ประสบการณ์ขนหัวลุก มันเป็นแบบนี้นี่เอง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เห็นกับตา

กระทู้คำถาม
เรื่องของเราอาจจะไม่ได้สยองเท่ากับของเพื่อนๆ นะ แต่สำหรับเรามันเป็นประสบการณ์ที่พบเจอกับตัวเองแล้ว
คำที่เขาพูดกันว่า "ขนหัวลุก" นั้นมันเป็นแบบนี้น่ะหรอ เข้าเรื่องเลย ...

เรื่องมีอยู่ว่า ย้อนไปเมื่อตอนที่เราอยู่ประมาณ ม.ปลาย เราจำไม่ได้แล้วว่าช่วงตอนนั้น เราอยู่ ม.5 หรือ ม.6
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่บ้านของเราเอง บ้านของเราอยู่ในหมู่บ้านที่ยังไม่ค่อยเจริญเท่าไหร่ แต่ถ้าเทียบกับสมัยที่เรายังอยู่ช่วงประถม ก็ถือว่า เจริญขึ้นมาเยอะพอสมควร ตามบ้านนอกในช่วงเวลานั้น บรรยากาศจะมืดและเงียบ ถนนในหมู่บ้าน จะโล่ง ไม่มีรถเล็กใหญ่สัญจรไปมา เหมือนช่วงเวลากลางวัน

วันนั้นเราอยู่บ้านกับแม่ 2 คน เรานั่งดูละครหลังข่าวกับแม่อยู่ในบ้าน พอละครเล่นจบ เราก็เดินออกมาหน้าบ้าน ส่วนแม่เราก็ดูข่าวเพื่อจะรอดูรายการนู่นนี่ต่อ
ในวันนั้น หมาที่บ้านของเรากำลังจะคลอด เราก็เลยเดินไปดูหมา ซึ่งมันนอนอยู่ใต้ต้นกอไผ่เล็กๆ ข้างบ้าน หมายังคลอดลูกไม่เสร็จ ตอนนั้นเพิ่งจะออกมาแค่ตัวเดียว เราจึงเดินเข้า - ออกบ้าน ประมาณ 3 - 4 รอบ และช่วงนั้นอยู่ในช่วงฤดูหนาวด้วย

รายการนึงในช่องหลากสี เวลาดึก ออกอากาศได้สักพัก เราก็เดินออกไปดูหมาอีกรอบ เพราะเป็นห่วง เราไปนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ หมาได้ไม่ถึง 10 นาที จู่ๆ เราก็ได้ยินเสียงหมาหอนมาจากไกลๆ หมู่บ้านของเราตั้งอยู่บนเนิน คล้ายๆ ภูเขาลูกเล็ก แต่ฐานกว้าง ที่หมู่บ้านเราจะเรียกกันว่าโนน หรือชื่อหมู่บ้านโนน นั่นแหละ บ้านเราตั้งอยู่ตีนโนน

เราได้ยินเสียงหมาหอนมาจากบนโนน หมามันหอนรับกันมาเรื่อยๆ จนเสียงมันมาดังชัดเจนอยู่ที่หน้าบ้านเรา แล้วสักพักเราก็ได้กลิ่นเหม็น ลักษณะกลิ่นเป็นกลิ่นสาบ เหม็นมาก แสบจมูก แบบอธิบายไม่ถูก เหม็นเหมือนอะไรตาย ช่วงเวลาที่ได้กลิ่น หมาที่หน้าบ้านก็ยังหอนกันอยู่ กลิ่นนั้นอยู่ที่บ้านเรานานพอสมควร เกือบครึ่งชั่วโมง แล้วจู่ๆ กลิ่นเหม็นนั้นก็หายไปพร้อมกับเสียงหมาที่หอนรับกันเป็นทอดๆ เหมือนกับว่าเจ้าของกลิ่นเขาเดินทางผ่านหน้าบ้าน
แต่ละหลังๆ ไปเรื่อยตามถนนเส้นในหมู่บ้านเรา

ในช่วงที่กลิ่นยังอยู่ที่บ้านของเรานั้น เรานั่งนิ่งอยู่ข้างๆ หมาที่กำลังคลอดลูก ไม่กล้าที่จะตะโกนเรียกแม่ หรือถามแม่ในตอนนั้นว่าได้กลิ่นเหมือนกันไหม เรานั่งนิ่งแบบแทบจะหยุดหายใจ ขนลุกไปทั้งตัว เรานั่งกลั้นหายใจ ตัวแข็ง ไม่ขยับ แล้วก็รู้สึกเหมือนที่โคนผมมันชูๆ ขึ้น เราผมยาว ซอยเปิดหู มันก็เลยไม่ได้ตั้งฟูฟ่องเหมือนในละคร หรืออาจจะไม่ได้เจอแบบมาเห็นเต็มๆ ตารึเปล่า เลยไม่ได้ฟูชี้ไปมาโด่เด่

พอกลิ่นนั้นไปพร้อมกับเสียงหมาหอน เราก็วิ่งเข้าบ้านไปหาแม่ แล้วรีบถามแม่เลยว่า แม่ได้กลิ่นเหม็นๆ เหมือนหนูไหม เมื่อกี้ที่หมามาหอนอยู่หน้าบ้านอ่ะ
แม่เราตอบว่า ได้ๆ กลิ่นเหม็นสาบๆ แปลกๆ แล้วแม่เราก็พูดขึ้นมาอีกว่า ใครมานะ ช่วงนี้ที่หมู่บ้านก็ไม่มีงานศพนี่

ในเหตุการณ์วันนั้นแหละ ทำให้เรารู้เลยว่า ใครที่มาพูด ขนหัวลุกๆ มันเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง และอีกอย่างที่ทำให้เราเชื่อ คือ สิ่งเล้นลับที่เขาเรียกกันว่า วิญญาณหรือผี มันมีจริงๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะได้ฟังเหตุการณ์ต่างๆ จากที่คนอื่นๆ เล่ากันมาทั้งนั้น

ขอบคุณค่ะ ที่อ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้ เรื่องของเราอาจจะไม่น่ากลัว และเล่าอาจจะวกวนไปมา ขออภัยด้วยนะคะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่น่ากลัวที่ไหนล่ะ นี่จินตนาการเห็นภาพเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่