เชื่อว่าหลายคนคงเคยคิดเหมือนกับเราว่าวันหยุดพักผ่อนอยู่กรุงเทพนอนอยู่บ้านเฉยๆทุกอาทิตย์ไม่รู้จะไปไหนดี วันหนึ่งได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนที่มาจากเมืองนอก เค้าชมกรุงเทพว่ามีอะไรให้ไปเยอะมาก
เราคืองง อยู่มายี่สิบกว่าปีเราไปมาหมด เเล้วเราก็ไล่ชื่อ สถานที่ check point ของกรุงเทพไป เช่น วัดพระแก้ว ข้าวสาร สยาม เจเจ บลาๆๆๆ แล้วเพื่อนเราสวนมาประโยคนึงทำเราอึ้ง
“ hey, you didn’t know about Bangkok.......” พร้อมบอกให้เราลองหาข้อมูลในเว็บนึงที่ฝรั่งเค้าชอบใช้กันชื่อ TakeMeTour ซึ่งเราก็เออออๆออกไป ปรากฏเข้าไป เฮ้ยย สาบานนี้กรุงเทพ
เว็บนี้ทำให้เราเห็นกรุงเทพในเเบบที่เราไม่เคยเห็น เเละนี้ก็เป็นที่มาของ การจัดทริป 1 วัน ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกับเค้าซักวัน
ว่าเเล้วเราก็โทรหาเพื่อนขอร้องให้ไปด้วย ความจริงคือบังคับ 555 เเละต่อไปนี้ก็คือรีวิวคร่าวๆเกี่ยวกับสถานที่ๆเราไปมา ☺ ☺
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์มาถึง.. ทริปเราเริ่มด้วยการเดินเก็บภาพสวยๆชิวที่สวนรถไฟ หลายคนคงสงสัยมาทำไมที่สวนรถไฟ ทุกคนอาจจะยังไม่รู้ ที่สวนรถไฟไม่ได้มีกิจกรรมเเค่ขี่จักรยานหรือปิกนิก ถ่ายรูป pre-wedding อย่างเดียว..แต่ว่า ที่นี่มีสวนผีเสื้อด้วย เราก็พึ่งรู้จากเพื่อนเลยลองมาดู คือลักษณะเป็นคล้ายๆ glass house ภายในมีพรรณไม้เขตร้อน ในนั้นมีผีเสื้อนานาชนิด เราว่าถ่ายรูปเล่นก็สวยดี เเนะนำเลยน่ามาๆ อารมณ์ประมาณ kew’s garden ที่ลอนดอนเลย แต่ที่สวนรถไฟเราเสียค่าเช่าจักรยานเเค่ 20 บาท เท่านั้น แถมค่าจอดรถยังฟรีอีกด้วย!
ระหว่างอยู่ที่สวนรถไฟเรากับเพื่อนก็คิดได้ว่า เฮ้ยยย.. หรือวันนี้จะลองทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวสุดๆไปเลย คิดว่าไปนอนรร.ในกรุงเทพเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้เหมือนตัวเองไปพักผ่อนก็ดีนะ? เราเลยค้นคำว่า จองรร.นาทีสุดท้าย และเจอเว็บนี้ที่พอเราเข้าไปแล้วมันลิ้งค์ไปที่ App Store ชื่อแอพว่า HotelQuickly เลยลองอ่านคอมเม้นต์ในเน็ต ซึ่งมีคนมารีวิวว่าคือมันมีข้อดีคือ ถ้าจองโรงเเรมภายในวันที่จะพักหรือพรุ่งนี้เค้าจะลดราคาพิเศษกว่าเว็บอื่นประมาณว่าถึงจะจองนาทีสุดท้ายก็สบายกระเป๋า 5555
เราเลยคิดว่าโอเค..ลองจองที่พักกับแอพนี้ละกัน สนุกๆ ;)
กว่าจะเสร็จก็หิวเเล้ว ท้องร้องต้องหาไรกินซะหน่อย ไปเจอ เป็นมันฝรั่งทอดอารมณ์คล้ายเลย์ เเต่เค้าเอามันฝรั่งมาฝานเป็นเเว่นๆ เเล้วเสียบไม้ นำไปทอดเเล้ว โรยด้วยผงปรุงรส มีหลายรสเลือกได้เลย เเต่ถ้ากินบ่อยๆผมอาจจะร่วงได้ ผงชูรสน่าจะเยอะอยุ่
หลังจากกินเลย์เสียบไม้ บอกเลยไม่อิ่มขอจัดต่อ
หลังจากเดินสวนรถไฟจนทั่วแล้ว.. เราก็มุ่งหน้าพหลโยธิน 14 เพื่อไป JEKKY HOME STAY
ตามที่เราได้จองมาจากเว็บ TakeMeTour อ่านจากในเว็บมาว่า ที่นี้เจ้าของชื่อ เจ๊กกี้ เค้าเปิดเป็นโฮมสเตย์เเละสอนฝรั่งทำอาหารไทย
บางคนมาเรียน บางคนมาเพื่อชิมอาหารไทย โดยการเดินทางไม่ยากเลยให้เข้าไปซอยพหลโยธิน 14
ให้สังเกตร้านข้าวขาหมูฮาเล่พอเห็นป้ายร้านก็จะเห็นซอยเล็กๆอยู่ด้านขวามือเลี้ยวเข้าซอยก็เจอเลย
คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ต้องการรู้จักเพื่อนใหม่ หลายคนหลังจากกับจากที่นี้จากคนแปลกหน้าก็กลายเป็นเพื่อนกัน โดนเน้นกิจกรรมทำอาหารบนเตาถ่าน เริ่มต้นตั้งเเต่จ่ายตลาด
ไปจนจัดจานไปจนถึงวิธีการกินในเเบบไทยๆ เราเองเป็นคนไทยเเท้ก็ยังไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำอาหารไทยหรือชิมอาหารไทยเเบบต้นตำรับขนาดนี้เลย
ส่วนราคาที่นี่คิดเป็นหัว หัวละ 350 บาทเท่านั้น !
เมนูที่เราทำวันนี้คือ หุงข้าวด้วยดอกอัญชัน ต้มข่าไก่ ไข่เจียว ผัดเผ็ดหน่อไม้หวาน
เมนูอาจจะธรรดาเเต่มันมีรายละเอียดที่น่าสนใจตั้งเเต่การเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงความตั้งใจในการสอน การที่เรามีส่วนร่วมในการทำอาหารทำให้อาหารมือนี้อร่อยเป็นพิเศษให้ความรู้สึกเหมือนมื้ออาหารที่บ้านเลย
หลังจากกินอาหารเสร็จจากบ้านพี่ เจ๊กกี้ เราก็หากิจกรรมทัวร์กินร้านอร่อยต่อจากเว็บเดิมอีกครั้ง เว็บนี้เค้าจะส่ง Local Expert คนไทยมาพาเราเที่ยวด้วย ซึ่งพี่นุ้ยที่เป็นคนพาเที่ยวให้เราถือว่าเป็นเด็กเยาวราชเเต่กำเนิดเลย ร้านไหนอร่อยไม่อร่อย รู้เเน่นอน เราเองเป็นคนไทยมาเยาวราชไม่รู้กี่หนเเต่วันนี้ขอทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวให้พี่นุ้ยพากินให้เต็มที่เลย
เริ่มกันที่ร้านแรกเลยที่พี่เค้าพาไปก็คือร้านน้ำปั่นมีผลไม้ให้เลือกเยอะมาก ร้านนี้คือมีมากกว่า 30 ชนิด!!!! ที่เราสั่งเป็น mango passion fruit ใส่เยลลี่ด้วย
ร้านที่ 2 ทุกคนน่าจะเคยได้ยินคือร้านก๋วยจั๊บที่อยู่หน้าโรงหนังเก่าแก่ ถึงจะเคยมาแล้วแต่ครั้งนี้ก็มาลองกินกระเพาะปลาดู ร้านนี้เขาก็ทำรสชาติออกมาเด็ดเหมือนกันนะ
ร้านที่ 3 คือร้านขนมปังปิ้ง! ร้านนี้คือดีงามมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่เคยโดนมาก่อน 555
ตะลุยกินไป 3 ร้าน อิ่มและเมื่อยมากกก คิดว่าโอเคถึงเวลาละ ถึงเวลาไปพักผ่อนซักที ☺ รร.ที่เราจองผ่านแอพ HotelQuickly ในช่วงเช้าที่บอกไป อยู่ที่สาทร ซ.1 จริงๆเเล้วสาทรเป็นที่ๆใครๆอาจจะคิดว่าเเพงและพลุกพล่าน เเต่เราไปเจอ โรงเเรมนี้ที่อยู่ในแอพชื่อ U SATHORN ค่อนข้างโอเคเลยสำหรับเรา โรงเเรมสวยดี เป็นสไตล์ traditional twist คือมีกลิ่นอายของความเป็นที่พักของผู้ดีเก่าเเถวสาทร ผสมกับ ความโมเดิร์น ที่เเฝงไปด้วยสีสันที่มีลูกเล่นเเละเป็นเอกลักษณ์ ทั้งห้องนอน เเละสิ่งอำนวยความสะดวกครบเเละที่สำคัญสะอาดมาก
ขอแนะนำเพิ่มสำหรับคนที่ชอบทานอาหารเช้าของโรงเเรมนิดนึง วันรุ่งขึ้นเราเปลี่ยนใจไม่ยอมลงไปกินอาหารเช้าด้านล่าง เราเลยเลือกเเบบ breakfast in bed ที่ฝรั่งเค้าฮิตกัน ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าปกติเเล้วเราสามารถเลือกได้ว่าจะกินในห้องนอนหรือกินที่ห้องอาหารของโรงเเรม โดยส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หลังจากที่ได้มาเที่ยว one day trip เเบบนี้เราก็รู้สึกว่าแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆในกรุงเทพ ที่เป็นกิจกรรมที่ปกติเราไม่ได้ทำ แบบว่าไม่ได้เอาแต่เดินห้างตากแอร์ อยากเเนะนำให้ลองทำนะ มันทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ของสถานที่ เดิมๆ ที่เราเคยไป มันทำให้เรารู้ว่าไม่ต้องไปเที่ยวต่างจังหวัดก็สามารถพักผ่อนได้ กรุงเทพก็เเอบเป็นเมืองชิคเบาๆ ตอนตื่นมาบอกเลยว่าไม่รู้สึกเหมือนอยู่กรุงเทพ 555… ถ้าใครไม่รู้จะเริ่มจากไหนเราเเนะให้เข้าไปดูเว็บกับแอพที่เราเเนะนำไป ค่อนข้างเวิร์คเลยสำหรับเรา หลังโหลดแอพมาแล้วใส่โค้ด IKULT จะได้ส่วนลด 400 บ. ตอนจองครั้งแรกด้วย 555 โค้ดของเราเอง อย่าลืมเอาไปใช้กันนะ 55
ช่วงนี้การเดินทางไปเที่ยวแบบ slow life กำลังมา เเต่จะบอกว่าถ้าไม่มีเวลาลองมองรอบๆตัว ทุกที่ก็เป็นที่เที่ยวได้ถ้าเรามองมันในมุมเราไม่เคยมอง ☺ ☺ ☺
“ Look upon the new perspective, seeking for the new meaning of life” ☺
[CR] Bangkok's Hidden Gems - ทำตัวเป็นฝรั่ง หลงทางในกรุงเทพฯ
เชื่อว่าหลายคนคงเคยคิดเหมือนกับเราว่าวันหยุดพักผ่อนอยู่กรุงเทพนอนอยู่บ้านเฉยๆทุกอาทิตย์ไม่รู้จะไปไหนดี วันหนึ่งได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนที่มาจากเมืองนอก เค้าชมกรุงเทพว่ามีอะไรให้ไปเยอะมาก
เราคืองง อยู่มายี่สิบกว่าปีเราไปมาหมด เเล้วเราก็ไล่ชื่อ สถานที่ check point ของกรุงเทพไป เช่น วัดพระแก้ว ข้าวสาร สยาม เจเจ บลาๆๆๆ แล้วเพื่อนเราสวนมาประโยคนึงทำเราอึ้ง
“ hey, you didn’t know about Bangkok.......” พร้อมบอกให้เราลองหาข้อมูลในเว็บนึงที่ฝรั่งเค้าชอบใช้กันชื่อ TakeMeTour ซึ่งเราก็เออออๆออกไป ปรากฏเข้าไป เฮ้ยย สาบานนี้กรุงเทพ
เว็บนี้ทำให้เราเห็นกรุงเทพในเเบบที่เราไม่เคยเห็น เเละนี้ก็เป็นที่มาของ การจัดทริป 1 วัน ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกับเค้าซักวัน
ว่าเเล้วเราก็โทรหาเพื่อนขอร้องให้ไปด้วย ความจริงคือบังคับ 555 เเละต่อไปนี้ก็คือรีวิวคร่าวๆเกี่ยวกับสถานที่ๆเราไปมา ☺ ☺
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์มาถึง.. ทริปเราเริ่มด้วยการเดินเก็บภาพสวยๆชิวที่สวนรถไฟ หลายคนคงสงสัยมาทำไมที่สวนรถไฟ ทุกคนอาจจะยังไม่รู้ ที่สวนรถไฟไม่ได้มีกิจกรรมเเค่ขี่จักรยานหรือปิกนิก ถ่ายรูป pre-wedding อย่างเดียว..แต่ว่า ที่นี่มีสวนผีเสื้อด้วย เราก็พึ่งรู้จากเพื่อนเลยลองมาดู คือลักษณะเป็นคล้ายๆ glass house ภายในมีพรรณไม้เขตร้อน ในนั้นมีผีเสื้อนานาชนิด เราว่าถ่ายรูปเล่นก็สวยดี เเนะนำเลยน่ามาๆ อารมณ์ประมาณ kew’s garden ที่ลอนดอนเลย แต่ที่สวนรถไฟเราเสียค่าเช่าจักรยานเเค่ 20 บาท เท่านั้น แถมค่าจอดรถยังฟรีอีกด้วย!
ระหว่างอยู่ที่สวนรถไฟเรากับเพื่อนก็คิดได้ว่า เฮ้ยยย.. หรือวันนี้จะลองทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวสุดๆไปเลย คิดว่าไปนอนรร.ในกรุงเทพเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้เหมือนตัวเองไปพักผ่อนก็ดีนะ? เราเลยค้นคำว่า จองรร.นาทีสุดท้าย และเจอเว็บนี้ที่พอเราเข้าไปแล้วมันลิ้งค์ไปที่ App Store ชื่อแอพว่า HotelQuickly เลยลองอ่านคอมเม้นต์ในเน็ต ซึ่งมีคนมารีวิวว่าคือมันมีข้อดีคือ ถ้าจองโรงเเรมภายในวันที่จะพักหรือพรุ่งนี้เค้าจะลดราคาพิเศษกว่าเว็บอื่นประมาณว่าถึงจะจองนาทีสุดท้ายก็สบายกระเป๋า 5555
เราเลยคิดว่าโอเค..ลองจองที่พักกับแอพนี้ละกัน สนุกๆ ;)
กว่าจะเสร็จก็หิวเเล้ว ท้องร้องต้องหาไรกินซะหน่อย ไปเจอ เป็นมันฝรั่งทอดอารมณ์คล้ายเลย์ เเต่เค้าเอามันฝรั่งมาฝานเป็นเเว่นๆ เเล้วเสียบไม้ นำไปทอดเเล้ว โรยด้วยผงปรุงรส มีหลายรสเลือกได้เลย เเต่ถ้ากินบ่อยๆผมอาจจะร่วงได้ ผงชูรสน่าจะเยอะอยุ่
หลังจากกินเลย์เสียบไม้ บอกเลยไม่อิ่มขอจัดต่อ
หลังจากเดินสวนรถไฟจนทั่วแล้ว.. เราก็มุ่งหน้าพหลโยธิน 14 เพื่อไป JEKKY HOME STAY
ตามที่เราได้จองมาจากเว็บ TakeMeTour อ่านจากในเว็บมาว่า ที่นี้เจ้าของชื่อ เจ๊กกี้ เค้าเปิดเป็นโฮมสเตย์เเละสอนฝรั่งทำอาหารไทย
บางคนมาเรียน บางคนมาเพื่อชิมอาหารไทย โดยการเดินทางไม่ยากเลยให้เข้าไปซอยพหลโยธิน 14
ให้สังเกตร้านข้าวขาหมูฮาเล่พอเห็นป้ายร้านก็จะเห็นซอยเล็กๆอยู่ด้านขวามือเลี้ยวเข้าซอยก็เจอเลย
คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ต้องการรู้จักเพื่อนใหม่ หลายคนหลังจากกับจากที่นี้จากคนแปลกหน้าก็กลายเป็นเพื่อนกัน โดนเน้นกิจกรรมทำอาหารบนเตาถ่าน เริ่มต้นตั้งเเต่จ่ายตลาด
ไปจนจัดจานไปจนถึงวิธีการกินในเเบบไทยๆ เราเองเป็นคนไทยเเท้ก็ยังไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำอาหารไทยหรือชิมอาหารไทยเเบบต้นตำรับขนาดนี้เลย
ส่วนราคาที่นี่คิดเป็นหัว หัวละ 350 บาทเท่านั้น !
เมนูที่เราทำวันนี้คือ หุงข้าวด้วยดอกอัญชัน ต้มข่าไก่ ไข่เจียว ผัดเผ็ดหน่อไม้หวาน
เมนูอาจจะธรรดาเเต่มันมีรายละเอียดที่น่าสนใจตั้งเเต่การเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงความตั้งใจในการสอน การที่เรามีส่วนร่วมในการทำอาหารทำให้อาหารมือนี้อร่อยเป็นพิเศษให้ความรู้สึกเหมือนมื้ออาหารที่บ้านเลย
หลังจากกินอาหารเสร็จจากบ้านพี่ เจ๊กกี้ เราก็หากิจกรรมทัวร์กินร้านอร่อยต่อจากเว็บเดิมอีกครั้ง เว็บนี้เค้าจะส่ง Local Expert คนไทยมาพาเราเที่ยวด้วย ซึ่งพี่นุ้ยที่เป็นคนพาเที่ยวให้เราถือว่าเป็นเด็กเยาวราชเเต่กำเนิดเลย ร้านไหนอร่อยไม่อร่อย รู้เเน่นอน เราเองเป็นคนไทยมาเยาวราชไม่รู้กี่หนเเต่วันนี้ขอทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวให้พี่นุ้ยพากินให้เต็มที่เลย
เริ่มกันที่ร้านแรกเลยที่พี่เค้าพาไปก็คือร้านน้ำปั่นมีผลไม้ให้เลือกเยอะมาก ร้านนี้คือมีมากกว่า 30 ชนิด!!!! ที่เราสั่งเป็น mango passion fruit ใส่เยลลี่ด้วย
ร้านที่ 2 ทุกคนน่าจะเคยได้ยินคือร้านก๋วยจั๊บที่อยู่หน้าโรงหนังเก่าแก่ ถึงจะเคยมาแล้วแต่ครั้งนี้ก็มาลองกินกระเพาะปลาดู ร้านนี้เขาก็ทำรสชาติออกมาเด็ดเหมือนกันนะ
ร้านที่ 3 คือร้านขนมปังปิ้ง! ร้านนี้คือดีงามมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่เคยโดนมาก่อน 555
ตะลุยกินไป 3 ร้าน อิ่มและเมื่อยมากกก คิดว่าโอเคถึงเวลาละ ถึงเวลาไปพักผ่อนซักที ☺ รร.ที่เราจองผ่านแอพ HotelQuickly ในช่วงเช้าที่บอกไป อยู่ที่สาทร ซ.1 จริงๆเเล้วสาทรเป็นที่ๆใครๆอาจจะคิดว่าเเพงและพลุกพล่าน เเต่เราไปเจอ โรงเเรมนี้ที่อยู่ในแอพชื่อ U SATHORN ค่อนข้างโอเคเลยสำหรับเรา โรงเเรมสวยดี เป็นสไตล์ traditional twist คือมีกลิ่นอายของความเป็นที่พักของผู้ดีเก่าเเถวสาทร ผสมกับ ความโมเดิร์น ที่เเฝงไปด้วยสีสันที่มีลูกเล่นเเละเป็นเอกลักษณ์ ทั้งห้องนอน เเละสิ่งอำนวยความสะดวกครบเเละที่สำคัญสะอาดมาก
ขอแนะนำเพิ่มสำหรับคนที่ชอบทานอาหารเช้าของโรงเเรมนิดนึง วันรุ่งขึ้นเราเปลี่ยนใจไม่ยอมลงไปกินอาหารเช้าด้านล่าง เราเลยเลือกเเบบ breakfast in bed ที่ฝรั่งเค้าฮิตกัน ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าปกติเเล้วเราสามารถเลือกได้ว่าจะกินในห้องนอนหรือกินที่ห้องอาหารของโรงเเรม โดยส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
หลังจากที่ได้มาเที่ยว one day trip เเบบนี้เราก็รู้สึกว่าแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆในกรุงเทพ ที่เป็นกิจกรรมที่ปกติเราไม่ได้ทำ แบบว่าไม่ได้เอาแต่เดินห้างตากแอร์ อยากเเนะนำให้ลองทำนะ มันทำให้เราเห็นมุมมองใหม่ของสถานที่ เดิมๆ ที่เราเคยไป มันทำให้เรารู้ว่าไม่ต้องไปเที่ยวต่างจังหวัดก็สามารถพักผ่อนได้ กรุงเทพก็เเอบเป็นเมืองชิคเบาๆ ตอนตื่นมาบอกเลยว่าไม่รู้สึกเหมือนอยู่กรุงเทพ 555… ถ้าใครไม่รู้จะเริ่มจากไหนเราเเนะให้เข้าไปดูเว็บกับแอพที่เราเเนะนำไป ค่อนข้างเวิร์คเลยสำหรับเรา หลังโหลดแอพมาแล้วใส่โค้ด IKULT จะได้ส่วนลด 400 บ. ตอนจองครั้งแรกด้วย 555 โค้ดของเราเอง อย่าลืมเอาไปใช้กันนะ 55
ช่วงนี้การเดินทางไปเที่ยวแบบ slow life กำลังมา เเต่จะบอกว่าถ้าไม่มีเวลาลองมองรอบๆตัว ทุกที่ก็เป็นที่เที่ยวได้ถ้าเรามองมันในมุมเราไม่เคยมอง ☺ ☺ ☺
“ Look upon the new perspective, seeking for the new meaning of life” ☺
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น