เรียนโทมาปีนึงแล้ว ทีสิสก็ทำดีที่สุดแล้ว ทำไมยังไม่ผ่านซักที ..
" เราควรออกไปเที่ยวบ้างดิ ออกไปเติมไฟบ้างมั้ย ออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ หน่อย
พาตัวเองไปเจอคนใหม่ๆ บ้าง เผื่อว่าอะไรที่มันหนักๆ อยู่ตอนนี้จะเบาลงบ้าง " คำถาม คำพูดพวกนี้วนซ้ำไปซ้ำมาในหัวเรา
ทริปวังเวียงหลวงพระบางเลยเกิดขึ้นแบบตั้งใจ คือตอนแรกทริปนี้จะเป็นทริปของขวัญจบใหักับตัวเองหลังทีสิสเสร็จ
แต่ตอนนั้นบางอย่างทำให้มันไม่เสร็จซักที จากทริปของขวัญกลับกลายเป็น .. ทริปหนีปัญหา
ในใจก็หวั่นๆ นะ ว่าจะยิ่งเจอปัญหามั้ยวะ ฮ่า ๆ ๆ แต่ก็เอาซะหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ปัญหาเดิมๆ ตรงนี้
ว่าแล้วก็จัดกระเป๋า อาบน้ำ เคลียร์งาน เล่นคุกกี้รัน จนถึงตีสี่ อาบน้ำ ไปดอนเมือง นอนบนเครื่องเอาละกัน ..
ได้ตั๋วโปรไลอ้อนแอร์ ตอนเช้ามืดไปถึงอุดร ตอน 8.30 โอเคเลย จะได้ไปขึ้นรถที่บขส. ไปวังเวียงทันพอดี
ไม่ว่าจะเหมาแท๊กซี่สองร้อย หรือนั่งรถตู้คนละแปดสิบบาท เลือกตามที่สะดวกเงินในกระเป๋าเลยฮ่ะ
เพราะเอาจริงๆ มาถึงบขส.ทันเคารพธงชาติ รักชาติมาก ยืนตรงที่สุดในรอบปี ในใจก็คิดถึงเพลงชาติละ อีกตั้งหลายวันกว่าจะได้ยินอีก
คนที่นี่น่ารัก ยืนเคารพธงชาติกันตัวตรงเลยทุกคน เสร็จ ก็จัดแจงเดินไปซื้อตั๋ว ค่าตั๋วรถ 320 บาท/คน พร้อมยื่นพาสปอต
จนพนง.ขายตั๋วแซวว่ามาเที่ยวไกลซะด้วย ฝั่งเราก็ : ) แล้วก็ตอบไปว่า ค่ะ หนีมาไกลหน่อยรอบนี้
นั่งรถบัสจากอุดรถึงวังเวียงตอนสี่โมง โอ้วโหว . ทางนี่โค้งโคตรเยอะ แต่ข้างทางคันทรี่มาก
เดินหาที่พักแบ้คแพ้คเก้อกันเถอะ .. สรุปคือพักที่เวียงวิไลเลยทั้งสองคืนเลย ขี้เกียจถือกระเป๋าไปๆ มาๆ
ห้องพักรวมกันแปดคนตกเฉลี่ยคนละ 140 บาท/คืน วางกระเป๋าที่แบกลง หยิบกล้อง แล้วเราไปเดินเล่นที่แม่น้ำซองกัน ..
บรรยากาศแม่น้ำซอง ก็คล้ายๆ กับแม่น้ำปายเมื่อยี่สิบปีก่อนมั้ง อันนี้คิดเองเออเองล้วนๆ ฮ่า ๆ
น้ำไม่ได้ใสไหลเย็นเห็นตัวปลา เพราะไปวังเวียงตอนหน้าฝน -..- เด็กๆ แถวนี้ว่ายน้ำกระโดดน้ำกันเป็นว่าเล่น โหดจริงอะไรจริง
หลังจากเดินจนมืดค่ำ ทั้งหาทัวร์ที่จะไปพรุ่งนี้เสร็จ ก็หาข้าวกิน อยากกินอะไรก็กินเลย สั่งเลย ราคาพอๆ กับที่ไทยเลย
เนื่องจากปีนี้เรางดเหล้าเข้าปีชง แต่ก็อยากจะแนะนำดริ้งค์ฟรีที่ซากุระบาร์นะฮะ สองทุ่มถึงสามทุ่ม : P
กลับโรงแรม เช็คอีเมลล์ ตอบแชท ชาร์ตกล้อง อาบน้ำ สวดมนต์ นอน จบ วันแรก .
[CR] ทิ้งทีสิสไว้กลางทาง แล้วไปเที่ยวหลวงพระบางกับวังเวียง
" เราควรออกไปเที่ยวบ้างดิ ออกไปเติมไฟบ้างมั้ย ออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ หน่อย
พาตัวเองไปเจอคนใหม่ๆ บ้าง เผื่อว่าอะไรที่มันหนักๆ อยู่ตอนนี้จะเบาลงบ้าง " คำถาม คำพูดพวกนี้วนซ้ำไปซ้ำมาในหัวเรา
ทริปวังเวียงหลวงพระบางเลยเกิดขึ้นแบบตั้งใจ คือตอนแรกทริปนี้จะเป็นทริปของขวัญจบใหักับตัวเองหลังทีสิสเสร็จ
แต่ตอนนั้นบางอย่างทำให้มันไม่เสร็จซักที จากทริปของขวัญกลับกลายเป็น .. ทริปหนีปัญหา
ในใจก็หวั่นๆ นะ ว่าจะยิ่งเจอปัญหามั้ยวะ ฮ่า ๆ ๆ แต่ก็เอาซะหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ใช่ปัญหาเดิมๆ ตรงนี้
ว่าแล้วก็จัดกระเป๋า อาบน้ำ เคลียร์งาน เล่นคุกกี้รัน จนถึงตีสี่ อาบน้ำ ไปดอนเมือง นอนบนเครื่องเอาละกัน ..
ได้ตั๋วโปรไลอ้อนแอร์ ตอนเช้ามืดไปถึงอุดร ตอน 8.30 โอเคเลย จะได้ไปขึ้นรถที่บขส. ไปวังเวียงทันพอดี
ไม่ว่าจะเหมาแท๊กซี่สองร้อย หรือนั่งรถตู้คนละแปดสิบบาท เลือกตามที่สะดวกเงินในกระเป๋าเลยฮ่ะ
เพราะเอาจริงๆ มาถึงบขส.ทันเคารพธงชาติ รักชาติมาก ยืนตรงที่สุดในรอบปี ในใจก็คิดถึงเพลงชาติละ อีกตั้งหลายวันกว่าจะได้ยินอีก
คนที่นี่น่ารัก ยืนเคารพธงชาติกันตัวตรงเลยทุกคน เสร็จ ก็จัดแจงเดินไปซื้อตั๋ว ค่าตั๋วรถ 320 บาท/คน พร้อมยื่นพาสปอต
จนพนง.ขายตั๋วแซวว่ามาเที่ยวไกลซะด้วย ฝั่งเราก็ : ) แล้วก็ตอบไปว่า ค่ะ หนีมาไกลหน่อยรอบนี้
นั่งรถบัสจากอุดรถึงวังเวียงตอนสี่โมง โอ้วโหว . ทางนี่โค้งโคตรเยอะ แต่ข้างทางคันทรี่มาก
เดินหาที่พักแบ้คแพ้คเก้อกันเถอะ .. สรุปคือพักที่เวียงวิไลเลยทั้งสองคืนเลย ขี้เกียจถือกระเป๋าไปๆ มาๆ
ห้องพักรวมกันแปดคนตกเฉลี่ยคนละ 140 บาท/คืน วางกระเป๋าที่แบกลง หยิบกล้อง แล้วเราไปเดินเล่นที่แม่น้ำซองกัน ..
บรรยากาศแม่น้ำซอง ก็คล้ายๆ กับแม่น้ำปายเมื่อยี่สิบปีก่อนมั้ง อันนี้คิดเองเออเองล้วนๆ ฮ่า ๆ
น้ำไม่ได้ใสไหลเย็นเห็นตัวปลา เพราะไปวังเวียงตอนหน้าฝน -..- เด็กๆ แถวนี้ว่ายน้ำกระโดดน้ำกันเป็นว่าเล่น โหดจริงอะไรจริง
หลังจากเดินจนมืดค่ำ ทั้งหาทัวร์ที่จะไปพรุ่งนี้เสร็จ ก็หาข้าวกิน อยากกินอะไรก็กินเลย สั่งเลย ราคาพอๆ กับที่ไทยเลย
เนื่องจากปีนี้เรางดเหล้าเข้าปีชง แต่ก็อยากจะแนะนำดริ้งค์ฟรีที่ซากุระบาร์นะฮะ สองทุ่มถึงสามทุ่ม : P
กลับโรงแรม เช็คอีเมลล์ ตอบแชท ชาร์ตกล้อง อาบน้ำ สวดมนต์ นอน จบ วันแรก .
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น