หลังจากที่มีเพื่อนกลับมาเล่าให้ฟังว่า ไปวังเวียงมาสนุกมากกกกกกก ได้ปีนเขา โดดน้ำ พายเรือ บลาๆๆๆๆๆๆ มันจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากไปเห็นกับตาซักครั้งนึงว่าไอ้วังเวียงที่ว่าเนี่ยมันจะดีเหมือนที่ไอ้เพื่อนคนนั้นคุยไว้แค่ไหนกัน ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งไลน์ถามเพื่อนๆประมาณ 7-8 คน ว่าสนใจที่จะไปเที่ยวต่างประเทศกันมั้ย ไม่ใกล้ไม่ไกล วังเวียงนี่เอง จนมีผู้ตอบตกลงร่วมชะตากรรมด้วยกัน 5 คน รวมตัว จขกท ด้วยเป็น 6 คน หลังจากได้จำนวนคนที่แน่นอนแล้วก็เริ่มต้นวางแผนการเดินทาง มองดูปฏิทินว่ามีวันหยุดยาวช่วงไหนบ้าง ไล่ดูมาเรื่อยๆจนมาเจอกับวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันอังคาร ดังนั้นเราจะลางานแค่วันเดียวก็คือวันจันทร์ ดังนั้นทริปนี้เราจะเดินทางกันในวันที่ 1-5 ธันวาคม 60 เมื่อได้กำหนดวันที่แน่นอนแล้วก็มาเริ่มวางแผนการเดินทางกันเลย โดยยึดประเด็นสำคัญคือไม่ให้กระเทือนเงินในกระเป๋าให้มากที่สุด จึงได้วางแผนว่าขาไปเรานั่งรถทัวร์ไปลงอุดร แล้วต่อรถจากอุดรไปวังเวียงอีกทีนึง ส่วนขากลับเพื่อไม่ให้เหนื่อยกับการทำงานในวันรุ่งขึ้น จึงเลือกกลับโดยนั่งเครื่องบินจากอุดรมากรุงเทพ ส่วนที่พักเราเลือกที่ จำปาลาว บังกะโล ทั้ง 3 คืน

ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางและที่พักที่วังเวียง
ค่ารถทัวร์กรุงเทพ-อุดร(First Class) ราคาคนละ 605 บาท
ค่าที่พักคนละ 400 บาท/วัน
ค่าเครื่องบินอุดร-กรุงเทพ คนละ 940 บาท

วันแรกเรานัดเจอกันที่สถานีขนส่งนครชัยแอร์ เวลา 21.00น ทุกคนมากันตรงเวลา รถออกจากชานชลาเวลา 22.50 น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง มาถึงอุดรประมาณ 7.30น
พอมาถึงก็เจอปัญหาแรกเข้าให้เลย นั่นคือ....ตั๋วรถไปวังเวียงเต็มจ้า เอาไงดีล่ะทีนี้ ตอนแรกว่าจะซื้อตั๋วไปลงเวียงจันแทน แต่คิดดูแล้วน่าจะเสียเวลามาก จึงตัดสินใจขึ้นรถตู้ไปลงหน้าด่านหนองคาย แล้วหาารถเช่าจากหน้าด่านไปวังเวียงน่าจะเร็วกว่า ใช้เวลาเดินทางจากอุดรไปหนองคายประมาณ 50 นาที เมื่อมาถึงหน้าด่านก็จะมีคนขับรถเช่าจากฝั่งลาวเข้ามาเสนอราคาให้กับเราเต็มไปหมด โดยส่วนใหญ่เค้าจะเสนอราคาเริ่มต้นที่ 4000 บาท เพื่อให้เราต่อ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคลแล้วล่ะ ว่าจะต่อราคาได้แค่ไหน สำหรับพวกเราต่อราคาได้ที่ 3000 บาท แถมเที่ยวเวียงจันอีก 2 ที่ คือ ประตูชัยกับวัดพระธาตุหลวง หลังจากตกลงราคาได้เรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปสู่ขั้นตอนการผ่าน ตม.(ซึ่งตรงนี้ จขกท ขอข้ามไปเพราะเห็นมีหลายรีวิวกันไว้อย่างละเอียดแล้ว) เมื่อผ่านด่าน ตม. ไทยก็จะต้องนั่งรถข้ามแม่น้ำไปที่ฝั่งลาว(เพราะรถจะรอเราอยู่ที่ฝั่งนู้น)
หลังจากมาถึงฝั่งลาว ก็ต้องผ่าน ตม. ฝั่งลาวอีกครั้งนึง เมื่อออกมาถึงก็จะพบกับรถเช่าที่เราได้ติดต่อไว้ตั้งแต่ฝั่งไทย นั่งรถเข้ามาในตัวเมืองเวียงจันท์ได้ซักพัก คนขับรถก็พาเราไปซื้อซิมการ์ดไว้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ต จากนั้นสถานที่แรกที่ไปก็คือ ประตูชัย
ประตูชัยเป็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง ใจกลางนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ก่อสร้างในระหว่างปี ค.ศ. 1957 ถึงปี ค.ศ. 1968 เพื่อเป็นการสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส ปะตูไซถูกตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง บริเวณโดยรอบมีลานจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและสวนปะตูไซ
จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ วัดพระธาตุหลวง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก นั่งรถประมาณ 10 นาทีถึง
พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี (ພຣະທາດຫລວງ) นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว ดังปรากฏว่าตราแผ่นดินของลาวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีรูปพระธาตุหลวงเป็นภาพประธานในดวงตรา
จากนั้นคนขับรถก็พาพวกเราไปทานอาหารกลางวันที่ร้านในตัวเมืองเวียงจันท์ เมื่ออิ่มกันเรียบร้อยก็ได้เวลานั่งรถยาวๆประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อไปวังเวียง ทางมีทั้งเป็นหลุมเป็นบ่อ ทางขึ้นเขาลงเขาคดเคี้ยว พวกเราก็หลับๆตื่นๆกันไป จนมาถึงที่วังเวียงประมาณ 4 โมงเย็น คนขับรถมาส่งเราถึงหน้าที่พักเลย โดยเราเลือก จำปาลาว บังกะโล เป็นที่พักของเราทั้ง 3 คืน
บรรยากาศที่พัก
ห้องพักของพวกเรา
เปลนอนหน้าห้องพัก
ภายในห้องพัก
เมื่อเข้ามาในห้องพักเก็บกระเป๋าสัมภาระ อาบน้ำอาบท่า เพราะตั้งแต่เมื่อคืนรวมวันนี้ทั้งวันยังไม่ได้อาบน้ำกันเลย ช่วงหัวค่ำเราก็ออกไปเดินเล่นในเมืองวังเวียงกัน และก็เดินหาซื้อ One Day Trip สำหรับวันพรุ่งนี้ ซึ่งราคาแต่ละร้านก็จะพอๆกัน แล้วแต่เราจะเลือกโปรแกรมไหนบ้าง และความสามารถในการต่อรองอีกเช่นเคย โดยกลุ่มเราได้ที่ราคา 800,000 กีบ(ประมาณ 320 บาท) โดยในแพคเกจจะมี ถ้ำช้าง ถ้ำน้ำ พายเรือคายัคแม่น้ำซอง อาหารกลางวัน ซึ่งทางทัวร์จะมารับเราที่รีสอร์ทในวันพรุ่งนี้ 9 โมงเช้า หลังจากซื้อทัวร์เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาหาของกินสำหรับมื้อเย็น ก็หาเอาแถวๆที่พักขี้เกียจเดินไปไกลแล้ว
อาหารเย็นมื้อนี้ ไก่ย่าง ส้มตำ กระดูกหมูทอด แแกงเขียวหวาน หมูแดดเดียว