จากมติชนออนไลน์

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดห้องทำงานให้สัมภาษณ์พิเศษกับมติชนออนไลน์ เปรียบเทียบทีมเศรษฐกิจไทยเป็นทีมฟุตบอล โดยนายประสาร เปรียบธนาคารกลาง หรือธปท. เป็นกองหลังเพราะดูเรื่องด้านการป้องกัน และเสถียรภาพ ภาครัฐเป็นเสมือนกองกลาง หรือ เพลย์เมคเกอร์ คอยเชื่อมระหว่างกองหลังกับกองหน้า และคอยจ่ายลูก ส่วนภาคเอกชน คือ กองหน้า เพราะมีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
ถ้าการเติบโตของเศรษฐกิจ คือการทำประตู ส่วนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ คือ การป้องกันประตู ผู้ว่าธปท. บอกว่า สถานการณ์เวลานี้ของเศรษฐกิจไทยคือสกอร์เสมอ 0:0 คือเศรษฐกิจไม่โต (ยิงไม่ได้) แต่ก็ยังมีเสถียรภาพทางการเงินการคลัง (ไม่เสียประตู)
“สถานะของเศรษฐกิจไทย เราดีกว่าหลายประเทศในโลก เปรียบว่า เราทำประตูไม่ได้ แต่เรายังไม่เสียประตู แต่หลายประเทศเสียประตูไปเยอะ ทั้ง กรีซ บราซิล แอฟริกาใต้ ตุรกี และอาร์เจนติน่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก รวมถึงไอเอ็มเอฟและเวิลด์แบงค์ ยืนยันสถานะความมั่นคงของเศรษฐกิจไทย เวิลด์แบงค์ ยกไทยเป็นประเทศตัวอย่างในความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจระดับมหาภาค” นายประสาร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าธปท. วิเคราะห์เทียบฟอร์มของแต่ละตำแหน่งในทีมเศรษฐกิจไทย เห็นว่า กองหน้า หรือ ภาคเอกชน ตัวเจ็บเยอะ ขาดการฝึกซ้อม ประกอบกับโอกาสในการทำประตูลดลง กล่าวคือภาวะเศรษฐกิจช่วง 6-7 ปีหลัง ประเทศใหญ่ๆทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงล่าสุดจีน เศรษฐกิจหดตัว กำลังซื้อลดลง ทำให้โอกาสลดลง ขณะที่ภาคเอกชนเราขาดการพัฒนา และการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่
ขณะที่กองกลาง อย่างภาครัฐ เจ็บป่วยบาดเจ็บ 10 ปีทะเลาะกันรุนแรงมากยึดอำนาจ 2 ครั้ง เปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ขาดความต่อเนื่อง
ส่วนกองหลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทย ก็พยายามช่วยเติมเกมรุก พยายามเป็นกองหนุน โดยใช้เครื่องมือที่พอมีอยู่บ้าง เช่น การกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ การลดดอกเบี้ยนโยบาย และดูแลระบบชำระเงิน ซึ่งช่วยให้ขีดความสามารถเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ก็เป็นได้แค่กองหนุน ไม่ใช่กองหน้า ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อหรือไม่ก็อยู่ที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ใช่ธนาคารกลาง
ขณะที่กองกลางชุดใหม่ ที่นำโดยดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายประสาร มองว่าท่านเน้นเรื่องการสื่อสารเพื่อพยายามสร้างความเชื่อมั่น โดยหลักๆเห็นว่าความคิดไม่แตกต่างจากชุดแรก(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล) แต่ที่แตกต่างคือช็อตแรกเล่นไปที่รายเล็กรายย่อย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราแคร์และมีเม็ดเงิน แต่ไม่ใช่ว่าทีมที่แล้วไม่ทำ แต่ในเชิงการสื่อสารอาจจะไม่เท่ากัน
ข้อแตกต่างอีกข้อคือเรื่องของทีมเวิร์ก ทีมที่แล้วไม่ได้ดูครอบคลุมมากนัก มีกระทรวงสำคัญทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้ดู ทีมใหม่เอาบทเรียนนั้นมา และให้มีลักษณะของการประสานเชื่อมโยงมากขึ้น ซึ่งก็เป็นข้อได้เปรียบของคนมาทีหลัง
แอบกระซิบถาม ท่านผู้ว่าแบงค์ชาติ เห็นคุยเรื่องฟุตบอลเชี่ยวชาญแบบนี้ เชียร์ทีมใดเป็นพิเศษหรือไม่ คุณประสาร เปิดตัวเป็นสาวกปืนใหญ่อาร์เซนอล ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ท่านบอกว่า ที่ชอบเพราะเป็นทีมที่ไม่ใช้วิธีฉาบฉวยด้วยการทุ่มเงินซื้อ แต่มีระยะหลังที่ทนแรงกดดันไม่ได้ก็ต้องทุ่มเงินซื้อบ้าง ส่วนการเล่นก็สนุกสวยงาม และที่สำคัญไม่ถึงกับนำโด่ง การดูแต่ละครั้งก็จะมีความตื่นเต้น เพราะกลัวแพ้ และก็จะรู้สึกสะใจเมื่อเห็นทีมที่ทุ่มเงินซื้อเยอะๆแพ้ทีมกลางๆ เกมฟุตบอลออกแบบกติกาไว้ดีมาก ไม่ใช่ว่าทีมใดทีมหนึ่งจะชนะเสมอไป มันมีความไม่แน่นอนสูง ต้องอาศัยความคิดและการประสานงานเยอะมาก ตนเอาฟุตบอลมาใช้ประโยชน์เยอะมาก อย่างหนึ่งที่ใช้บ่อยคือใช้อธิบายการประสานนโยบาย และแบ่งหน้าที่มาตลอด
ปล.แฟนบอลคอนเฟิร์ม ถ้าเชียร์อาร์เซนอล แต่ละครั้งตื่นเต้นเสมอ เพราะกลัวแพ้ ก็แปลว่าเป็นสาวกปืนใหญ่ตัวจริง (ฮา)
ผู้ว่าแบงค์ชาติ มอง′เศรษฐกิจไทย′เป็น′ทีมฟุตบอล′-กองหน้าอ่อนซ้อม กองกลางบาดเจ็บ
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดห้องทำงานให้สัมภาษณ์พิเศษกับมติชนออนไลน์ เปรียบเทียบทีมเศรษฐกิจไทยเป็นทีมฟุตบอล โดยนายประสาร เปรียบธนาคารกลาง หรือธปท. เป็นกองหลังเพราะดูเรื่องด้านการป้องกัน และเสถียรภาพ ภาครัฐเป็นเสมือนกองกลาง หรือ เพลย์เมคเกอร์ คอยเชื่อมระหว่างกองหลังกับกองหน้า และคอยจ่ายลูก ส่วนภาคเอกชน คือ กองหน้า เพราะมีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
ถ้าการเติบโตของเศรษฐกิจ คือการทำประตู ส่วนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ คือ การป้องกันประตู ผู้ว่าธปท. บอกว่า สถานการณ์เวลานี้ของเศรษฐกิจไทยคือสกอร์เสมอ 0:0 คือเศรษฐกิจไม่โต (ยิงไม่ได้) แต่ก็ยังมีเสถียรภาพทางการเงินการคลัง (ไม่เสียประตู)
“สถานะของเศรษฐกิจไทย เราดีกว่าหลายประเทศในโลก เปรียบว่า เราทำประตูไม่ได้ แต่เรายังไม่เสียประตู แต่หลายประเทศเสียประตูไปเยอะ ทั้ง กรีซ บราซิล แอฟริกาใต้ ตุรกี และอาร์เจนติน่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก รวมถึงไอเอ็มเอฟและเวิลด์แบงค์ ยืนยันสถานะความมั่นคงของเศรษฐกิจไทย เวิลด์แบงค์ ยกไทยเป็นประเทศตัวอย่างในความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจระดับมหาภาค” นายประสาร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าธปท. วิเคราะห์เทียบฟอร์มของแต่ละตำแหน่งในทีมเศรษฐกิจไทย เห็นว่า กองหน้า หรือ ภาคเอกชน ตัวเจ็บเยอะ ขาดการฝึกซ้อม ประกอบกับโอกาสในการทำประตูลดลง กล่าวคือภาวะเศรษฐกิจช่วง 6-7 ปีหลัง ประเทศใหญ่ๆทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงล่าสุดจีน เศรษฐกิจหดตัว กำลังซื้อลดลง ทำให้โอกาสลดลง ขณะที่ภาคเอกชนเราขาดการพัฒนา และการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่
ขณะที่กองกลาง อย่างภาครัฐ เจ็บป่วยบาดเจ็บ 10 ปีทะเลาะกันรุนแรงมากยึดอำนาจ 2 ครั้ง เปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ขาดความต่อเนื่อง
ส่วนกองหลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทย ก็พยายามช่วยเติมเกมรุก พยายามเป็นกองหนุน โดยใช้เครื่องมือที่พอมีอยู่บ้าง เช่น การกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ การลดดอกเบี้ยนโยบาย และดูแลระบบชำระเงิน ซึ่งช่วยให้ขีดความสามารถเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ก็เป็นได้แค่กองหนุน ไม่ใช่กองหน้า ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อหรือไม่ก็อยู่ที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ใช่ธนาคารกลาง
ขณะที่กองกลางชุดใหม่ ที่นำโดยดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายประสาร มองว่าท่านเน้นเรื่องการสื่อสารเพื่อพยายามสร้างความเชื่อมั่น โดยหลักๆเห็นว่าความคิดไม่แตกต่างจากชุดแรก(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล) แต่ที่แตกต่างคือช็อตแรกเล่นไปที่รายเล็กรายย่อย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราแคร์และมีเม็ดเงิน แต่ไม่ใช่ว่าทีมที่แล้วไม่ทำ แต่ในเชิงการสื่อสารอาจจะไม่เท่ากัน
ข้อแตกต่างอีกข้อคือเรื่องของทีมเวิร์ก ทีมที่แล้วไม่ได้ดูครอบคลุมมากนัก มีกระทรวงสำคัญทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้ดู ทีมใหม่เอาบทเรียนนั้นมา และให้มีลักษณะของการประสานเชื่อมโยงมากขึ้น ซึ่งก็เป็นข้อได้เปรียบของคนมาทีหลัง
แอบกระซิบถาม ท่านผู้ว่าแบงค์ชาติ เห็นคุยเรื่องฟุตบอลเชี่ยวชาญแบบนี้ เชียร์ทีมใดเป็นพิเศษหรือไม่ คุณประสาร เปิดตัวเป็นสาวกปืนใหญ่อาร์เซนอล ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ท่านบอกว่า ที่ชอบเพราะเป็นทีมที่ไม่ใช้วิธีฉาบฉวยด้วยการทุ่มเงินซื้อ แต่มีระยะหลังที่ทนแรงกดดันไม่ได้ก็ต้องทุ่มเงินซื้อบ้าง ส่วนการเล่นก็สนุกสวยงาม และที่สำคัญไม่ถึงกับนำโด่ง การดูแต่ละครั้งก็จะมีความตื่นเต้น เพราะกลัวแพ้ และก็จะรู้สึกสะใจเมื่อเห็นทีมที่ทุ่มเงินซื้อเยอะๆแพ้ทีมกลางๆ เกมฟุตบอลออกแบบกติกาไว้ดีมาก ไม่ใช่ว่าทีมใดทีมหนึ่งจะชนะเสมอไป มันมีความไม่แน่นอนสูง ต้องอาศัยความคิดและการประสานงานเยอะมาก ตนเอาฟุตบอลมาใช้ประโยชน์เยอะมาก อย่างหนึ่งที่ใช้บ่อยคือใช้อธิบายการประสานนโยบาย และแบ่งหน้าที่มาตลอด
ปล.แฟนบอลคอนเฟิร์ม ถ้าเชียร์อาร์เซนอล แต่ละครั้งตื่นเต้นเสมอ เพราะกลัวแพ้ ก็แปลว่าเป็นสาวกปืนใหญ่ตัวจริง (ฮา)