สหรัฐฯ รักษาเด็กติดเชื้อเอชไอวีสำเร็จเป็นรายที่ 2

วิทยาการทางการแพทย์ยังคงต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับโรคร้ายแรงที่ยากต่อการรักษา ล่าสุดทีมแพทย์จากสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จจากการทดลองรักษาทารกที่ติดเชื้อเอชไอวีเป็นรายที่ 2
  
นักวิจัยสหรัฐฯเปิดเผยว่าสามารถรักษาเด็กติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคเอดส์ ได้เป็นรายที่ 2 แล้ว โดยจากผลการศึกษาการใช้ยาต้านรีโทรไวรัสกับทารกแรกเกิดในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่ 4 ชั่วโมงแรกหลังคลอด พบว่าเด็กกลุ่มตัวอย่างที่ตอนนี้มีอายุ 9 เดือน มีผลการตรวจเอชไอวีออกมาเป็นลบ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประสบความสำเร็จกับการรักษาทารกจากมลรัฐมิสซิสซิปปีเมื่อปี 2556 มาแล้ว
  
อย่างไรก็ตาม กุมารแพทย์จากมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ให้ความเห็นในการประชุมการแพทย์ที่แมืองบอสตันว่า การรักษาเอชไอวีในเด็กนั้นยังต้องมีการค้นคว้าทดลองต่อไป เนื่องจากไม่มีขั้นตอนทางการแพทย์ใดที่ไม่มีความเสี่ยง และบุคลากรจำเป็นต้องเรียนรู้จากสิ่งที่พบกับผู้ป่วยแต่ละราย
  
ทั้งนี้ ผู้ป่วยวัย 9 เดือนจากแคลิฟอร์เนียยังคงต้องรับยาอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ผู้ป่วยรายแรกวัย 3 ขวบจากมิสซิสซิปปี ได้หยุดรับยาไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และยังต้องตามดูอาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเชื้อไวรัสจะไม่กลับมาอีก

ทารกทั้งสองมีมารดาที่มีเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่ของหลายประเทศ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญนั้นพุ่งสูงถึง 34 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งการรักษายังเป็นไปได้อย่างจำกัดและยาที่ใช้ควบคุมอาการก็มีราคาแพง
  
เชื้อเอชไอวีจัดเป็นโรคระบาดร้ายแรง โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เคยประมาณการไว้เมื่อปี 2549 ว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์กว่า 25 ล้านคน ตั้งแต่การตรวจพบครั้งแรกเมื่อปี 2524 ทำให้เชื้อดังกล่าวเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ และร้ายแรงพอๆ กับระบาดของเชื้อกาฬโรคในอดีต ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก VOICE TV

Report : LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่