เราเคยทำงานกับบริษัทที่ให้เงินเยอะแต่เป็นงานที่เราไม่ถนัด ตลอด1ปีที่เราทำมีแต่ความไม่สบายใจ มาทำงานแล้วรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะเลิกงาน
ยิ่งตอนที่เราลาออกมาแล้วได้ทำที่ใหม่ เป็นงานที่เราถนัดยิ่งรู้สึกว่าทำได้ดีมากแม้เงินเดือนจะลดลง มองย้อนแล้วคิดว่าที่เก่านั้นเราทนไปได้ยังไงเป็นปีๆ
ทั้งสองที่มีตัวแปรอย่างนึงเหมือนกันคือ คนที่ไม่ถูกกันในที่ทำงาน แต่ตอนอยู่ที่แรกเรารู้สึกรำคาญและเป็นปัจจัยเสริมให้เราไม่ชอบออฟฟิศขึ้นไปอีก
แต่ขณะที่ออฟฟิศปัจจุบันก็มีคนที่ไม่กินเส้นกันทะเลาะข้ามหัวเราไปมา แต่มันไม่ได้กระทบความสุขในการทำงานของเรามากนัก
เพราะเรามัวแต่สร้างโปรเจคงานให้ตัวเอง ขลุกอยู่กับงานที่เราชอบเลยไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะทะเลาะกัน จนตอนนี้เราทำได้สองปีแล้ว
จริงๆเรื่องความสุขในที่ทำงานเราเข้าใจค่ะว่ามันมีหลายอย่างประกอบกัน แล้วแต่ว่าใครเจอเรื่องร้ายๆอะไรมา ปัญหาที่หนักอีกเรื่องคือเพื่อนร่วมงาน
ใครเจอเพื่อนร่วมงานแย่ๆก็คงมีความสุขไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ แต่นั่นเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ประเด็นของเราคือลักษณะงานที่เราเลือกได้ก่อนตัดสินใจเข้ามาทำ เมื่อคุณรู้ว่างานอะไรเป็นสิ่งที่ชอบมันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่คุณจะทำงานนั้นได้ยาวนานค่ะ
การเลือกทำงานที่ตัวเองรักคือสิ่งที่ยั่งยืนที่สุด เราพิสูจน์มาเอง
ยิ่งตอนที่เราลาออกมาแล้วได้ทำที่ใหม่ เป็นงานที่เราถนัดยิ่งรู้สึกว่าทำได้ดีมากแม้เงินเดือนจะลดลง มองย้อนแล้วคิดว่าที่เก่านั้นเราทนไปได้ยังไงเป็นปีๆ
ทั้งสองที่มีตัวแปรอย่างนึงเหมือนกันคือ คนที่ไม่ถูกกันในที่ทำงาน แต่ตอนอยู่ที่แรกเรารู้สึกรำคาญและเป็นปัจจัยเสริมให้เราไม่ชอบออฟฟิศขึ้นไปอีก
แต่ขณะที่ออฟฟิศปัจจุบันก็มีคนที่ไม่กินเส้นกันทะเลาะข้ามหัวเราไปมา แต่มันไม่ได้กระทบความสุขในการทำงานของเรามากนัก
เพราะเรามัวแต่สร้างโปรเจคงานให้ตัวเอง ขลุกอยู่กับงานที่เราชอบเลยไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะทะเลาะกัน จนตอนนี้เราทำได้สองปีแล้ว
จริงๆเรื่องความสุขในที่ทำงานเราเข้าใจค่ะว่ามันมีหลายอย่างประกอบกัน แล้วแต่ว่าใครเจอเรื่องร้ายๆอะไรมา ปัญหาที่หนักอีกเรื่องคือเพื่อนร่วมงาน
ใครเจอเพื่อนร่วมงานแย่ๆก็คงมีความสุขไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ แต่นั่นเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ประเด็นของเราคือลักษณะงานที่เราเลือกได้ก่อนตัดสินใจเข้ามาทำ เมื่อคุณรู้ว่างานอะไรเป็นสิ่งที่ชอบมันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่คุณจะทำงานนั้นได้ยาวนานค่ะ