เราจะเป็นเเค่นักเลงคีย์บอร์ด หรือเป็นคนที่เข้าใจกีฬา

เเด่น้องเมย์ นักกีฬาในดวงใจ
เกริ่นหัวกะทู้ไว้ เผื่อคนผ่านมาอ่าน จะได้เข้าใจว่า โลกของเรามันมีสมดุลของมัน เฉกเช่นเดียวกับกีฬา อยู่ที่เราจะทำความเข้าใจ
เเละปรับใจของเราหรือไม่ กีฬา มีเเพ้ มีชนะ วันนี้เล่นดี พรุ่งนี้อาจเล่นไม่ดี ช่วงนี้ ท๊อปฟอร์ม อนาคต อาจจะฟอร์มรูดลงมา ซึ่งมันไม่ได้เกิดกับเมย์
คนเดียว มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงเเต่สำหรับประเทศไทย เมย์ เป็นคนที่เเบกความหวังทั้งหมดในกีฬาเเบดมินตัน วันที่เมย์เเพ้ เหมือนเราเเพ้ไปด้วย
เเต่เราจะเป็นเเค่นักเลงคีย์บอร์ดเเค่นั๊นหรือ ที่ตำหนิติติง โดยไม่เข้าใจ สาเหตุจริงๆ หรือกับข้อมูลที่เราเห็น เราคิดเองว่ามันเป็นเช่นนั๊นเช่นนี้ เราควรจะทำความเข้าใจหรือไม่ว่า
กว่าที่นักกีฬาจะขึ้นในยืนในจุดสูงสุด ต้องผ่านอะไรอีกมาก ทั้งความพ่ายเเพ้ อุปสรรค การบาดเจ็บ
เพราะฉะนั๊นเเล้ว การป้องกันเเชมป์ หรือการยืนระยะให้ได้มันยากกว่า
ไม่มีใคร ที่จะอยู่จุดสูงสุดไปตลอด เเม้ว่าอยากจะกลับมา เเต่ร่างกายสังขารมันฝืนกันไม่ได้
ดูตัวอย่าง ลี ชอง เหว่ย ก็ได้ นักกีฬามีเเพ้ มีบาดเจ็บ มีฟอร์มตก มีช่วงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต
เเต่สักวันหนึ่ง อาจมีวันที่กลับมายืนอยู่ที่อย่างผู้ชนะ ไม่มีใครที่ยืนอย่างผู้ชนะไปตลอดหรอก ให้ตีอย่างเทพเเค่ไหน

เเพ้เป็นบทเรียน  ชนะคือเกียรติยศประดับตัวเอง
เเค่วันนี้ เมย์ทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ทำสิ่งที่หลายคนมิอาจทำได้