เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้แวะนมัสการหลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา
เมื่อก่อนเราแวะบ่อยพอสมควร สมัยที่ที่จอดรถและที่ขายของยังอยู่ด้านใน ใกล้ ๆ กับโบสถ์หลังใหม่
แต่เมื่อสร้างโบสถ์หลังใหม่เสร็จแล้ว ที่ขายของกับลานจอดรถได้ย้ายมาอยู่ด้านหน้าตรงกันข้ามกัน ก็ยังมีโอกาสได้ไปบ้าง
แต่ครั้งสุดท้ายคือนานมากพอสมควร คิดว่าอาจจะสองสามปีแล้ว
ครั้งนี้ระหว่างทางจะกลับบ้านต่างจังหวัด เลยชวนพ่อแม่แวะ ก็ขับรถเข้าไปเห็นป้ายบอกชัดเจนใหญ่มาก ว่าลานจอดรถฟรี
พอเลี้ยวเข้าไปก็จะมีคนวิ่งกรูมาดักหน้ารถ โดยเหมือนอำนวยความสะดวกให้ โดยการโบกให้จอด
และคนที่วิ่งดักหน้ารถก็มีสองสามคน แบบต้อน ๆ นิด ๆ อ่ะค่ะ คือคนขายของแถวนั้น
แต่น้องชายเราก็ไม่ได้จอดตรงที่คนโบกเพราะว่าเราไปวันธรรมดา ซึ่งลานจอดรถโล่งมาก น้องชายก็ขับเลย ๆ ไปด้านใน
คนโบกก็ไม่ลดละ วิ่งตามรถเรามา แล้วก็มีเด็กวิ่งตามมารถมาเพิ่มอีกคน แต่พอมาเจอคนโบกคนนี้ เด็กคนนี้ก็ทำหน้าจ๋อย ๆ แล้วเดินไปทางอื่น
พอจอดลงจากรถ คนโบกก็เข้ามาใกล้ ๆ พร้อมทั้งเชื้อเชิญให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียนจากร้านเค้า เค้าพูดจาดีนะคะ
เราก็ยังไม่ตอบอะไร คุณพ่อก็เลยบอกว่า นั้นเราไปจอดตรงหน้าอบต.ดีกว่า (อบต.หรืออบจ.อะไรสักอย่างเนี่ยค่ะ ลานใกล้ ๆ กัน)
เราก็เลยขึ้นรถกัน แล้วย้ายไปจอดลานข้าง ๆ มีป้ายจอดฟรี เหมือนเดิม แต่เหตุการณ์เหมือนเดิมเป๊ะ แค่มีคนใหม่มาแทน
เค้าก็บอกว่า ช่วยซื้อดอกไม้ธูปเทียนหน่อย เด๋วแม่ค้าจะดูแลรถให้อย่างดี
แต่พวกเราก็ตอบว่า ไม่ซื้อค่ะ อยากไปซื้อของทางวัด เค้าก็บ่นงึมงำ ๆ แล้วก็เดินไปหารถคันใหม่ที่กำลังเข้ามาจอดพอดี
รถคันใหม่มากันหลายคนค่ะ เราเห็นเค้าลังเล ๆ แต่สรุปเค้าก็ไม่ได้ซื้อ แล้วมีคนอยู่เฝ้ารถหนึ่งคน จอดใกล้ ๆ เรา
เราเข้าไปไหว้พระ สักพักก็กลับค่ะ ก็กลัว ๆ รถจะมีอะไรแถมมาเหมือนกัน กลับมาถึงรถก็เดินวน ๆ ดูตรงสีรถ แต่ไม่มีอะไร
เรานั่งในรถ ระหว่างทางกลับบ้านก็คุยกันว่า จริง ๆ ถ้าอบต.หรือทางวัดจัดที่จอดรถแล้วเก็บเงินไปเลย ก็คงจะดีกว่า
คือให้คนมาโบก ๆ แบบนี้ พูดแบบนี้ จริง ๆ เข้าใจว่าอาชีพทำมาหากินสุจริต แต่มันทำให้คนมาเที่ยวเค้ารู้สึกรำคาญ
เมื่อก่อนหลังไหว้พระเสร็จ เราก็เดินตลาดตรงนี้ ดูขนม ของกินนะคะ แต่รอบนี้ ทำให้ไม่อยากเดินเลย
พอตอนเช้า พึ่งเห็นที่กระจกหลังรถ มีคนเขียนไว้บนกระจกหลังรถค่ะ ว่า "จนโว้ย"
(คือแวะวัดแล้วตรงกลับบ้าน ไม่ได้ไปไหน ที่บ้านมีที่จอดรถในบ้านเรียบร้อย มีประตูรั้ว)
เราก็เรียกพ่อแม่ น้องชาย มาดู คืออารมณ์แบบว่า เออเนอะ คนเรา ทำไปได้ แค่ไม่ซื้อของ ต้องเขียนว่าเลยเหรอ
(ไม่ได้ถ่ายรูปนะคะ พ่อให้ลบออก บอกคำพูดไม่เป็นมงคล รถน้องชายเรา เหมือนโดนแช่งอ่ะ 555)
แล้วก็คุยกันว่า ต่อไปจะกล้าแวะไม๊เนี่ย มันรู้สึกไม่ปลอดภัย ขนาดแวะไหว้พระทำบุญ ยังดีที่เขียนแค่ที่กระจก
แล้วไอ้ลานจอดรถฟรีเนี่ย จริง ๆ มันเป็นพื้นที่ของใคร หรือเป็นสิทธิ์ของคนที่มาเช่าเพื่อทำการค้าขาย
ไม่รู้แท็กห้องถูกหรือป่าวนะคะ แค่อยากเตือนเพื่อน ๆ ที่แวะเที่ยว ให้ระมัดระวังในทรัพย์สินของตัวเองด้วยค่ะ
ที่จอดรถวัดหลวงพ่อโสธร ขนาดนี้เชียวเหรอ (เตือนภัยค่ะ)
เมื่อก่อนเราแวะบ่อยพอสมควร สมัยที่ที่จอดรถและที่ขายของยังอยู่ด้านใน ใกล้ ๆ กับโบสถ์หลังใหม่
แต่เมื่อสร้างโบสถ์หลังใหม่เสร็จแล้ว ที่ขายของกับลานจอดรถได้ย้ายมาอยู่ด้านหน้าตรงกันข้ามกัน ก็ยังมีโอกาสได้ไปบ้าง
แต่ครั้งสุดท้ายคือนานมากพอสมควร คิดว่าอาจจะสองสามปีแล้ว
ครั้งนี้ระหว่างทางจะกลับบ้านต่างจังหวัด เลยชวนพ่อแม่แวะ ก็ขับรถเข้าไปเห็นป้ายบอกชัดเจนใหญ่มาก ว่าลานจอดรถฟรี
พอเลี้ยวเข้าไปก็จะมีคนวิ่งกรูมาดักหน้ารถ โดยเหมือนอำนวยความสะดวกให้ โดยการโบกให้จอด
และคนที่วิ่งดักหน้ารถก็มีสองสามคน แบบต้อน ๆ นิด ๆ อ่ะค่ะ คือคนขายของแถวนั้น
แต่น้องชายเราก็ไม่ได้จอดตรงที่คนโบกเพราะว่าเราไปวันธรรมดา ซึ่งลานจอดรถโล่งมาก น้องชายก็ขับเลย ๆ ไปด้านใน
คนโบกก็ไม่ลดละ วิ่งตามรถเรามา แล้วก็มีเด็กวิ่งตามมารถมาเพิ่มอีกคน แต่พอมาเจอคนโบกคนนี้ เด็กคนนี้ก็ทำหน้าจ๋อย ๆ แล้วเดินไปทางอื่น
พอจอดลงจากรถ คนโบกก็เข้ามาใกล้ ๆ พร้อมทั้งเชื้อเชิญให้ซื้อดอกไม้ธูปเทียนจากร้านเค้า เค้าพูดจาดีนะคะ
เราก็ยังไม่ตอบอะไร คุณพ่อก็เลยบอกว่า นั้นเราไปจอดตรงหน้าอบต.ดีกว่า (อบต.หรืออบจ.อะไรสักอย่างเนี่ยค่ะ ลานใกล้ ๆ กัน)
เราก็เลยขึ้นรถกัน แล้วย้ายไปจอดลานข้าง ๆ มีป้ายจอดฟรี เหมือนเดิม แต่เหตุการณ์เหมือนเดิมเป๊ะ แค่มีคนใหม่มาแทน
เค้าก็บอกว่า ช่วยซื้อดอกไม้ธูปเทียนหน่อย เด๋วแม่ค้าจะดูแลรถให้อย่างดี
แต่พวกเราก็ตอบว่า ไม่ซื้อค่ะ อยากไปซื้อของทางวัด เค้าก็บ่นงึมงำ ๆ แล้วก็เดินไปหารถคันใหม่ที่กำลังเข้ามาจอดพอดี
รถคันใหม่มากันหลายคนค่ะ เราเห็นเค้าลังเล ๆ แต่สรุปเค้าก็ไม่ได้ซื้อ แล้วมีคนอยู่เฝ้ารถหนึ่งคน จอดใกล้ ๆ เรา
เราเข้าไปไหว้พระ สักพักก็กลับค่ะ ก็กลัว ๆ รถจะมีอะไรแถมมาเหมือนกัน กลับมาถึงรถก็เดินวน ๆ ดูตรงสีรถ แต่ไม่มีอะไร
เรานั่งในรถ ระหว่างทางกลับบ้านก็คุยกันว่า จริง ๆ ถ้าอบต.หรือทางวัดจัดที่จอดรถแล้วเก็บเงินไปเลย ก็คงจะดีกว่า
คือให้คนมาโบก ๆ แบบนี้ พูดแบบนี้ จริง ๆ เข้าใจว่าอาชีพทำมาหากินสุจริต แต่มันทำให้คนมาเที่ยวเค้ารู้สึกรำคาญ
เมื่อก่อนหลังไหว้พระเสร็จ เราก็เดินตลาดตรงนี้ ดูขนม ของกินนะคะ แต่รอบนี้ ทำให้ไม่อยากเดินเลย
พอตอนเช้า พึ่งเห็นที่กระจกหลังรถ มีคนเขียนไว้บนกระจกหลังรถค่ะ ว่า "จนโว้ย"
(คือแวะวัดแล้วตรงกลับบ้าน ไม่ได้ไปไหน ที่บ้านมีที่จอดรถในบ้านเรียบร้อย มีประตูรั้ว)
เราก็เรียกพ่อแม่ น้องชาย มาดู คืออารมณ์แบบว่า เออเนอะ คนเรา ทำไปได้ แค่ไม่ซื้อของ ต้องเขียนว่าเลยเหรอ
(ไม่ได้ถ่ายรูปนะคะ พ่อให้ลบออก บอกคำพูดไม่เป็นมงคล รถน้องชายเรา เหมือนโดนแช่งอ่ะ 555)
แล้วก็คุยกันว่า ต่อไปจะกล้าแวะไม๊เนี่ย มันรู้สึกไม่ปลอดภัย ขนาดแวะไหว้พระทำบุญ ยังดีที่เขียนแค่ที่กระจก
แล้วไอ้ลานจอดรถฟรีเนี่ย จริง ๆ มันเป็นพื้นที่ของใคร หรือเป็นสิทธิ์ของคนที่มาเช่าเพื่อทำการค้าขาย
ไม่รู้แท็กห้องถูกหรือป่าวนะคะ แค่อยากเตือนเพื่อน ๆ ที่แวะเที่ยว ให้ระมัดระวังในทรัพย์สินของตัวเองด้วยค่ะ