ประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้า พระเจ้ามีจริง

กระทู้สนทนา


ประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้า พระเจ้ามีจริง

ดิฉันอยากเล่าเรื่องราวที่ดิฉันได้ประสบมาและเชื่อว่าพระเจ้า พระเยซู มีอยู่จริงๆ  ดิฉันไม่ได้มาประกาศลัทธิอะไร  หรือแอบอ้างใดๆ  ปัจจุบันทุกคนคิดว่าดิฉันป่วยทางจิต หมอบอกว่าเป็นไบโพลาร์ และเป็นโรคจิตแฝงมาด้วย  ตอนที่จะเกิดเรื่องราว ซึ่งเกิดเมื่อปี 2557ดิฉันเป็นชาวพุทธ ไม่ได้นับถือคริสต์ ใครมาประกาศก็ไม่เชื่อ ไม่เคยอ่านคัมภีร์ ไม่เคยมีความรู้อะไรเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ไม่เคยไปโบสถ์ และไม่ใช่คนที่เคร่งศาสนา และชีวิตตอนนั้นก็มีความสุขดี ถ้าถามว่า ทำไมดิฉันคิดว่าพระเจ้ามีอยู่จริงๆ ก็เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้

1. เรื่องที่ดิฉันจะเล่าให้คุณฟัง
2. ดิฉันเคยปวดข้อมือทั้ง 2 ข้าง พร้อมกัน ในระดับที่ทนได้ แต่ปัจจุบันไม่เป็นแล้ว
3.  มีบางอย่างปักและรัดบริเวณหัวใจ ไม่รู้สึกเจ็บมาก  แต่ให้ความรู้สึกดี  ปัจจุบันถ้าท่านมาหาดิฉันจะรู้สึกทางร่างกายที่ได้บอก ซึ่งความรู้สึกมันตรงกับภาพข้างบน
4. ตอนนั้นดิฉันเป็นผู้เชื่อใหม่ อ่านคัมภีร์เริ่มบทปฐมกาล ไม่เคยได้ยินชื่อเมืองบรมสุข
มาก่อน ขอย้ำไม่เคยได้ยินจริงๆ แต่ดิฉันกลับฝัน ว่า มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดกับดิฉันเป็นเสียงที่มีอำนาจ ทรงพลัง ฉันจำไม่ได้ว่าเจ้าของของเสียงพูดอะไรบ้าง และดิฉันก็เข้าไปในเมืองหนึ่งเป็นเมืองที่ค่อนข้างสวยงาม ท้องฟ้าสีส้มอ่อนๆ เห็นสะพานใหญ่ๆ ข้ามไปไหน
ซักที่  เห็นผู้คนแต่งกายด้วยชุดสวยงาม เดินไปมาๆ  ในความรู้สึกของดิฉันนะ มันเหมือนเมืองที่ยังไม่ใช่สวรรค์  แต่เหมือนเมืองหน้าด่านซักที่ และดิฉันก็ถามน้องผู้ชายน่าจะอายุประมาณ 15 ปี ได้ ว่า ที่นี้เมืองอะไร น้องคนนั้นก็บอกว่า ที่นี้เมืองบรมสุข และดิฉันก็คุยเล่นกับน้องคนนั้น น้องคนนั้นบอกว่าจะพาเที่ยวชม ทันใดนั้นนั้นดิฉันก็ตื่นขึ้น ตอนที่
ตื่นขึ้นมาก็ยังเหมือนมีบางอย่างที่หัวใจอยู่เหมือนที่บอกไปข้อ 3 แล้วดิฉันก็ค้นหาชื่อเกี่ยวกับเมืองบรมสุข ปรากฏว่ามีชื่ออยู่ในอินเตอร์เน็ตจริงๆ ในพระคัมภีร์ก็มีชื่อเมืองนั้นด้วย  

เริ่มเล่าเรื่องราวเลยดีกว่า เมื่อ ประมาณ เดือน เม.ย.57 ก่อนหน้านั้นชีวิตดิฉันมีความสุขดี คิดว่าสิ้นปีจะแต่งงานด้วยซ้ำ และมีบางอย่างเข้ามาในร่างกายเหมือนที่บอกไปข้อ 3  แฝงไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดทางใจอย่างรุนแรง (ที่ไม่ใช่ของตนเอง) ความรัก และอีกความรู้สึกหนึ่งรุนแรงและมีอำนาจ  รู้สึกจนไม่สามารถนอนหลับได้ไปหลายวัน  มีอยู่วันหนึ่งมีเสียงบางอย่างอยู่ในสมองของดิฉันว่า  

ข้ามีหน้าที่ตรวจสอบระบบ มนุษย์เลว ดิรัจฉาน ยิ้ม ยิ้ม เสื่อมทราม และ
คำว่าเลวแบบที่ไม่ซ้ำกันหลายคำมาก

พูดอยู่ในสมองของดิฉัน แผงด้วยความรุนแรง
มีอำนาจ และความปวดร้าวรุนแรงภายในร่างกายของดิฉันเอง วนอยู่ในสมองหลายรอบ

ถึงตรงนี้นะค่ะถ้าเป็นความคิดของตัวดิฉัน ดิฉันคงไม่ว่ามนุษย์ด้วยกันเองหรอกเพราะดิฉันก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน ดิฉันก็ตอบกลับไปในใจว่า มนุษย์ไม่ได้เลวหมดเสมอไป คนดีก็มี  ต่อมาดิฉันไปงานรับปริญญาเพื่อนของ ม.กรุงเทพ ดิฉันได้ขอลากลับก่อนในช่วงกลางวัน และก็ไปกินข้าวที่ รพ.จุฬา ดิฉันก็หยิบสมุดมาเล่มหนึ่งเพื่อจดสิ่งที่อยู่ในสมอง ซึ่งมันเวียนอยู่ในสมองของดิฉัน และมีคำพูดใหม่ที่ ว่า

ข้าคือพระเจ้า ลูกข้าทำบาป ลูกข้า ข้าเจ็บปวด โศกเศร้า บางส่วนไม่ใช่ลูกข้า แต่เป็นลูกปีศาจ

ตอนนั้นดิฉันก็งงๆ กับตนเองเหมือนกัน ว่า นี้คือพระเจ้าจริงไหม หรือดิฉันเป็นอะไรกันแน่ ในเมื่อสิ่งนั้นอยากตรวจสอบ ช่วงนั้นเหลืองแดงกันพอดี ดิฉันก็เดินเข้าไปในสวนลุมเลย หลังจากนั้น ดิฉันเข้าไปนั่ง  มีป้าคนหนึ่งเอาข้าวมาให้  ในกลุ่ม ป้าๆ ก็ชวนดิฉันคุย และดิฉันก็ถามอะไรบางอย่างซึ่งมันเกี่ยวกับว่าคนที่นี้ดีหรือไม่ เป็นพลังที่รุนแรง มีอำนาจ จนป้าๆ เค้าเริ่มกลัวๆ ตอนนั้นดิฉันสังเกตสีหน้าเค้า (จะไม่ให้กลัวได้ไงสิ่งนั้นแผ่รังสีขนาดนั้น) จนการด์สวนลุมเค้าคงเห็นว่าดิฉันดูแปลกๆ ก็เลยส่งพี่ผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งเป็นการด์เข้ามาคุยกับดิฉัน  คำถามแรกที่ดิฉัน ถามคือ คนที่นี้เป็นคนดีไหม สิ่งนี้เหมือนผลักให้ดิฉันพูดออกไป แต่ดิฉันก็ยังมีสติอยู่พอทราบเรื่องราวทุกอย่าง  สิ่งที่มีอำนาจนั้นซักถามพี่ที่เป็นการด์ชนิดถามรอบทิศ อย่างต่อเนื่องไม่หยุด สิ่งนั้นมีความฉลาดมาก ที่ดิฉันจำได้เป็นท่อนๆ นะ พี่ผู้หญิงบอกว่า แต่พี่ได้ไปช่วยคนที่โดนระเบิด พี่เข้าใจน้องเป็นเด็กฉลาด และดิฉันก็จำคำพูดท้อนสุดท้ายว่า ยังงั้นพี่ก็เป็นคนดีนะสิ พี่คนนั้นก็ตอบไปว่า ใช่พี่เป็นคนดี  
ดิฉันขอให้พี่สาวคนนั้นเดินพาชมสวนลุม พี่สาวคนนั้นก็พาไป เดินคุยกันไป จนมาคำถามที่ว่า นักการเมืองที่ชื่อ ส. นำหน้า เค้าเป็นคนดีไหม พี่สาวคนนั้นก็ตอบว่า ใช่เมื่อก่อนเค้าเป็นคนไม่ดีแต่ตอนนี้เค้าเป็นคนดีแล้ว  และไม่รู้ยังไง สิ่งนั้นกระแทรกเสียงดังๆ ว่า แต่มันไม่บริสุทธิ์ได้ยินไหม เดินไปเรื่อยๆ พี่สาวก็ขอ line ของดิฉัน แต่เค้าบอกว่า line ที่จะให้เป็นของญาติเค้าเอง  แต่ดิฉันไม่ได้ให้ เพราะกลัวมีปัญหาตามมา พี่สาวจึงขอตัวกลับก่อน ตอนที่ดิฉันจะออกจากสวนลุม เจอลุงคนหนึ่งที่เค้าเป็นการด์หน้าตาดุๆ เค้าบอกว่า หนูมาอีกนะ มาดูให้แน่ใจเลยว่า ที่นี้เป็นยังไง
    


จริงๆ มีอีก 3 เรื่องใหญ่ๆ อยากเล่าให้ฟัง แต่กลัวคนไม่อยากอ่าน เพราะข้อความจะยาวมาก
หรือบางคนสรุปเลยว่า ดิฉันมีปัญหาทางจิต จึงขอเล่าแค่นี้ (ดิฉันเคยเขียนไว้ในกระทู้ก่อนๆซึ่งบางคนบอกว่าป่วย ใช่คะถ้าเข้าไปอ่านมันจะตรงกับโรคจิตเภททุกข้อ แต่สิ่งที่ทำให้ดิฉันเชื่อ คือ
ข้อ 3 กับ ข้อ 4 โดยเฉพาะ ข้อ 4 มันหาเหตุผลไม่ได้



    ส่วนถ้าไปอ่านกระทู้ก่อนๆ ที่ดิฉันพิมพ์ไว้ ตอนนั้นเกิดปรากฏการณ์กับตัวเองจริง และดิฉันก็หาข้อมูลจาก google  ไปเจอข้อความนี้
เนื่องจากเป็นสัตว์ในพระคัมภีร์ไบเบิล  ยูนิคอร์นจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในคริสต์ศาสนาซึ่งถูกตีความอยู่เสมอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  มักถูกเปรียบเทียบว่าคือองค์พระเยชู  ซึ่งถือแตรนำกองทัพแห่งความรอดของมนุษยชาติ โดยลงมาจุติในครรภ์ของพระแม่มารี  มโนคตินี้ได้รับการเสริมแต่งอย่างละเอียดพิสดารในโลกตะวันตกสมัยกลาง จนกลายเป็นนิทานเปรียบเทียบเล่าถึงการลงมาเกิดในโลกมนุษย์ และการสละชีพของพระเยซูคริสต์เจ้า
http://guru.sanook.com/12168/

ทำให้คิดเอง สรุปเอง ตอนนั้นนับถือพุทธ เชื่อคำทำนายของหลวงพ่อท่านหนึ่งเกี่ยวกับวันสิ้นโลก ปีนั้นเป็นปีม้าด้วยสิ เลยคิดเองเออเองจนเพี้ยนไปหมด บวกไม่ได้นอน จริงๆ แล้ว พระเจ้าแค่ต้องการไถ่ตัวดิฉันเองจากความบาป เป็นลูกของท่านเท่านั้นเอง  

    ซาตานอะ มันจะทำยังไงก็ได้ (คือการแทรกความคิด ดิฉันก็เคยโดนมา) ขอให้คุณไม่เชื่อในพระเยซู พระผู้ไถ่คุณจากความบาป ถ้าเกิดคุณมีความบาปแม้นิดเดียว คุณก็ไม่สามารถเข้าแผ่นดินสวรรค์ได้ ซึ่งคุณต้องไปอยู่ที่อื่น ซึ่งมันน่ากลัวมาก ในพระคัมภีร์มีบอกไว้ คือคุณต้องบริสุทธิ์จริงๆ เท่านั้น นะ

อยากให้อ่านวิเคราะห์ในคำพูดจากบุคคลลึกลับ และสิ่งที่ปรากฏจากตัวดิฉันมันเชื่อมโยงกันหมดด้วยตัวของมันเอง อีกอย่างการที่ดิฉันไปสวนลุมวันนั้นอันตรายมากนะ คนในชุมนุมเอาเรื่องแน่ๆ  อยู่ๆ ก็ไปถามว่า คนที่นี้ดีไหม คุณคิดดูโดนจับแน่ๆ หาว่าเป็นผู้ร้าย
ผู้ก่อกวนเป็นเรื่องใหญ่อีก อีกอย่างดิฉันไม่เคยพูดตวาดใคร โดยเฉพาะคนที่เริ่มรู้จักด้วย
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวดิฉันเอง ไม่มีเหตุผลที่จะสร้างเรื่อง การเล่าเรื่องที่เป็นเท็จโดยที่อ้างอิงเรื่องพระเจ้าอะ มันถือเป็นความบาปที่ไม่สามารถอภัยได้ แล้วดิฉันจะทำทำไมละ แต่การที่ดิฉันกล้าพูดเพราะอยากให้คนเชื่อว่า พระเจ้ามีจริงๆ ถ้าพระเจ้ามีจริงวันพิพากษา และชีวิตหลังความตายก็เป็นไปตามพระคัมภรี
ส่วนคนที่อยากถามอะไร ถามได้เลยนะค่ะในเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งที่ได้เล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่