18+ เขาบอกไม่อยากแต่งงาน แต่ฉันไม่ยอมแพ้

ออกตัวก่อนนะคะว่าภาษาไทยไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก แล้วก็คิดไปพิมพ์ไป ออกแนวอยากระบายมากกว่า

ย้อนกลับไปเมื่อสิงหาคม 2555
เป็นช่วงวันเกิดพอดีคะ ตัวเราเองเรียน โท อยู่ที่ กทม วันเสาร์-อาทิตย์ เมื่อแม่มีเวลาก็จะไปหาตลอด แม่เราเป็นข้าราชการครูที่ early แล้ว ส่วนพ่อแล้วก็มีธุรกิจคะ แม่ไม่เคยช่วยพ่อคะ เพราะแม่เราก็เป็นครูมาตลอด แม่จะปฏิบัติธรรมช่วงที่แม่ออกจากราชการ แม่เลยแบ่งเวลามาหาเราที่ กทม เรื่องของเรื่องคือ     มีเพื่อนแม่โทรมาหาบอกว่ามีตำแหน่งงานว่าที่โรงเรียน ลูกสาวสนใจมาทำไหม เป็นงานดูแลครูต่างชาติ และช่วยจัดกิจกรรมให้นักเรียนอีพี (English Program) เราก็ไม่คิดอะไรมาก ตอบตกลงไป เพราะตอนนั้นเราว่างงาน จ-ศ ตอนแรกเราก็ทำงาน แต่พ่อเห็นว่าเหนื่อย เลยให้ลาออก แล้วให้เงินเดือนเราเท่ากับที่ทำงาน ทีนี้อยู่หอเฉยๆ ก็เบื่อมาก เลยไปเข้าฟิตเนสซะเลย ตอนนั้นน้ำหนักลงไปประมาณ 8 กิโลได้ เลยค่อนข้างดูดีนิดนึง นั่นแหละ เราก็ไปสัมภาษณ์งานที่โรงเรียนเก่าของแม่ในต่างจังหวัด แต่ไม่กี่วันต่อมาเพื่อนแม่โทรมาบอกว่าไม่ได้นะ เพราะเขาเห็นว่าเราเรียนอยู่อาจจะทำงานไม่เต็มที่ เราก็ โอเค กลับ กทม สิคะ รออะไร ไปนั่งสวยๆ ไปฟิตเนส ดูซีรีส์เกาหลีก็ได้ ชิวดี ได้เงินใช้ด้วย แต่อาทิตย์ถัดมา เพื่อนแม่เราโทรมาอีกรอบคะ ว่าเขาตกลงรับเรา เพราะคนเก่าทำไม่ไหว โอ้ววว ดีใจสิคะ รออะไร ได้กลับบ้าน ประหยัดตัง ได้อยู่กับพ่อแม่ โอเคอยู่แล้ว ใครจะรู้ว่าเรื่องยุ่งๆของชีวิตจะมาเพราะการตัดสินใจในครั้งนี้

วันแรกที่เราไปเริ่มงาน อย่างที่บอกคือ เป็นโรงเรียนที่แม่เคยทำงานมาก่อน ตัวเราเองก็จบมัธยมจากที่นี่ แน่นอนว่าตั้งแต่ ผอ ยัน ภารโรง รู้จักหมดค่า ฉะนั้นวันแรกที่ไปทำงาน ทุกคนจะทักทายเราอย่างอบอุ่น พร้อมกับถามว่าแม่เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม โน่นนี่นั่น และในวันนั้นเองคะ เราได้เจอกับผู้ชายคนนี้ ขาว ตี๋ ใส่แว่น ดูมีอายุ คือเราชอบคนมีอายุคะ ตอนนั้นเรา 23 เราคิดว่าเขาน่าจะประมาณ 34-35 อะไรประมาณนั้น โปรยยิ้มเต็มที่เลยจ้า เขานิ่งมากก คือไม่ยิ้ม ไม่อะไรเลย มองเรานิ่งๆ โอ้ยยย ยิ่งชอบค่า ชอบคนเย็นชา คืออ่านนิยายมาเยอะไงคะ มักคิดว่าผุ้ชายเย็นชา เวลามีคนรักต้องโรแมนติกไรงี้ เราก็มโนของเราเองนี่แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กลับบ้านยังนั่งเม้ากับแม่เลยคะ ว่าแม่ๆ นี่ไปเจอมา น่ารักมากเลยยยยย แม่เลยเล่าให้ฟัง เขาเป็นครูมาใหม่คะ หลังจากเราจบ ม.6 ไป 2 ปี เราเลยไม่ได้เจอเขา แต่เขานี่คือสเป็คเรามากๆ แต่เราก็คิดนะว่าเขาคงมีครอบครัวแล้ว ไม่เหลือถึงเราอย่างแน่นอน มั่นใจค่าา

ทำงานมาได้สักระยะนึงก็มีโอกาสได้คุยกับเขาบ้าง ขอแทนตัวเขาว่า พี่ตี๋ นะคะ เพราะเขา ตี๋มากคะ คือพี่ตี๋ยิ้มน่ารักมากๆๆๆๆ เวลาเขายิ้มนี่ตาเป็นเส้นตรงเลยคะ และสืบรู้มาว่าเขายังไม่แต่งงาน แต่เราก็แอบสังเกตุนะว่าเขาคุยโทรศัพท์ตอนกลางวัน ใช้ผ้าเช็ดหน้า ใช้ช้อนส้อมสีชมพู เหอะ!! ไม่ใช่ผู้ชายรึเปล่าจ้ะพี่ตี๋จ๋าาา ก็มีเม้าๆกับเพื่อนครูต่างชาตินะ ว่าไม่ใช่ผู้ชายแน่เลย แต่นางๆก็บอกว่า ไม่หรอกๆ ผู้ชายชัวร์ๆจ้า แต่ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรมากมายคะ พูดคุยกันเรื่องงานแซวบ้างนิดๆหน่อยๆ หลังจากนั้นก็มีครูต่างชาติคนนึงอยากให้เราสอนภาษาไทยให้ เราก็โอเคๆ สอนก็ได้ ไม่รู้สอนไงนะ ก็ไปซื้อหนังสือ ก-ฮ ให้เขาค่า สอนเขาออกเสียง พร้อมอ่านและเขียน แต่เราไปสอนเขาที่สระว่ายน้ำ เพราะเราว่ายน้ำทุกวันคะ ติดว่ายน้ำมากๆ เขาก็โอเค พอนางไปเรียน ก็เริ่มอยากว่ายน้ำ เลยให้เราติดต่อครูสอนว่ายน้ำคะ เราก็เออๆ ก็ช่วยไป ก็ไปติดต่อกับพี่คนนึง ชื่อ พี่ซี ละกันคะ พี่ซีเป็นคนเหนือ ที่หุ่นแซ่บ เพราะสอนว่ายน้ำ ห่นเลยดี๊ดี เราติดต่ออะไรให้เสร็จ ครูต่างชาติยังหันมาแซวว่า ซี ชอบเราแน่ๆเลย เห็นมองเรา เราก็หรอๆ ไม่รู้เรื่องหรอกคะ เราสายตาสั้นประมาณเกือบๆ 300 แต่เราถอดคอนแทคเวลาว่ายน้ำคะ เรามองอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง เห็นเบลอๆ แต่หลังจากนั้นพี่ซีก็เอาเบอร์เรามาจากไหนไม่รู้คะ เดาว่าคงเป็นต่างชาตินางให้ไปเป็นแน่แท้ แต่ก็ไม่ว่าอะไรนาง มีคนไว้คุยแก้เหงาก็ดีเหมือนกัน เรากลับมา ตจว ไม่มีเพื่อนเลยคะ เพื่อนเก่าๆ เราทำงาน กทม หมดเลย ที่ทำงานมีแต่เพื่อนแม่ เลยมิกล้าอาจเอื้อม เอาเพื่อนแม่มาเป็นเพื่อนตัวเอง เราก็มีไปดูหนังกับพี่ซีบ้างคะ เวลาว่างๆ แล้วเวลาไปว่ายน้ำ พี่ซีจะมาเฝ้าขอบสระตลอดคะ แหมม ห่นเราก็ไม่ย่อยหรอกนะคะ หน้าอก 39 เอวหนาหน่อย สะโพกใหญ่ไม่น้อย คือเราอวบๆอะคะ ไม่ผอม และไม่เคยผอม แต่เราไม่อ้วนแน่นอน ( ณ ตอนนั้นนะคะ) จะไม่เฝ้าได้ไงละเนอะ อิอิ นั่นแหละคะ มีไปเที่ยวกันบ้างตอนเย็น ไปทะเลไรงี้ แต่เขาก็แปลกๆนะคะ ดูลึกลับชอบกล หึๆ คิดว่าจะพ้นหรอ มีวันนึงคะ เราไปว่ายน้ำด้วยกัน เขาฝากกระเป๋าสตางค์ไว้ มือไวอย่างดิฉัน ก็เปิดดูสิคะ แหม ไปเห็นอะไรนะหรอ ไม่ใช่รูปสาวคะ แต่เป็นนามสกุลเขา ก่อนหน้าที่เขาจะเปลี่ยนคะ เราก็ใช้อากู๋ในการสืบหาความลับสิคะ สืบไปสืบมา ก็ไม่มีอะไรมากมายนะ ก็ไปเจอเฟสแบบร้างๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจมากมาย แต่เราไม่เคยถามเขาคะ แต่เล่าให้พ่อแม่ฟังตลอด หลังจากนั้น เขาก็พอรู้ว่าบ้านเราค่อนข้างมีฐานะ เขารู้ว่าพ่อเราชอบยิงปืน คือพ่อเราสะสมปืนคะ เขาเลยอยากได้ แต่อยากได้ปืนเถื่อน เราก็โอ๊ะ จะไปหาได้ไงจ้ะ พ่อเราใช้ปืนถูกกฏหมาย พร้อมกับมีใบพกพาพร้อม แหม่! จะให้หาอะไรเนี่ย แม่เราก็บอกแค่ว่าผู้ชายคนนี้แปลกๆนะให้ระวังตัว

หลังจากนั้นเขาก็บ่นๆอยากมีรถคะ เราก็ถามเขาว่าจะเอาแบบไหนหรอ เขาก็บอกว่าอยากได้รถมือสอง เราก็เอ๊ะ เอาไปไมวะ ทำไมไม่ซื้อมือ 1 เขาบอกว่าเขาได้เงินเดือน เดือนละ 9,000 บาท ทุกวันนี้เก็บเงินได้ 40,000 บาท (คิดในใจ เก็บเงินโคดเก่งเลยหวะ) คือเขาเก็บมานานมาก ไม่รู้เคยถูกหวยรึเปล่านะ แต่เก็บได้ไงเนี่ยยยย นั่นแหละคะ เราก็ปรึกษาพ่อแม่เรา พ่อเราในฐานะกูรูเรื่องรถ พ่อบอกว่าซื้อมือ 1 เหอะ แต่ถ้าไม่พร้อมไม่เห็นต้องซื้อเลย แต่ แต่ แต่ พี่ซีไม่เชื่อจ้า นางไปซื้อ และนางจะขอยืมเงินบ้านเราจ้าาา
ออกตัวก่อนนะคะว่าภาษาไทยไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก แล้วก็คิดไปพิมพ์ไป ออกแนวอยากระบายมากกว่า

ย้อนกลับไปเมื่อสิงหาคม 2555
เป็นช่วงวันเกิดพอดีคะ ตัวเราเองเรียน โท อยู่ที่ กทม วันเสาร์-อาทิตย์ เมื่อแม่มีเวลาก็จะไปหาตลอด แม่เราเป็นข้าราชการครูที่ early แล้ว ส่วนพ่อแล้วก็มีธุรกิจคะ แม่ไม่เคยช่วยพ่อคะ เพราะแม่เราก็เป็นครูมาตลอด แม่จะปฏิบัติธรรมช่วงที่แม่ออกจากราชการ แม่เลยแบ่งเวลามาหาเราที่ กทม เรื่องของเรื่องคือ     มีเพื่อนแม่โทรมาหาบอกว่ามีตำแหน่งงานว่าที่โรงเรียน ลูกสาวสนใจมาทำไหม เป็นงานดูแลครูต่างชาติ และช่วยจัดกิจกรรมให้นักเรียนอีพี (English Program) เราก็ไม่คิดอะไรมาก ตอบตกลงไป เพราะตอนนั้นเราว่างงาน จ-ศ ตอนแรกเราก็ทำงาน แต่พ่อเห็นว่าเหนื่อย เลยให้ลาออก แล้วให้เงินเดือนเราเท่ากับที่ทำงาน ทีนี้อยู่หอเฉยๆ ก็เบื่อมาก เลยไปเข้าฟิตเนสซะเลย ตอนนั้นน้ำหนักลงไปประมาณ 8 กิโลได้ เลยค่อนข้างดูดีนิดนึง นั่นแหละ เราก็ไปสัมภาษณ์งานที่โรงเรียนเก่าของแม่ในต่างจังหวัด แต่ไม่กี่วันต่อมาเพื่อนแม่โทรมาบอกว่าไม่ได้นะ เพราะเขาเห็นว่าเราเรียนอยู่อาจจะทำงานไม่เต็มที่ เราก็ โอเค กลับ กทม สิคะ รออะไร ไปนั่งสวยๆ ไปฟิตเนส ดูซีรีส์เกาหลีก็ได้ ชิวดี ได้เงินใช้ด้วย แต่อาทิตย์ถัดมา เพื่อนแม่เราโทรมาอีกรอบคะ ว่าเขาตกลงรับเรา เพราะคนเก่าทำไม่ไหว โอ้ววว ดีใจสิคะ รออะไร ได้กลับบ้าน ประหยัดตัง ได้อยู่กับพ่อแม่ โอเคอยู่แล้ว ใครจะรู้ว่าเรื่องยุ่งๆของชีวิตจะมาเพราะการตัดสินใจในครั้งนี้

วันแรกที่เราไปเริ่มงาน อย่างที่บอกคือ เป็นโรงเรียนที่แม่เคยทำงานมาก่อน ตัวเราเองก็จบมัธยมจากที่นี่ แน่นอนว่าตั้งแต่ ผอ ยัน ภารโรง รู้จักหมดค่า ฉะนั้นวันแรกที่ไปทำงาน ทุกคนจะทักทายเราอย่างอบอุ่น พร้อมกับถามว่าแม่เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม โน่นนี่นั่น และในวันนั้นเองคะ เราได้เจอกับผู้ชายคนนี้ ขาว ตี๋ ใส่แว่น ดูมีอายุ คือเราชอบคนมีอายุคะ ตอนนั้นเรา 23 เราคิดว่าเขาน่าจะประมาณ 34-35 อะไรประมาณนั้น โปรยยิ้มเต็มที่เลยจ้า เขานิ่งมากก คือไม่ยิ้ม ไม่อะไรเลย มองเรานิ่งๆ โอ้ยยย ยิ่งชอบค่า ชอบคนเย็นชา คืออ่านนิยายมาเยอะไงคะ มักคิดว่าผุ้ชายเย็นชา เวลามีคนรักต้องโรแมนติกไรงี้ เราก็มโนของเราเองนี่แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กลับบ้านยังนั่งเม้ากับแม่เลยคะ ว่าแม่ๆ นี่ไปเจอมา น่ารักมากเลยยยยย แม่เลยเล่าให้ฟัง เขาเป็นครูมาใหม่คะ หลังจากเราจบ ม.6 ไป 2 ปี เราเลยไม่ได้เจอเขา แต่เขานี่คือสเป็คเรามากๆ แต่เราก็คิดนะว่าเขาคงมีครอบครัวแล้ว ไม่เหลือถึงเราอย่างแน่นอน มั่นใจค่าา

ทำงานมาได้สักระยะนึงก็มีโอกาสได้คุยกับเขาบ้าง ขอแทนตัวเขาว่า พี่ตี๋ นะคะ เพราะเขา ตี๋มากคะ คือพี่ตี๋ยิ้มน่ารักมากๆๆๆๆ เวลาเขายิ้มนี่ตาเป็นเส้นตรงเลยคะ และสืบรู้มาว่าเขายังไม่แต่งงาน แต่เราก็แอบสังเกตุนะว่าเขาคุยโทรศัพท์ตอนกลางวัน ใช้ผ้าเช็ดหน้า ใช้ช้อนส้อมสีชมพู เหอะ!! ไม่ใช่ผู้ชายรึเปล่าจ้ะพี่ตี๋จ๋าาา ก็มีเม้าๆกับเพื่อนครูต่างชาตินะ ว่าไม่ใช่ผู้ชายแน่เลย แต่นางๆก็บอกว่า ไม่หรอกๆ ผู้ชายชัวร์ๆจ้า แต่ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรมากมายคะ พูดคุยกันเรื่องงานแซวบ้างนิดๆหน่อยๆ หลังจากนั้นก็มีครูต่างชาติคนนึงอยากให้เราสอนภาษาไทยให้ เราก็โอเคๆ สอนก็ได้ ไม่รู้สอนไงนะ ก็ไปซื้อหนังสือ ก-ฮ ให้เขาค่า สอนเขาออกเสียง พร้อมอ่านและเขียน แต่เราไปสอนเขาที่สระว่ายน้ำ เพราะเราว่ายน้ำทุกวันคะ ติดว่ายน้ำมากๆ เขาก็โอเค พอนางไปเรียน ก็เริ่มอยากว่ายน้ำ เลยให้เราติดต่อครูสอนว่ายน้ำคะ เราก็เออๆ ก็ช่วยไป ก็ไปติดต่อกับพี่คนนึง ชื่อ พี่ซี ละกันคะ พี่ซีเป็นคนเหนือ ที่หุ่นแซ่บ เพราะสอนว่ายน้ำ ห่นเลยดี๊ดี เราติดต่ออะไรให้เสร็จ ครูต่างชาติยังหันมาแซวว่า ซี ชอบเราแน่ๆเลย เห็นมองเรา เราก็หรอๆ ไม่รู้เรื่องหรอกคะ เราสายตาสั้นประมาณเกือบๆ 300 แต่เราถอดคอนแทคเวลาว่ายน้ำคะ เรามองอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง เห็นเบลอๆ แต่หลังจากนั้นพี่ซีก็เอาเบอร์เรามาจากไหนไม่รู้คะ เดาว่าคงเป็นต่างชาตินางให้ไปเป็นแน่แท้ แต่ก็ไม่ว่าอะไรนาง มีคนไว้คุยแก้เหงาก็ดีเหมือนกัน เรากลับมา ตจว ไม่มีเพื่อนเลยคะ เพื่อนเก่าๆ เราทำงาน กทม หมดเลย ที่ทำงานมีแต่เพื่อนแม่ เลยมิกล้าอาจเอื้อม เอาเพื่อนแม่มาเป็นเพื่อนตัวเอง เราก็มีไปดูหนังกับพี่ซีบ้างคะ เวลาว่างๆ แล้วเวลาไปว่ายน้ำ พี่ซีจะมาเฝ้าขอบสระตลอดคะ แหมม ห่นเราก็ไม่ย่อยหรอกนะคะ หน้าอก 39 เอวหนาหน่อย สะโพกใหญ่ไม่น้อย คือเราอวบๆอะคะ ไม่ผอม และไม่เคยผอม แต่เราไม่อ้วนแน่นอน ( ณ ตอนนั้นนะคะ) จะไม่เฝ้าได้ไงละเนอะ อิอิ นั่นแหละคะ มีไปเที่ยวกันบ้างตอนเย็น ไปทะเลไรงี้ แต่เขาก็แปลกๆนะคะ ดูลึกลับชอบกล หึๆ คิดว่าจะพ้นหรอ มีวันนึงคะ เราไปว่ายน้ำด้วยกัน เขาฝากกระเป๋าสตางค์ไว้ มือไวอย่างดิฉัน ก็เปิดดูสิคะ แหม ไปเห็นอะไรนะหรอ ไม่ใช่รูปสาวคะ แต่เป็นนามสกุลเขา ก่อนหน้าที่เขาจะเปลี่ยนคะ เราก็ใช้อากู๋ในการสืบหาความลับสิคะ สืบไปสืบมา ก็ไม่มีอะไรมากมายนะ ก็ไปเจอเฟสแบบร้างๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจมากมาย แต่เราไม่เคยถามเขาคะ แต่เล่าให้พ่อแม่ฟังตลอด หลังจากนั้น เขาก็พอรู้ว่าบ้านเราค่อนข้างมีฐานะ เขารู้ว่าพ่อเราชอบยิงปืน คือพ่อเราสะสมปืนคะ เขาเลยอยากได้ แต่อยากได้ปืนเถื่อน เราก็โอ๊ะ จะไปหาได้ไงจ้ะ พ่อเราใช้ปืนถูกกฏหมาย พร้อมกับมีใบพกพาพร้อม แหม่! จะให้หาอะไรเนี่ย แม่เราก็บอกแค่ว่าผู้ชายคนนี้แปลกๆนะให้ระวังตัว

หลังจากนั้นเขาก็บ่นๆอยากมีรถคะ เราก็ถามเขาว่าจะเอาแบบไหนหรอ เขาก็บอกว่าอยากได้รถมือสอง เราก็เอ๊ะ เอาไปไมวะ ทำไมไม่ซื้อมือ 1 เขาบอกว่าเขาได้เงินเดือน เดือนละ 9,000 บาท ทุกวันนี้เก็บเงินได้ 40,000 บาท (คิดในใจ เก็บเงินโคดเก่งเลยหวะ) คือเขาเก็บมานานมาก ไม่รู้เคยถูกหวยรึเปล่านะ แต่เก็บได้ไงเนี่ยยยย นั่นแหละคะ เราก็ปรึกษาพ่อแม่เรา พ่อเราในฐานะกูรูเรื่องรถ พ่อบอกว่าซื้อมือ 1 เหอะ แต่ถ้าไม่พร้อมไม่เห็นต้องซื้อเลย แต่ แต่ แต่ พี่ซีไม่เชื่อจ้า นางไปซื้อ และนางจะขอยืมเงินบ้านเราจ้าาา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่