AEC..AEC.. ใครๆ ก็พูดถึงกันมานานแสนนาน คุณเคยนึกหวั่นๆ กับคำนี้มั้ย เชื่อว่าทุกคนคงได้รับข้อมูลมาเกินพอแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นตัวปัญหาต่อทั้งนักเรียน, นักศึกษาและมนุษย์เงินเดือนส่วนหนึ่ง จนกลายเป็นจุดเสียเปรียบในยุค AEC นี้ ก็คือภาษาอังกฤษ

เด็กไทยเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัย แต่คงมีสักแค่ 1/2 หรืออย่างมากก็ 2/3 ที่นำไปใช้ได้จริงในการทำงาน แล้วเด็กๆ ส่วนที่เหลือล่ะคะ จะคิดว่าช่างมัน ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของกรู รึคิดว่าประเทศอื่นมันเก่งเพราะมันเคยเป็นเมืองขึ้นฝรั่งนี่หว่า ถ้าอ้างอย่างนี้เพราะจริงๆ แล้วขี้เกียจพัฒนาตนเอง ก็เอาที่สบายใจละกันเนอะ
ถ้าอยากเก่งอังกฤษ ที่ไม่ใช่แบบงูๆ ปลาๆ ลองพิจารณาความเห็นข้างล่างนี้ค่ะ
1. ก่อนอื่นต้องสร้างความชอบ ถ้าชอบฟังเพลง ลองฟังเพลงฝรั่งง่ายๆ ก่อน เว็บไซด์ที่มีเพลงฝรั่งให้ฟังพร้อมคำแปลมีเพียบเลยค่ะ YouTube ก็มี แล้วถ้าชอบอ่านหนังสือ หาเรื่องสั้นหรือการ์ตูนมาอ่าน หนังสือพิมพ์อาจจะยากไปในขั้นแรก ที่สำคัญต้องเปิดดิคชั่นนารี่ค่ะ ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด คนที่อยากเก่งอังกฤษ แต่ไม่เปิดดิคฯ นี่ เป็นไปไม่ได้ 1000% แล้วถ้าชอบดูหนัง ยิ่งสบายค่ะ จงดูหนัง sound track เท่านั้น เริ่มจากหนังสำหรับเด็ก-หนังการ์ตูน จะได้ฝึกฟังไปในตัวด้วย
2. เวลาอ่าน-ฟัง-ดูทุกอย่างข้างต้น ให้ฝึกออกเสียงเลียนแบบตาม อย่าอายที่จะดัดจริต ไม่งั้นลิ้นจะหายแข็งได้ไงคะ
3. กูรูบางท่านจะสอนแบบเน้นการพูดเป็นหลัก ให้พูดได้ไว้ก่อน แต่ผู้เขียนเห็นว่าถ้าไวยากรณ์ไม่แม่น แล้วจะสื่อความหมายในการพูดให้ถูกต้องได้อย่างไร ดังนั้น จึงควรเรียนรู้ทั้งสองอย่างพร้อมๆ กัน หลักง่ายๆ ในการจำไวยากรณ์ให้ได้รวดเร็ว ก็คือนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราคล่องอยู่แล้ว นั่นก็คือภาษาไทย โดยเปรียบเทียบตั้งแต่การออกเสียง, การใช้งานและการตีความ คือเรียนไปก็ลองแปลไปด้วย แต่ก่อนอื่น ก็ต้องเชี่ยวชาญในภาษาแม่ของเราก่อนที่จะเรียนรู้ภาษาต่างด้าว
4. สื่อสารกับมนุษย์จริงๆ มากกว่าการแชทไลน์หรือเล่น ig ลองเงยจากหน้าจอไปคุยกับคนในครอบครัว หรือสนใจสิ่งรอบตัวบ้าง อาจมีใครหลายคนรอพูดคุยหรือทำความรู้จักกับคุณอยู่ นี่คือการฝึกการสื่อสารอย่างหนึ่ง
5. เรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเองผ่านเว็บไซด์ต่างๆ ฝึกทำแบบฝึกหัดจับเวลาเพื่อพัฒนาตนเอง หรือรวมกลุ่มเพื่อนฝึกเป็นมัคคุเทศก์ให้ชาวต่างชาติ
6. ถ้าทำได้อย่างที่ว่ามาด้วยความขยันและตั้งใจจริง นอกจากไม่ต้องใช้ทุนทรัพย์ไปเรียนกวดวิชาแล้ว คุณอาจจะมีรายได้พิเศษจากการเป็น tutor, translator หรือ guide ด้วยนะคะ
กระทู้นี้จะมีประโยชน์หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตั้งใจจริงสักแค่ไหนเท่านั้น ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ


เรียนรู้ภาษาอังกฤษยังไงไม่ให้ snake snake......fish fish
ถ้าอยากเก่งอังกฤษ ที่ไม่ใช่แบบงูๆ ปลาๆ ลองพิจารณาความเห็นข้างล่างนี้ค่ะ
1. ก่อนอื่นต้องสร้างความชอบ ถ้าชอบฟังเพลง ลองฟังเพลงฝรั่งง่ายๆ ก่อน เว็บไซด์ที่มีเพลงฝรั่งให้ฟังพร้อมคำแปลมีเพียบเลยค่ะ YouTube ก็มี แล้วถ้าชอบอ่านหนังสือ หาเรื่องสั้นหรือการ์ตูนมาอ่าน หนังสือพิมพ์อาจจะยากไปในขั้นแรก ที่สำคัญต้องเปิดดิคชั่นนารี่ค่ะ ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด คนที่อยากเก่งอังกฤษ แต่ไม่เปิดดิคฯ นี่ เป็นไปไม่ได้ 1000% แล้วถ้าชอบดูหนัง ยิ่งสบายค่ะ จงดูหนัง sound track เท่านั้น เริ่มจากหนังสำหรับเด็ก-หนังการ์ตูน จะได้ฝึกฟังไปในตัวด้วย
2. เวลาอ่าน-ฟัง-ดูทุกอย่างข้างต้น ให้ฝึกออกเสียงเลียนแบบตาม อย่าอายที่จะดัดจริต ไม่งั้นลิ้นจะหายแข็งได้ไงคะ
3. กูรูบางท่านจะสอนแบบเน้นการพูดเป็นหลัก ให้พูดได้ไว้ก่อน แต่ผู้เขียนเห็นว่าถ้าไวยากรณ์ไม่แม่น แล้วจะสื่อความหมายในการพูดให้ถูกต้องได้อย่างไร ดังนั้น จึงควรเรียนรู้ทั้งสองอย่างพร้อมๆ กัน หลักง่ายๆ ในการจำไวยากรณ์ให้ได้รวดเร็ว ก็คือนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราคล่องอยู่แล้ว นั่นก็คือภาษาไทย โดยเปรียบเทียบตั้งแต่การออกเสียง, การใช้งานและการตีความ คือเรียนไปก็ลองแปลไปด้วย แต่ก่อนอื่น ก็ต้องเชี่ยวชาญในภาษาแม่ของเราก่อนที่จะเรียนรู้ภาษาต่างด้าว
4. สื่อสารกับมนุษย์จริงๆ มากกว่าการแชทไลน์หรือเล่น ig ลองเงยจากหน้าจอไปคุยกับคนในครอบครัว หรือสนใจสิ่งรอบตัวบ้าง อาจมีใครหลายคนรอพูดคุยหรือทำความรู้จักกับคุณอยู่ นี่คือการฝึกการสื่อสารอย่างหนึ่ง
5. เรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเองผ่านเว็บไซด์ต่างๆ ฝึกทำแบบฝึกหัดจับเวลาเพื่อพัฒนาตนเอง หรือรวมกลุ่มเพื่อนฝึกเป็นมัคคุเทศก์ให้ชาวต่างชาติ
6. ถ้าทำได้อย่างที่ว่ามาด้วยความขยันและตั้งใจจริง นอกจากไม่ต้องใช้ทุนทรัพย์ไปเรียนกวดวิชาแล้ว คุณอาจจะมีรายได้พิเศษจากการเป็น tutor, translator หรือ guide ด้วยนะคะ
กระทู้นี้จะมีประโยชน์หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตั้งใจจริงสักแค่ไหนเท่านั้น ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ