Thierry Henry : ผมพูดกับ Sol ว่า “มาเถอะ Sol ใส่รองเท้าแล้วลงมาเล่น” เขาส่ายหัวแล้วบอกว่า “กูทำไม่ได้หวะ” ผมรู้เลยว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่
ดังที่กล่าวไปตอนที่แล้ว ในฤดูกาล 2004-05 Sol กลายเป็นตัวสำรองของ Pascal Cygan เมื่อปราการหลังเลือดเฟรนช์จับคู่กับ Kolo Toure ยึดตัวจริงของทีม พร้อมยังมีดาวรุ่งชาวสวิสอย่าง Philippe Senderos มาเป็นตัวเลือกก่อน Sol อีก การเข้าไปคุยกับ Wenger ในครั้งแรก Sol สงสัยว่าทำไมตัวเองถึงเป็นสำรอง แถม Senderos ก็ไม่ได้เล่นดีอะไรด้วย Wenger ก็ให้คำตอบที่ชัดเจนว่า พวกเขาคืออนาคตของสโมสร คำพูดนี้ทำให้ Sol นิ่งเงียบทีเดียว
ปีนั้น Arsenal ทำได้ดีในถ้วย FA Cup
เอาชนะคู่แข่งหลายๆทีม หลุดเข้าไปถึงรอบชิงกับ Manchester United
Arsene Wenger ไม่ได้บอก Sol ทันมีว่า Sol จะไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง เขาไม่จำเป็นต้องบอกด้วยซ้ำ
“ผมรู้สามหรือสี่วันก่อนหน้า คุณจะรู้แน่นอน เมื่อคุณต้องไปเล่นกับทีมอีกทีมหนึ่ง ทีมสำรอง” Senderos ยังคงเป็นตัวเลือกก่อน Sol เสมอ มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่ Sol จะลงเป็นตัวจริงหากไม่มีใครบาดเจ็บซะก่อน
Sol ถาม Wenger เป็นครั้งที่สองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการนัดประชุมทีม เมื่อทุกคนออกจากห้อง Wenger บอก Sol ว่า เขามีความสุขกับวิถีที่ทีมกำลังเล่น
สำหรับการเป็นกองหลัง คล้ายๆกับผู้รักษาประตูนั้นแหละ มันยากกว่าตำแหน่งอื่นในการกลับมาสู่ชุด 11 ตัวจริง กองหน้าสามารถถูกเปลี่ยนลงมาแล้วยิงนาทีสุดท้ายและเปลี่ยนทุกๆอย่างในช่วงเวลาเสี้ยววินาที แต่มันต่างกับกองหลังโดยสิ้นเชิง “ชีวิตบนม้านั่งมันรันทดมาก” Sol กล่าว “มันรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ แค่นั่งดูเพื่อนเล่น มันอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมมันคือการทรมาน”
ในนัดชิง FA Cup กับ Manchester United ตัว Sol ได้แต่นั่งที่ข้างสนามตลอดเกมส์ รู้สึกทรมาน อยากจะออกไปปลดปล่อย “ผมจำได้ว่าเขาผิดหวังมากที่ถูกทิ้งไว้ข้างสนาม” Wenger กล่าว “สำหรับเขา FA Cup เป็นอะไรที่สำคัญมาก เขาเช้าใจถึงประวัติศาสตร์และความสำคัญของมัน ผมสังเกตได้ว่าถ้าเราถูกเขี่ยตกรอบ Sol นั่นแหละจะเป็นคนที่คิดมากที่สุด”
เมื่อ Vieira ซัดจุดโทษเป็นประตูส่งผลให้ปืนได้แชมป์ FA Cup Sol ก็วิ่งลงมาบนสนามเพื่อมาฉลองกับเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่ลังเล Sol มีความสุขกับเพื่อนๆและกับตัวเอง เขาได้เหรียญ FA Cup ครั้งที่ 2 กับ Arsenal
ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2006 เหมือนวันทั่วๆไป วันนั้น Sol ขับรถ Range Rover ของตัวเองไปยัง Highbury สำหรับแมชต์ Arsenal vs. West Ham
เมื่อนกหวีดเป่าจบครึ่งแรก Arsenal โดนผู้มาเยือนนำ 1-2 และ Sol ก็มี 45 นาทีที่ย่ำแย่ เขาสกัดบอลพลาดทำให้ Nigel Reo Coker หลุดไปทำประตูแล้วยังมาโดน Zamora เบียดกระเด็นเสียประตูที่สอง
ในห้องแต่งตัว ผู้เล่นกำลังยุ่งและใคร่ครวญว่าอะไรมันผิดพลาดในครึ่งแรก ตัว Sol นั้นเข้าไปอยู่ในห้องออกกำลังกาย รู้สึกสิ้นหวังและหดหู่
Bergkamp Henry และ Ljunberg อยู่ในนั้น “ใช่ Dennis อยู่ในนั้น Thierry ก็เหมือนจะเดินเข้ามาด้วย อาจจะมีหลายๆคนเดินเข้าๆออกๆ ตลอดเวลา” Sol พูดด้วยความรู้สึกที่ว่าเขากำลังถ่วงทีม เขารู้ว่าอะไรบางอย่างได้มาถึงจุดจบ
“ผมไปต่อไม่ได้แล้ว” Sol พูดอย่างหนักแน่น Gary Lewin นักกายภาพบำบัดของ Arsenal จึงถามออกมา “ฮะ! อะไรนะ” และได้รับคำพูดเดิม “ผมไปต่อไม่ได้อีกแล้ว”
Sol จำได้ว่า Wenger ก็อยู่ในเหตุการณ์ Wenger ได้ยินสิ่งที่ Sol พูดกับ Lewin มันยังเป็นความทรงจำในอดีตอันเลวร้ายของ Sol
“เขาถอดรองเท้าออก ผมจึงพูดว่า มาเถอะ Sol ใส่รองเท้าซะ แล้วลงมาเล่นต่อได้แล้ว” Henry เล่า “ผมจำได้เลยว่า Sol ส่ายหน้าแล้วพูดว่า
กูทำไม่ได้หวะ ผมรู้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติ คำว่า
ไม่ได้ ไม่ใช่คำที่คนแบบ Sol Campbell จะพูด”
Sol เป็นที่หนึ่งของทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอล แต่ครั้งนี้เกราะของเขาที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่วัยเด็กกำลังถูกบั่นทอน Sol รู้สึกถึงความพ่ายแพ้และไม่คิดจะลงเล่นอีกแล้ว Wenger พยายามโน้มน้าว Sol ให้ลงเล่นครึ่งหลัง บอก Sol ว่าเขายังเชื่อในตัว Sol อยู่ แต่ Sol ยังคงส่ายหน้า
Sol ยังนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน “เจ้านายบอกกับเราว่า Sol จะไม่ลงเล่นครึ่งหลัง” Henry เล่า ในตอนนั้น Robert Pires มองหน้า Sol แล้วถามว่า นายยังโอเคอยู่ไหม คำตอบที่ได้รับกลับเป็นความเงียบ
ไม่มีใครคาดคิดว่า Sol Campbell จะถูกเปลี่ยนตัวออก แถมคนที่เป็นตัวแทนของเขาก็ดันเป็น Sebastian Larsson ซะด้วย ผู้ซึ่งถูกจดชื่อและยังทำพลาดให้ทีมโดนนำ 1-3
เมื่อห้องแต่งตัวนั้นไร้ผู้คน Sol จึงลุกออกไป สวมหมวกและแต่งกางเกงขายาว เขายังคงใส่เสื้อสีแดงของ Arsenal ด้วยซ้ำช่วงเวลาที่เขาขับรถออกไปจาก Highbury
“นั่นมัน Sol Campbell รึเปล่าวะ” ชายแก่ถาม และได้รับคำตอบจากคนแถวนั้นว่า “ตาฝาดหนะลุง Sol กำลังเล่นบอลอยู่หน่า”
เป็นสัปดาห์ที่ Sol หายตัว David Dein ได้โทรติดต่อ Sky Andrew เอเยน่ต์ส่วนตัวของ Sol ถามว่า Sky พอจะรู้ไหมว่า Sol หายไปไหน และได้คำตอบว่าไม่ Dein จึงพยายามโทรหาคนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่สำเร็จผลไปเรื่อยๆ จนเขาโทรหา Bon Battu ทนายส่วนตัวของ Sol ซึ่ง Battu บอกว่าเดี๋ยวจะจัดการให้เอง
Dein โทรหา Sol จัดแจงเคลียร์ตารางให้ว่างแล้วพุ่งตรงไปยัง Heathrow เพื่อไปนัดพบที่ร้านอาหารฝรั่งเศส การคุยกันเป็นไปอย่างเรียบง่าย พวกเขาดื่มไวน์ขาวและสั่งปลา Sol พูดเรื่องฟุตบอลเป็นหลัก เมื่อการสนทนามาถึงการที่ Sol หายตัวไปเป็นสัปดาห์ น้ำเสียงของ Sol ก็เริ่มสั่น “ผมทำให้ตัวเองผิดหวังและทำให้เพื่อนร่วมทีมผิดหวัง ผมรู้สึกสูญเสียทุกอย่าง ผลงานของผมก็ไม่ดี” ตามด้วยคำพูดต่างๆนานา
Dein รับฟังอย่างเข้าใจ เขาเคารพนักเตะทุกคน เขารู้ดีถึงความกดดันตั้งแต่ย้ายมาจาก Spurs Dein ให้คำมั่นสัญญา Sol ว่าเขากับ Wenger จะคอยสนับสนุน Sol เสมอ
“Dein รักสโมสรอย่างมาก และนั่นทำให้ทุกคำพูดจากเขาดูจริงใจ” Sol เล่า
ตลอดช่วงเวลานั้น Wenger ไม่ได้โทรหา Sol เลย “มันไม่ใช่สไตล์ของ Wenger หากเป็น Ferguson Ferguson จะอยากรู้ว่านักเตะกำลังเป็นยังไงอยู่ ชีวิตประจำวันของพวกเขาดำเนินไปอย่างไร Arsene ไม่ทำอย่างงั้น”
Thierry Henry : ผมพูดกับ Sol ว่า “มาเถอะ Sol ลงมาเล่นเถอะ” เขาส่ายหัวแล้วบอกว่า “กูทำไม่ได้หวะ” มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ
ดังที่กล่าวไปตอนที่แล้ว ในฤดูกาล 2004-05 Sol กลายเป็นตัวสำรองของ Pascal Cygan เมื่อปราการหลังเลือดเฟรนช์จับคู่กับ Kolo Toure ยึดตัวจริงของทีม พร้อมยังมีดาวรุ่งชาวสวิสอย่าง Philippe Senderos มาเป็นตัวเลือกก่อน Sol อีก การเข้าไปคุยกับ Wenger ในครั้งแรก Sol สงสัยว่าทำไมตัวเองถึงเป็นสำรอง แถม Senderos ก็ไม่ได้เล่นดีอะไรด้วย Wenger ก็ให้คำตอบที่ชัดเจนว่า พวกเขาคืออนาคตของสโมสร คำพูดนี้ทำให้ Sol นิ่งเงียบทีเดียว
ปีนั้น Arsenal ทำได้ดีในถ้วย FA Cup
เอาชนะคู่แข่งหลายๆทีม หลุดเข้าไปถึงรอบชิงกับ Manchester United
Arsene Wenger ไม่ได้บอก Sol ทันมีว่า Sol จะไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง เขาไม่จำเป็นต้องบอกด้วยซ้ำ
“ผมรู้สามหรือสี่วันก่อนหน้า คุณจะรู้แน่นอน เมื่อคุณต้องไปเล่นกับทีมอีกทีมหนึ่ง ทีมสำรอง” Senderos ยังคงเป็นตัวเลือกก่อน Sol เสมอ มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่ Sol จะลงเป็นตัวจริงหากไม่มีใครบาดเจ็บซะก่อน
Sol ถาม Wenger เป็นครั้งที่สองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการนัดประชุมทีม เมื่อทุกคนออกจากห้อง Wenger บอก Sol ว่า เขามีความสุขกับวิถีที่ทีมกำลังเล่น
สำหรับการเป็นกองหลัง คล้ายๆกับผู้รักษาประตูนั้นแหละ มันยากกว่าตำแหน่งอื่นในการกลับมาสู่ชุด 11 ตัวจริง กองหน้าสามารถถูกเปลี่ยนลงมาแล้วยิงนาทีสุดท้ายและเปลี่ยนทุกๆอย่างในช่วงเวลาเสี้ยววินาที แต่มันต่างกับกองหลังโดยสิ้นเชิง “ชีวิตบนม้านั่งมันรันทดมาก” Sol กล่าว “มันรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ แค่นั่งดูเพื่อนเล่น มันอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมมันคือการทรมาน”
ในนัดชิง FA Cup กับ Manchester United ตัว Sol ได้แต่นั่งที่ข้างสนามตลอดเกมส์ รู้สึกทรมาน อยากจะออกไปปลดปล่อย “ผมจำได้ว่าเขาผิดหวังมากที่ถูกทิ้งไว้ข้างสนาม” Wenger กล่าว “สำหรับเขา FA Cup เป็นอะไรที่สำคัญมาก เขาเช้าใจถึงประวัติศาสตร์และความสำคัญของมัน ผมสังเกตได้ว่าถ้าเราถูกเขี่ยตกรอบ Sol นั่นแหละจะเป็นคนที่คิดมากที่สุด”
เมื่อ Vieira ซัดจุดโทษเป็นประตูส่งผลให้ปืนได้แชมป์ FA Cup Sol ก็วิ่งลงมาบนสนามเพื่อมาฉลองกับเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่ลังเล Sol มีความสุขกับเพื่อนๆและกับตัวเอง เขาได้เหรียญ FA Cup ครั้งที่ 2 กับ Arsenal
ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2006 เหมือนวันทั่วๆไป วันนั้น Sol ขับรถ Range Rover ของตัวเองไปยัง Highbury สำหรับแมชต์ Arsenal vs. West Ham
เมื่อนกหวีดเป่าจบครึ่งแรก Arsenal โดนผู้มาเยือนนำ 1-2 และ Sol ก็มี 45 นาทีที่ย่ำแย่ เขาสกัดบอลพลาดทำให้ Nigel Reo Coker หลุดไปทำประตูแล้วยังมาโดน Zamora เบียดกระเด็นเสียประตูที่สอง
ในห้องแต่งตัว ผู้เล่นกำลังยุ่งและใคร่ครวญว่าอะไรมันผิดพลาดในครึ่งแรก ตัว Sol นั้นเข้าไปอยู่ในห้องออกกำลังกาย รู้สึกสิ้นหวังและหดหู่
Bergkamp Henry และ Ljunberg อยู่ในนั้น “ใช่ Dennis อยู่ในนั้น Thierry ก็เหมือนจะเดินเข้ามาด้วย อาจจะมีหลายๆคนเดินเข้าๆออกๆ ตลอดเวลา” Sol พูดด้วยความรู้สึกที่ว่าเขากำลังถ่วงทีม เขารู้ว่าอะไรบางอย่างได้มาถึงจุดจบ
“ผมไปต่อไม่ได้แล้ว” Sol พูดอย่างหนักแน่น Gary Lewin นักกายภาพบำบัดของ Arsenal จึงถามออกมา “ฮะ! อะไรนะ” และได้รับคำพูดเดิม “ผมไปต่อไม่ได้อีกแล้ว”
Sol จำได้ว่า Wenger ก็อยู่ในเหตุการณ์ Wenger ได้ยินสิ่งที่ Sol พูดกับ Lewin มันยังเป็นความทรงจำในอดีตอันเลวร้ายของ Sol
“เขาถอดรองเท้าออก ผมจึงพูดว่า มาเถอะ Sol ใส่รองเท้าซะ แล้วลงมาเล่นต่อได้แล้ว” Henry เล่า “ผมจำได้เลยว่า Sol ส่ายหน้าแล้วพูดว่า กูทำไม่ได้หวะ ผมรู้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติ คำว่า ไม่ได้ ไม่ใช่คำที่คนแบบ Sol Campbell จะพูด”
Sol เป็นที่หนึ่งของทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอล แต่ครั้งนี้เกราะของเขาที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่วัยเด็กกำลังถูกบั่นทอน Sol รู้สึกถึงความพ่ายแพ้และไม่คิดจะลงเล่นอีกแล้ว Wenger พยายามโน้มน้าว Sol ให้ลงเล่นครึ่งหลัง บอก Sol ว่าเขายังเชื่อในตัว Sol อยู่ แต่ Sol ยังคงส่ายหน้า
Sol ยังนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน “เจ้านายบอกกับเราว่า Sol จะไม่ลงเล่นครึ่งหลัง” Henry เล่า ในตอนนั้น Robert Pires มองหน้า Sol แล้วถามว่า นายยังโอเคอยู่ไหม คำตอบที่ได้รับกลับเป็นความเงียบ
ไม่มีใครคาดคิดว่า Sol Campbell จะถูกเปลี่ยนตัวออก แถมคนที่เป็นตัวแทนของเขาก็ดันเป็น Sebastian Larsson ซะด้วย ผู้ซึ่งถูกจดชื่อและยังทำพลาดให้ทีมโดนนำ 1-3
เมื่อห้องแต่งตัวนั้นไร้ผู้คน Sol จึงลุกออกไป สวมหมวกและแต่งกางเกงขายาว เขายังคงใส่เสื้อสีแดงของ Arsenal ด้วยซ้ำช่วงเวลาที่เขาขับรถออกไปจาก Highbury
“นั่นมัน Sol Campbell รึเปล่าวะ” ชายแก่ถาม และได้รับคำตอบจากคนแถวนั้นว่า “ตาฝาดหนะลุง Sol กำลังเล่นบอลอยู่หน่า”
เป็นสัปดาห์ที่ Sol หายตัว David Dein ได้โทรติดต่อ Sky Andrew เอเยน่ต์ส่วนตัวของ Sol ถามว่า Sky พอจะรู้ไหมว่า Sol หายไปไหน และได้คำตอบว่าไม่ Dein จึงพยายามโทรหาคนที่เกี่ยวข้องอย่างไม่สำเร็จผลไปเรื่อยๆ จนเขาโทรหา Bon Battu ทนายส่วนตัวของ Sol ซึ่ง Battu บอกว่าเดี๋ยวจะจัดการให้เอง
Dein โทรหา Sol จัดแจงเคลียร์ตารางให้ว่างแล้วพุ่งตรงไปยัง Heathrow เพื่อไปนัดพบที่ร้านอาหารฝรั่งเศส การคุยกันเป็นไปอย่างเรียบง่าย พวกเขาดื่มไวน์ขาวและสั่งปลา Sol พูดเรื่องฟุตบอลเป็นหลัก เมื่อการสนทนามาถึงการที่ Sol หายตัวไปเป็นสัปดาห์ น้ำเสียงของ Sol ก็เริ่มสั่น “ผมทำให้ตัวเองผิดหวังและทำให้เพื่อนร่วมทีมผิดหวัง ผมรู้สึกสูญเสียทุกอย่าง ผลงานของผมก็ไม่ดี” ตามด้วยคำพูดต่างๆนานา
Dein รับฟังอย่างเข้าใจ เขาเคารพนักเตะทุกคน เขารู้ดีถึงความกดดันตั้งแต่ย้ายมาจาก Spurs Dein ให้คำมั่นสัญญา Sol ว่าเขากับ Wenger จะคอยสนับสนุน Sol เสมอ
“Dein รักสโมสรอย่างมาก และนั่นทำให้ทุกคำพูดจากเขาดูจริงใจ” Sol เล่า
ตลอดช่วงเวลานั้น Wenger ไม่ได้โทรหา Sol เลย “มันไม่ใช่สไตล์ของ Wenger หากเป็น Ferguson Ferguson จะอยากรู้ว่านักเตะกำลังเป็นยังไงอยู่ ชีวิตประจำวันของพวกเขาดำเนินไปอย่างไร Arsene ไม่ทำอย่างงั้น”