สวัสดีค่ะ ^^
เพิ่งเริ่มตั้งกระทู้ครั้งแรกนะค่ะ
ยังไงถ้าผิดพลาดยังไง ขออภัยเพื่อนๆด้วยนะค่ะ
คือมีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ อยากระบายและขอ คคห.จากทุกคนในพันทิปหน่อยค่ะ เริ่มเลยนะค่ะ
" คือเพิ่งเรียนจบมาเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วนี่เองค่ะ จบด้านการท่องเที่ยวมา ซึ่งอยากจะไปทำงานที่ต่างจังหวัด จังหวัดหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาเยอะมากๆ ในใจคืออยากจะไปลองใช้วิชาที่ได้จบมาที่นั่น แต่ประเด็นคือมันไกลบ้านมาก แต่ก็ได้ขอที่บ้านไว้แล้วว่าก่อนเรียนจบคือขอไปนะ ที่บ้านเค้าก็ให้ไปค่ะ ซึ่งการไปครั้งนี้ต้องใช้เงินเยอะเหมือนกันนะค่ะ เพราะเป็นการย้ายตัวเองไปอยู่ที่นั่นเลย ต้องเช่าหอ และซื้อรถใหม่ด้วย (มอเตอไซด์) เมื่อถึงเวลาก็ไปค่ะ ก็ได้ไปสมัครงาน ตอนแรกก็ทำเป็นฟรีแลนด์ไปก่อนนะค่ะ เพราะรายได้ก็ถือว่าดีมากๆ อยู่ได้ วันนึงก็ตก1000 - 1200บาทอ่ะค่ะ แต่พอผ่านไปเดือนนึง งานเริ่มหร่อยหรอ เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มซบเซา เลยมีงานบ้างไม่มีบ้าง ก็เครียดค่ะ อุตส่าห์ขอที่บ้านมาแล้ว แต่ถ้าทำไม่ได้ กลัวเค้าจะว่าและเสียความรู้สึก เลยทนต่อ ก็เริ่มมีงานเข้ามาอีก กืำได้อยู่ประมาณ3อาทิย์ แต่ไม่ได้มีทุกวันนะค่ะวันที่ไม่มีก็นอนอยู่ห้องกับเพื่อนอีกคนที่ชะตากรรมเดียวกัน ฮ่าๆๆ มันก็ถามเรา เอาไงๆเธอ ตอนแรกไม่เครียดนะ พอมันถามบ่อยมากเท่านั้นแหละ ไมเกรนขึ้นเลย ฮ่าๆๆๆ ก็เลยบอกไปว่าจะสู้ต่อมั้ยล่ะ ถ้าอยู่ต่อก็ลองไปสมัครงานอื่นดูมั้ย แต่ถ้าไม่ก็กลับไปหางานแถวบ้าน มันก็บอกว่าลองสมัครแถวนี้ดูก่อนละกัน จนวันรุ่งขึ้น เพื่อนอีกคนมาเล่าให้ฟังว่ากำลังจะโดนปลดจากงาน เนื่องจากเค้าต้องรักษาบริษัทไว้ ตอนนี้เสรษฐกิจไม่ดี คนขับรถ และพนักงานโดนปลดเยอะมาก และอีบริษัทมันก็เซฟคอร์ดโดยการให้คนขับรถไปรับนักท่องเที่ยวเอง หึหึ เป็นไงล่ะ ไส้แห้งละสิทีนี้ ได้ฟังอย่างนั้น ยิ่งมาทำให้เราจิตตกมาก เครียด จนอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก อยากโทรไปบอกที่บ้านแต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวเค้าจะเป็นห่วงและไม่สบายใจบวกกับกลัวโดนด่าด้วย ฮ่าๆๆ (น่าจะอย่างหลังมากกว่า) สุดท้ายขุ่นแม่โทรมาค่ะ (เหมือนจะรู้) แกก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็เล่าให้ฟัง แกก็พูดแบบเสียงแผ่วๆว่า กลับบ้านมั้ยล่ะ มีตังค์มั้ย เราก็คิดในใจ กลับดีมั้ยว่ะ ก็เลยบอกไปว่าลองดูอีกสักวันสองวันแล้วกัน เดี๋ยวค่อยโทรไปบอก แล้วแกก็วางไป รุ่งเช้าเรากับเพื่อนก้ไปสมัครงาน ซึ่งเพื่อนมันไม่มีรถ เราต้องไปรับไปส่งทุกวัน แล้วเราก็คิดในใจงานนี้ไม่ใช่งานที่เราถนัดเลย เพราะเป็นงานในออฟฟิศ เราไม่ชอบงานเอกสาร ปวดหัว (ตกงานแล้วยังจะเลือกอิก อินี่) ฮ่าๆๆ ก็ไม่ถนัดอ่ะน่ะ
และอีกอย่างเพื่อนเรามันไม่มีรถ ถ้าเราได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันได้ มันจะไปยังไง เราก็เลยอ่ะ ลองดู ค่อยว่ากันอีกที สมัครสัมภาษณ์อะไรเสร็จ เค้าก็บอกว่าติดต่อกลับนะค่ะ (เอ๊ะ เหมือนจะไม่ได้) ออกจากออฟฟิศเสร็จ เพื่อนมันก็บอกว่าไม่ได้แน่เลยแก เราก็เฉยๆ ช่างเหอะ ไม่ได้ก็ค่อยหาที่ใหม่ ผ่านไป2วันเค้าไม่โทรมา แล้ววันนั้นเราจะกลับบ้านกันพอดี ขึ้นรถแล้ว ออฟฟิศที่ไปสมัครงานโทรหาเพื่อนเรา มันก็บอกว่าเอาไงแก เค้าโทรหาชั้ลแล้ว เราก็บอกว่าจะไปมั้ยละ ไหนๆก็ไหนแล้ว แกไปลองดูก่อนก็ได้ ชั้ลไม่เป็นไร ชั้ลค่อยไปหางานที่แถวบ้านดีกว่า รู้สึกไม่ไหวแล้ว ถ้าอยู่ต่อ มันก็ลังเล เราบอกว่าตัดสินใจไปเลย เรากลับคนเดียวได้ ยังไงก็ได้เจอกันอีกเพราะเรายังมีงานอีก แต่หลังจากนี้อีกอาทิตย์ มันก็เลยตัดสินใจอยู๋ต่อ
ที่นี้เหลือเราแล้วสิ พอถึงบ้านปั๊บ เหมือนอยู่ในสภายังไงไม่รู้ ญาติพี่น้อง พ่อแม่นั่งกันเต็มเลย ไปถึงสวัสดีกันเสร็จก็บรรเลงเลยค่ะ
ทั้งป้าทั้งแม่ 'กลับมาทำงานที่บ้านเถอะ อวดดีก่อนหน้านี้ เค้าจะฝากไชให้ ไม่เอา' (ก็ไม่ชอบคอรัปชั่นอ่ะ)
ป้า: กลับมาทำที่นี่ดีกว่า ถึงได้ไม่เยอะ แต่ก็ทำๆไปก่อน อยู่แถวๆบ้านมันได้ไปมาหาสู่กันง่าย วันหยุดก็ได้กลับมาอยู่บ้านบ้าง ดีกว่าไปอยู่ไกลแล้วไม่ได้เห็นหน้า
แม่ : กลับมาทำที่นี่แหละ ค่อยๆ ขยับขยายไป ไม่ต้องรีบ หมื่นนึงก็ทำไปก่อน
เรา: ก็รู้ แต่อาทิตย์หน้ามันยังมีงานอีก งานนั้นได้เงินก็น่าจะเยอะอยู่ 5วันก็น่าจะ5000มั้ง เสร็จจากนั้นก็ถ้าไม่มีรัยแล้วก็จะกลับมา
ป้า1,ป้า2,น้าสาว,แม่ : @#$%%^^&*()+?>M?><{}
แล้ววันนั้นก็ผ่านไป..................................................
อีกวัน เราก็ยังคงง่วนกับการเปิดเว็บหางาน ทั้งที่ใกล้บ้านเรา และต่างจังหวัดที่เราทำงานอยู่ มันก็มีแต่งานที่ไม่ได้เกี่ยวกับที่เราทำทั้งนั้น จนรุ่นพี่ที่อยู๋ที่ต่างจังหวัดที่เราไปทำงานอยู่โทรมา แกจะฝากงานให้ซึ่งมันได้ค่าตอบแทนเยอะ แต่ค่อนข้างเหนื่อย เพราะต้องทำหลายอย่าง เราก็คิดๆๆนะ เอาไงๆๆ กูจะโดนลอยแพอีกมั้ย เลยบอกพี่เค้าไปว่าเดี๋ยวยังไงจะโทรไปคอนเฟิร์มนะค่ะ
แล้ววันนั้นก็คิดทั้งวันจนผ่านไปอีก 1 วัน...................................
วันนี้เป็นวันที่เราจะกลับไปเคลียร์งานที่ต่างจังหวัดแล้ว แต่ก่อนกลับ เราได้ไปสมัครงาน โรงแรม5ดาวแห่งหนึ่งในตัวเมืองที่เราอยู่ในตำแหน่ง Receptionist ซึ่งเอาจริงๆ เราไม่ค่อยชอบงานโรงแรม ( โรงแรมนี้ไกลมากจากบ้านเรา) แต่ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ก็ไปสมัคร สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษหมดทุกอย่าง เสร็จพี่เค้าให้กรอกใบสมัคร เราเขียนเงินเดือนไป 12000นะค่ะ ทั้งที่รู้ว่าจริงๆ สตาร์ทแค่10000 เดียวแต่ผ่านโปรแล้วก็จะขึ้นอีก +เซอร์วิสนั่นโน่นนี่ ก็อยู๋ได้แหละมั่ง แล้วพี่เค้าบอกว่าจะนัดมาคุยกับ GM อีกทีนะค่ะ เราก็โอเคค่ะ ตอนนั้นไปกับเพื่อนอีกคนนึงนะค่ะที่เคยเรียนด้วยกัน พอนั่งรถออกมาสัก20นาที พระเจ้า! เค้ารับเราค่ะ นัดจะให้เราไปคุยกับGM ตอนนั้นเลย ไอเราก็เตรียมตัวไม่ทันแล้ว เพราะ จะกลับ ตจว.ไปเคลียร์งานแล้ว เราเลยบอกไปว่า พี่ขา หนูต้องไปเคลียร์งานให้เสร็จ ถ้าหนูขอเลื่อนเป็นวันอื่น เค้าจะรอหนูมั้ยค่ะ พี่เค้าตอบทันควันว่ารอค่ะ น้องภาษาอังกฤษดี ยังไงGM รอแน่นอนค่ะ (ยิ้มสิค่ะกู) ค่ะๆ ขอบคุณมากๆนะค่ะนั้นอีก1อาทิตย์หนูเข้าไปค่ะ
จากนั้นมันมีคำถามมากมายขึ้นอยู่ในหัว ว่าจะเอายังไงดีว่ะชีวิตนี้ เครียดว่ะ โรงแรมนี้ก็อยู่ไกลจากบ้านมากนะ ถ้าเข้าเวรดึก็ลำบากต้องเช่าหอ เงินเดือนสตาร์ทแค่หมื่นเดียวเอง เช่าหอก็สี่พันเข้าไปล่ะ โอ๊ยๆ เครียด แต่ถ้าทำไปทนขับรถจากบ้านไปโรงแรมเอาก็น่าจะพออยู่ได้ ทำไปก่อนค่อยขึ้นไปใหม่ ซีซั่นหน้า ส่วนงานที่ต่างจังหวัด ก็ถ้ามีต่อวันละ1000ถ้า10 ก็หมื่นนึงแล้วนะ โอ๊ยย เครียด แต่มันจะมีทุกวันมั้ย แต่ถ้าอยู่ที่นี่ ใกล้แฟนนะ (ฮ่าาๆ) แต่ถ้าอยู๋นั่น เงินนะ จะได้มีตังค์เก็บเลี้ยงพ่อแม่ได้ด้วย เห้อออ ท้อค่ะ เครียดมาก บอกไม่ถูก เลือกไม่ถูก ว่าจะไปทางไหน จับต้นชนปลายไม่ได้เลย จริงๆเรื่องมันเหมือนจะง่ายนะค่ะไม่น่าจะคิดมาก แต่จริงๆมันมีรายละเอียดยิบย่อยกว่านั่น ซึ่งเราไม่สามารถเล่าหมดได้
ยังไงขอ คคห.จากเพื่อนๆหน่อยนะค่ะ ว่าถ้าเป็นเพื่อนๆ จะเลือกทางไหน
ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ ^^
เมื่องานที่ เงินเยอะอยู่ไกล จึงเหงา แต่งานที่อยู่ใกล้ เงินน้อยแต่มีความสุข เราควรเลือกแบบไหน?
เพิ่งเริ่มตั้งกระทู้ครั้งแรกนะค่ะ
ยังไงถ้าผิดพลาดยังไง ขออภัยเพื่อนๆด้วยนะค่ะ
คือมีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ อยากระบายและขอ คคห.จากทุกคนในพันทิปหน่อยค่ะ เริ่มเลยนะค่ะ
" คือเพิ่งเรียนจบมาเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วนี่เองค่ะ จบด้านการท่องเที่ยวมา ซึ่งอยากจะไปทำงานที่ต่างจังหวัด จังหวัดหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาเยอะมากๆ ในใจคืออยากจะไปลองใช้วิชาที่ได้จบมาที่นั่น แต่ประเด็นคือมันไกลบ้านมาก แต่ก็ได้ขอที่บ้านไว้แล้วว่าก่อนเรียนจบคือขอไปนะ ที่บ้านเค้าก็ให้ไปค่ะ ซึ่งการไปครั้งนี้ต้องใช้เงินเยอะเหมือนกันนะค่ะ เพราะเป็นการย้ายตัวเองไปอยู่ที่นั่นเลย ต้องเช่าหอ และซื้อรถใหม่ด้วย (มอเตอไซด์) เมื่อถึงเวลาก็ไปค่ะ ก็ได้ไปสมัครงาน ตอนแรกก็ทำเป็นฟรีแลนด์ไปก่อนนะค่ะ เพราะรายได้ก็ถือว่าดีมากๆ อยู่ได้ วันนึงก็ตก1000 - 1200บาทอ่ะค่ะ แต่พอผ่านไปเดือนนึง งานเริ่มหร่อยหรอ เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มซบเซา เลยมีงานบ้างไม่มีบ้าง ก็เครียดค่ะ อุตส่าห์ขอที่บ้านมาแล้ว แต่ถ้าทำไม่ได้ กลัวเค้าจะว่าและเสียความรู้สึก เลยทนต่อ ก็เริ่มมีงานเข้ามาอีก กืำได้อยู่ประมาณ3อาทิย์ แต่ไม่ได้มีทุกวันนะค่ะวันที่ไม่มีก็นอนอยู่ห้องกับเพื่อนอีกคนที่ชะตากรรมเดียวกัน ฮ่าๆๆ มันก็ถามเรา เอาไงๆเธอ ตอนแรกไม่เครียดนะ พอมันถามบ่อยมากเท่านั้นแหละ ไมเกรนขึ้นเลย ฮ่าๆๆๆ ก็เลยบอกไปว่าจะสู้ต่อมั้ยล่ะ ถ้าอยู่ต่อก็ลองไปสมัครงานอื่นดูมั้ย แต่ถ้าไม่ก็กลับไปหางานแถวบ้าน มันก็บอกว่าลองสมัครแถวนี้ดูก่อนละกัน จนวันรุ่งขึ้น เพื่อนอีกคนมาเล่าให้ฟังว่ากำลังจะโดนปลดจากงาน เนื่องจากเค้าต้องรักษาบริษัทไว้ ตอนนี้เสรษฐกิจไม่ดี คนขับรถ และพนักงานโดนปลดเยอะมาก และอีบริษัทมันก็เซฟคอร์ดโดยการให้คนขับรถไปรับนักท่องเที่ยวเอง หึหึ เป็นไงล่ะ ไส้แห้งละสิทีนี้ ได้ฟังอย่างนั้น ยิ่งมาทำให้เราจิตตกมาก เครียด จนอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก อยากโทรไปบอกที่บ้านแต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวเค้าจะเป็นห่วงและไม่สบายใจบวกกับกลัวโดนด่าด้วย ฮ่าๆๆ (น่าจะอย่างหลังมากกว่า) สุดท้ายขุ่นแม่โทรมาค่ะ (เหมือนจะรู้) แกก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็เล่าให้ฟัง แกก็พูดแบบเสียงแผ่วๆว่า กลับบ้านมั้ยล่ะ มีตังค์มั้ย เราก็คิดในใจ กลับดีมั้ยว่ะ ก็เลยบอกไปว่าลองดูอีกสักวันสองวันแล้วกัน เดี๋ยวค่อยโทรไปบอก แล้วแกก็วางไป รุ่งเช้าเรากับเพื่อนก้ไปสมัครงาน ซึ่งเพื่อนมันไม่มีรถ เราต้องไปรับไปส่งทุกวัน แล้วเราก็คิดในใจงานนี้ไม่ใช่งานที่เราถนัดเลย เพราะเป็นงานในออฟฟิศ เราไม่ชอบงานเอกสาร ปวดหัว (ตกงานแล้วยังจะเลือกอิก อินี่) ฮ่าๆๆ ก็ไม่ถนัดอ่ะน่ะ
และอีกอย่างเพื่อนเรามันไม่มีรถ ถ้าเราได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันได้ มันจะไปยังไง เราก็เลยอ่ะ ลองดู ค่อยว่ากันอีกที สมัครสัมภาษณ์อะไรเสร็จ เค้าก็บอกว่าติดต่อกลับนะค่ะ (เอ๊ะ เหมือนจะไม่ได้) ออกจากออฟฟิศเสร็จ เพื่อนมันก็บอกว่าไม่ได้แน่เลยแก เราก็เฉยๆ ช่างเหอะ ไม่ได้ก็ค่อยหาที่ใหม่ ผ่านไป2วันเค้าไม่โทรมา แล้ววันนั้นเราจะกลับบ้านกันพอดี ขึ้นรถแล้ว ออฟฟิศที่ไปสมัครงานโทรหาเพื่อนเรา มันก็บอกว่าเอาไงแก เค้าโทรหาชั้ลแล้ว เราก็บอกว่าจะไปมั้ยละ ไหนๆก็ไหนแล้ว แกไปลองดูก่อนก็ได้ ชั้ลไม่เป็นไร ชั้ลค่อยไปหางานที่แถวบ้านดีกว่า รู้สึกไม่ไหวแล้ว ถ้าอยู่ต่อ มันก็ลังเล เราบอกว่าตัดสินใจไปเลย เรากลับคนเดียวได้ ยังไงก็ได้เจอกันอีกเพราะเรายังมีงานอีก แต่หลังจากนี้อีกอาทิตย์ มันก็เลยตัดสินใจอยู๋ต่อ
ที่นี้เหลือเราแล้วสิ พอถึงบ้านปั๊บ เหมือนอยู่ในสภายังไงไม่รู้ ญาติพี่น้อง พ่อแม่นั่งกันเต็มเลย ไปถึงสวัสดีกันเสร็จก็บรรเลงเลยค่ะ
ทั้งป้าทั้งแม่ 'กลับมาทำงานที่บ้านเถอะ อวดดีก่อนหน้านี้ เค้าจะฝากไชให้ ไม่เอา' (ก็ไม่ชอบคอรัปชั่นอ่ะ)
ป้า: กลับมาทำที่นี่ดีกว่า ถึงได้ไม่เยอะ แต่ก็ทำๆไปก่อน อยู่แถวๆบ้านมันได้ไปมาหาสู่กันง่าย วันหยุดก็ได้กลับมาอยู่บ้านบ้าง ดีกว่าไปอยู่ไกลแล้วไม่ได้เห็นหน้า
แม่ : กลับมาทำที่นี่แหละ ค่อยๆ ขยับขยายไป ไม่ต้องรีบ หมื่นนึงก็ทำไปก่อน
เรา: ก็รู้ แต่อาทิตย์หน้ามันยังมีงานอีก งานนั้นได้เงินก็น่าจะเยอะอยู่ 5วันก็น่าจะ5000มั้ง เสร็จจากนั้นก็ถ้าไม่มีรัยแล้วก็จะกลับมา
ป้า1,ป้า2,น้าสาว,แม่ : @#$%%^^&*()+?>M?><{}
แล้ววันนั้นก็ผ่านไป..................................................
อีกวัน เราก็ยังคงง่วนกับการเปิดเว็บหางาน ทั้งที่ใกล้บ้านเรา และต่างจังหวัดที่เราทำงานอยู่ มันก็มีแต่งานที่ไม่ได้เกี่ยวกับที่เราทำทั้งนั้น จนรุ่นพี่ที่อยู๋ที่ต่างจังหวัดที่เราไปทำงานอยู่โทรมา แกจะฝากงานให้ซึ่งมันได้ค่าตอบแทนเยอะ แต่ค่อนข้างเหนื่อย เพราะต้องทำหลายอย่าง เราก็คิดๆๆนะ เอาไงๆๆ กูจะโดนลอยแพอีกมั้ย เลยบอกพี่เค้าไปว่าเดี๋ยวยังไงจะโทรไปคอนเฟิร์มนะค่ะ
แล้ววันนั้นก็คิดทั้งวันจนผ่านไปอีก 1 วัน...................................
วันนี้เป็นวันที่เราจะกลับไปเคลียร์งานที่ต่างจังหวัดแล้ว แต่ก่อนกลับ เราได้ไปสมัครงาน โรงแรม5ดาวแห่งหนึ่งในตัวเมืองที่เราอยู่ในตำแหน่ง Receptionist ซึ่งเอาจริงๆ เราไม่ค่อยชอบงานโรงแรม ( โรงแรมนี้ไกลมากจากบ้านเรา) แต่ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ก็ไปสมัคร สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษหมดทุกอย่าง เสร็จพี่เค้าให้กรอกใบสมัคร เราเขียนเงินเดือนไป 12000นะค่ะ ทั้งที่รู้ว่าจริงๆ สตาร์ทแค่10000 เดียวแต่ผ่านโปรแล้วก็จะขึ้นอีก +เซอร์วิสนั่นโน่นนี่ ก็อยู๋ได้แหละมั่ง แล้วพี่เค้าบอกว่าจะนัดมาคุยกับ GM อีกทีนะค่ะ เราก็โอเคค่ะ ตอนนั้นไปกับเพื่อนอีกคนนึงนะค่ะที่เคยเรียนด้วยกัน พอนั่งรถออกมาสัก20นาที พระเจ้า! เค้ารับเราค่ะ นัดจะให้เราไปคุยกับGM ตอนนั้นเลย ไอเราก็เตรียมตัวไม่ทันแล้ว เพราะ จะกลับ ตจว.ไปเคลียร์งานแล้ว เราเลยบอกไปว่า พี่ขา หนูต้องไปเคลียร์งานให้เสร็จ ถ้าหนูขอเลื่อนเป็นวันอื่น เค้าจะรอหนูมั้ยค่ะ พี่เค้าตอบทันควันว่ารอค่ะ น้องภาษาอังกฤษดี ยังไงGM รอแน่นอนค่ะ (ยิ้มสิค่ะกู) ค่ะๆ ขอบคุณมากๆนะค่ะนั้นอีก1อาทิตย์หนูเข้าไปค่ะ
จากนั้นมันมีคำถามมากมายขึ้นอยู่ในหัว ว่าจะเอายังไงดีว่ะชีวิตนี้ เครียดว่ะ โรงแรมนี้ก็อยู่ไกลจากบ้านมากนะ ถ้าเข้าเวรดึก็ลำบากต้องเช่าหอ เงินเดือนสตาร์ทแค่หมื่นเดียวเอง เช่าหอก็สี่พันเข้าไปล่ะ โอ๊ยๆ เครียด แต่ถ้าทำไปทนขับรถจากบ้านไปโรงแรมเอาก็น่าจะพออยู่ได้ ทำไปก่อนค่อยขึ้นไปใหม่ ซีซั่นหน้า ส่วนงานที่ต่างจังหวัด ก็ถ้ามีต่อวันละ1000ถ้า10 ก็หมื่นนึงแล้วนะ โอ๊ยย เครียด แต่มันจะมีทุกวันมั้ย แต่ถ้าอยู่ที่นี่ ใกล้แฟนนะ (ฮ่าาๆ) แต่ถ้าอยู๋นั่น เงินนะ จะได้มีตังค์เก็บเลี้ยงพ่อแม่ได้ด้วย เห้อออ ท้อค่ะ เครียดมาก บอกไม่ถูก เลือกไม่ถูก ว่าจะไปทางไหน จับต้นชนปลายไม่ได้เลย จริงๆเรื่องมันเหมือนจะง่ายนะค่ะไม่น่าจะคิดมาก แต่จริงๆมันมีรายละเอียดยิบย่อยกว่านั่น ซึ่งเราไม่สามารถเล่าหมดได้
ยังไงขอ คคห.จากเพื่อนๆหน่อยนะค่ะ ว่าถ้าเป็นเพื่อนๆ จะเลือกทางไหน
ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ ^^