพนักงาน sf หรอครับ ไม่ติดเรียนหรอ
พนักงาน sf : อ่อ พอดีเบื่ออ่ะค่ะ มีเวลาว่างเยอะเกิน เลยมาทำงานหารายได้ จริงๆมันเหนื่อยนะ เคยลาออกครั้งนึง แต่มันว่างเกินก็เลยกลับมาทำอีก 555+
ผม : เอ้า ! มีเวลาว่างเกินด้วย ดีจังเลยนะครับ ตารางเรียนผมแน่นตลอดไม่ค่อยว่างเลย แล้วเงินดีมั้ยครับ ค่าตอบแทนเท่าไหร่
พนักงาน sf : ก็คิดเป็นชม ชม.ละ ... บาท ตำแหน่งก็มีหลายแผนกนะคะ เช่น box office , consession , floor บลาๆ
ผม : (เริ่มงง อะไร consession ? อะไร คือ floor ?) อ่อๆๆ ครับ
... แล้วเราก็คุยต่ออีกซักพัก ...
พนักงาน sf : นี่ค่ะบัตรใหม่ เรียบร้อยแล้วค่ะ
ผม : ใช้บัตรใหม่ซื้อตั๋วหนังได้เลยใช่มั้ยครับ
พนักงาน sf : ได้ค่ะ
ผม : ขอบคุณครับ
... จากนั้นผมก็มาซื้อตั๋วและเข้าไปดูหนัง ระหว่างดูหนังก็รู้สึกคิดถึงพนักงานคนนั้นขึ้นมา เอ่อ จะว่าไปแล้วเธอน่ารักดีนะ ผมก็ไม่รู้ทำไมช่วงเวลาที่เราคุยกันสั้นๆ ระหว่างทำบัตร มันทำให้ผมรู้สึกดี รู้สึกว่าคุยกันถูกคอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอถูกเทรนมาให้คุยกับลูกค้าแบบนี้หรือเปล่า แต่ผมยังอยากคุยกับเธอต่อ บางทีผมคิดว่าควรจะไปหาเธอหลังจากดูหนังเสร็จ ไปทำความรู้จักหรืออะไรก็แล้วตาม แต่เมื่อผมออกจากโรงหนังมา เธอก็ไม่อยู่ที่โต๊ะทำบัตรแล้ว มองหาเธอที่แผนกอื่นๆก็ไม่เจอ ผมคิดว่าเธออาจจะเลิกงานกลับบ้านแล้ว บางครั้งการจะพบเจอคนที่เราถูกใจก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือจะบังเอิญเจอบ่อยขนาดนั้น มันอาจเป็นความผิดพลาดของผมเองที่ปล่อยโอกาสที่จะทำความรู้จักกับเธอตอนทำบัตรหลุดลอยไป อีกนัยนึงก็คิดว่าถ้าอยู่ๆขอทำความรู้จักตรงนั้นเลยก็จะเร็วเกินไปมั้ย แต่ไม่เป็นไร ครั้งหน้าต้องได้เจออีกแน่นอน ผมจะกลับมาหาเธออีกครั้ง ...
... ผมกลับไปคิดที่บ้านดูว่า ผมจะเจอเธออีกครั้งได้อย่างไร ไม่รอช้า ผมเริ่มค้นหาระบบการทำงานของพนักงาน sf ว่าเค้าทำงานกันอย่างไร ก็ได้ข้อมูลมาคร่าวๆว่า พนักงาน sf จะทำงานวันละ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย สัปดาห์หนึ่งต้องทำอย่างน้อย 4 วัน ทุกสัปดาห์จะมีการปรับเปลี่ยนตารางเวรไปเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลตรงนี้ถูกต้องมากน้อยเพียงใด และจากการที่เธอบอกว่าเธอเป็นนักศึกษา ปี 4 แสดงว่าเธอคงไม่ได้ทำงานทุกวันแน่นอน จะต้องมีช่วงเรียนวันใดวันหนึ่ง และเธอคงทำงานวันเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่ผมจะรู้ได้อย่างไรหล่ะว่าวันไหน ดังนั้นแล้วผมจึงตัดสินใจไปที่ sf สาขานั้นทุกวัน ในช่วงหลังเลิกเรียน เวลาประมาณ 4-5 โมง โดยหวังว่าจะเจอเธอ ...
... วันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ผ่านไปผมก็ยังไม่เจอ ผมไม่รู้ว่าเธอยังมาทำงานอยู่หรือไม่ ถูกย้ายไปแผนกอื่นหรือเปล่า หรือช่วงที่ผมมา เธอเลิกงานกลับบ้านไปแล้ว ผมเลยไปถามพนักงานคนอื่นที่นั่งประจำตรงโต๊ะทำบัตรในวันพฤหัสว่า รู้จักพนักงานคนนี้มั้ย เธอมาทำงานเวลาไหน พนักงานคนนั้นตอบว่า รู้จักแต่ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นมาทำงานเวลาไหน วันไหน เพราะตารางเวรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จริงๆแล้วผมคิดว่าจะขอเบอร์โทรติดต่อหรืออื่นๆ จากพนักงานคนนั้น แต่ก็คิดว่ามันคงไม่ดี อยู่ๆไปถามแบบนี้ เขาไม่น่าจะให้ ดังนั้นแล้ว ผมเหลือแค่ วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่จะมาหาเธอ วันศุกร์ที่แล้วเป็นวันที่ผมเจอเธอ ผมคาดว่าวันศุกร์นี้ผมจะเจอเธออีก ...
... วันศุกร์ผมมีเวลาว่างช่วง 10 โมง ถึง เที่ยงเลยลองแวะมาดู ปรากฏว่าผมเจอเธอครับ โอ้ ดีใจมาก แต่เธอดูยุ่งๆกับงาน เดินไปมาระหว่างแผนก ทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปคุยเพราะเดี๋ยวจะเป็นการรบกวนการทำงานของเธอ ผมยืนดูตารางหนังและเดินไปมาแถวนั้นซักพักก็พบว่า เธอกลับไปนั่งที่โต๊ะทำบัตรแล้วแต่ว่ามีพนักงานอีกคนมานั่งกับเธอด้วย แล้วก็เหมือนกำลังคุยงานกันอยู่ ผมคิดว่าคงเข้าไปหาเธอยากแน่ๆ เลยลงไปกินข้าวที่ชั้นล่างก่อนและค่อยขึ้นลิฟต์มาที่นี่อีกครั้ง คราวนี้เธอนั่งประจำโต๊ะคนเดียวและดูน่าจะไม่ยุ่งกับการคุยงานแล้ว แต่ว่าอยู่ๆผมก็รู้สึกไม่กล้าที่จะเข้าไปหาเธอซะงั้น เพราะบริเวณรอบๆนั้นมีคนเดินไปมา ผมรู้สึกแปลกใจเหมือนกันครับว่าผมมาตามหาเธอทุกวันขนาดนี้แต่พอได้เจอจริงๆกลับไม่กล้าเข้าไปหา ยังไงก็ตามถ้าผมไม่เข้าไปเธอตอนนี้ มันก็คงจะไม่มีโอกาสครั้งต่อไปอีกแล้ว ผมรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาเธอทันที แต่ก็มีคนมาทำบัตรเดินตัดหน้าเข้าไปก่อน อ๊ากกก ทำให้ผมต้องรอซักครู่ที่จะได้คุยกับเธอ เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที จนในที่สุดผมก็ได้คุยกับเธอครับ ...
เธอ : สวัสดีค่ะ มาทำบัตรหรอคะ
ผม : จำผมได้มั้ยอ่ะครับ ผมมาทำบัตรวันศุกร์ที่แล้ว
เธอ : อ๋ออ จำได้สิ ว่าไง จะมาอัพเดทข้อมูลบัตรหรอ หรือว่าบัตรมีปัญหาคะ
ผม : เปล่าครับ ไม่ได้มาทำบัตร คือ เอ่อ...
เธอ : ??? เอ๊ะ เดี๋ยวนะ หรือว่าเธอคือคนที่มาถามหาเรา ตอนวันพฤหัส มีพนักงานคนอื่นแจ้งว่ามีคนมาถามหา ใช่เธอรึเปล่า ?
ผม : ใช่ครับ แฮะๆ ผมเอง
เธอ : แล้วมาถามหาเรา มีอะไรหรือเปล่าค่ะ
ผม : คือ...ผม เอ่อ... คือผมอยากรู้จักเธออ่ะครับ เลยมาถามหา แล้วก็อยากรู้ว่าโสดอยู่มั้ยอะไรแบบนี้อ่ะครับ 555+ (ผมอายมาก >///< เพราะว่ามีพนักงานแถวๆนั้นแอบยืนยิ้มดูผมคุยกับเธอด้วย )
เธอ : หาาาาา (เหมือนจะทำตัวไม่ถูก) อ่าา อ่ออ คือเรามีแฟนแล้วอ่ะคะ
ผม : (ช็อคแปป T_T) อ่ออ มีแล้วหรอครับ น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรครับ
เธอ : สงสัยเธอจะมาช้าไปนะ เราเพิ่งคืนดีกับแฟนไป ไม่กี่วันนี่เอง
ผม : อ่อออ เสียดายจังเลยครับ ฮ่าๆ
... จากนั้นเธอก็ลุกออกจากโต๊ะมายืนคุยกับผม บริเวณหน้าโต๊ะทำบัตร ...
เธอ : แล้วคิดยังไงมาชอบเราอ่ะคะ ^^
ผม : ก็วันนั้นรู้สึกคุยถูกคอดีครับ แล้วผมคิดว่า เธออ่ะตรงสเปค พอดีชอบผู้หญิงใส่แว่นอ่ะครับ
เธอ : ผู้หญิงใส่แว่นมีตั้งเยอะแยะเลยนะ ทำไมเลือกมาชอบเราหล่ะ
ผม : เพราะเธอน่ารักไง (ดูเหมือนเธอจะยิ้มใหญ่เลยครับ)
เธอ : แล้วนี่มาตามหาเราทุกวันเลยหรอเนี่ย
ผม : ใช่ครับ คือผมมาที่นี่เกือบทุกวันเลย (จากนั้นก็เล่าไปว่า มาตามหายังไง ค้นข้อมูลการทำงานพนักงานยังไง บลาๆ)
เธอ : โหหห ทำขนาดนี้เลยหรอ โอยยย ขอบคุณมากนะ
ผม : พอดีใกล้จะสอบแล้วอ่ะครับ เลยต้องรีบตามหาเธอให้เจอ จริงๆแล้วผมกะว่าถ้าวันศุกร์นี้ผมไม่เจอเธอ ผมก็จะเลิกมาตามหาเธอแล้วครับ แต่พอดีได้เจอวันนี้ซะก่อน โชคดีไป
เธอ : อ๋ออ แบบนี้เอง ... เอ่อ เดี๋ยวมานะคะ ขอเราไปเคลียร์งานที่แผนก first class แปปนึง รอตรงนี้ก่อนนะ
ผม : ครับ ได้
... จากนั้นผมรอเธอที่โซฟาบริเวณหน้าโรงหนังครับ ผ่านไปประมาณ 5 นาที เธอก็เดินกลับมาแล้วเราก็คุยต่อ โดยเธอก็มากับยืนคุยผมเหมือนเดิม จากนั้นก็คุยเรื่อยเปื่อยครับ สลับกับการที่เธอเดินออกไปทำงาน แล้วก็เดินกลับมาคุยกับผมต่อ เธอได้เล่าเรื่องของเธอหลายเรื่อง ทั้งการเรียน การทำงาน และเรื่องแฟนของเธอด้วย ...
เธอ : นี่แล้วไม่มีเรียนหรอคะ
ผม : มีครับ เรียนตอนบ่ายโมง พอดีตอนนี้ว่างเลยแวะมา
เธอ : ฮ่าๆ ไงก็ขอบคุณจริงๆนะ
ผม : ?
เธอ : นี่เรียนบ่ายโมงไม่ใช่หรอ ตอนนี้มันเที่ยงครึ่งแล้วนะ ยังไม่กลับไปเรียนอีกหรอ
ผม : อ่อก็ว่าจะกลับแล้วครับ
เธอ : ขับรถดีๆนะ ฝนตกถนนลื่น แล้วก็ขอบคุณมากเลย
ผม : เธอขอบคุณอะไรเราหรอ เห็นพูดขอบคุณให้เราหลายครั้งแล้วอ่ะ
เธอ : ขอบคุณที่มาชอบเราไง แล้วก็ขอบคุณที่อุตส่าห์พยายามมาตามหาเรา แล้วก็ขอโทษด้วยนะทำให้ผิดหวัง แต่ก็นะคือเรามีแฟนแล้ว ฮ่าๆ
ผม : ไม่เป็นไรครับ ไม่มีใครผิดหรอก ผมก็ดีใจนะที่ได้เจอเธอ แล้วก็ได้คุยกับเธอ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไว้ยังไงถ้าได้มาดูหนังแล้วเจอเธออีก ผมก็จะแวะมาทักทายนะครับ อ่อแล้วก็ขอโทษนะครับ ที่รบกวนเวลาทำงาน มาคุยกัน
เธอ : ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณจริงๆนะ บายยย
ผม : บายครับ
เรื่องที่ผมเล่าก็ค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงจุดนี้ จากนี้ผมก็คิดว่าคงจะไม่ติดต่อเธออีกแล้วครับ เพราะว่าเธอมีแฟนแล้ว ถามว่าแห้วมั้ย ก็แห้วครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมไม่ได้รู้สีกเสียใจมากนักเหมือนตอนที่เคยโดนผู้หญิงคนอื่นปฏิเสธหรือบอกเลิก เพราะเธอได้ปฏิเสธผมอย่างนุ่มนวล และทำให้ผมไม่รู้สึก fail มากนัก นอกจากนี้เธอยังขอบคุณผมหลายครั้ง ซึ่งมันทำให้ผมเห็นว่าเธอยังเห็นคุณค่ากับการกระทำของผม ผู้หญิงบางคนถ้าปฏิเสธใครแล้วส่วนมากก็คงไม่มานั่งคุยกันต่อ หรืออาจจะพูดคุยแบบไม่เห็นใจกันซักเท่าไหร่ ณ ตรงนี้ อาจจะเป็นเพราะเธอคนนี้เป็นพนักงานที่ทำงานด้วยบริการด้วยมั้งครับ ทำให้เธอพูดคุยกับผมได้อย่างนุ่มนวลเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผม การจีบพนักงาน sf นี่ผมก็ไม่รู้ยากมั้ยนะครับ แต่คิดว่าเป็นความท้าทายอย่างนึงเหมือนกัน ทั้งการมาพบเจอเวลาทำงาน การหาช่วงเวลาเพียงสั้นๆเข้าไปคุย ท่านใดที่มีประสบการณ์จีบพนักงานขายตั๋วหนังหรืออื่นๆก็มาเล่าให้กันฟังได้นะครับ
ประสบการณ์จีบพนักงาน sf ครับ
พนักงาน sf : น้องค่ะ ทำไมรูปในบัตรกับตัวจริงดูต่างกันเลยจังอ่ะคะ
ผม : หาาา O_O อ่อ สงสัยปัจจุบันหน้าผมคงแก่แล้วอ่ะครับ ไม่ได้อยู่ปีหนึ่งแล้ว เลยไม่เหมือนตอน freshy ที่ทำบัตรติดรูปใหม่ๆ ( ผมคิดในใจว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงถามแบบนี้ หรือรูปผมมีปัญหาตรงไหนหรือเปล่า อ่า ช่างมันเถอะ )
พนักงาน sf : น้องคิดว่าพี่หน้าแก่มั้ย ฮ่าๆ แต่นี่พี่แต่งหน้ามาแล้วนะ
ผม : ก็ไม่แก่นะครับ หน้าเด็กอยู่นะ 55+
... จังหวะนี้เองผมเพิ่งสังเกตเห็นว่า พนักงาน sf คนนี้เธอน่ารักดีครับ เป็นสาวแว่น หน้าหมวยๆ ขาวๆ ยิ้มแล้วผมประทับใจแบบบอกไม่ถูก ^^
พนักงาน sf : นี่เธอเรียนอยู่ปีไรอ่ะ (เธอถามระหว่างเครื่องกำลังทำบัตรใหม่)
ผม : อ่อ ปี 4 ครับ คณะ... แล้วพี่เรียนคณะไหนอ่ะครับ ปีไหน
พนักงาน sf : อ่อ เราเรียนอยู่คณะ... อ้าว ปี 4 เหมือนกัน งั้นก็ไม่ต้องเรียกพี่เรียกน้องแล้วสิ รุ่นเดียวกันหนิเนาะ
ผม : ครับๆ เอ่อ แล้วทำไมถึงมาเป็นพนักงาน sf หรอครับ ไม่ติดเรียนหรอ
พนักงาน sf : อ่อ พอดีเบื่ออ่ะค่ะ มีเวลาว่างเยอะเกิน เลยมาทำงานหารายได้ จริงๆมันเหนื่อยนะ เคยลาออกครั้งนึง แต่มันว่างเกินก็เลยกลับมาทำอีก 555+
ผม : เอ้า ! มีเวลาว่างเกินด้วย ดีจังเลยนะครับ ตารางเรียนผมแน่นตลอดไม่ค่อยว่างเลย แล้วเงินดีมั้ยครับ ค่าตอบแทนเท่าไหร่
พนักงาน sf : ก็คิดเป็นชม ชม.ละ ... บาท ตำแหน่งก็มีหลายแผนกนะคะ เช่น box office , consession , floor บลาๆ
ผม : (เริ่มงง อะไร consession ? อะไร คือ floor ?) อ่อๆๆ ครับ
... แล้วเราก็คุยต่ออีกซักพัก ...
พนักงาน sf : นี่ค่ะบัตรใหม่ เรียบร้อยแล้วค่ะ
ผม : ใช้บัตรใหม่ซื้อตั๋วหนังได้เลยใช่มั้ยครับ
พนักงาน sf : ได้ค่ะ
ผม : ขอบคุณครับ
... จากนั้นผมก็มาซื้อตั๋วและเข้าไปดูหนัง ระหว่างดูหนังก็รู้สึกคิดถึงพนักงานคนนั้นขึ้นมา เอ่อ จะว่าไปแล้วเธอน่ารักดีนะ ผมก็ไม่รู้ทำไมช่วงเวลาที่เราคุยกันสั้นๆ ระหว่างทำบัตร มันทำให้ผมรู้สึกดี รู้สึกว่าคุยกันถูกคอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอถูกเทรนมาให้คุยกับลูกค้าแบบนี้หรือเปล่า แต่ผมยังอยากคุยกับเธอต่อ บางทีผมคิดว่าควรจะไปหาเธอหลังจากดูหนังเสร็จ ไปทำความรู้จักหรืออะไรก็แล้วตาม แต่เมื่อผมออกจากโรงหนังมา เธอก็ไม่อยู่ที่โต๊ะทำบัตรแล้ว มองหาเธอที่แผนกอื่นๆก็ไม่เจอ ผมคิดว่าเธออาจจะเลิกงานกลับบ้านแล้ว บางครั้งการจะพบเจอคนที่เราถูกใจก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรือจะบังเอิญเจอบ่อยขนาดนั้น มันอาจเป็นความผิดพลาดของผมเองที่ปล่อยโอกาสที่จะทำความรู้จักกับเธอตอนทำบัตรหลุดลอยไป อีกนัยนึงก็คิดว่าถ้าอยู่ๆขอทำความรู้จักตรงนั้นเลยก็จะเร็วเกินไปมั้ย แต่ไม่เป็นไร ครั้งหน้าต้องได้เจออีกแน่นอน ผมจะกลับมาหาเธออีกครั้ง ...
... ผมกลับไปคิดที่บ้านดูว่า ผมจะเจอเธออีกครั้งได้อย่างไร ไม่รอช้า ผมเริ่มค้นหาระบบการทำงานของพนักงาน sf ว่าเค้าทำงานกันอย่างไร ก็ได้ข้อมูลมาคร่าวๆว่า พนักงาน sf จะทำงานวันละ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย สัปดาห์หนึ่งต้องทำอย่างน้อย 4 วัน ทุกสัปดาห์จะมีการปรับเปลี่ยนตารางเวรไปเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลตรงนี้ถูกต้องมากน้อยเพียงใด และจากการที่เธอบอกว่าเธอเป็นนักศึกษา ปี 4 แสดงว่าเธอคงไม่ได้ทำงานทุกวันแน่นอน จะต้องมีช่วงเรียนวันใดวันหนึ่ง และเธอคงทำงานวันเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่ผมจะรู้ได้อย่างไรหล่ะว่าวันไหน ดังนั้นแล้วผมจึงตัดสินใจไปที่ sf สาขานั้นทุกวัน ในช่วงหลังเลิกเรียน เวลาประมาณ 4-5 โมง โดยหวังว่าจะเจอเธอ ...
... วันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ผ่านไปผมก็ยังไม่เจอ ผมไม่รู้ว่าเธอยังมาทำงานอยู่หรือไม่ ถูกย้ายไปแผนกอื่นหรือเปล่า หรือช่วงที่ผมมา เธอเลิกงานกลับบ้านไปแล้ว ผมเลยไปถามพนักงานคนอื่นที่นั่งประจำตรงโต๊ะทำบัตรในวันพฤหัสว่า รู้จักพนักงานคนนี้มั้ย เธอมาทำงานเวลาไหน พนักงานคนนั้นตอบว่า รู้จักแต่ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นมาทำงานเวลาไหน วันไหน เพราะตารางเวรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จริงๆแล้วผมคิดว่าจะขอเบอร์โทรติดต่อหรืออื่นๆ จากพนักงานคนนั้น แต่ก็คิดว่ามันคงไม่ดี อยู่ๆไปถามแบบนี้ เขาไม่น่าจะให้ ดังนั้นแล้ว ผมเหลือแค่ วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่จะมาหาเธอ วันศุกร์ที่แล้วเป็นวันที่ผมเจอเธอ ผมคาดว่าวันศุกร์นี้ผมจะเจอเธออีก ...
... วันศุกร์ผมมีเวลาว่างช่วง 10 โมง ถึง เที่ยงเลยลองแวะมาดู ปรากฏว่าผมเจอเธอครับ โอ้ ดีใจมาก แต่เธอดูยุ่งๆกับงาน เดินไปมาระหว่างแผนก ทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปคุยเพราะเดี๋ยวจะเป็นการรบกวนการทำงานของเธอ ผมยืนดูตารางหนังและเดินไปมาแถวนั้นซักพักก็พบว่า เธอกลับไปนั่งที่โต๊ะทำบัตรแล้วแต่ว่ามีพนักงานอีกคนมานั่งกับเธอด้วย แล้วก็เหมือนกำลังคุยงานกันอยู่ ผมคิดว่าคงเข้าไปหาเธอยากแน่ๆ เลยลงไปกินข้าวที่ชั้นล่างก่อนและค่อยขึ้นลิฟต์มาที่นี่อีกครั้ง คราวนี้เธอนั่งประจำโต๊ะคนเดียวและดูน่าจะไม่ยุ่งกับการคุยงานแล้ว แต่ว่าอยู่ๆผมก็รู้สึกไม่กล้าที่จะเข้าไปหาเธอซะงั้น เพราะบริเวณรอบๆนั้นมีคนเดินไปมา ผมรู้สึกแปลกใจเหมือนกันครับว่าผมมาตามหาเธอทุกวันขนาดนี้แต่พอได้เจอจริงๆกลับไม่กล้าเข้าไปหา ยังไงก็ตามถ้าผมไม่เข้าไปเธอตอนนี้ มันก็คงจะไม่มีโอกาสครั้งต่อไปอีกแล้ว ผมรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาเธอทันที แต่ก็มีคนมาทำบัตรเดินตัดหน้าเข้าไปก่อน อ๊ากกก ทำให้ผมต้องรอซักครู่ที่จะได้คุยกับเธอ เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที จนในที่สุดผมก็ได้คุยกับเธอครับ ...
เธอ : สวัสดีค่ะ มาทำบัตรหรอคะ
ผม : จำผมได้มั้ยอ่ะครับ ผมมาทำบัตรวันศุกร์ที่แล้ว
เธอ : อ๋ออ จำได้สิ ว่าไง จะมาอัพเดทข้อมูลบัตรหรอ หรือว่าบัตรมีปัญหาคะ
ผม : เปล่าครับ ไม่ได้มาทำบัตร คือ เอ่อ...
เธอ : ??? เอ๊ะ เดี๋ยวนะ หรือว่าเธอคือคนที่มาถามหาเรา ตอนวันพฤหัส มีพนักงานคนอื่นแจ้งว่ามีคนมาถามหา ใช่เธอรึเปล่า ?
ผม : ใช่ครับ แฮะๆ ผมเอง
เธอ : แล้วมาถามหาเรา มีอะไรหรือเปล่าค่ะ
ผม : คือ...ผม เอ่อ... คือผมอยากรู้จักเธออ่ะครับ เลยมาถามหา แล้วก็อยากรู้ว่าโสดอยู่มั้ยอะไรแบบนี้อ่ะครับ 555+ (ผมอายมาก >///< เพราะว่ามีพนักงานแถวๆนั้นแอบยืนยิ้มดูผมคุยกับเธอด้วย )
เธอ : หาาาาา (เหมือนจะทำตัวไม่ถูก) อ่าา อ่ออ คือเรามีแฟนแล้วอ่ะคะ
ผม : (ช็อคแปป T_T) อ่ออ มีแล้วหรอครับ น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรครับ
เธอ : สงสัยเธอจะมาช้าไปนะ เราเพิ่งคืนดีกับแฟนไป ไม่กี่วันนี่เอง
ผม : อ่อออ เสียดายจังเลยครับ ฮ่าๆ
... จากนั้นเธอก็ลุกออกจากโต๊ะมายืนคุยกับผม บริเวณหน้าโต๊ะทำบัตร ...
เธอ : แล้วคิดยังไงมาชอบเราอ่ะคะ ^^
ผม : ก็วันนั้นรู้สึกคุยถูกคอดีครับ แล้วผมคิดว่า เธออ่ะตรงสเปค พอดีชอบผู้หญิงใส่แว่นอ่ะครับ
เธอ : ผู้หญิงใส่แว่นมีตั้งเยอะแยะเลยนะ ทำไมเลือกมาชอบเราหล่ะ
ผม : เพราะเธอน่ารักไง (ดูเหมือนเธอจะยิ้มใหญ่เลยครับ)
เธอ : แล้วนี่มาตามหาเราทุกวันเลยหรอเนี่ย
ผม : ใช่ครับ คือผมมาที่นี่เกือบทุกวันเลย (จากนั้นก็เล่าไปว่า มาตามหายังไง ค้นข้อมูลการทำงานพนักงานยังไง บลาๆ)
เธอ : โหหห ทำขนาดนี้เลยหรอ โอยยย ขอบคุณมากนะ
ผม : พอดีใกล้จะสอบแล้วอ่ะครับ เลยต้องรีบตามหาเธอให้เจอ จริงๆแล้วผมกะว่าถ้าวันศุกร์นี้ผมไม่เจอเธอ ผมก็จะเลิกมาตามหาเธอแล้วครับ แต่พอดีได้เจอวันนี้ซะก่อน โชคดีไป
เธอ : อ๋ออ แบบนี้เอง ... เอ่อ เดี๋ยวมานะคะ ขอเราไปเคลียร์งานที่แผนก first class แปปนึง รอตรงนี้ก่อนนะ
ผม : ครับ ได้
... จากนั้นผมรอเธอที่โซฟาบริเวณหน้าโรงหนังครับ ผ่านไปประมาณ 5 นาที เธอก็เดินกลับมาแล้วเราก็คุยต่อ โดยเธอก็มากับยืนคุยผมเหมือนเดิม จากนั้นก็คุยเรื่อยเปื่อยครับ สลับกับการที่เธอเดินออกไปทำงาน แล้วก็เดินกลับมาคุยกับผมต่อ เธอได้เล่าเรื่องของเธอหลายเรื่อง ทั้งการเรียน การทำงาน และเรื่องแฟนของเธอด้วย ...
เธอ : นี่แล้วไม่มีเรียนหรอคะ
ผม : มีครับ เรียนตอนบ่ายโมง พอดีตอนนี้ว่างเลยแวะมา
เธอ : ฮ่าๆ ไงก็ขอบคุณจริงๆนะ
ผม : ?
เธอ : นี่เรียนบ่ายโมงไม่ใช่หรอ ตอนนี้มันเที่ยงครึ่งแล้วนะ ยังไม่กลับไปเรียนอีกหรอ
ผม : อ่อก็ว่าจะกลับแล้วครับ
เธอ : ขับรถดีๆนะ ฝนตกถนนลื่น แล้วก็ขอบคุณมากเลย
ผม : เธอขอบคุณอะไรเราหรอ เห็นพูดขอบคุณให้เราหลายครั้งแล้วอ่ะ
เธอ : ขอบคุณที่มาชอบเราไง แล้วก็ขอบคุณที่อุตส่าห์พยายามมาตามหาเรา แล้วก็ขอโทษด้วยนะทำให้ผิดหวัง แต่ก็นะคือเรามีแฟนแล้ว ฮ่าๆ
ผม : ไม่เป็นไรครับ ไม่มีใครผิดหรอก ผมก็ดีใจนะที่ได้เจอเธอ แล้วก็ได้คุยกับเธอ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไว้ยังไงถ้าได้มาดูหนังแล้วเจอเธออีก ผมก็จะแวะมาทักทายนะครับ อ่อแล้วก็ขอโทษนะครับ ที่รบกวนเวลาทำงาน มาคุยกัน
เธอ : ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณจริงๆนะ บายยย
ผม : บายครับ
เรื่องที่ผมเล่าก็ค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงจุดนี้ จากนี้ผมก็คิดว่าคงจะไม่ติดต่อเธออีกแล้วครับ เพราะว่าเธอมีแฟนแล้ว ถามว่าแห้วมั้ย ก็แห้วครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมไม่ได้รู้สีกเสียใจมากนักเหมือนตอนที่เคยโดนผู้หญิงคนอื่นปฏิเสธหรือบอกเลิก เพราะเธอได้ปฏิเสธผมอย่างนุ่มนวล และทำให้ผมไม่รู้สึก fail มากนัก นอกจากนี้เธอยังขอบคุณผมหลายครั้ง ซึ่งมันทำให้ผมเห็นว่าเธอยังเห็นคุณค่ากับการกระทำของผม ผู้หญิงบางคนถ้าปฏิเสธใครแล้วส่วนมากก็คงไม่มานั่งคุยกันต่อ หรืออาจจะพูดคุยแบบไม่เห็นใจกันซักเท่าไหร่ ณ ตรงนี้ อาจจะเป็นเพราะเธอคนนี้เป็นพนักงานที่ทำงานด้วยบริการด้วยมั้งครับ ทำให้เธอพูดคุยกับผมได้อย่างนุ่มนวลเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผม การจีบพนักงาน sf นี่ผมก็ไม่รู้ยากมั้ยนะครับ แต่คิดว่าเป็นความท้าทายอย่างนึงเหมือนกัน ทั้งการมาพบเจอเวลาทำงาน การหาช่วงเวลาเพียงสั้นๆเข้าไปคุย ท่านใดที่มีประสบการณ์จีบพนักงานขายตั๋วหนังหรืออื่นๆก็มาเล่าให้กันฟังได้นะครับ