สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
แต่งงานเพียงเพื่อจะหาคนมาดูแลตัวเอง แค่กลัดกระดุมเม็ดแรกก็ผิดแล้ว
เพราะเริ่มมีครอบครัวจากการ "อยากได้" ไม่ใช่ "อยากให้"
และเริ่มจากการ "ควบคุมบังคับ" ไม่ใช่เพราะ "รักปราศจากเงื่อนไข"
ถ้าคุณไปเจอคู่ที่ป่วยก่อนคุณ คุณก็จะไม่ดูแลเขาหรอก
เพราะความตั้งใจคุณคือ "อยากแค่หาคนมาดูแลฉัน"
ถูกไหมครับ
แล้วถ้าลูกๆคุณเป็นเด็กที่โลกส่วนตัวสูงบ้าง ปัญหาเยอะบ้าง ทำให้คุณต้องดูแลลูกจนกระทั่งแต่งงานมีลูกกันแล้วก็ยังพึ่งคุณอยู่
คุณจะทำยังไงครับ?
เพราะเริ่มมีครอบครัวจากการ "อยากได้" ไม่ใช่ "อยากให้"
และเริ่มจากการ "ควบคุมบังคับ" ไม่ใช่เพราะ "รักปราศจากเงื่อนไข"
ถ้าคุณไปเจอคู่ที่ป่วยก่อนคุณ คุณก็จะไม่ดูแลเขาหรอก
เพราะความตั้งใจคุณคือ "อยากแค่หาคนมาดูแลฉัน"
ถูกไหมครับ
แล้วถ้าลูกๆคุณเป็นเด็กที่โลกส่วนตัวสูงบ้าง ปัญหาเยอะบ้าง ทำให้คุณต้องดูแลลูกจนกระทั่งแต่งงานมีลูกกันแล้วก็ยังพึ่งคุณอยู่
คุณจะทำยังไงครับ?
ความคิดเห็นที่ 43
ทำไม มองโลกในแง่ร้าย และโดดเดี่ยวกันจังเลย
การที่คุณไม่มีใคร พาไปหาหมอ ตอนป่วย ... ไม่มีใคร(ขาประจำ) ไปเที่ยวด้วย .. ไม่มีใคร ที่รู้จักรู้ใจคุณทุกอย่าง
มันเหงา มันเดียวดาย มากมายนักนะคะ
ตอนที่เรามีแฟน เราไม่ได้คิดอะไรเลย ใครที่ดีผ่านเกณฑ์ ก็คบหมด ... คบแบบเพื่อน ไม่ให้ใครล้ำเกิน
เราคิดแค่เพียงว่า ต้องการคนไปเที่ยวนั่นนี่ ร่วมคุยกันไปเรื่อยๆ
..ความแข็งแกร่งของผุ้ชาย ก็support การแกล้งอ่อนแอของเราได้ .. มีคนหิ้วของ มีคนเดินตาม ก็โอเคนิ
เราคิดว่า เรารวย เราเก่ง เราสวย เราแข็งแรงมาก เราเจ๋งในทุกด้าน ไม่ได้ต้องพึ่งพาใคร (แต่โลกไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก)
ผ่านไปถึงวัย 30 ปี ก็ไปเจอบ้านที่ถูกใจ ถูกเงิน (ต้มยำกุ้งพอดี) ซึ่งเราก็สามารถซื้อบ้านเองได้สบาย
แต่บ้านจะอยู่คนเดียวไปใย ..ในเมื่อมีคนที่รู้ใจที่สุด ขอแต่งงาน ก็แต่ง แล้วก็มีลูกไปตามกระแสโลก
++ แ ต่ มั น คื อ ก า ร ล ง ทุ น ที่ คุ้ ม ค่ า ที่ สุ ด ใ น ชี วิ ต ++
มีปัญหาชีวิตมากมาย ที่คุณอยากจะคุยกับใครสักคน ..คนที่คุยได้ทุกเรื่อง คนที่จะกลับบ้านมาฟังคุณทุกวัน
คุณคงไม่ต้องการกินข้าวคนเดียว ... เพราะคุณจะเกาะพ่อแม่ไปตลอด คงไม่ใช่ และท่านก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป
บางคน พ่อแม่พี่น้อง อาจไม่ใช่คำตอบของคุณ เวลาที่คุณมีปัญหาเลย .. เพื่อนก็ต่างมีภาระต่างๆกันไป
แต่มีคนนึง ที่นั่งกินข้าวเย็นกับคุณแทบทุกวัน .. ดูทีวีด้วยกัน .. เลี้อยนอนกันในห้องรับแขกด้วยกัน (กับลูกๆด้วย)
ที่เราจะมีเวลา 1-2ชม. ที่จะเล่าเรื่องจิปาถะ ด่าจิ้งจก ชมจันทร์ ... ไม่ต้องยกหูโทรศัพท์ หรือขับรถไปไหน เพื่อหาใครมาคุยด้วย
มันอบอุ่นใจ กว่ากันมากมายนะคะ
ในทางเศรษฐศาสตร์ มันเป็นการแชร์ทรัพยากร กระจายความเสี่ยงทางการเงิน บำบัดจิตกันและกัน ฯลฯ
--------------------------
เล่าเรื่องจริง ... ปีที่ผ่านมา เราเป็นมะเร็ง ... การที่เราต้องไป รพ.ทุกวัน นานนับเดือน
ถ้าไม่มีสามีขับรถพาเราไปทุกวัน ดูแลเราทุกฝีก้าว จัดการทุกอย่าง แทนเรา (ที่ไร้เรี่ยวแรง)
แม้เรามีเงินมากมายและจ้างคนเฝ้าไข้ แต่มันเทียบไม่ได้กับการมี สามีภรรยาดูแล ... แทนที่กันไม่ได้เลย
++ สามี รับรู้ทุกอย่าง รู้จักทุกนิสัย รู้ใจทุกความคิด บริการสุดจิตสุดใจ จ่ายเงินแทนได้ทันที รับโทรศัพท์ทุกเวลา ++
++ นี่ คื อ ก า ร ล ง ทุ น อั น คุ้ ม ค่ า ที่ จ ะ เ สี่ ย ง ค่ ะ ++
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงข้าม วันนี้ เราพาสามีไปผ่าตัด .... เราก็จูงกันไป ดูแลเค้าอย่างเต็มที่ ไม่ให้โดนฝน ไม่ให้ขับรถ ไม่ต้องทำอะไร
เราเชื่อว่า ยามแก่ชรา เราจะมีคนจูงมือเราเดิน ตลอดไป ...
ถ้าใครจากไปก่อน เราก็เชื่อว่า ลูกๆเห็นสิ่งดีงามเหล่านี้ตลอด และจะจูงมือ คนที่เหลือรอดอยู่ แทนค่ะ
++ มันคุ้มที่จะเสี่ยง เพราะผลตอบแทน มันคุ้มค่าลงทุน ++
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การที่คุณไม่มีใคร พาไปหาหมอ ตอนป่วย ... ไม่มีใคร(ขาประจำ) ไปเที่ยวด้วย .. ไม่มีใคร ที่รู้จักรู้ใจคุณทุกอย่าง
มันเหงา มันเดียวดาย มากมายนักนะคะ
ตอนที่เรามีแฟน เราไม่ได้คิดอะไรเลย ใครที่ดีผ่านเกณฑ์ ก็คบหมด ... คบแบบเพื่อน ไม่ให้ใครล้ำเกิน
เราคิดแค่เพียงว่า ต้องการคนไปเที่ยวนั่นนี่ ร่วมคุยกันไปเรื่อยๆ
..ความแข็งแกร่งของผุ้ชาย ก็support การแกล้งอ่อนแอของเราได้ .. มีคนหิ้วของ มีคนเดินตาม ก็โอเคนิ
เราคิดว่า เรารวย เราเก่ง เราสวย เราแข็งแรงมาก เราเจ๋งในทุกด้าน ไม่ได้ต้องพึ่งพาใคร (แต่โลกไม่ได้ง่ายอย่างนั้นหรอก)
ผ่านไปถึงวัย 30 ปี ก็ไปเจอบ้านที่ถูกใจ ถูกเงิน (ต้มยำกุ้งพอดี) ซึ่งเราก็สามารถซื้อบ้านเองได้สบาย
แต่บ้านจะอยู่คนเดียวไปใย ..ในเมื่อมีคนที่รู้ใจที่สุด ขอแต่งงาน ก็แต่ง แล้วก็มีลูกไปตามกระแสโลก
++ แ ต่ มั น คื อ ก า ร ล ง ทุ น ที่ คุ้ ม ค่ า ที่ สุ ด ใ น ชี วิ ต ++
มีปัญหาชีวิตมากมาย ที่คุณอยากจะคุยกับใครสักคน ..คนที่คุยได้ทุกเรื่อง คนที่จะกลับบ้านมาฟังคุณทุกวัน
คุณคงไม่ต้องการกินข้าวคนเดียว ... เพราะคุณจะเกาะพ่อแม่ไปตลอด คงไม่ใช่ และท่านก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป
บางคน พ่อแม่พี่น้อง อาจไม่ใช่คำตอบของคุณ เวลาที่คุณมีปัญหาเลย .. เพื่อนก็ต่างมีภาระต่างๆกันไป
แต่มีคนนึง ที่นั่งกินข้าวเย็นกับคุณแทบทุกวัน .. ดูทีวีด้วยกัน .. เลี้อยนอนกันในห้องรับแขกด้วยกัน (กับลูกๆด้วย)
ที่เราจะมีเวลา 1-2ชม. ที่จะเล่าเรื่องจิปาถะ ด่าจิ้งจก ชมจันทร์ ... ไม่ต้องยกหูโทรศัพท์ หรือขับรถไปไหน เพื่อหาใครมาคุยด้วย
มันอบอุ่นใจ กว่ากันมากมายนะคะ
ในทางเศรษฐศาสตร์ มันเป็นการแชร์ทรัพยากร กระจายความเสี่ยงทางการเงิน บำบัดจิตกันและกัน ฯลฯ
--------------------------
เล่าเรื่องจริง ... ปีที่ผ่านมา เราเป็นมะเร็ง ... การที่เราต้องไป รพ.ทุกวัน นานนับเดือน
ถ้าไม่มีสามีขับรถพาเราไปทุกวัน ดูแลเราทุกฝีก้าว จัดการทุกอย่าง แทนเรา (ที่ไร้เรี่ยวแรง)
แม้เรามีเงินมากมายและจ้างคนเฝ้าไข้ แต่มันเทียบไม่ได้กับการมี สามีภรรยาดูแล ... แทนที่กันไม่ได้เลย
++ สามี รับรู้ทุกอย่าง รู้จักทุกนิสัย รู้ใจทุกความคิด บริการสุดจิตสุดใจ จ่ายเงินแทนได้ทันที รับโทรศัพท์ทุกเวลา ++
++ นี่ คื อ ก า ร ล ง ทุ น อั น คุ้ ม ค่ า ที่ จ ะ เ สี่ ย ง ค่ ะ ++
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงข้าม วันนี้ เราพาสามีไปผ่าตัด .... เราก็จูงกันไป ดูแลเค้าอย่างเต็มที่ ไม่ให้โดนฝน ไม่ให้ขับรถ ไม่ต้องทำอะไร
เราเชื่อว่า ยามแก่ชรา เราจะมีคนจูงมือเราเดิน ตลอดไป ...
ถ้าใครจากไปก่อน เราก็เชื่อว่า ลูกๆเห็นสิ่งดีงามเหล่านี้ตลอด และจะจูงมือ คนที่เหลือรอดอยู่ แทนค่ะ
++ มันคุ้มที่จะเสี่ยง เพราะผลตอบแทน มันคุ้มค่าลงทุน ++
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 7
มันไม่จำเป็นสำหรับคนที่ปลงได้ ยอมรับความจริงได้
แต่สำหรับคนที่อยากอยู่ไปอีกหมื่นๆปีมันก็คงจำเป็นมั้ง
สำหรับเรา เราไม่ต้องการค่ะ ทุกวันนี้ก็ดูแลตัวเอง พอแก่แล้วก็ดูแลต่อไป
แต่ถ้าดูแลไม่ไหวก็ตายไปเลย โดยส่วนตัว ไม่อยากให้ตัวเองอายุยืนอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ค้ำฟ้าไปทำไม สิ่งที่อยากได้ก็ได้หมดแล้ว
ทุกวันนี้ก็ทำทุกอย่างให้ดีๆ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ทำหน้าที่ของลูกอย่างเดียว พอหมดหน้าที่ของลูกก็เหลือแค่ตัวเอง
หลังจากนั้น หมดแล้วคือหมดกัน ไม่ยึดติดอะไร
แต่สำหรับคนที่อยากอยู่ไปอีกหมื่นๆปีมันก็คงจำเป็นมั้ง
สำหรับเรา เราไม่ต้องการค่ะ ทุกวันนี้ก็ดูแลตัวเอง พอแก่แล้วก็ดูแลต่อไป
แต่ถ้าดูแลไม่ไหวก็ตายไปเลย โดยส่วนตัว ไม่อยากให้ตัวเองอายุยืนอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ค้ำฟ้าไปทำไม สิ่งที่อยากได้ก็ได้หมดแล้ว
ทุกวันนี้ก็ทำทุกอย่างให้ดีๆ ใช้ชีวิตให้คุ้ม ทำหน้าที่ของลูกอย่างเดียว พอหมดหน้าที่ของลูกก็เหลือแค่ตัวเอง
หลังจากนั้น หมดแล้วคือหมดกัน ไม่ยึดติดอะไร
แสดงความคิดเห็น
จำเป็นไหมที่จะต้อง "แต่งงานมีครอบครัว" ด้วยเหตุผล "เพื่อที่จะมีคนดูแลเรายามแก่ตัวไป"
เพื่อนๆมีความเห็นยังไงคะ เราจำเป็นไหมที่จะต้องแต่งงานมีครอบครัวเพื่อที่จะมีคนดูแลเรายามแก่ตัวไป